WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

YuanTaบล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน  

กลยุทธ์วันนี้
          Selective Buy
Smart Pick
1. สะสม TRUE : ราคาปิด 5.65 บาท ราคาเหมาะสม 7.80 บาท
          a) คาดว่าราคาหุ้นจะตอบรับเชิงบวก หลังวานนี้การประชุมผู้ถือหุ้น DIF มีมติอนุมัติซื้อสินทรัพย์เข้ากองทุนเพิ่มเติมจาก TRUE ซึ่งจะส่งผลบวกให้ TRUE ในแง่ของกระแสเงินสดรับสูงถึง 4.0 หมื่นล้านบาท รวมทั้งกำไรพิเศษจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนสูงถึง 6.5 พันล้านบาท ใน 4Q60 และ 2.6 หมื่นล้านบาทในปี 2561
          b) EBITDA 3Q60 ทำระดับสูงใหม่ที่ 8.9 พันล้านบาท +3% QoQ และ +39% YoY และเป็นบริษัทเดียวในกลุ่มมือถือที่ Net Add เพิ่มขึ้นต่อเนื่องสวนทางคู่แข่งที่ลดลงสะท้อนให้เห็นถึงแบรนด์ที่แข็งแกร่ง และมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 26.5% สิ้น 3Q60 มีช่วงห่างจาก DTAC เพิ่มขึ้นเป็น 1.8% จาก 2Q60 ที่ 0.6%
          c) คงมุมมองเชิงบวก และคาดปี 2561 ทำกำไรสุทธิสูงถึง 2.6 หมื่นล้านบาทจากแรงหนุนของกำไรพิเศษ ขณะที่ผลการดำเนินงานปกติคาดว่าจะมีกำไรปกติ 395 ล้านบาท พลิกกลับจากขาดทุนปกติ 4.4 พันล้านบาท ในปี 2560
2. สะสม TKS : ราคาปิด 12.10 บาท ราคาเหมาะสม 17.90 บาท
          a) ราคาหุ้นปรับตัวลงถึง -13.5% ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา จากปัจจัยลบทางด้านเทคนิค เนื่องจากหลุดแนวรับสำคัญบริเวณเส้น 200 วันที่ 13.00 บาท
          b) เราประเมินว่าเป็นโอกาสเข้าสะสมเนื่องจากไม่ได้มีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อปัจจัยพื้นฐานของบริษัท และคาดว่าผลประกอบการ 4Q60 จะเติบโต YoY และ QoQ จากการเริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจวางระบบในลาว และเป็น High Season ของธุรกิจสื่อและสิ่งพิมพ์
          c) คาดกำไรสุทธิปี 2561 เติบโต +17.9% YoY เป็น 401 ล้านบาท จากแรงหนุนของธุรกิจ Packaging และ Valuation ค่อนข้างถูกที่ระดับ PER2561 เพียง 9.1 เท่า ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงถึง 7% รวมทั้ง Downside Risk น่าจะจำกัดแล้ว เนื่องจากซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าเงินลงทุนจากการถือหุ้นใน SYNEX คิดเป็นมูลค่าต่อหุ้นที่ 12.35 บาท

 

ตลาดหุ้นไทยวานนี้
          วานนี้ SET INDEX ปรับตัวลดลง 5.75 จุด ปิดที่ 1707.38 จุด มูลค่าการซื้อขายราว 4.7 หมื่นล้านบาท ด้านกระแสเงินทุน นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 455 ล้านบาท สวนทางกับสถาบันในประเทศที่ซื้อสุทธิเล็กน้อย 79 ล้านบาท ด้านตลาดฟิวเจอร์ส นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Long สุทธิหนาแน่นเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันอีกราว 2.4 พันสัญญา เช่นเดียวกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Long สุทธิ 1.9 พันสัญญา ส่งผลให้ QTD นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิ 4.9 หมื่นสัญญา สถาบันในประเทศและบัญชี บล. มีสถานะ Long สุทธิ 3.4 หมื่นสัญญา ด้านตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนต่างชาติยังคงซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 7 ติดต่อกันอีก 4 พันล้านบาท รวมกว่า 5.5 หมื่นล้านบาท กดดันให้ค่าเงินบาทอยู่ 32.65 บาท

 

กลยุทธ์วันนี้
          ตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงปรับฐานลงแรงวานนี้ เกิด Sentiment เชิงลบไปทั่วตลาดหุ้นเอเชีย รวมถึง SET INDEX ที่พักฐาน 5.75 จุด กดดันด้วยบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (Prop Trade) ขายสุทธิเกือบ 1 พันล้านบาท แต่ SET INDEX ยังปิดเหนือ 1700 จุด อย่างไรก็ดี เรามองว่า ปัจจัยการลงทุนของตลาดหุ้นไทย ยังไม่เปลี่ยนแปลง เรามองกรอบการเคลื่อนไหวของ SET INDEX วันนี้ 1700-1715 จุด
          ทิศทางกระแสเงินทุนต่างชาติ ดูเป็นกลางถึงบวก ถึงแม้นักลงทุนต่างชาติ มีสถานะขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยเล็กน้อยราว 455 ล้านบาท แต่กลับมามีสถานะ Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 2 ติดต่อกันอีก 2.4 พันสัญญา ดูราวกับว่า เป็นการทยอยลดสถานะ Short สุทธิสะสมที่มีอยู่ราว 4.9 หมื่นสัญญาใน QTD พร้อมกันนี้ ต่างชาติเข้ามาซื้อสุทธิในตลาดตราสารหนี้ต่อเนื่องเป็นวันที่ 7 อีก 4 พันล้านบาท
          ปัจจัยติดตามในสัปดาห์หน้า ได้แก่ 29 พ.ย. GDP 3Q60 (รอบสอง) ของสหรัฐฯ ตลาดคาดขยายตัว 3.2% สูงกว่ารอบแรกที่ 3%; 30 พ.ย. การประชุมประจำปีของ OPEC, การปรับน้ำหนักดัชนี MSCI
          กลยุทธ์การลงทุน ให้น้ำหนักกับหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคภายในประเทศ (Domestic Plays) โดยเฉพาะหุ้นที่ราคาปรับตัวลงมามาก แต่ปัจจัยพื้นฐานไม่ได้เปลี่ยนแปลง เปิดโอกาสการฟื้นตัว (Rebound Plays)

 

ปัจจัยสำคัญวันนี้
EU รายงานคาดการณ์ PMI ภาคการผลิต เดือน พ.ย. อยู่ที่ระดับ 60 จุด ดีกว่าที่ตลาดคาดที่ 58.2 จุด และเร่งตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 58.5 จุด
ทางการจีนอาจเข้าควบคุมการปล่อยสินเชื่อสถาบันการเงิน ต่อ ผถห.ใหญ่
ติดตามการรายงาน PMI US วันนี้ ตลาดคาดภาคการผลิตที่ระดับ 55 จุด
ปัจจัยสำคัญในสัปดาห์หน้า
ติดตามการรายงาน GDP3Q60 US ครั้งที่ 2 ตลาดคาดขยายตัว 3.2% เพิ่มขึ้นจากการรายงานครั้งก่อนที่ 3.0% และการรายงาน Beige Book วันที่ 29 พ.ย.
ติดตามการรายงาน PMI จีน ตลาดคาดการผลิตอยู่ที่ระดับ 51.5, การรายงานเงินเฟ้อ EU, การประชุม OPEC, การรายงานภาวะเศรษฐกิจไทย และการปรับน้ำหนักดัชนี MSCI วันที่ 30 พ.ย.
ติดตามการรายงานภาวะเงินเฟ้อไทย เดือน ต.ค. วันที่ 1 ธ.ค.
         
Strategist Team
          Mayuree Chowvikran   Head of Research , 662-009-8050
          Padon Vannarat    Strategist ,  662-009-8060
          Piyapat Patarapuvadol    Strategist ,  662-009-8062
          Nutt Treepoonsuk     Strategist ,  662-009-8059
OO2803

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!