- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 23 November 2017 17:11
- Hits: 4300
บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Today Selections >> BCP, BDMS, LH
Stock S R Comment
BCP 37.75 38.75 อุปสงค์ยังขยายตัวต่อเนื่องหนุนค่าการกลั่น เตรียมดัน BBGI เข้าตลาดฯปี61
BDMS 21.60 21.90 ขยายฐานลูกค้าต่างชาติเข้าเครือข่าย 46 ร.พ.
LH 10.50 11.00 ผลตอบแทนดี Dividend yield กว่า 6%
Refinery : A good entry point for long-term investment
Refinery : หุ้นในกลุ่มโรงกลั่นถือเป็นกลุ่มหนึ่งที่ปรับตัว Underperform ตลาดนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยมีสาเหตุหลักจากค่าการกลั่น (GRM) ที่ปรับย่อตัวลงมาในช่วงไตรมาส 4 ซึ่งทำให้แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาสนี้น่าจะอ่อนตัวลงจากไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ประเมินปัจจัยดังกล่าวสะท้อนอยู่ในราคาส่วนหนึ่งแล้ว และล่าสุดค่าการกลั่นเริ่มยืนได้ที่ระดับ 7 เหรียญฯต่อบาร์เรล พร้อมทั้งหากราคาน้ำมันดิบยังคงยืนอยู่สูงที่ระดับ 60 เหรียญฯเช่นนี้ คาดบริษัทในกลุ่มโรงกลั่นส่วนใหญ่ไม่น่าจะขาดทุนสต็อกน้ำมันหรืออาจมีกำไรในส่วนดังกล่าวเล็กน้อย ประเมินราคาปัจจุบันเป็นจุดที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนระยะยาว โดยในกลุ่มนี้เรายังคงแนะนำ "ซื้อ" BCP, SPRC และ IRPC ที่ราคาเป้าหมาย 61, 19.4 และ 7 บาทตามลำดับ มองจุดเด่นเฉพาะตัวของแต่ละบริษัทดังนี้
1) BCP : บันทึกด้อยค่า Nido ทั้งจำนวนไปแล้วในไตรมาส 3 คาดอัตราการกลั่นเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในไตรมาส 4 หลังเหตุขัดข้องที่หน่วยแตกโมเลกุลด้วยไฮโดรเจนน่าจะถูกแก้ไขได้ บริษัทมีอัตราส่วน Price-to-Cash flow ต่ำสุดในกลุ่ม
2) SPRC : Expected dividend yield สูงสุดในกลุ่ม ประเมินการขายหุ้นของ PTT ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน สำหรับ Upside ที่ยังไม่อยู่ในประมาณการได้แก่แผนเพิ่มกำลังการกลั่นในอนาคต
3) IRPC : แนวโน้มการเติบโตโดดเด่นที่สุดในปีหน้า กำลังการผลิตในไตรมาส 4 น่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ซึ่งน่าจะช่วยชดเชยแรงกดดันในกลุ่มปิโตรเคมีจากสเปรดผลิตภัณฑ์ที่แคบลงได้ส่วนหนึ่ง
Export : กระทรวงพาณิชย์รายงานตัวเลขส่งออกเดือนตุลาคมขยายตัว 13.1% ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 14.6% แต่หากไม่นับรวมทองคำจะพบว่าขยายตัวได้ใกล้เคียงกับที่ตลาดคาด (14.2%) โดยการส่งออกในหมวดสินค้าสำคัญต่างๆยังคงเติบโตได้ดีต่อเนื่อง อาทิเช่น รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (+26%) มองเป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ (AUTO) ต่อไป
Import : ในขณะเดียวกัน ตัวเลขนำเข้าขยายตัวสูงกว่าคาดอย่างมีนัยสำคัญ (13.5% vs. 7.6%) โดยมีสาเหตุสำคัญจากการนำเข้าน้ำมันดิบที่ได้รับผลกระทบจากราคาที่ปรับตัวสูงขึ้น และการนำเข้าเครื่องจักรกลและส่วนประกอบที่ขยายตัวโดดเด่น ซึ่งเรามองว่าเป็นการสะท้อนถึงแนวโน้มการลงทุนภาคเอกชนที่อาจขยายตัวต่อเนื่องในอนาคตอันใกล้นี้
Risk : ประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดในช่วงถัดไปได้แก่ ดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัดที่อาจถูกกดดันต่อเนื่องหากราคาน้ำมันดิบยังคงยืนอยู่ในระดับสูง ซึ่งเริ่มสะท้อนออกมาแล้วในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา หากเริ่มเข้าสู่ภาวะขาดดุลเมื่อไหร่ ประเมินจะเป็นปัจจัยกดดันต่อค่าเงินบาทได้
กลยุทธ์การลงทุน : คาด SET Index ปรับตัว Sideways ถึง Sideways up ในสัปดาห์นี้ มองกรอบการแกว่งตัวที่ดัชนี 1680 - 1740 จุด โดยมีสัญญาณเชิงบวกทั้งทิศทาง Fund flow ที่ดีขึ้น ตัวเลขเศรษฐกิจในประเทศที่แข็งแกร่ง รวมถึงราคาน้ำมันที่ยังคงยืนอยู่ได้ในระดับสูง สำหรับกลุ่มที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนระยะสั้นได้แก่ กลุ่มธนาคารเช่าซื้อ ชิ้นส่วนยานยนต์ ค้าปลีก ท่องเที่ยว และหุ้นที่ถูกนำเข้าสู่ดัชนี MSCI Small cap ส่วนกลุ่มที่น่าสนใจลงทุนระยะยาวได้แก่ กลุ่มโรงกลั่น กลุ่มผู้ผลิตไฟฟ้า ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม
แนวรับ 1,707 แนวต้าน 1,726
บทวิเคราะห์วันนี้
HANA (ซื้อเมื่ออ่อนตัว ราคาเป้าหมาย 50 บาท) โปรเจคต์ปีหน้าในมือน่าจะหนุนยอดขาย ทว่าเราขอดูการ Execution
WHAUP (ซื้อ ราคาเป้าหมาย 9 บาท) ผลกำไรยังเติบโตทั้งไตรมาส 4 และปีหน้ารับรู้ผลกำไรจาการลงทุนเต็มปี
Stock Comment: DTAC (ถือ ราคาเป้าหมาย 50 บาท) LINE Mobile ถือว่าผ่าน ส่วน 2300MHz โอกาส 85% ผ่านแบบฟูลออปชั่น
Today's Event :
EPG XD 0.10 บาท
FUTUREPF XD 0.352 บาท
JAS XD 0.15 บาท
LPH XD 0.10 บาท
RPH XD 0.05 บาท
SPI XD 0.10 บาท
TFUND XD 0.2121 บาท
TLOGIS XD 0.2165 บาท
TPRIME XD 0.0896 บาท
WHART XD 0.0617 บาท
EMC ลูกหุ้นเข้า 20,047 หุ้น
THMUI เข้าซื้อขายเป็นวันแรก (340mn sh @ Bt. 2.55) ตลาด MAI
PORT เข้าซื้อขายเป็นวันแรก (460mn sh @ Bt. 4.50) ตลาด MAI
นักวิเคราะห์ : ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379)
E-mail: [email protected]
OO2737