- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 17 November 2017 17:33
- Hits: 2809
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้
SMID CAP
Smart Pick
1. สะสม TCMC : ราคาปิด 3.74 บาท ราคาเหมาะสม 5.90 บาท
a) Yuanta คาดว่าราคาหุ้นจะเริ่มฟื้นตัว เนื่องจากกำลังจะผ่านพ้นช่วงจ่ายเงินเพิ่มทุนหุ้นละ 3.00 บาท ในวันที่ 17 พ.ย. ซึ่งเป็นแรงกดดันในช่วงที่ผ่านมาเพราะนักลงทุนอาจขายหุ้นบางส่วนในกระดานเพื่อเตรียมเงินไปจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน
b) คาดกำไรสุทธิ 4Q60 จะเติบโตสูง YoY และ QoQ เนื่องจากเป็นไตรมาสแรกที่จะเริ่มรวมงบการเงินของ Tai Ping เข้าสู่งบการเงินรวม
c) คงมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการปี 2561 ที่จะรวมงบการเงินของ Tai Ping แบบเต็มปี นอกจากนั้น การใช้โรงงานผลิตร่วมกันจะส่งผลบวกให้เกิด Economy of Scale และผลักดันให้กำไรสุทธิปี 2561 เติบโตสูงถึง +104% YoY เป็น 429 ล้านบาท ขณะที่ Valuation น่าสนใจ ซื้อขายที่ระดับ PER2561 เพียง 9.0 เท่า รวมทั้งให้ Dividend Yield 4% ต่อปี
2. สะสม AAV : ราคาปิด 6.30 บาท ราคาเหมาะสม 9.00 บาท
a) คาดว่าหุ้นกลุ่มสายการบินจะตอบรับเชิงบวก จาก Sentiment บวกของราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลง และเข้าสู่ High Season ใน 4Q60 จะผลักดันให้รายได้เติบโตสูง QoQ
b) จะขึ้น XD เงินปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 0.15 บาท ในวันที่ 22 พ.ย. คิดเป็น Dividend Yield 2.3%
c) คงมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตในระยะกลาง-ยาว เนื่องจากจะได้ประโยชน์โดยตรงจากการปลดล็อกธงแดงของ ICAO ส่งผลให้ Air Asia-X เร่งขยายเส้นทางบินใหม่ได้ และการทยอยปรับขึ้นค่าตั๋ว จะผลักดันให้กำไรสุทธิปี 2561 เติบโต +21% YoY เป็น 1,603 ล้านบาท และจุดเด่นอยู่ของ AAV อยู่ที่ประสิทธิภาพในการบริหารงาน และเป็นผู้นำตลาด Low Cost Airline
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วานนี้ SET INDEX ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.99 จุด ปิดที่ 1691.25 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5.8 หมื่นล้านบาท โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มค้าปลีก และธนาคารเป็นหลัก นำโดย BJC +4.61%, BBL +1.55%, KBANK +0.45% และ TMB +4.62% ด้านกระแสเงินทุน นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 ติดต่อกันอีกราว 1.9 พันล้านบาท รวมราว 1.1 หมื่นล้านบาท สวนทางกับสถาบันในประเทศที่ซื้อสุทธิ 1.6 พันล้านบาท ด้านตลาดฟิวเจอร์ส นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Long สุทธิ 4.5 พันสัญญา เช่นเดียวกับสถาบันในประเทศ และบัญชี บล.ที่มีสถานะ Long สุทธิเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน 4.3 พันสัญญา รวมกว่า 1.9 หมื่นสัญญา ด้านตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหนาแน่นเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันอีกราว 2.5 พันล้านบาท
กลยุทธ์วันนี้
ภาพ SET INDEX ในวันทำการสุดท้ายของสัปดาห์ ยังคงไร้ทิศทางที่ชัดเจน หลังจบฤดูกาลรายงานงบ 3Q60 ทำให้ขาดประเด็นขับเคลื่อน SET INDEX ในระยะสั้น คาดว่าวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 1685-1700 จุด
สภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯผ่านร่างนโยบายปฏิรูปโครงสร้างภาษี ด้วยคะแนนเสียง 227 ต่อ 205 แต่ประเด็นนี้ยังมีความไม่แน่นอนสูงเพราะร่างกฎหมายดังกล่าว จะต้องเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภาอีกครั้ง ในขณะที่มุมมองของ 2 สภา ยังมีความต่างกันในเรื่องของระยะเวลาในการปรับลดภาษีนิติบุคคล
วันจันทร์หน้า (20 พ.ย.) ติดตามการรายงาน GDP 3Q60 ของไทย ยังคงมีทิศทางเป็นบวก โดย Bloomberg Consensus คาดขยายตัว 3.8% YoY เร่งตัวจากระดับ 3.7% YoY ใน 2Q60 และนับเป็นการเติบโตสูงสุดในรอบ 4 ปีนับตั้งแต่ 1Q56 สำหรับดัชนีเศรษฐกิจโลกที่สำคัญในสัปดาห์หน้า ได้แก่ รายงานการประชุมเฟด (22 พ.ย.), PMI กลุ่ม EU (23 พ.ย.) และ PMI ของสหรัฐฯ (24 พ.ย.)
กลยุทธ์ของเราให้น้ำหนักกับหุ้นขนาดกลาง-เล็ก (SMID Cap) ที่จะกลับมาสีสันในช่วงที่ SET INDEX ทำได้เพียงแกว่งทรงตัว แนะนำเก็งกำไรหุ้นที่มีประเด็นบวกหนุนเฉพาะตัว เช่น หุ้นกลุ่มการบินซึ่งได้ประโยชน์จากการพักตัวของราคาน้ำมันดิบ/ หุ้นที่ราคาปรับลงมาจนทำให้ Valuation น่าสนใจ
ปัจจัยสำคัญวันนี้
สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯมีมติให้ผ่านร่างกฏหมายปฏิรูปภาษี ด้วยคะแนนเสียง 227 ต่อ 205 เสียง ขั้นตอนต่อไปคือส่งให้วุฒิสภาพิจารณา
ธนาคารกลางของจีนอัดฉีดเงินเข้าระบบอีก $4.7 หมื่นล้าน สูงสุดในรอบปี กดดันให้นักลงทุนกังวลต่ออัตราเงินเฟ้อ และกระบวนการลดหนี้ที่รุนแรงขึ้น
EU รายงานเงินเฟ้อขยายตัว 1.4% YoY เท่ากับที่ตลาดคาด
ปัจจัยสำคัญในสัปดาห์หน้า
ติดตามการรายงาน GDP 3Q60 ไทย ตลาดคาดขยายตัว 3.8% วันที่ 20 พ.ย.
ติดตามการรายงาน Fed Minute วันที่ 22 พ.ย.
ติดตามการรายงาน PMI EU วันที่ 23 พ.ย.
ติดตามการรายงาน PMI US วันที่ 24 พ.ย.
ติดตามการรายงานการนำเข้า-ส่งออกไทย ภายในวันที่ 22-27 พ.ย.
Strategist Team
Mayuree Chowvikran Head of Research , 662-009-8050
Padon Vannarat Strategist , 662-009-8060
Piyapat Patarapuvadol Strategist , 662-009-8062
Nutt Treepoonsuk Strategist , 662-009-8059
OO2503