- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 22 November 2017 16:37
- Hits: 3082
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: แนวต้าน 1730 แนวรับ 1718
SET Index: 1720.57 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคหลังจากถูกขายทำกำไรในระยะสั้นไปทดสอบแนวรับของเส้นค่าเฉลี่ย 20 วันที่ 1705 จุด ทำให้ ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1730 จุด และมีแนวรับสำคัญในระยะสั้นที่ 1705 จุดบริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 20 วัน ถ้าหลุดจะมีแนวรับถัดไปที่ 1690 จุดเป็นจังหวะเข้าซื้อเพิ่ม
แนวต้าน : 1720 และ 1722
แนวรับ : 1718 และ 1715
IVL = 50.00/51.00, SCC = 490/494, KBANK = 224/228, BEAUTY = 21.00/21.40, CPALL = 75.00/76.00
Bangkok Bank (BBL TB; THB 199.50) – ซื้อ
แนวต้าน : 204 และ 210 / แนวต้านสำคัญ 214
แนวรับ : 199 และ 198
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเหนือจุดสูงสุดเดิม และเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันต่อเนื่อง ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 70
แนะนำซื้อ BBL โดยมีแนวรับที่ 199 และ 198 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 204 และ 210 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นต่ำกว่า 195 ลงไป
Lam Soon (Thailand) (LST TB; THB 6.10) – ซื้อ
แนวต้าน : 6.50 และ 6.60 / แนวต้านสำคัญ 6.75
แนวรับ : 6.10 และ 6.00
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้นในระยะยาว แต่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง
MACD ปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มลงเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มขึ้น RSI ฟื้นตัวเหนือระดับ 30
แนะนำซื้อ LST โดยมีแนวรับที่ 6.10 และ 6.00 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 6.50 และ 6.60 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 5.75 ลงไป
SET Index: แนวต้าน 1730 แนวรับ 1718
SET Index: 1720.57 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคหลังจากถูกขายทำกำไรในระยะสั้นไปทดสอบแนวรับของเส้นค่าเฉลี่ย 20 วันที่ 1705 จุด ทำให้ ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1730 จุด และมีแนวรับสำคัญในระยะสั้นที่ 1705 จุดบริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 20 วัน ถ้าหลุดจะมีแนวรับถัดไปที่ 1690 จุดเป็นจังหวะเข้าซื้อเพิ่ม
แนวต้าน : 1720 และ 1722
แนวรับ : 1718 และ 1715
IVL = 50.00/51.00, SCC = 490/494, KBANK = 224/228, BEAUTY = 21.00/21.40, CPALL = 75.00/76.00
Bangkok Bank (BBL TB; THB 199.50) – ซื้อ
แนวต้าน : 204 และ 210 / แนวต้านสำคัญ 214
แนวรับ : 199 และ 198
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเหนือจุดสูงสุดเดิม และเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันต่อเนื่อง ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 70
แนะนำซื้อ BBL โดยมีแนวรับที่ 199 และ 198 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 204 และ 210 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นต่ำกว่า 195 ลงไป
Lam Soon (Thailand) (LST TB; THB 6.10) – ซื้อ
แนวต้าน : 6.50 และ 6.60 / แนวต้านสำคัญ 6.75
แนวรับ : 6.10 และ 6.00
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้นในระยะยาว แต่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง
MACD ปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มลงเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มขึ้น RSI ฟื้นตัวเหนือระดับ 30
แนะนำซื้อ LST โดยมีแนวรับที่ 6.10 และ 6.00 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 6.50 และ 6.60 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 5.75 ลงไป
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET…ฟื้นตัวจากความหวังผ่านแผนปฎิรูปภาษีของสหรัฐ
กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีแรงซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมาคือ กลุ่มรับเหมา หลังงบ Q3/17 ออกมาไม่แย่มาก โดยดัชนีกลุ่มรับเหมา8 บริษัท (ITD CK STEC UNIQ TTCL SYNTEC SRICHA TRC) นับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน ยังติดลบอยู่ 7% จากที่ลงไปติดลบมากกว่า 10%แรงซื้อหุ้นในกลุ่มรับเหมาที่ค่อยๆ เข้ามาน่าจะเป็นผลจากนักลงทุนมองว่าจุดต่ำสุดของกลุ่มน่าจะผ่านไปแล้วและพื้นฐานของบริษัทน่าจะเริ่มกระเตื้องขึ้นเพื่อรองรับเม็ดเงินลงทุนในโครงการลงทุนขนาดใหญ่ในปีหน้า หุ้นขนาดใหญ่ของกลุ่มเริ่มขยับตัวขึ้นในช่วงกลางเดือน พ.ย.ยกเว้นITD ที่ยังขึ้นได้น้อยสุด คือยังติดลบประมาณ 15% ตั้งแต่ต้นปี
สำหรับการขึ้น-ลงของดัชนีกลุ่มสำคัญๆ นับตั้งแต่ต้นปี พบว่ายังเหลือกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กโทรนิกค์และโรงพยาบาล ที่ยังติดตลบ ส่วนกลุ่มอื่นๆต่างดีดตัวขึ้นไม่น้อยกว่า 10% พอๆกับการขึ้นของดัชนี SET ที่ประมาณ 10% หากสถานการณ์การลงทุนในช่วงโค้งสุดท้ายของปี ยังไม่ได้รับผลกระทบจากภายนอก มีแนวโน้มสูงที่ดัชนีกลุ่มที่ยังติดลบ น่าจะดีดตัวขึ้นมายืนในแดนบวกได้ จากการย้ายเม็ดเงินเข้ามาลงทุน หลังตลาดคลายความกังวลเรื่องงบ ส่วนกลุ่มที่ขึ้นแรงๆ อย่าง ขนส่ง อสังหาริมทรัพย์ ท่องเที่ยวและค้าปลีก น่าจะยังยืนๆ เพื่อรอดูงบ Q4/17 และรับข่าวมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ดัชนี SET ที่กำลังขึ้นมาใกล้จุดสูงสุดเดิมที่ 1730 จุด ยังเป็นแรงหนุนจากแรงซื้อของกองทุนในประเทศ ขณะที่ปริมาณการซื้อขายของต่างชาติน่าจะเริ่มแผ่วลง เพราะกำลังเข้าสู่ช่วงหยุดยาว ดังนั้นในช่วงนี้ทิศทางดัชนี SET น่าจะยังไร้ทิศทาง คือแกว่งตัวได้ทั้งแดนบวกและลบ หากมีปัจจัยเข้ามากระทบ การที่ดัชนีจะขึ้นทะลุ 1730 จุด เรามองว่าวอลุ่มจะต้องมีมากกว่าที่เป็นอยู่หรือมีปัจจัยหนุนที่ดีจริงๆ ซึ่งตอนนี้หากมีคือปัจจัยจากต่างประเทศ ส่วนปัจจัยภายในเหลือแค่ตัวเลขเศรษฐกิจรายเดือน
กลยุทธ์การลงทุน ยังคงเน้นเล่นสั้นเก็งกำไร ไปก่อน จนกว่าจะเห็นความชัดเจนเรื่องการผ่านกฏหมายปฎิรูปโครงสร้างภาษีในสหรัฐ กลุ่มอุตสาหกรรมที่ยังพอมีช่องให้ขึ้น ยังคงเป็น รับเหมา โรงพยาบาล ชิ้นส่วนอิเล็กโทรนิกส์และธนาคารบางตัว ส่วนหุ้นรายตัวที่แนะนำเล่นเก็งกำไรจะเน้นไปที่หุ้นที่ถูกปรับเพิ่มกำไรต่อหุ้นในปีหน้า โดยดูการเปลี่ยนแปลงรายเดือน ส่วนแนวโน้มในวันนี้คาดตลาดจะมีการฟื้นตัวตามความคาดหวังแผนปฎิรูปภาษีของสหรัฐที่คาดว่าจะผ่านได้ก่อนวันคริสต์มาส เราให้แนวรับที่ 1707-1700 จุด และแนวต้านที่ 1718-1720 จุด แนะนำซื้อเก็งกำไร DTAC IRPC IVL QH
SET…ฟื้นตัวจากความหวังผ่านแผนปฎิรูปภาษีของสหรัฐ
กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีแรงซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมาคือ กลุ่มรับเหมา หลังงบ Q3/17 ออกมาไม่แย่มาก โดยดัชนีกลุ่มรับเหมา8 บริษัท (ITD CK STEC UNIQ TTCL SYNTEC SRICHA TRC) นับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน ยังติดลบอยู่ 7% จากที่ลงไปติดลบมากกว่า 10%แรงซื้อหุ้นในกลุ่มรับเหมาที่ค่อยๆ เข้ามาน่าจะเป็นผลจากนักลงทุนมองว่าจุดต่ำสุดของกลุ่มน่าจะผ่านไปแล้วและพื้นฐานของบริษัทน่าจะเริ่มกระเตื้องขึ้นเพื่อรองรับเม็ดเงินลงทุนในโครงการลงทุนขนาดใหญ่ในปีหน้า หุ้นขนาดใหญ่ของกลุ่มเริ่มขยับตัวขึ้นในช่วงกลางเดือน พ.ย.ยกเว้นITD ที่ยังขึ้นได้น้อยสุด คือยังติดลบประมาณ 15% ตั้งแต่ต้นปี
สำหรับการขึ้น-ลงของดัชนีกลุ่มสำคัญๆ นับตั้งแต่ต้นปี พบว่ายังเหลือกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กโทรนิกค์และโรงพยาบาล ที่ยังติดตลบ ส่วนกลุ่มอื่นๆต่างดีดตัวขึ้นไม่น้อยกว่า 10% พอๆกับการขึ้นของดัชนี SET ที่ประมาณ 10% หากสถานการณ์การลงทุนในช่วงโค้งสุดท้ายของปี ยังไม่ได้รับผลกระทบจากภายนอก มีแนวโน้มสูงที่ดัชนีกลุ่มที่ยังติดลบ น่าจะดีดตัวขึ้นมายืนในแดนบวกได้ จากการย้ายเม็ดเงินเข้ามาลงทุน หลังตลาดคลายความกังวลเรื่องงบ ส่วนกลุ่มที่ขึ้นแรงๆ อย่าง ขนส่ง อสังหาริมทรัพย์ ท่องเที่ยวและค้าปลีก น่าจะยังยืนๆ เพื่อรอดูงบ Q4/17 และรับข่าวมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ดัชนี SET ที่กำลังขึ้นมาใกล้จุดสูงสุดเดิมที่ 1730 จุด ยังเป็นแรงหนุนจากแรงซื้อของกองทุนในประเทศ ขณะที่ปริมาณการซื้อขายของต่างชาติน่าจะเริ่มแผ่วลง เพราะกำลังเข้าสู่ช่วงหยุดยาว ดังนั้นในช่วงนี้ทิศทางดัชนี SET น่าจะยังไร้ทิศทาง คือแกว่งตัวได้ทั้งแดนบวกและลบ หากมีปัจจัยเข้ามากระทบ การที่ดัชนีจะขึ้นทะลุ 1730 จุด เรามองว่าวอลุ่มจะต้องมีมากกว่าที่เป็นอยู่หรือมีปัจจัยหนุนที่ดีจริงๆ ซึ่งตอนนี้หากมีคือปัจจัยจากต่างประเทศ ส่วนปัจจัยภายในเหลือแค่ตัวเลขเศรษฐกิจรายเดือน
กลยุทธ์การลงทุน ยังคงเน้นเล่นสั้นเก็งกำไร ไปก่อน จนกว่าจะเห็นความชัดเจนเรื่องการผ่านกฏหมายปฎิรูปโครงสร้างภาษีในสหรัฐ กลุ่มอุตสาหกรรมที่ยังพอมีช่องให้ขึ้น ยังคงเป็น รับเหมา โรงพยาบาล ชิ้นส่วนอิเล็กโทรนิกส์และธนาคารบางตัว ส่วนหุ้นรายตัวที่แนะนำเล่นเก็งกำไรจะเน้นไปที่หุ้นที่ถูกปรับเพิ่มกำไรต่อหุ้นในปีหน้า โดยดูการเปลี่ยนแปลงรายเดือน ส่วนแนวโน้มในวันนี้คาดตลาดจะมีการฟื้นตัวตามความคาดหวังแผนปฎิรูปภาษีของสหรัฐที่คาดว่าจะผ่านได้ก่อนวันคริสต์มาส เราให้แนวรับที่ 1707-1700 จุด และแนวต้านที่ 1718-1720 จุด แนะนำซื้อเก็งกำไร DTAC IRPC IVL QH
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM) 22/11/60
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,720.57 จุด เพิ่มขึ้น 10.09 จุด (+0.59%) มูลค่าการซื้อขาย27,050.90 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับขึ้นตามตลาดต่างประเทศที่ส่วนใหญ่เป็นบวก โดยมีแรงหนุนจากผลประกอบการที่สดใสของบจ.ในสหรัฐฯ และนักลงทุนเริ่มคลายกังวลแผนปฏิรูปภาษี หลัง “ทรัมป์” ประกาศจะปรับลดภาษีครั้งใหญ่ในวันคริสต์มาสปีนี้ บ้านเราช่วงเช้ามีแรงหนุนจากหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มธนาคาร พลังงาน และอสังหาฯ
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,720.57 จุด เพิ่มขึ้น 10.09 จุด (+0.59%) มูลค่าการซื้อขาย27,050.90 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับขึ้นตามตลาดต่างประเทศที่ส่วนใหญ่เป็นบวก โดยมีแรงหนุนจากผลประกอบการที่สดใสของบจ.ในสหรัฐฯ และนักลงทุนเริ่มคลายกังวลแผนปฏิรูปภาษี หลัง “ทรัมป์” ประกาศจะปรับลดภาษีครั้งใหญ่ในวันคริสต์มาสปีนี้ บ้านเราช่วงเช้ามีแรงหนุนจากหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มธนาคาร พลังงาน และอสังหาฯ
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดบ่าย แกว่งขึ้นต่อ สัญญาณการเก็งกำไรของ SET ยังคงดูดีต่อเนื่อง โดยตลาดยังคงอยู่ในช่วงปลอดปัจจัยลบ ประกอบกับสภาพคล่องในตลาดยังคงอยู่ในระดับสูงทำให้คาดว่า SET น่าจะเริ่มดีดตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยมีโอกาสที่จะเข้าทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1730 จุด และแนวรับหลักจะอยู่ที่ระดับ 1708 จุด เรามองกลุ่มธนาคารมีโอกาสกลับมาเป็นหุ้นกลุ่มนำตลาดในรอบนี้ ภาวะเศรษฐกิจที่มีสัญญาณฟื้นตัวชัดเจนน่าจะลดทอนความกังวลของนักลงทุนต่อทิศทางการเพิ่มขึ้นของ NPLs ให้ลดน้อยลง เรายังมองธนาคารขนาดใหญ่น่าจะฟื้นตัวต่อเนื่อง แนะนำ BBL SCB
Technical Pick (PM) & Cash Balance...
Bangkok Bank (BBL TB; THB 199.50) – ซื้อ
Lam Soon (Thailand) (LST TB; THB 6.10) – ซื้อ
Cash Balance Preview : คาดหลักทรัพย์ที่มีโอกาสจะติด Cash Balance ในสัปดาห์หน้า : III, JMART-W2* (กรณีหุ้นแม่ติด ฯ Warrant ทุกตัวของหุ้นนั้นจะติดตามด้วย)
แนวโน้มตลาดบ่าย แกว่งขึ้นต่อ สัญญาณการเก็งกำไรของ SET ยังคงดูดีต่อเนื่อง โดยตลาดยังคงอยู่ในช่วงปลอดปัจจัยลบ ประกอบกับสภาพคล่องในตลาดยังคงอยู่ในระดับสูงทำให้คาดว่า SET น่าจะเริ่มดีดตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยมีโอกาสที่จะเข้าทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1730 จุด และแนวรับหลักจะอยู่ที่ระดับ 1708 จุด เรามองกลุ่มธนาคารมีโอกาสกลับมาเป็นหุ้นกลุ่มนำตลาดในรอบนี้ ภาวะเศรษฐกิจที่มีสัญญาณฟื้นตัวชัดเจนน่าจะลดทอนความกังวลของนักลงทุนต่อทิศทางการเพิ่มขึ้นของ NPLs ให้ลดน้อยลง เรายังมองธนาคารขนาดใหญ่น่าจะฟื้นตัวต่อเนื่อง แนะนำ BBL SCB
Technical Pick (PM) & Cash Balance...
Bangkok Bank (BBL TB; THB 199.50) – ซื้อ
Lam Soon (Thailand) (LST TB; THB 6.10) – ซื้อ
Cash Balance Preview : คาดหลักทรัพย์ที่มีโอกาสจะติด Cash Balance ในสัปดาห์หน้า : III, JMART-W2* (กรณีหุ้นแม่ติด ฯ Warrant ทุกตัวของหุ้นนั้นจะติดตามด้วย)
Analysts :Kitichan Sirisukarcha +66(2) 761 9232 – [email protected]
Teerawut Kanniphakul +66(2) 761 9233 – [email protected]
Line ID : @CIMBS Youtube : CIMBS
OO2676
Teerawut Kanniphakul +66(2) 761 9233 – [email protected]
Line ID : @CIMBS Youtube : CIMBS
OO2676