- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 22 November 2017 16:32
- Hits: 2487
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้
Commodity Play
Smart Pick
1. สะสม LANNA : ราคาปิด 18.60 บาท ราคาเหมาะสม 26.00 บาท
a) Yuanta คงมุมมองเชิงบวกหลังเข้าประชุมกับผู้บริหารวานนี้ และปรับเพิ่มปริมาณขายปี 2560 ขึ้นเป็น 6.1 ล้านตัน จากเดิมที่ 5.7 ล้านตัน หลัง 9M60 ขายได้แล้ว 4.5 ล้านตัน และปี 2561 ปรับเป็น 6.6 ล้านตัน จากเดิมที่ 5.7 ล้านตัน หลังความต้องการใช้ถ่านหินที่เพิ่มขึ้นตามเศรษฐกิจโลก
b) ขณะที่ราคาถ่านหิน Newcastle เฉลี่ยในปี 2561 คาดว่าจะทรงตัวระดับสูงที่ US$85.00/ตัน ใกล้เคียงกับปี 2560 ที่ US$86.00/ตัน จากปริมาณสต็อกถ่านหินของจีนที่อยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี และการควบคุมภาวะมลพิษทางอากาศในจีนจะส่งผลให้ Supply ถ่านหินในจีนลดลง
c) หลังปรับประมาณการใหม่ ทำให้กำไรสุทธิปี 2560 เติบโตถึง 227% YoY เป็น 699 ล้านบาท และ 28% YoY เป็น 917 ล้านบาทในปี 2561 โดยที่ราคา ณ ปัจจุบันซื้อขายที่ PER61 เพียง 10.6 เท่า และ Dividend Yield สูงถึง 5.4%
2. สะสม MILL : ราคาปิด 1.73 บาท ราคาเหมาะสม 2.30 บาท
a) Yuanta มีมุมมองเชิงบวกต่อราคาเหล็กในตลาดโลกที่คาดว่าจะทรงตัวในระดับสูงจากภาวะ Supply ตึงตัว หลังจีนรายงานยอดผลิตเหล็กเดือน ต.ค. ลดลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน เนื่องจากรัฐบาลควบคุมการผลิตเพื่อปรับปรุงคุณภาพอากาศ
b) คาดกำไรสุทธิ 4Q60 จะทรงตัว QoQ และพลิกกลับเป็นกำไร YoY จากแรงหนุนของราคาเหล็กในตลาดโลก และการปรับกลยุทธ์เน้นขายสินค้าที่มี Value Added จะส่งผลให้ทรงตัวได้ QoQ ที่ระดับ 9%
c) ปี 2561 จะเป็นปีแห่งการเก็บเกี่ยว เนื่องจากบริษัท KMS ที่ร่วมทุนกับ Kobe Steel จะเริ่มสร้างกำไร หลังผ่านจุดคุ้มทุนใน 4Q60 และผลักดันกำไรให้เติบโตสูงถึง +290% YoY เป็น 444 ล้านบาท และราคาหุ้นมี Downside Risk จำกัด เนื่องจากซื้อขายที่ระดับ PBV เพียง 1 เท่า
กลยุทธ์วันนี้
Commodity Play
Smart Pick
1. สะสม LANNA : ราคาปิด 18.60 บาท ราคาเหมาะสม 26.00 บาท
a) Yuanta คงมุมมองเชิงบวกหลังเข้าประชุมกับผู้บริหารวานนี้ และปรับเพิ่มปริมาณขายปี 2560 ขึ้นเป็น 6.1 ล้านตัน จากเดิมที่ 5.7 ล้านตัน หลัง 9M60 ขายได้แล้ว 4.5 ล้านตัน และปี 2561 ปรับเป็น 6.6 ล้านตัน จากเดิมที่ 5.7 ล้านตัน หลังความต้องการใช้ถ่านหินที่เพิ่มขึ้นตามเศรษฐกิจโลก
b) ขณะที่ราคาถ่านหิน Newcastle เฉลี่ยในปี 2561 คาดว่าจะทรงตัวระดับสูงที่ US$85.00/ตัน ใกล้เคียงกับปี 2560 ที่ US$86.00/ตัน จากปริมาณสต็อกถ่านหินของจีนที่อยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี และการควบคุมภาวะมลพิษทางอากาศในจีนจะส่งผลให้ Supply ถ่านหินในจีนลดลง
c) หลังปรับประมาณการใหม่ ทำให้กำไรสุทธิปี 2560 เติบโตถึง 227% YoY เป็น 699 ล้านบาท และ 28% YoY เป็น 917 ล้านบาทในปี 2561 โดยที่ราคา ณ ปัจจุบันซื้อขายที่ PER61 เพียง 10.6 เท่า และ Dividend Yield สูงถึง 5.4%
2. สะสม MILL : ราคาปิด 1.73 บาท ราคาเหมาะสม 2.30 บาท
a) Yuanta มีมุมมองเชิงบวกต่อราคาเหล็กในตลาดโลกที่คาดว่าจะทรงตัวในระดับสูงจากภาวะ Supply ตึงตัว หลังจีนรายงานยอดผลิตเหล็กเดือน ต.ค. ลดลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน เนื่องจากรัฐบาลควบคุมการผลิตเพื่อปรับปรุงคุณภาพอากาศ
b) คาดกำไรสุทธิ 4Q60 จะทรงตัว QoQ และพลิกกลับเป็นกำไร YoY จากแรงหนุนของราคาเหล็กในตลาดโลก และการปรับกลยุทธ์เน้นขายสินค้าที่มี Value Added จะส่งผลให้ทรงตัวได้ QoQ ที่ระดับ 9%
c) ปี 2561 จะเป็นปีแห่งการเก็บเกี่ยว เนื่องจากบริษัท KMS ที่ร่วมทุนกับ Kobe Steel จะเริ่มสร้างกำไร หลังผ่านจุดคุ้มทุนใน 4Q60 และผลักดันกำไรให้เติบโตสูงถึง +290% YoY เป็น 444 ล้านบาท และราคาหุ้นมี Downside Risk จำกัด เนื่องจากซื้อขายที่ระดับ PBV เพียง 1 เท่า
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วานนี้ SET INDEX ปรับตัวลดลงราว 3.9 จุด ปิดที่ 1710.48 จุด มูลค่าการซื้อขายราว 5.6 หมื่นล้านบาท ด้านกระแสเงินทุน นักลงทุนต่างชาติและสถาบันในประเทศขายสุทธิราว 554 ล้านบาท และ 1.9 พันล้านบาทตามลำดับ ด้านตลาดฟิวเจอร์ส นักลงทุนต่างชาติมีสถาน Short สุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันอีกราว 3.4 พันสัญญา เช่นเดียวกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Short สุทธิราว 1.6 พันสัญญา ส่งผลให้ QTD นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิ 5.6 หมื่นสัญญา สวนทางกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Long สุทธิ 3.3 หมื่นสัญญา ด้านตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1.3 หมื่นล้านบาท เป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน รวมราว 4.3 หมื่นล้านบาท กดดันให้ค่าเงินบาทแข็งค่าที่ระดับ 32.74 บาท/USD
วานนี้ SET INDEX ปรับตัวลดลงราว 3.9 จุด ปิดที่ 1710.48 จุด มูลค่าการซื้อขายราว 5.6 หมื่นล้านบาท ด้านกระแสเงินทุน นักลงทุนต่างชาติและสถาบันในประเทศขายสุทธิราว 554 ล้านบาท และ 1.9 พันล้านบาทตามลำดับ ด้านตลาดฟิวเจอร์ส นักลงทุนต่างชาติมีสถาน Short สุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันอีกราว 3.4 พันสัญญา เช่นเดียวกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Short สุทธิราว 1.6 พันสัญญา ส่งผลให้ QTD นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิ 5.6 หมื่นสัญญา สวนทางกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Long สุทธิ 3.3 หมื่นสัญญา ด้านตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1.3 หมื่นล้านบาท เป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน รวมราว 4.3 หมื่นล้านบาท กดดันให้ค่าเงินบาทแข็งค่าที่ระดับ 32.74 บาท/USD
กลยุทธ์วันนี้
แม้ SET INDEX วานนี้จะพักตัวเล็กน้อย แต่สอดคล้องกับตลาดหุ้นอีก 2 ตลาดในกลุ่ม TIP ที่ปรับตัวลง พร้อมกับการขายสุทธิของต่างชาติทั้ง 3 ตลาดเช่นกัน แต่แนวโน้มโดยรวม ถือว่ายังไม่เสียทรง เรายังคงมุมมองของการขยับซิกแซกขึ้น (Sideways up) เพื่อทดสอบแนว 1720 จุดเช่นเดิม
เราประเมินว่า Downside ของตลาดหุ้นไทยจำกัดด้วยทิศทางค่าเงินบาทที่แข็งค่า ล่าสุดแตะระดับ 32.75 บาท/เหรียญฯ แข็งค่ามากสุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย.2558 โดยเงินทุนไหลเข้าตลาดตราสารหนี้ของไทยอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 อีก 1.3 หมื่นล้านบาท แต่ในทางตรงกันข้าม หุ้นบางกลุ่มที่ได้รับผลกระทบเชิงลบจากการแข็งค่าของเงินบาท เช่น อิเล็กทรอนิกส์ อาหาร ทำให้ราคาหุ้น Underperform ในช่วงนี้
มุมมองของนักลงทุนต่างชาติต่อพื้นฐานเศรษฐกิจไทย คาดว่าเป็นบวกมากขึ้น หลังจากการรายงาน GDP 3Q60 ขยายตัวสูงกว่าตลาดคาดอย่างมีนัยสำคัญ และหากเศรษฐกิจไทยปีนี้ โตได้ 3.9% YoY ตามประมาณการของ สศช. จะนับเป็นการเติบโตสูงสุดในรอบ 5 ปีนับตั้งแต่ปี 2555
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ เราแนะนำเลือกซื้อหุ้นรายตัว (Selective Buy) โดยเฉพาะหุ้นขนาดกลาง-เล็ก (SMID Cap) ที่มีประเด็นบวกหนุนเฉพาะตัว เช่น ได้อานิสงส์จากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (ถ่านหิน/ เหล็ก) ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น/ ทิศทางกำไรเติบโตโดดเด่น
แม้ SET INDEX วานนี้จะพักตัวเล็กน้อย แต่สอดคล้องกับตลาดหุ้นอีก 2 ตลาดในกลุ่ม TIP ที่ปรับตัวลง พร้อมกับการขายสุทธิของต่างชาติทั้ง 3 ตลาดเช่นกัน แต่แนวโน้มโดยรวม ถือว่ายังไม่เสียทรง เรายังคงมุมมองของการขยับซิกแซกขึ้น (Sideways up) เพื่อทดสอบแนว 1720 จุดเช่นเดิม
เราประเมินว่า Downside ของตลาดหุ้นไทยจำกัดด้วยทิศทางค่าเงินบาทที่แข็งค่า ล่าสุดแตะระดับ 32.75 บาท/เหรียญฯ แข็งค่ามากสุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย.2558 โดยเงินทุนไหลเข้าตลาดตราสารหนี้ของไทยอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 อีก 1.3 หมื่นล้านบาท แต่ในทางตรงกันข้าม หุ้นบางกลุ่มที่ได้รับผลกระทบเชิงลบจากการแข็งค่าของเงินบาท เช่น อิเล็กทรอนิกส์ อาหาร ทำให้ราคาหุ้น Underperform ในช่วงนี้
มุมมองของนักลงทุนต่างชาติต่อพื้นฐานเศรษฐกิจไทย คาดว่าเป็นบวกมากขึ้น หลังจากการรายงาน GDP 3Q60 ขยายตัวสูงกว่าตลาดคาดอย่างมีนัยสำคัญ และหากเศรษฐกิจไทยปีนี้ โตได้ 3.9% YoY ตามประมาณการของ สศช. จะนับเป็นการเติบโตสูงสุดในรอบ 5 ปีนับตั้งแต่ปี 2555
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ เราแนะนำเลือกซื้อหุ้นรายตัว (Selective Buy) โดยเฉพาะหุ้นขนาดกลาง-เล็ก (SMID Cap) ที่มีประเด็นบวกหนุนเฉพาะตัว เช่น ได้อานิสงส์จากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (ถ่านหิน/ เหล็ก) ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น/ ทิศทางกำไรเติบโตโดดเด่น
ปัจจัยสำคัญวันนี้
Moody คาดกำไรบริษัทเอเชียจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 2561
Robert Mugabe ประกาศลาออกจากการเป็นประธานาธิบดี Zimbabwe
API รายงานสต๊อกน้ำมันดิบลดลง 6.36 ล้านบาร์เรล ดีกว่าที่ตลาดคาดว่าจะลดลง 2.1 ล้านบาร์เรล
วันนี้ SKE เข้าเทรดวันแรกใน SET หมวด พลังงานและสาธารนูปโภค ราคา IPO ที่ 1.80 บาท และพรุ่งนี้จะมี IPO เข้าใหม่ 2 ตัว ได้แก่ THMUI และ PORT
ติดตามการรายงาน Fed Minute วันที่ 22 พ.ย.
ติดตามการรายงานสต๊อกน้ำมันดิบจากทาง EIA คาดลดลง 1.8 ล้านบาร์เรล
ติดตามการรายงาน PMI EU วันที่ 23 พ.ย.
ติดตามการรายงาน PMI US วันที่ 24 พ.ย.
ติดตามการรายงานการนำเข้า-ส่งออกไทย ภายในวันที่ 22-27 พ.ย. ตลาดคาดส่งออกขยายตัว 14.6% YoY เร่งตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 12.2% YoY
Moody คาดกำไรบริษัทเอเชียจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 2561
Robert Mugabe ประกาศลาออกจากการเป็นประธานาธิบดี Zimbabwe
API รายงานสต๊อกน้ำมันดิบลดลง 6.36 ล้านบาร์เรล ดีกว่าที่ตลาดคาดว่าจะลดลง 2.1 ล้านบาร์เรล
วันนี้ SKE เข้าเทรดวันแรกใน SET หมวด พลังงานและสาธารนูปโภค ราคา IPO ที่ 1.80 บาท และพรุ่งนี้จะมี IPO เข้าใหม่ 2 ตัว ได้แก่ THMUI และ PORT
ติดตามการรายงาน Fed Minute วันที่ 22 พ.ย.
ติดตามการรายงานสต๊อกน้ำมันดิบจากทาง EIA คาดลดลง 1.8 ล้านบาร์เรล
ติดตามการรายงาน PMI EU วันที่ 23 พ.ย.
ติดตามการรายงาน PMI US วันที่ 24 พ.ย.
ติดตามการรายงานการนำเข้า-ส่งออกไทย ภายในวันที่ 22-27 พ.ย. ตลาดคาดส่งออกขยายตัว 14.6% YoY เร่งตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 12.2% YoY
Strategist Team
Mayuree Chowvikran Head of Research , 662-009-8050
Padon Vannarat Strategist , 662-009-8060
Piyapat Patarapuvadol Strategist, 662-009-8062
Nutt Treepoonsuk Strategist , 662-009-8059
OO2672