WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

KTBบล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell 

"ดัชนีฯลบ แต่เน้นหุ้นมีปัจจัยบวก "
          ทิศทางตลาดหุ้นไทย : คาดดัชนีฯ ยังคงผันผวนจากแรงขายทำกำไร และนักลงทุนเข้ามาลงทุนในลักษณะเก็งกำไรช่วงสั้นๆในหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัว .......  ปัจจัยภายในประเทศ ยังคงเป็นปัจจัยหนุนต่อหุ้นในตลาด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเศรษฐกิจในประเทศที่มีแนโน้มดีขึ้นจากการปรับขึ้น GDP ของทั้งหน่วยงานภาครัฐฯและโบรกเกอร์ต่างประเทศ  และการคาดหวังในเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในชุดปัจจุบัน และหลังการปรับ ครม.ครั้งนี้ ........  ปัจจัยต่างประเทศ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการและไม่ได้มีประเด็นใหญ่ แต่วันนี้ จับตาดูตลาดหุ้นจีน ดัชนี Shanghai Composite Index ลดลง 2.3% วานนี้ หลังรัฐบาลเตรียมออกมาตรการชะลอการ overheat ของตลาดหุ้น เนื่องจากดัชนีฯปรับตัวขึ้นมามาก และไม่อยากให้เกิดการร่วงลงของดัชนีฯเหมือนปี 2015 ......  event วันนี้ของไทย ที่มีอาจมีผลต่อตลาดและราคาหุ้นที่เกี่ยวข้อง คือ การสัมมนาและแถลงข่าว เกี่ยวข้อง และ TMB แถลงแผน 5 ปี ในช่วงเย็น
          กลยุทธ์การลงทุน : แนวโน้มตลาดหุ้นยังเป็นบวก แต่นักลงทุนมีการสลับกลุ่มเล่นในตัวที่มีข่าวหรือปัจจัยรายตัว แต่ส่วนใหญ่ จะเป็นหุ้นที่อิงภาวะเศรษฐกิจที่ถูกคาดว่าจะฟื้นตัว .......   กลยุทธ์การลงทุน  เรายังแนะให้เข้าลงทุนในลักษณะ selective buy หุ้นที่อยู่ในกลุ่มหลักๆ ที่คาดว่าจะมีแรงซื้อเข้า คือ กลุ่มธนาคาร (จากตัวเลข GDP และ  ตัวเลขสินเชื่อ เดือน ต.ค. โต 0.8% MoM และ 2.5% YoY)  ที่อยู่อาศัย กลุ่มน้ำมัน-ปิโตรเคมี ที่ราคาอ่อนตัวลงมาในช่วงก่อนหน้านี้และบางตัวได้อานิสงค์จากราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้น   …..  โดยหุ้นตัวหลักๆ ในแต่ละกลุ่ม ที่เราให้ความสนใจ อาทิ  BBL TMB QH LH TOP PTTGC  หรือหุ้นที่มีปัจจัยบวกในกลุ่มอื่นๆ โดยเน้นหุ้นที่มีการเติบโตและราคาหุ้นยังมีส่วนต่างจากราคาที่เหมาะสม
          หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ประจำวัน: สำหรับหุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุนในวันนี้ อาทิ TMB, QH, HANA, CENTEL
          หุ้นแนะนำทางเทคนิค :  STA, GLOBAL , MPG
          * เป็นหุ้นที่แนะนำเชิงกลยุทธ์ โดย KTBST ไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์

 

บทวิเคราะห์และความเห็นข่าวสำคัญ
(+) TKN : เถ้าแก่น้อยเมืองไทย, เถ้าแก่ใหญ่ในเอเชีย

 

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด                                                                 
          ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (23 พ.ย.) - ปิดที่ระดับ  1,707.38 จุด ลดลง 5.75 จุด หรือ -0.34% มูลค่าการซื้อขาย 47,366.42 ล้านบาท ปริมาณการซื้อขายเบาบางกว่าวันก่อนๆ คาดเป็นเพราะตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดทำการเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า อีกทั้งตลาดหุ้นภูมิภาคโดยเฉพาะตลาดหุ้นจีนซึ่งเป็นผลจากการที่รัฐบาลจีนประกาศใช้มาตรการควบคุมการขยายตัวของธุรกิจการปล่อยกู้ออนไลน์ขนาดเล็ก
          ตลาดหุ้นต่างประเทศ - ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการวันพฤหัสบดีที่ 23 พ.ย. เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า .... ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยที่ประมาณ +0.02% ปิดที่ 387.12 จุด จากตัวเลขทางเศรษฐกิจยุโรปที่ออกมาดี
          ราคาน้ำมันดิบ - ตลาดน้ำมันนิวยอร์กปิดทำการวันพฤหัสบดีที่ 23 พ.ย. เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า
          ปัจจัยต่างประเทศ ความคืบหน้าเรื่อง Brexit , ตัวเลขทางเศรษฐกิจยุโรปออกมาดี, ติดตามขั้นตอนต่อไปของการร่างกฏหมายปฏิรูปภาษี - มีรายงานจากคณะกรรมาธิการยุโรปว่านางเมเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ จะพบปะกับนายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธาน EC และนายมิเชล บาร์นิเยร์ หัวหน้าคณะเจรจาฝ่าย EU เกี่ยวกับการแยกตัวของอังกฤษออกจาก EU (Brexit) ในวันที่ 4 ธ.ค. อย่างไรก็ตามประเด็นเรื่อง Brexit ตลาดได้รับรู้ไปมากแล้ว และตลาดคาดว่าการแยกตัวจะเกิดขึ้นค่อนข้างที่จะแน่นอน .... ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นของยูโรโซน อยู่ที่ระดับ 57.5 ในเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้นจากระดับ 56.0 ในเดือนต.ค. และยังทำสถิติสูงสุดในรอบ 79 เดือน .... ร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯ จะถูกส่งให้กับวุฒิสภาสหรัฐ เพื่อทำการพิจารณาเป็นลำดับต่อไป ซึ่งเป็นประเด็นที่นักลงทุนยังคงให้ความสนใจอย่างต่อเนื่อง เรามองว่าประเด็นดังกล่าวเริ่มกลับมาเป็นบวกมากยิ่งขึ้น หลังรัฐมนตรีคลังสหรัฐ ได้แสดงความมั่นใจว่า ร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของพรรครีพับลิกันจะสามารถผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภา และเชื่อว่าจะถูกส่งให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายได้ก่อนช่วงเทศกาลคริสต์มาส
          ปัจจัยในประเทศ ความคืบหน้าด้านโครงการ EEC, มาตรการช็อปช่วยชาติได้รับผลตอบรับที่ดี - ที่ประชุมคณะกรรมการ BOI มีการอนุมัติให้ลงทุนในเขต EEC ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลรวมไม่เกิน 10 ปี จากเกณฑ์ปกติสูงสุดไม่เกิน 8 ปีจะเพิ่มเติม 2 ปี และลดหย่อนอีก 50% เป็นระยะเวลา 5 ปี  ระยะแรก ….. ธนาคารกสิกรไทยเผิดเผยว่า ด้วยมาตรการช็อปช่วยชาติส่งผลให้การจับจ่ายใช้สอยบัตรเครดิตในไตรมาส 4 คึกคักขึ้นมาก โดยคาดว่าการใช่จ่ายผ่านบัตรเครดิตกสิกรไทยจะเติบโต 20%
          หุ้นที่จะเข้าร่วมงาน Opportunity Day ในสัปดาห์นี้ได้แก่ COL, MEGA, TRT, CPN, BAFS, PYLON
Stock in Focus
หุ้น               เหตุผล
TMB(ราคาปิด  2.84)   ยังคงให้ความสนใจในหุ้นกลุ่มแบงก์ จากมุมมองการลงทุนภาครัฐที่คาดว่าจะออกมาในช่วงท้ายปี  เศรษฐกิจไทยฟื้นตัว และการเติบโตของกลุ่มอสังหาฯ .... เรามองสินเชื่อของ TMB เติบโตได้ดีโดยการเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากสินเชื่อบ้านเป็นหลัก KTBST   และได้อานิสงค์จากการขายประกันให้กับ FWD ….    KTBST คาดกำไรสุทธิปี 2017 ที่ 9,044 ล้านบาท (+10% YoY) และปี 2018 ที่ 9,901 ล้านบาท (+10% YoY) ….  (ราคาเหมาะสมโดย KTBST ที่ 2.80 บาท  และ Bloomberg  2.70 บาท )
QH(ราคาปิด 3.18)    เรามองว่ากลุ่มอสังหาฯจะมีมุมมองที่ดีขึ้นในช่วงปีหน้า ….  KTBST คาดกำไรสุทธิปี 2017 ที่ 3,096 ล้านบาท (+0.4% YoY) และปี 2018 ที่ 3,386 ล้านบาท (+10% YoY) .... โดยมูลค่าเงินลงทุน (HMPRO, LHBANK, QHPF, QHHR) มีมูลค่าที่ 2.56 บาท (discount ประมาณ 36%) ….  (ราคาเหมาะสมโดย KTBST ที่ 3.60 บาท)
HANA(ราคาปิด  51.00)   มองว่า HANA มีความน่าสนใจจากตัวเลขส่งออกเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ช่วงเดือน ต.ค. สามารถขยายตัวได้ถึง +14% คิดเป็นรอบ 10 เดือนที่ เติบโต +12% อีกทั้งผลประกอบการที่ผ่านมาของ HANA สามารถเติบโตได้ดีโดยมี กำไรสุทธิ 3Q17 ที่ 770 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35%YoY และ 14%QoQ สูงกว่าที่ตลาดคาด 8% และสูงกว่าที่ KTBST คาด 10%....   KTBST คาดกำไรจากการดำเนินงานปกติปี 2017 ที่ 2,637 ล้านบาท (+30% YoY) และปี 2018 ที่ 2,700 ล้านบาท (+3% YoY) …. (ราคาเหมาะสมโดย KTBST ที่ 58.50 บาท)
CENTEL(ราคาปิด 51.00)    เราเลือก CENTEL ได้รับผลบวกจากทั้งมาตรการช็อปช่วยชาติที่และจำนวนนักท่องเที่ยวยังคงเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องอีกด้วย .... เรามองภาพรวมของธุรกิจอาหารและโรงแรมในเดือน ต.ค. - พ.ย. เติบโตได้ดี จากการฟื้นตัวของการบริโภคภายในประเทศและฐานต่ำในปีก่อน .... KTBST คาดกำไรสุทธิปี 2017 ที่ 2,032 ล้านบาท เติบโต +10% YoY และปี 2018 ที่ 2,260 ล้านบาท (+11% YoY) …. (ราคาที่เหมาะสม โดย KTBST ที่  57.00 บาท)
Source: KTBST Research
Sector / Stock Updates
          (+) TKN TKN ได้จัดตั้งขึ้นในปี 2014 เพื่อจำหน่ายสินค้าประเภทขนมขบเคี้ยวประเภทสาหร่าย ภายใต้แบรนด์ "เถ้าแก่น้อย"  สำหรับในปี 2017 เราคาดว่ากำไรสุทธิอยู่ที่ 664 ล้านบาท ลดลง 15%YoY ส่งผลจากราคาต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น และค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากช่วงเริ่มต้นการผลิตของโรงงานโรจนะ ซึ่งมีอัตรากำลังการผลิตต่ำจึงกดดัน margin สำหรับปี 2018 เราคาดว่ากำไรสุทธิจะอยู่ที่ 1,178 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43%YoY โดยมีแนวโน้มการบริโภคที่ฟื้นตัว และรายได้จากตลาดต่างประเทศหนุน  ปัจจุบัน  TKN มี PEG 0.81x 2018 เรามองว่าบริษัทฯ ยังมีการเติบโตได้อีกมากจากโครงการในอนาคต เราเริ่มต้นให้คำแนะนำ TKN เป็น "ซื้อ" ด้วยราคาเป้าหมายที่ 28.00 บาท
Source: KTBST Research
         
Analyst :  Mongkol Puangpetra
          License No: 001937  
          +662 648 1123
          [email protected]
          Nontapat Rushtasomboon
          License No: 081447  
          +662 648 1127
          [email protected]
OO2813

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!