- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 23 November 2017 16:39
- Hits: 2800
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> เก็งกำไรหุ้น Mid-Small Cap
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET แกว่งตัว Sideways ได้ตามคาดโดยระหว่างวันปรับบวกขึ้นสูงสุดเกือบ 12 จุดเหนือระดับ 1,720 จุด ก่อนที่ย้อนลงมาปิดบวก 2.65 จุด ณ สิ้นวัน นักลงทุนต่างชาติพลิกมาซื้อสุทธิอีกครั้งกว่า 900 ลบ. ขณะที่แรงขายส่วนใหญ่มาจากนักลงทุนรายย่อยกว่า 1,300 ลบ.
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET จะแกว่งตัว Sideways โดย Sentiment เชิงบวกจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นต่างประเทศเริ่มชะลอความร้อนแรง แต่กลุ่มพลังงานน่าจะยังเป็นตัวหนุนตลาดต่อหลังราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นกว่า 2% เมื่อคืนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามเรายังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อดัชนีในระยะกลาง-ยาวที่มีโอกาสปรับตัวทะลุผ่าน 1,730 จุดจากภาพรวมเศรษฐกิจที่เร่งตัว เม็ดเงิน LTF/RMF ช่วงปลายปี รวมถึงกระแสเงินทุนที่คาดว่ามีโอกาสพลิกมาไหลเข้า ส่วนระยะสั้นหุ้นขนาดกลาง-เล็กคาดว่าจะเคลื่อนไหวได้โดดเด่นกว่าตลาด
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET แกว่งตัว Sideways ได้ตามคาดโดยระหว่างวันปรับบวกขึ้นสูงสุดเกือบ 12 จุดเหนือระดับ 1,720 จุด ก่อนที่ย้อนลงมาปิดบวก 2.65 จุด ณ สิ้นวัน นักลงทุนต่างชาติพลิกมาซื้อสุทธิอีกครั้งกว่า 900 ลบ. ขณะที่แรงขายส่วนใหญ่มาจากนักลงทุนรายย่อยกว่า 1,300 ลบ.
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET จะแกว่งตัว Sideways โดย Sentiment เชิงบวกจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นต่างประเทศเริ่มชะลอความร้อนแรง แต่กลุ่มพลังงานน่าจะยังเป็นตัวหนุนตลาดต่อหลังราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นกว่า 2% เมื่อคืนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามเรายังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อดัชนีในระยะกลาง-ยาวที่มีโอกาสปรับตัวทะลุผ่าน 1,730 จุดจากภาพรวมเศรษฐกิจที่เร่งตัว เม็ดเงิน LTF/RMF ช่วงปลายปี รวมถึงกระแสเงินทุนที่คาดว่ามีโอกาสพลิกมาไหลเข้า ส่วนระยะสั้นหุ้นขนาดกลาง-เล็กคาดว่าจะเคลื่อนไหวได้โดดเด่นกว่าตลาด
กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นขนาดกลาง-เล็ก
หุ้นเด่นเดือน พ.ย. : CPALL, CPN, EKH, MINT, SYNEX
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภา US$374ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าไต้หวัน US$249ล้าน ขณะที่ไหลเข้าไทย US$28ล้าน ขณะที่ไหลออกจากฟิลิปปินส์ประเทศเดียว US$5ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางชะลอการไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงหลัง Fed ส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.นี้
หุ้นเด่นเดือน พ.ย. : CPALL, CPN, EKH, MINT, SYNEX
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภา US$374ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าไต้หวัน US$249ล้าน ขณะที่ไหลเข้าไทย US$28ล้าน ขณะที่ไหลออกจากฟิลิปปินส์ประเทศเดียว US$5ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางชะลอการไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงหลัง Fed ส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.นี้
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> MODERN <<
กำไรสุทธิ 3Q17 ที่ 93 ลบ. +333% Q-Q, +182% Y-Y เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการ Turnaround เพราะกำไร 4Q17 ยังโตต่อ จาก High Season, ช้อปช่วยชาติ, และการรับรู้รายได้ที่มากขึ้นของโมเดิร์นฟอร์มแฮลท์แอนด์แคร์
แผนการลงทุนและเข้า MAI ของโมเดิร์นฟอร์มแฮลท์แอนด์แคร์มีความชัดเจน เราคาดว่ามีมูลค่าคิดกลับเป็นส่วนของ MODERN ไม่น้อยกว่า 2.40 บาท/หุ้น ส่วนเงินสดในมือยังมีอีกกว่า 0.70 บาท/หุ้น เมื่อหักทั้ง 2 ก้อนนี้ออกเพราะธุรกิจเป็น Net Cash อยู่แล้ว PE2018 บนธุรกิจหลักจะเหลือเพียง 6.7 เท่า ใกล้เคียงจุดต่ำสุดตั้งแต่เข้าตลาด ขณะที่ ปันผลสูง 5-6% ต่อปี Downside ที่ราคานี้จึงถือว่าจำกัดมาก
แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 6.80 บาท... วันนี้มีประชุมนักวิเคราะห์ช่วงบ่าย คาดว่าผู้บริหารจะใช้โอกาสนี้สร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดมากขึ้น
กำไรสุทธิ 3Q17 ที่ 93 ลบ. +333% Q-Q, +182% Y-Y เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการ Turnaround เพราะกำไร 4Q17 ยังโตต่อ จาก High Season, ช้อปช่วยชาติ, และการรับรู้รายได้ที่มากขึ้นของโมเดิร์นฟอร์มแฮลท์แอนด์แคร์
แผนการลงทุนและเข้า MAI ของโมเดิร์นฟอร์มแฮลท์แอนด์แคร์มีความชัดเจน เราคาดว่ามีมูลค่าคิดกลับเป็นส่วนของ MODERN ไม่น้อยกว่า 2.40 บาท/หุ้น ส่วนเงินสดในมือยังมีอีกกว่า 0.70 บาท/หุ้น เมื่อหักทั้ง 2 ก้อนนี้ออกเพราะธุรกิจเป็น Net Cash อยู่แล้ว PE2018 บนธุรกิจหลักจะเหลือเพียง 6.7 เท่า ใกล้เคียงจุดต่ำสุดตั้งแต่เข้าตลาด ขณะที่ ปันผลสูง 5-6% ต่อปี Downside ที่ราคานี้จึงถือว่าจำกัดมาก
แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 6.80 บาท... วันนี้มีประชุมนักวิเคราะห์ช่วงบ่าย คาดว่าผู้บริหารจะใช้โอกาสนี้สร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดมากขึ้น
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) ราคาน้ำมัน WTI สูงสุดรอบ 2.5 ปี +2% จากความกังวลอุปทานในสหรัฐ และตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบ EIA ลดลงมากกว่าคาด เราคาดราคาน้ำมันน่าจะมีแรงเก็งกำไรก่อนการประชุมโอเปกวันที่ 30 พ.ย.นี้ เนื่องจากคาดว่ากลุ่มผู้ผลิตน้ำมันน่าจะสามารถตกลงได้ก่อนการเปิดประชุม เป็นบวกต่อหุ้น oil play เราแนะนำ PTTEP (ราคาเหมาะสม 102 บาท) PTTGC (ราคาเหมาะสม 89 บาท)
(+) ยอดส่งออกเดือน ต.ค. +13.1% Y-Y ยังรักษาโมเมนตัมการเติบโตได้ดีใกล้เคียงในช่วง 5 เดือนก่อนหน้า ทำให้ 10M17 +9.7% Y-Y สินค้าส่งออกที่เพิ่มแข็งแกร่งในเดือนนี้ได้แก่รถยนต์ น้ำมันสำเร็จรูป ยางพารา และเคมีภัณฑ์ ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น หาก 2 เดือนที่เหลือยังสามารถรักษายอดส่งออกได้ในระดับ US$2 หมื่น/เดือน ส่งออกทั้งปีจะโตได้ถึง 9% สูงกว่าคาดการณ์ของแทบทุกสำนัก และน่าจะหนุน GDP ทั้งปีให้โตได้ 3.9% และหนุนเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง
(0) กลุ่มยานยนต์ ยอดผลิตรถยนต์ ต.ค. 17 โต Y-Y เป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน อยู่ที่ 163,487 คัน ส่วนยอดส่งออกรถยนต์กลับมาชะลอ -25% M-M, -12% Y-Y เพราะเร่งตัวไปมากในเดือนก่อน สยอดขายในประเทศ -12% M-M แต่ยังเพิ่มขึ้น 13% Y-Y สะท้อนการฟื้นตัวของกำลังซื้อในประเทศ เรายังชอบ PCSGH มากที่สุดในกลุ่ม จากการขยายธุรกิจไปกลุ่ม Non-Auto และรถยนต์ EV แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปี 2018 เท่ากับ 9.60 บาท
(-) กลุ่มรับเหมา ราคาหุ้นที่ปรับตัวลงวานนี้ มาจากประเด็นพรบ.จัดซื้อจัดจ้างใหม่ที่ทำให้งานประมูลใน 4Q17 ล่าช้า เพราะเข้มงวดในการตรวจสอบมากขึ้น ทำให้ 4Q17 อาจไม่มีการอนุมัติงานใหญ่ แต่เรายังมีมุมมองที่ดีกับผู้มีงานในมือสูง และสุดท้ายคาดว่าจะเห็นการเร่งอนุมัติงานมากขึ้นในปีหน้า ยังชอบ CK (ราคาเป้าหมาย 40 บาท) และ STEC (ราคาเป้าหมาย 31.8 บาท)
(0) HANA จากประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ บริษัทยังเห็นคำสั่งซื้อที่แข็งแกร่งไปจนถึง 1Q18 แต่เราเริ่มมีมุมมองระมัดระวังกับการใกล้จบรอบขาขึ้นตั้งแต่กลางปีหน้าเป็นต้นไป ทั้งนี้เรามองบวกต่อแผนการรุกตลาด EV Cars แต่ถือเป็นโครงการระยะยาว 3-4 ปีข้างหน้า ส่วนระยะสั้น เราคาดกำไร 4Q17 จะอ่อนตัวลงตามฤดูกาล โดยยังคงคาดกำไรสุทธิปีนี้ +18% Y-Y และปีหน้า +11% Y-Y ที่คาดกำไรปีหน้าจะโตแผ่วลง ส่วนหนึ่งมาจากฐานที่สูงในปีนี้ และคาดใกล้จบรอบขาขึ้นของอุตสาหกรรม รวมถึงมีปัจจัยกดดันจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง เราปรับใช้ราคาเป้าหมายปี 2018 ที่ 58 บาท อิง PE 17 เท่า แม้ยังมี Upside 13.2% แต่ด้วย Story ที่สดใสน้อยลง จึงปรับลดคำแนะนำเป็นถือ จากเดิมซื้อ
(+) CMO คาดกำไรสุทธิ 4Q17 ที่ 35-45 ลบ. โตโดดเด่นทั้ง Q-Q และ Y-Y จาก High Season และการทำตลาดเชิงรุกมากขึ้น โดยคาดว่ารายได้ที่รับรู้ราว 1 ใน 3 จะมาจากการให้เช้าอุปกรณ์ของ PM Center ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง ขณะที่ Imaginia Playland กำลังก้าวเข้าสู่โหมดทำกำไร และ CMO Show Corp. จะขาดทุนลดลงจากการทำตลาดร่วมกับ BEC เรายังคาดกำไรปีนี้ 35 ล้านบาท พลิกจากขาดทุน 41 ล้านบาทในปีก่อน และปีหน้าคาดโตต่ออีก 26% Y-Y ตามการขยายตัวของ GDP ที่มีความสัมพันธ์กับรายได้ CMO สูงถึง 80% PBV ต่ำ 1.1 เท่า และปันผลสูง 5-6% ต่อปี แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปี 2018 เท่ากับ 3.00 บาท
(0) THMUI เข้าซื้อขายวันแรก หุ้น IPO 97.07 ล้านหุ้น ราคา 2.55 บาท เป็นผู้จัดจำหน่ายลวดสลิงและอุปกรณ์ยกหิ้วให้กับตราสินค้าชั้นนำระดับโลก และมีบริการหลังการขาย รวมถึงทดสอบ + ตรวจสอบ ลวดสลิงและอุปกรณ์ เราคาดกำไรสุทธิปีนี้ +73% Y-Y และโตต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 36% ในปี 2018-2019 จากการลงทุนของภาครัฐฯและเอกชน การเพิ่มสินค้าลวดสลิงขนาดใหญ่ การขยายธุรกิจไปจำหน่ายท่อปะปา HDPE และการเพิ่มทีมบริการทดสอบและตรวจสอบที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง ประเมินราคาเหมาะสมปี 2018 โดยอิง PE เฉลี่ยของกลุ่มที่ 20 เท่าได้เท่ากับ 3.10 บาท (FSS เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายหุ้น IPO ของ THMUI)
(+) ราคาน้ำมัน WTI สูงสุดรอบ 2.5 ปี +2% จากความกังวลอุปทานในสหรัฐ และตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบ EIA ลดลงมากกว่าคาด เราคาดราคาน้ำมันน่าจะมีแรงเก็งกำไรก่อนการประชุมโอเปกวันที่ 30 พ.ย.นี้ เนื่องจากคาดว่ากลุ่มผู้ผลิตน้ำมันน่าจะสามารถตกลงได้ก่อนการเปิดประชุม เป็นบวกต่อหุ้น oil play เราแนะนำ PTTEP (ราคาเหมาะสม 102 บาท) PTTGC (ราคาเหมาะสม 89 บาท)
(+) ยอดส่งออกเดือน ต.ค. +13.1% Y-Y ยังรักษาโมเมนตัมการเติบโตได้ดีใกล้เคียงในช่วง 5 เดือนก่อนหน้า ทำให้ 10M17 +9.7% Y-Y สินค้าส่งออกที่เพิ่มแข็งแกร่งในเดือนนี้ได้แก่รถยนต์ น้ำมันสำเร็จรูป ยางพารา และเคมีภัณฑ์ ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น หาก 2 เดือนที่เหลือยังสามารถรักษายอดส่งออกได้ในระดับ US$2 หมื่น/เดือน ส่งออกทั้งปีจะโตได้ถึง 9% สูงกว่าคาดการณ์ของแทบทุกสำนัก และน่าจะหนุน GDP ทั้งปีให้โตได้ 3.9% และหนุนเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง
(0) กลุ่มยานยนต์ ยอดผลิตรถยนต์ ต.ค. 17 โต Y-Y เป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน อยู่ที่ 163,487 คัน ส่วนยอดส่งออกรถยนต์กลับมาชะลอ -25% M-M, -12% Y-Y เพราะเร่งตัวไปมากในเดือนก่อน สยอดขายในประเทศ -12% M-M แต่ยังเพิ่มขึ้น 13% Y-Y สะท้อนการฟื้นตัวของกำลังซื้อในประเทศ เรายังชอบ PCSGH มากที่สุดในกลุ่ม จากการขยายธุรกิจไปกลุ่ม Non-Auto และรถยนต์ EV แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปี 2018 เท่ากับ 9.60 บาท
(-) กลุ่มรับเหมา ราคาหุ้นที่ปรับตัวลงวานนี้ มาจากประเด็นพรบ.จัดซื้อจัดจ้างใหม่ที่ทำให้งานประมูลใน 4Q17 ล่าช้า เพราะเข้มงวดในการตรวจสอบมากขึ้น ทำให้ 4Q17 อาจไม่มีการอนุมัติงานใหญ่ แต่เรายังมีมุมมองที่ดีกับผู้มีงานในมือสูง และสุดท้ายคาดว่าจะเห็นการเร่งอนุมัติงานมากขึ้นในปีหน้า ยังชอบ CK (ราคาเป้าหมาย 40 บาท) และ STEC (ราคาเป้าหมาย 31.8 บาท)
(0) HANA จากประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ บริษัทยังเห็นคำสั่งซื้อที่แข็งแกร่งไปจนถึง 1Q18 แต่เราเริ่มมีมุมมองระมัดระวังกับการใกล้จบรอบขาขึ้นตั้งแต่กลางปีหน้าเป็นต้นไป ทั้งนี้เรามองบวกต่อแผนการรุกตลาด EV Cars แต่ถือเป็นโครงการระยะยาว 3-4 ปีข้างหน้า ส่วนระยะสั้น เราคาดกำไร 4Q17 จะอ่อนตัวลงตามฤดูกาล โดยยังคงคาดกำไรสุทธิปีนี้ +18% Y-Y และปีหน้า +11% Y-Y ที่คาดกำไรปีหน้าจะโตแผ่วลง ส่วนหนึ่งมาจากฐานที่สูงในปีนี้ และคาดใกล้จบรอบขาขึ้นของอุตสาหกรรม รวมถึงมีปัจจัยกดดันจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง เราปรับใช้ราคาเป้าหมายปี 2018 ที่ 58 บาท อิง PE 17 เท่า แม้ยังมี Upside 13.2% แต่ด้วย Story ที่สดใสน้อยลง จึงปรับลดคำแนะนำเป็นถือ จากเดิมซื้อ
(+) CMO คาดกำไรสุทธิ 4Q17 ที่ 35-45 ลบ. โตโดดเด่นทั้ง Q-Q และ Y-Y จาก High Season และการทำตลาดเชิงรุกมากขึ้น โดยคาดว่ารายได้ที่รับรู้ราว 1 ใน 3 จะมาจากการให้เช้าอุปกรณ์ของ PM Center ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง ขณะที่ Imaginia Playland กำลังก้าวเข้าสู่โหมดทำกำไร และ CMO Show Corp. จะขาดทุนลดลงจากการทำตลาดร่วมกับ BEC เรายังคาดกำไรปีนี้ 35 ล้านบาท พลิกจากขาดทุน 41 ล้านบาทในปีก่อน และปีหน้าคาดโตต่ออีก 26% Y-Y ตามการขยายตัวของ GDP ที่มีความสัมพันธ์กับรายได้ CMO สูงถึง 80% PBV ต่ำ 1.1 เท่า และปันผลสูง 5-6% ต่อปี แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปี 2018 เท่ากับ 3.00 บาท
(0) THMUI เข้าซื้อขายวันแรก หุ้น IPO 97.07 ล้านหุ้น ราคา 2.55 บาท เป็นผู้จัดจำหน่ายลวดสลิงและอุปกรณ์ยกหิ้วให้กับตราสินค้าชั้นนำระดับโลก และมีบริการหลังการขาย รวมถึงทดสอบ + ตรวจสอบ ลวดสลิงและอุปกรณ์ เราคาดกำไรสุทธิปีนี้ +73% Y-Y และโตต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 36% ในปี 2018-2019 จากการลงทุนของภาครัฐฯและเอกชน การเพิ่มสินค้าลวดสลิงขนาดใหญ่ การขยายธุรกิจไปจำหน่ายท่อปะปา HDPE และการเพิ่มทีมบริการทดสอบและตรวจสอบที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง ประเมินราคาเหมาะสมปี 2018 โดยอิง PE เฉลี่ยของกลุ่มที่ 20 เท่าได้เท่ากับ 3.10 บาท (FSS เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายหุ้น IPO ของ THMUI)
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
23พ.ย.- ไทย: THMUI เริ่มซื้อขาย (ราคา IPO 2.55 บาท) PORT เริ่มซื้อขาย (ราคา IPO 4.50 บาท)
- ยูโรโซน: Flash PMI ภาคการผลิตและบริการ
24 พ.ย. - ไทย: กกพ. ประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติทางเทคนิคโครงการ SPP Hybrid Firm
28พ.ย.- สหรัฐฯ: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค(พ.ย.)
29พ.ย.- สหรัฐฯ: GDP3Q17 (ตัวเลขสุดท้าย)
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนปิดลบท่ามกลางการซื้อขายเบาบางก่อนตลาดปิดทำการในวันขอบคุณพระเจ้า โดยปัจจัยกดดันมาจากรายงานประชุมเฟดที่สนับสนุนให้มีการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.นี้ และ ตัวเลขสินค้าคงทนเดือนต.ค.ที่ปรับลดลง
(-) ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดลบจากรายงานประชุมเฟด และ การประกาศงบประมาณของอังกฤษ อย่างไรก็ตาม มีแรงพยุงตลาดจากหุ้นกลุ่มพลังงาน และ เหมืองแร่ตามราคาสินค้า commodity
(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดผสมตามทิศทางตลาดโลกเนื่องจากมีแรงกดดันจากรายงานการประชุมเฟด
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ยังปรับตัวในลักษณะ sideway ล่าสุดเคลื่อนไหวแถว 32.66-32.72 บาท/ดอลลาร์
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ม.ค. ปิดบวก 1.19 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 58.02 ดอลลาร์/บาร์เรล สูงสุดในรอบ 2.5 ปี จากแรงกระตุ้นของอุปทานในสหรัฐที่ถูกกระทบจากหยุดซ่อมท่อขนส่งน้ำมัน ตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบที่ลดลงมากกว่าคาด ค่าเงินดอลลาร์อ่อน และ แรงเก็งกำไรก่อนการประชุมกลุ่มโอเปกสัปดาห์หน้า
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดบวก 10.50 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,292.20 ดอลลาร์/ออนซ์ จากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า
Contact person : Jitra Amornthum
Register : 014530 Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research
OO2732
Register : 014530 Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research
OO2732