- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 23 November 2017 16:39
- Hits: 2708
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET แกว่งตัวในกรอบแคบ โดยมีแรงซื้อเก็งกำไรเด่นในกลุ่มโรงไฟฟ้าอย่าง BGRIM, GPSC, EA และกลุ่มอสังหา เช่น QH, LH, UV อย่างไรก็ตามพบแรงขายทำกำไร ในกลุ่มนิคมและก่อสร้างเช่น AMATA, ROJNA, CK , STEC และ UNIQ ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,713 จุด (+2.6 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.7 หมื่นลบ. เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 5.6 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนชาติกลับมาซื้อหุ้นไทยอีกครั้งที่ 917 ล้านบาท และกลับมา Long สุทธิ SET50 Index Future ที่ 4,301 สัญญา
Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET แกว่งตัวในกรอบแคบ โดยมีแรงซื้อเก็งกำไรเด่นในกลุ่มโรงไฟฟ้าอย่าง BGRIM, GPSC, EA และกลุ่มอสังหา เช่น QH, LH, UV อย่างไรก็ตามพบแรงขายทำกำไร ในกลุ่มนิคมและก่อสร้างเช่น AMATA, ROJNA, CK , STEC และ UNIQ ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,713 จุด (+2.6 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.7 หมื่นลบ. เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 5.6 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนชาติกลับมาซื้อหุ้นไทยอีกครั้งที่ 917 ล้านบาท และกลับมา Long สุทธิ SET50 Index Future ที่ 4,301 สัญญา
Investment theme
ตลาดขาดปัจจัยใหม่กระตุ้น ส่งผลให้แกว่งตัวในกรอบ แนะ Switch ตัวเก็งกำไร : 1 เดือนที่ผ่านมา SET แกว่งตัวอยู่ในกรอบ 1,680-1,720 สาเหตุหลักเกิดจากนักลงทุนต่างประเทศขายทำกำไรเป็นวงเงินสูงกว่า 3.0 หมื่นล้านบาท ในขณะที่เม็ดเงินจากสถาบัน ยังซื้อสุทธิค่อนข้างน้อยกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตเพียง 4.7 พันล้านบาท ส่วนหนึ่งเราคาดว่าเกิดจากยอดซื้อสะสมเฉลี่ยตั้งแต่ตุลาคม 2559 สูงกว่า 1.0 แสนล้านบาทแล้ว ในขณะที่เรามองว่า ปัจจุบันตลาดหุ้นขาดปัจจัยสนับสนุนใหม่ทั้งจากต่างประเทศ (ยังคงมีความไม่แน่นอนจากสภาสูงที่จะเตรียมพิจารณามาตราการภาษีสหรัฐ, สภาเยอรมันเริ่มมีความไม่แน่นอน และ การประชุม OPEC ในปลายสัปดาห์หน้า) และในประเทศ ล่าสุดธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุเตรียมเก็บเพิ่มเงินสมทบเข้ากองทุน FIDF (กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน) เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่ 0.47% เป็น 1.00% ของเงินฝากทั้งหมด โดยกฎหมายนี้ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของสภา และหากผ่านจริง คาดส่งผลกระทบเชิงลบต่อกลุ่มธนาคารทั้งกลุ่ม โดยเราประเมินกำไรของกลุ่มธนคารจะลดลงประมาณ 10%
Investment theme: เรายังคงมุมมอง SET แกว่งตัวในกรอบ 1,680 – 1,720 โดยกลุ่มที่เรายังมีมุมมองเชิงบวกได้แก่ กลุ่มพลังงาน (ต้นน้ำ), กลุ่ม Out of home media, กลุ่มอสังหา, กลุ่มธนาคาร ในขณะที่แนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนในกลุ่ม โรงกลั่น, ICT
ตลาดขาดปัจจัยใหม่กระตุ้น ส่งผลให้แกว่งตัวในกรอบ แนะ Switch ตัวเก็งกำไร : 1 เดือนที่ผ่านมา SET แกว่งตัวอยู่ในกรอบ 1,680-1,720 สาเหตุหลักเกิดจากนักลงทุนต่างประเทศขายทำกำไรเป็นวงเงินสูงกว่า 3.0 หมื่นล้านบาท ในขณะที่เม็ดเงินจากสถาบัน ยังซื้อสุทธิค่อนข้างน้อยกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตเพียง 4.7 พันล้านบาท ส่วนหนึ่งเราคาดว่าเกิดจากยอดซื้อสะสมเฉลี่ยตั้งแต่ตุลาคม 2559 สูงกว่า 1.0 แสนล้านบาทแล้ว ในขณะที่เรามองว่า ปัจจุบันตลาดหุ้นขาดปัจจัยสนับสนุนใหม่ทั้งจากต่างประเทศ (ยังคงมีความไม่แน่นอนจากสภาสูงที่จะเตรียมพิจารณามาตราการภาษีสหรัฐ, สภาเยอรมันเริ่มมีความไม่แน่นอน และ การประชุม OPEC ในปลายสัปดาห์หน้า) และในประเทศ ล่าสุดธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุเตรียมเก็บเพิ่มเงินสมทบเข้ากองทุน FIDF (กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน) เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่ 0.47% เป็น 1.00% ของเงินฝากทั้งหมด โดยกฎหมายนี้ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของสภา และหากผ่านจริง คาดส่งผลกระทบเชิงลบต่อกลุ่มธนาคารทั้งกลุ่ม โดยเราประเมินกำไรของกลุ่มธนคารจะลดลงประมาณ 10%
Investment theme: เรายังคงมุมมอง SET แกว่งตัวในกรอบ 1,680 – 1,720 โดยกลุ่มที่เรายังมีมุมมองเชิงบวกได้แก่ กลุ่มพลังงาน (ต้นน้ำ), กลุ่ม Out of home media, กลุ่มอสังหา, กลุ่มธนาคาร ในขณะที่แนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนในกลุ่ม โรงกลั่น, ICT
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา สหรัฐเตือนประชาชนเพิ่มความระมัดระวังเหตุก่อการร้ายในซาอุ / พาณิชย์รายงานตัวเลขส่งออกเดือนต.ค.ที่ 13.1%, นำเข้า 13.5% ส่งผลให้เกินดุลการค้า 214.4 ล้านเหรียญสหรัฐ รวม 10 เดือน ส่งออกเติบโต 9.7% / ค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องที่ 32.69 เหรียญ/บาร์เรล / Brent ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องที่ 63.3 เหรียญ/บาร์เรล / Dollar index กลับมาอ่อนค่าอีกครั้งที่ 93.2
วันนี้ PORT , THMUI ซื้อขายในตลาดเป็นวันแรก
Stock pick : PORT
เมื่อคืนที่ผ่านมา สหรัฐเตือนประชาชนเพิ่มความระมัดระวังเหตุก่อการร้ายในซาอุ / พาณิชย์รายงานตัวเลขส่งออกเดือนต.ค.ที่ 13.1%, นำเข้า 13.5% ส่งผลให้เกินดุลการค้า 214.4 ล้านเหรียญสหรัฐ รวม 10 เดือน ส่งออกเติบโต 9.7% / ค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องที่ 32.69 เหรียญ/บาร์เรล / Brent ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องที่ 63.3 เหรียญ/บาร์เรล / Dollar index กลับมาอ่อนค่าอีกครั้งที่ 93.2
วันนี้ PORT , THMUI ซื้อขายในตลาดเป็นวันแรก
Stock pick : PORT
PORT : ทยอยสะสม ราคาเป้าหมาย 6.00 บาท/หุ้น
บริษัทฯ ประกอบธุรกิจท่าเทียบเรือบนแม่น้ำเจ้าพระยา ให้บริการจัดการและบริหารตู้สินค้าคอนเทนเนอร์แก่สายเดินเรือขนส่งสินค้าใน-ต่างประเทศอย่างครบวงจร ซึ่งฐานลูกค้าค่อนข้างมีชื่อเสียงเช่น MAERSK, NYK LINE เป็นต้น ปัจจุบันมีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 ของท่าเรือเอกชน (รวม 4 แสนตู้/ปี)
คาดกำไรปี 2561 เติบโตโดดเด่นกว่า 129% ที่ 108 ล้านบาท สนับสนุนจากท่าเรือทั้ง 2 แห่ง ได้แก่ ท่าสหไทย, BBT และธุรกิจรอบด้านที่ขยายตัว (ขนส่งตู้ทางบก-ซ่อมบำรุง – warehouse- Freight fowarder) ในขณะที่คาด Net margin (%) จะค่อยๆปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 8.9% เราประเมินราคาเหมาะสมปี 2561 ที่6.00 บาท/หุ้น ด้วย PER เฉลี่ยของกลุ่มที่ 25.6 เท่า
Trading idea – – Stock pick สัปดาห์นี้ (BJC, BDMS, PTTEP) / กลุ่มอสังหาแนะเก็งกำไร AP ,ทยอยสะสม LPN 13.10+/-
บริษัทฯ ประกอบธุรกิจท่าเทียบเรือบนแม่น้ำเจ้าพระยา ให้บริการจัดการและบริหารตู้สินค้าคอนเทนเนอร์แก่สายเดินเรือขนส่งสินค้าใน-ต่างประเทศอย่างครบวงจร ซึ่งฐานลูกค้าค่อนข้างมีชื่อเสียงเช่น MAERSK, NYK LINE เป็นต้น ปัจจุบันมีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 ของท่าเรือเอกชน (รวม 4 แสนตู้/ปี)
คาดกำไรปี 2561 เติบโตโดดเด่นกว่า 129% ที่ 108 ล้านบาท สนับสนุนจากท่าเรือทั้ง 2 แห่ง ได้แก่ ท่าสหไทย, BBT และธุรกิจรอบด้านที่ขยายตัว (ขนส่งตู้ทางบก-ซ่อมบำรุง – warehouse- Freight fowarder) ในขณะที่คาด Net margin (%) จะค่อยๆปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 8.9% เราประเมินราคาเหมาะสมปี 2561 ที่6.00 บาท/หุ้น ด้วย PER เฉลี่ยของกลุ่มที่ 25.6 เท่า
Trading idea – – Stock pick สัปดาห์นี้ (BJC, BDMS, PTTEP) / กลุ่มอสังหาแนะเก็งกำไร AP ,ทยอยสะสม LPN 13.10+/-
Technical View
การพักตัวไม่ควรหลุด Low ของกรอบ : ดัชนีพักตัวเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน แม้ระหว่างวันจะผ่าน 1720 ได้ แต่ตอนบ่ายได้มีแรงขายกดลงมา ส่งผลให้แนวต้าน 1720 ยังคงแข็งแกร่ง มองว่าหากการพักตัวไม่หลุด Low ของกรอบที่ 1707 จะไม่ทำให้แนวโน้มหลักที่ Break เส้น Downtrend เสียไป มองแนวต้านที่ 1720 และ 1730 (High เดิม) ตามลำดับ
กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: ถือหุ้นต่อ (ระยะกลาง) หรือ ทยอยขายทำกำไรตามแนวต้าน (ระยะสั้น) 2) ไม่มีหุ้น: จังหวะอ่อนตัวระหว่างวัน ทยอยสะสมหุ้นตามแนวรับ
แนวรับ : 1707, 1700 แนวต้าน : 1720, 1730
การพักตัวไม่ควรหลุด Low ของกรอบ : ดัชนีพักตัวเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน แม้ระหว่างวันจะผ่าน 1720 ได้ แต่ตอนบ่ายได้มีแรงขายกดลงมา ส่งผลให้แนวต้าน 1720 ยังคงแข็งแกร่ง มองว่าหากการพักตัวไม่หลุด Low ของกรอบที่ 1707 จะไม่ทำให้แนวโน้มหลักที่ Break เส้น Downtrend เสียไป มองแนวต้านที่ 1720 และ 1730 (High เดิม) ตามลำดับ
กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: ถือหุ้นต่อ (ระยะกลาง) หรือ ทยอยขายทำกำไรตามแนวต้าน (ระยะสั้น) 2) ไม่มีหุ้น: จังหวะอ่อนตัวระหว่างวัน ทยอยสะสมหุ้นตามแนวรับ
แนวรับ : 1707, 1700 แนวต้าน : 1720, 1730
Eyes on
ปัจจัยต่างประเทศ : 23 พ.ย. รายงาน GDP ไตรมาส 3 ของอังกฤษ / สหรัฐรายงาน PMI ภาคการผลิตและบริการ 24 พ.ย.
ปัจจัยในประเทศ : Motor expo เริ่ม 30 พ.ย.นี้ / จับตาการปรับครม.
ปัจจัยต่างประเทศ : 23 พ.ย. รายงาน GDP ไตรมาส 3 ของอังกฤษ / สหรัฐรายงาน PMI ภาคการผลิตและบริการ 24 พ.ย.
ปัจจัยในประเทศ : Motor expo เริ่ม 30 พ.ย.นี้ / จับตาการปรับครม.
หุ้นเทคนิค:
BCPG (B 22.40-22.60, Tp 23.50//24.00, Cut 22.20)
CPALL (B 74.00, Tp 76.00, Cut 73.00)
BCPG (B 22.40-22.60, Tp 23.50//24.00, Cut 22.20)
CPALL (B 74.00, Tp 76.00, Cut 73.00)
นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
Research Department Tel. 02-658-5000
OO2730
Research Department Tel. 02-658-5000
OO2730