- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 21 November 2017 18:36
- Hits: 1745
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET ปรับตัวขึ้น โดยยังคงมีแรงเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มค้าปลีกนำโดย CPALL, BJC และ BEAUTY กลุ่มก่อสร้างอย่าง CK, STEC , ITD, UNIQ กลุ่มอาหารเช่น M , TKN ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,714 จุด (+5.00 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.9 หมื่นลบ. ลดลงเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 5.5 หมื่นล้านบาท (มี Biglot BH มูลค่า 2.0 พันล้านบาท)
นักลงทุนชาติยังคงซื้อหุ้นไทยเล็กน้อยที่ 342 ล้านบาท แต่กลับมา Short สุทธิ SET50 Index Future สูงกว่า 6,283 สัญญา
Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET ปรับตัวขึ้น โดยยังคงมีแรงเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มค้าปลีกนำโดย CPALL, BJC และ BEAUTY กลุ่มก่อสร้างอย่าง CK, STEC , ITD, UNIQ กลุ่มอาหารเช่น M , TKN ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,714 จุด (+5.00 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.9 หมื่นลบ. ลดลงเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 5.5 หมื่นล้านบาท (มี Biglot BH มูลค่า 2.0 พันล้านบาท)
นักลงทุนชาติยังคงซื้อหุ้นไทยเล็กน้อยที่ 342 ล้านบาท แต่กลับมา Short สุทธิ SET50 Index Future สูงกว่า 6,283 สัญญา
Investment theme
สภาพัฒน์รายงานตัวเลข GDP สูงกว่าคาด – เช้านี้ติดตามการรายงานตัวเลขส่งออก-นำเข้าเดือนต.ค. : เมื่อเช้าที่ผ่านมาสภาพัฒน์รายงานตัวเลขอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทย (GDP) ไตรมาส 3 สูงกว่าคาดที่ 4.3% สูงสุดในรอบ 18 ไตรมาส ส่งผลให้ตัวเลข 9 เดือน เติบโต 3.8% โดยสิ่งที่น่าจับตาคือการเติบโตจากภาคนอกเกษตรสูงกว่า 3.8% (สูงสุดในรอบ 6 ไตรมาส) และการบริโภคเติบโตที่ 3.1% เป็นเหตุให้เราคาดตัวเลขความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจจะสูงขึ้นเรื่อยๆ สอดคล้องกับมุมมองและเป็นหนึ่งในเหตุผลที่เรายังคงแนะนำหุ้นอย่าง CPN, กลุ่มอสังหาอย่าง LPN ที่เรามองว่าจะได้ประโยชน์ทางอ้อมจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และสำหรับภาพของ Fund flow เรามองว่าปัจจุบันค่อนข้างผันผวนจากทั้งฝั่งยุโรปภายหลังสภาของประเทศเยอรมัน (พรรค FDP) เริ่มไม่เห็นด้วยกับพรรคของ Merkel ในขณะที่จับตาสภาสูงของสหรัฐพิจารณาการปฎิรูปภาษี ซึ่งเรามองว่าทั้ง 2 ประเด็นจะส่งผลอย่างมีนัยยะต่อการลงทุนโลก
Investment theme: เรายังคงมุมมอง SET แกว่งตัวในกรอบ 1,680 – 1,720 โดยกลุ่มที่เรายังมีมุมมองเชิงบวกได้แก่ กลุ่มพลังงาน(ต้นน้ำ), กลุ่ม Out of home media , กลุ่มอสังหา, กลุ่มธนาคาร ในขณะที่แนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนในกลุ่ม โรงกลั่น, ICT
สภาพัฒน์รายงานตัวเลข GDP สูงกว่าคาด – เช้านี้ติดตามการรายงานตัวเลขส่งออก-นำเข้าเดือนต.ค. : เมื่อเช้าที่ผ่านมาสภาพัฒน์รายงานตัวเลขอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทย (GDP) ไตรมาส 3 สูงกว่าคาดที่ 4.3% สูงสุดในรอบ 18 ไตรมาส ส่งผลให้ตัวเลข 9 เดือน เติบโต 3.8% โดยสิ่งที่น่าจับตาคือการเติบโตจากภาคนอกเกษตรสูงกว่า 3.8% (สูงสุดในรอบ 6 ไตรมาส) และการบริโภคเติบโตที่ 3.1% เป็นเหตุให้เราคาดตัวเลขความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจจะสูงขึ้นเรื่อยๆ สอดคล้องกับมุมมองและเป็นหนึ่งในเหตุผลที่เรายังคงแนะนำหุ้นอย่าง CPN, กลุ่มอสังหาอย่าง LPN ที่เรามองว่าจะได้ประโยชน์ทางอ้อมจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และสำหรับภาพของ Fund flow เรามองว่าปัจจุบันค่อนข้างผันผวนจากทั้งฝั่งยุโรปภายหลังสภาของประเทศเยอรมัน (พรรค FDP) เริ่มไม่เห็นด้วยกับพรรคของ Merkel ในขณะที่จับตาสภาสูงของสหรัฐพิจารณาการปฎิรูปภาษี ซึ่งเรามองว่าทั้ง 2 ประเด็นจะส่งผลอย่างมีนัยยะต่อการลงทุนโลก
Investment theme: เรายังคงมุมมอง SET แกว่งตัวในกรอบ 1,680 – 1,720 โดยกลุ่มที่เรายังมีมุมมองเชิงบวกได้แก่ กลุ่มพลังงาน(ต้นน้ำ), กลุ่ม Out of home media , กลุ่มอสังหา, กลุ่มธนาคาร ในขณะที่แนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนในกลุ่ม โรงกลั่น, ICT
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา สภาพัฒน์รายงานตัวเลข GDP ไตรมาส 3 ของไทยสูงกว่าคาดที่ 4.3% สูงสุดในรอบ 18 ไตรมาส พร้อมปรับเป้า GDP ปีหน้าเป็น 3.9% จากเดิม 3.5-4.0% / ปลัดท่องเที่ยวเผยมาตราการภาษีคาดใช้ปี 2561 / Bitcoin เดินหน้าทำระดับสูงสุดที่ 8,100 ดอลลาร์ / Goldman คาดสหรัฐขึ้นดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีหน้า
บทวิเคราะห์วันนี้ WICE (upgrade to 6.10 บาท )
Stock pick : WICE
WICE : Upgrade ราคาเหมาะสมเป็น 6.10 บาท
ปัจจุบันเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าอย่าง จีน,ฮ่องกง,สหรัฐอเมริกา (ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนสูงกว่า 28% ของการค้าประเทศไทย) ฟื้นตัวส่งผลบวกทางอ้อมต่อการนำเข้า-ส่งออกสินค้ากับประเทศไทยโดยเรามองว่าหุ้น Logistic อย่าง Freight fowarder จะได้ประโยชน์ทางอ้อมจากเรื่องนี้
เราปรับประมาณการกำไรปี 2561 ขึ้น 11% จากการรวมธุรกิจ UWT (Freight fowarder ที่ประเทศฮ่องกง,จีน) ในขณะที่สินค้าหลักอย่างชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ (คิดเป็นสัดส่วนสูงกว่า 43% ของบริษัท) ยังคงเป็นพระเอกของการส่งออกไทย ส่งผลให้เรามองว่าทิศทางธุรกิจของ WICE ยังคงสดใสต่อ ทำให้เราคาดกำไรปี 2561 ใหม่ที่ 151 ล้านบาท เติบโต 32%YoY สะท้อน PEG 0.68x เทียบเท่าค่าเฉลี่ยกลุ่ม
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมจากบทวิเคราะห์ฉบับเต็มเช้าวันนี้
Trading idea – – Stock pick สัปดาห์นี้ (BJC, BDMS, PTTEP) Let profit run ในกลุ่มท่องเที่ยว (ERW, CENTEL) / เก็งกำไร CK เราให้เป็น Toppick ของกลุ่มก่อสร้าง
เมื่อคืนที่ผ่านมา สภาพัฒน์รายงานตัวเลข GDP ไตรมาส 3 ของไทยสูงกว่าคาดที่ 4.3% สูงสุดในรอบ 18 ไตรมาส พร้อมปรับเป้า GDP ปีหน้าเป็น 3.9% จากเดิม 3.5-4.0% / ปลัดท่องเที่ยวเผยมาตราการภาษีคาดใช้ปี 2561 / Bitcoin เดินหน้าทำระดับสูงสุดที่ 8,100 ดอลลาร์ / Goldman คาดสหรัฐขึ้นดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีหน้า
บทวิเคราะห์วันนี้ WICE (upgrade to 6.10 บาท )
Stock pick : WICE
WICE : Upgrade ราคาเหมาะสมเป็น 6.10 บาท
ปัจจุบันเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าอย่าง จีน,ฮ่องกง,สหรัฐอเมริกา (ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนสูงกว่า 28% ของการค้าประเทศไทย) ฟื้นตัวส่งผลบวกทางอ้อมต่อการนำเข้า-ส่งออกสินค้ากับประเทศไทยโดยเรามองว่าหุ้น Logistic อย่าง Freight fowarder จะได้ประโยชน์ทางอ้อมจากเรื่องนี้
เราปรับประมาณการกำไรปี 2561 ขึ้น 11% จากการรวมธุรกิจ UWT (Freight fowarder ที่ประเทศฮ่องกง,จีน) ในขณะที่สินค้าหลักอย่างชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ (คิดเป็นสัดส่วนสูงกว่า 43% ของบริษัท) ยังคงเป็นพระเอกของการส่งออกไทย ส่งผลให้เรามองว่าทิศทางธุรกิจของ WICE ยังคงสดใสต่อ ทำให้เราคาดกำไรปี 2561 ใหม่ที่ 151 ล้านบาท เติบโต 32%YoY สะท้อน PEG 0.68x เทียบเท่าค่าเฉลี่ยกลุ่ม
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมจากบทวิเคราะห์ฉบับเต็มเช้าวันนี้
Trading idea – – Stock pick สัปดาห์นี้ (BJC, BDMS, PTTEP) Let profit run ในกลุ่มท่องเที่ยว (ERW, CENTEL) / เก็งกำไร CK เราให้เป็น Toppick ของกลุ่มก่อสร้าง
Technical View
การพักตัวไม่ควรหลุด 1710 : กราฟรายวัน ภายหลังดัชนี Break เส้นDowntrend วานนี้ดัชนีพยายามปรับตัวขึ้นต่อ แต่ยังไม่สามารถผ่าแนวต้านแรกที่ 1720 มองว่าระยะสั้นยังไม่เสียแนวโน้มการขึ้น เนื่องจาก MACD เพิ่งเริ่มเกิด Buy Signal มองว่าหากดัชนีปรับตัวไม่หลุดแนวรับ 1710 ยังคงลุ้นการ Rebound โดยมีแนวต้านที่ 1720 และ 1730 (High เดิม) ตามลำดับ กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: ถือหุ้นต่อ หรือ ทยอยขายทำกำไรบางส่วนตามแนวต้านเป็นระยะๆ 2) ไม่มีหุ้น: จังหวะอ่อนตัวระหว่างวัน ทยอยสะสมหุ้นตามแนวรับ
แนวรับ : 1710, 1706 แนวต้าน : 1720, 1730
การพักตัวไม่ควรหลุด 1710 : กราฟรายวัน ภายหลังดัชนี Break เส้นDowntrend วานนี้ดัชนีพยายามปรับตัวขึ้นต่อ แต่ยังไม่สามารถผ่าแนวต้านแรกที่ 1720 มองว่าระยะสั้นยังไม่เสียแนวโน้มการขึ้น เนื่องจาก MACD เพิ่งเริ่มเกิด Buy Signal มองว่าหากดัชนีปรับตัวไม่หลุดแนวรับ 1710 ยังคงลุ้นการ Rebound โดยมีแนวต้านที่ 1720 และ 1730 (High เดิม) ตามลำดับ กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: ถือหุ้นต่อ หรือ ทยอยขายทำกำไรบางส่วนตามแนวต้านเป็นระยะๆ 2) ไม่มีหุ้น: จังหวะอ่อนตัวระหว่างวัน ทยอยสะสมหุ้นตามแนวรับ
แนวรับ : 1710, 1706 แนวต้าน : 1720, 1730
Eyes on
ปัจจัยต่างประเทศ : 23 พ.ย. รายงาน GDP ไตรมาส 3 ของอังกฤษ / สหรัฐรายงาน PMI ภาคการผลิตและบริการ 24 พ.ย.
ปัจจัยในประเทศ : ตัวเลขส่งออกประกาศเช้านี้ /Motor expo เริ่ม 30 พ.ย.นี้ / จับตาการปรับครม.
ปัจจัยต่างประเทศ : 23 พ.ย. รายงาน GDP ไตรมาส 3 ของอังกฤษ / สหรัฐรายงาน PMI ภาคการผลิตและบริการ 24 พ.ย.
ปัจจัยในประเทศ : ตัวเลขส่งออกประกาศเช้านี้ /Motor expo เริ่ม 30 พ.ย.นี้ / จับตาการปรับครม.
หุ้นเทคนิค:
KKP (B 76.50-77.00, Tp 78.50//80.00, Cut 76.00)
CK (B 28.00, Tp 30.00, Cut 27.50)
KKP (B 76.50-77.00, Tp 78.50//80.00, Cut 76.00)
CK (B 28.00, Tp 30.00, Cut 27.50)
นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
Research Department Tel. 02-658-5000
OO2585
Research Department Tel. 02-658-5000
OO2585