- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 21 November 2017 18:34
- Hits: 1707
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> ยัง Let Profit Run และเก็งกำไรหุ้น Consumption Play
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET ปรับตัวในแดนบวกได้ดีโดยปิดตลาดบวก 5 จุดซึ่งถือว่าใกล้เคียงมุมมองของเราที่คาดตลาดแกว่ง Sideways Up โดยปัจจัยหนุนมาจากตัวเลข GDP 3Q17 ของบ้านเราที่ออกมาดีกว่าคาดมาก นักลงทุนต่างชาติยังซื้อสุทธิในตลาดหุ้นเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันอีก 343 ลบ.ซึ่งสะท้อนแนวโน้มกระแสเงินทุนที่เริ่มพลิกกลับมาไหลเข้า ขณะที่สถาบันในประเทศยังซื้อต่อเนื่องอีก 366 ลบ.
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET จะคงแกว่งตัว Sideways Up ต่อจากบรรยากาศการลงทุนที่ยังค่อนข้างเป็นบวก โดยปัจจัยต่างประเทศยังได้แรงหนุนจากความคาดหวังว่าการปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯจะสามารถสำเร็จได้ก่อนเทศกาลคริสต์มาส ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศ ตลาดน่าจะยังให้น้ำหนักบวกกับแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในอนาคตที่จะเติบโตเหนือระดับ 4% ต่อเนื่อง โดยขัลเคลื่อนจากแรงหนุนของภาคบริการและส่งออก รวมถึงการบริโภคในประเทศที่ส่งสัญญาณฟื้นตัว
กลยุทธ์ : ยัง Let Profit Run และเก็งกำไรหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการบริโภคที่ฟื้นตัว
หุ้นเด่นเดือน พ.ย. : CPALL, CPN, EKH, MINT, SYNEX
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$199ล้าน นำโดยเกาหลีใต้ US$278ล้าน และไทย US$11ล้าน ขณะที่ไหลออกจากไต้หวัน US$91ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าแต่อาจชะลอลงเพื่อจับตาผลการประชุมวุฒิสภาสหรัฐว่าจะผ่านร่างกฏหมายปฏิรูปภาษีหรือไม่
กลยุทธ์วันนี้ >> ยัง Let Profit Run และเก็งกำไรหุ้น Consumption Play
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET ปรับตัวในแดนบวกได้ดีโดยปิดตลาดบวก 5 จุดซึ่งถือว่าใกล้เคียงมุมมองของเราที่คาดตลาดแกว่ง Sideways Up โดยปัจจัยหนุนมาจากตัวเลข GDP 3Q17 ของบ้านเราที่ออกมาดีกว่าคาดมาก นักลงทุนต่างชาติยังซื้อสุทธิในตลาดหุ้นเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันอีก 343 ลบ.ซึ่งสะท้อนแนวโน้มกระแสเงินทุนที่เริ่มพลิกกลับมาไหลเข้า ขณะที่สถาบันในประเทศยังซื้อต่อเนื่องอีก 366 ลบ.
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET จะคงแกว่งตัว Sideways Up ต่อจากบรรยากาศการลงทุนที่ยังค่อนข้างเป็นบวก โดยปัจจัยต่างประเทศยังได้แรงหนุนจากความคาดหวังว่าการปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯจะสามารถสำเร็จได้ก่อนเทศกาลคริสต์มาส ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศ ตลาดน่าจะยังให้น้ำหนักบวกกับแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในอนาคตที่จะเติบโตเหนือระดับ 4% ต่อเนื่อง โดยขัลเคลื่อนจากแรงหนุนของภาคบริการและส่งออก รวมถึงการบริโภคในประเทศที่ส่งสัญญาณฟื้นตัว
กลยุทธ์ : ยัง Let Profit Run และเก็งกำไรหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการบริโภคที่ฟื้นตัว
หุ้นเด่นเดือน พ.ย. : CPALL, CPN, EKH, MINT, SYNEX
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$199ล้าน นำโดยเกาหลีใต้ US$278ล้าน และไทย US$11ล้าน ขณะที่ไหลออกจากไต้หวัน US$91ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าแต่อาจชะลอลงเพื่อจับตาผลการประชุมวุฒิสภาสหรัฐว่าจะผ่านร่างกฏหมายปฏิรูปภาษีหรือไม่
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> CENTEL <<
เราปรับกำไรปี 2018 ขึ้น 5% หลังจาก CENTEL ชนะประมูลสิทธิการเช่าโรงแรมและศูนย์ประชุมที่ศูนย์ราชการเป็นเวลา 20 ปีเข้าในประมาณการ ทำให้กำไรปี 2018 โต 15% Y-Y เติบโตสูงกว่าเดิมที่คาด +9% Y-Y
ส่วนกำไรปี 2017 เราคงประมาณการเดิมที่คาด +10% Y-Y โดยแนวโน้ม 4Q17 ได้รับอานิสงส์จาก High season ของธุรกิจโรงแรมและอาหาร และยิ่งได้ประโยชน์จากมาตรการช้อปช่วยชาติ
เราปรับราคาเป้าหมายปี 2018 ขึ้นเป็น 54 บาทจาก 50 บาท ปรับคำแนะนำขึ้นเป็นซื้อ จากเดิมซื้อเก็งกำไร
เราปรับกำไรปี 2018 ขึ้น 5% หลังจาก CENTEL ชนะประมูลสิทธิการเช่าโรงแรมและศูนย์ประชุมที่ศูนย์ราชการเป็นเวลา 20 ปีเข้าในประมาณการ ทำให้กำไรปี 2018 โต 15% Y-Y เติบโตสูงกว่าเดิมที่คาด +9% Y-Y
ส่วนกำไรปี 2017 เราคงประมาณการเดิมที่คาด +10% Y-Y โดยแนวโน้ม 4Q17 ได้รับอานิสงส์จาก High season ของธุรกิจโรงแรมและอาหาร และยิ่งได้ประโยชน์จากมาตรการช้อปช่วยชาติ
เราปรับราคาเป้าหมายปี 2018 ขึ้นเป็น 54 บาทจาก 50 บาท ปรับคำแนะนำขึ้นเป็นซื้อ จากเดิมซื้อเก็งกำไร
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) GDP 3Q17 โตเร่งตัวที่สุดในรอบ 18 ไตรมาส โดย +4.3% Y-Y สูงกว่าตลาดคาดที่ +3.7% Y-Y ปัจจัยหนุนหลักยังเป็นส่งออกสินค้าและบริการ (ท่องเที่ยว) ที่เพิ่มแข็งแกร่ง +7.4% Y-Y เทียบ 2Q17 ที่ +6.0% Y-Y สิ่งที่ดีคือการเติบโตกระจายตัวมากขึ้น การจับจ่ายใช้สอยของเอกชน +3.1% Y-Y เพิ่มจาก 2Q17 ที่ +3.0% Y-Y ส่วนใหญ่จากการซื้อรถยนต์ การลงทุนภาคเอกชนบวกต่อเนื่อง +2.9% Y-Y แม้จะชะลอจาก +3.2% Y-Y ใน 2Q17 แต่เป็นเพราะภาคก่อสร้างที่เผชิญกับหน้าฝน แนวโน้ม 4Q17 น่าจะโตได้ 4% Y-Y แม้เป็น Low season ของส่งออก แต่เป็น high season ของท่องเที่ยวและการจับจ่ายในประเทศซึ่งได้ผลบวกจากมาตรการช้อปช่วยชาติ เราคาด GDP ปี 2017 มีโอกาส +3.9% ตามสภาพัฒน์ฯคาดการณ์ GDP ที่โตดีกว่าคาดหนุนโฟลว์ไหลเข้า
(+) เข้าสู่ฤดูกาลการจับจ่ายใน 4Q17 กลุ่มค้าปลีกมีกำไรที่น่าประทับใจใน 3Q17 เพราะ SSSG พลิกเป็นบวกได้แทบทุกบริษัททั้งที่เป็นช่วง Low season แนวโน้มกำไร 4Q17 จะสูงสุดของปีตามการฟื้นตัวของกำลังซื้อและได้อานิสงส์ของมาตรการช้อปช่วยชาติโดยตรง ภาพการเติบโตยังต่อเนื่องถึงปีหน้าแม้จะแผ่วลงบ้างใน 1Q18 เพราะการจับจ่ายเร่งตัวไปมากใน 4Q17 แล้ว เรายังคงชอบหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการบริโภค แนะนำ CPALL (TP 86 บาท) ROBINS (TP 85 บาท) MC (TP 19.60 บาท) IT (TP 6.90 บาท) BIG (TP 5 บาท) SYNEX (TP 20 บาท)
(0) BTS การปรับโครงสร้างธุรกิจอสังหาฯให้ชัดเจนขึ้นโดยโอนกิจการ Unicorn Enterprise (UE) ให้ U City (BTS ถือ 35.64%) โดยโอนเสร็จสิ้น มี.ค. 2018 เรามองบวกในแง่การลดภาระการลงทุน และอาจมีกำไรพิเศษจากการปรับโครงสร้างราว 2 พันล้านบาทใน 4Q18-1Q19 แต่ BTS ต้องรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจาก U เพิ่มขึ้นในช่วงแรก ขณะที่รับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก JV กับ SIRI ลดลงตามสัดส่วนการถือหุ้นที่ลดลงจาก 50% เหลือ 18% เราปรับกำไรสุทธิปี 2018-19 (สิ้นสุด มี.ค.) ลง 14-20% เหลือโต 13% ปี 2018 และ +10% ปี 2019 ปรับลดราคาเป้าหมายปี 2019 (สิ้นสุด มี.ค.) เป็น 9.70 บาท จาก 10.20 บาท ยังแนะนำซื้อ แต่ชอบ BEM (ราคาเป้าหมายปี 2018 ที่ 10 บาท) มากกว่า
(0) TU วานนี้เราได้เยี่ยมชมโรงงาน Pet Food และสินค้า Value Added ซึ่งเติบโตค่อนข้างดี แต่สัดส่วนรายได้ยังน้อยเพียง 0.4% ของรายได้รวม แนวโน้มกำไร 4Q17 ชะลอแต่คาดกลับมาโตปีหน้า +16% จากฐานต่ำ คงราคาเป้าหมายปีหน้า 23 บาท แนะนำซื้อเพราะ Valuation ที่ถูก
(+) GDP 3Q17 โตเร่งตัวที่สุดในรอบ 18 ไตรมาส โดย +4.3% Y-Y สูงกว่าตลาดคาดที่ +3.7% Y-Y ปัจจัยหนุนหลักยังเป็นส่งออกสินค้าและบริการ (ท่องเที่ยว) ที่เพิ่มแข็งแกร่ง +7.4% Y-Y เทียบ 2Q17 ที่ +6.0% Y-Y สิ่งที่ดีคือการเติบโตกระจายตัวมากขึ้น การจับจ่ายใช้สอยของเอกชน +3.1% Y-Y เพิ่มจาก 2Q17 ที่ +3.0% Y-Y ส่วนใหญ่จากการซื้อรถยนต์ การลงทุนภาคเอกชนบวกต่อเนื่อง +2.9% Y-Y แม้จะชะลอจาก +3.2% Y-Y ใน 2Q17 แต่เป็นเพราะภาคก่อสร้างที่เผชิญกับหน้าฝน แนวโน้ม 4Q17 น่าจะโตได้ 4% Y-Y แม้เป็น Low season ของส่งออก แต่เป็น high season ของท่องเที่ยวและการจับจ่ายในประเทศซึ่งได้ผลบวกจากมาตรการช้อปช่วยชาติ เราคาด GDP ปี 2017 มีโอกาส +3.9% ตามสภาพัฒน์ฯคาดการณ์ GDP ที่โตดีกว่าคาดหนุนโฟลว์ไหลเข้า
(+) เข้าสู่ฤดูกาลการจับจ่ายใน 4Q17 กลุ่มค้าปลีกมีกำไรที่น่าประทับใจใน 3Q17 เพราะ SSSG พลิกเป็นบวกได้แทบทุกบริษัททั้งที่เป็นช่วง Low season แนวโน้มกำไร 4Q17 จะสูงสุดของปีตามการฟื้นตัวของกำลังซื้อและได้อานิสงส์ของมาตรการช้อปช่วยชาติโดยตรง ภาพการเติบโตยังต่อเนื่องถึงปีหน้าแม้จะแผ่วลงบ้างใน 1Q18 เพราะการจับจ่ายเร่งตัวไปมากใน 4Q17 แล้ว เรายังคงชอบหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการบริโภค แนะนำ CPALL (TP 86 บาท) ROBINS (TP 85 บาท) MC (TP 19.60 บาท) IT (TP 6.90 บาท) BIG (TP 5 บาท) SYNEX (TP 20 บาท)
(0) BTS การปรับโครงสร้างธุรกิจอสังหาฯให้ชัดเจนขึ้นโดยโอนกิจการ Unicorn Enterprise (UE) ให้ U City (BTS ถือ 35.64%) โดยโอนเสร็จสิ้น มี.ค. 2018 เรามองบวกในแง่การลดภาระการลงทุน และอาจมีกำไรพิเศษจากการปรับโครงสร้างราว 2 พันล้านบาทใน 4Q18-1Q19 แต่ BTS ต้องรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจาก U เพิ่มขึ้นในช่วงแรก ขณะที่รับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก JV กับ SIRI ลดลงตามสัดส่วนการถือหุ้นที่ลดลงจาก 50% เหลือ 18% เราปรับกำไรสุทธิปี 2018-19 (สิ้นสุด มี.ค.) ลง 14-20% เหลือโต 13% ปี 2018 และ +10% ปี 2019 ปรับลดราคาเป้าหมายปี 2019 (สิ้นสุด มี.ค.) เป็น 9.70 บาท จาก 10.20 บาท ยังแนะนำซื้อ แต่ชอบ BEM (ราคาเป้าหมายปี 2018 ที่ 10 บาท) มากกว่า
(0) TU วานนี้เราได้เยี่ยมชมโรงงาน Pet Food และสินค้า Value Added ซึ่งเติบโตค่อนข้างดี แต่สัดส่วนรายได้ยังน้อยเพียง 0.4% ของรายได้รวม แนวโน้มกำไร 4Q17 ชะลอแต่คาดกลับมาโตปีหน้า +16% จากฐานต่ำ คงราคาเป้าหมายปีหน้า 23 บาท แนะนำซื้อเพราะ Valuation ที่ถูก
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
22 พ.ย.- ไทย: SKE เริ่มซื้อขาย (ราคา IPO 1.80 บาท)
- สหรัฐฯ: ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และรายงานการประชุม FOMC วันที่ 1 พ.ย.
23 พ.ย.- ไทย: THMUI เริ่มซื้อขาย (ราคา IPO 2.55 บาท), PORT เริ่มซื้อขาย (ราคา IPO 4.50 บาท), ยอดขายรถ (ต.ค.)
- ยูโรโซน: Flash PMI ภาคการผลิตและบริการ(พ.ย.)
24 พ.ย. - ไทย: กกพ. ประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติทางเทคนิคโครงการ SPP Hybrid Firm
28 พ.ย.- สหรัฐฯ: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (พ.ย.)
29 พ.ย.- สหรัฐฯ: GDP3Q17 (ตัวเลขสุดท้าย)
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนปิดบวกโดยมีแรงซื้อนำจากกลุ่มเทคโนโลยี นอกจากนี้ ตลาดยังมีปัจจัยหนุนจากดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ LEI เดือนต.ค.ที่พุ่งขึ้นมากกว่าคาด
(+) ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกโดยมีแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มส่งออกเนื่องจากค่าเงินยูโรที่อ่อนค่าลง อย่างไรก็ตาม การขยับบวกถูกจำกัดจากความกังวลสถานการณ์การเมืองในเยอรมนีหลังรัฐบาลไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลผสมได้
(+) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดบวกสดใสตามทิศทางตลาดโลก
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ยัง sideway ในกรอบแคบๆ ล่าสุดเคลื่อนไหวแถว 32.81-32.84 บาท/ดอลลาร์
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดลบ 0.46 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 56.09 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนการประชุมกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันโอเปกในสัปดาห์หน้า
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดลบ 21.20 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,275.30 ดอลลาร์/ออนซ์ จากค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าเนื่องจากความคืบหน้ามาตารการภาษี
Contact person : Jitra Amornthum
Register : 014530 Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research
OO2587