- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 16 November 2017 16:53
- Hits: 1053
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> ซื้อหุ้นพื้นฐานในช่วงลบและเก็งกำไรหุ้น Mid-Small Cap ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET เคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวันและปรับตัวลงต่ำกว่าระดับ 1,700 จุดตามคาด โดยถูกกดดันจากบรรยากาศการลงทุนในภาพรวมที่เป็นลบ ทำให้มีแรงขายทำกำไรออกมาหลังจากที่ปรับตัวขึ้นในวันก่อนหน้า นักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 อีก เกือบ 1,500 ลบ.จากทิศทางกระแสเงินทุนที่ยังไหลออก ขณะที่สถาบันในประเทศพลิกมาขายเล็กน้อย
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET จะแกว่งตัว Sideways จากบรรยากาศการลงทุนที่ยังไม่สดใสนัก โดยมีประเด็นกดดันเรื่องการปฏิรุปภาษีของสหรัฐฯ หลังมีการพ่วงการยกเลิกเนื้อหาบางส่วนของโอบามาแคร์ในร่างฯฉบับของวุฒิสภา ซึ่งทำให้เกิดความไม่แน่นอนทางการเมืองมากขึ้น ขณะที่ราคาน้ำมันดิบวานนี้ยังอ่อนตัวลงต่อ อย่างไรก็ตาม เรายังมองช่วงที่ตลาดพักตัวยังเป็นจังหวะในการทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดี โดยยังคงมุมมองบวกต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทยที่อยู่ในช่วงเร่งตัว รวมถึงแรงหนุนจากเม็ดเงิน LTF/RMF ในช่วงปลายปีน่าจะช่วยหนุนตลาดได้
กลยุทธ์ : ซื้อหุ้นพื้นฐานดีในช่วงลบและเก็งกำไรหุ้นขนาดกลาง-เล็กที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว
หุ้นเด่นเดือน พ.ย. : CPALL, CPN, EKH, MINT, SYNEX
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$417ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากไต้หวัน US$414ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลออก US$45ล้าน ขณะที่ไหลเข้าเกาหลีใต้ US$126ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาค ตลาดยังไม่คลายกังวลต่อความล่าช้าของแผนปฏิรูปภาษีสหรัฐ
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> IT <<
คาดกำไร 4Q17 สดใส เพราะเป็นหนึ่งในผู้ทีได้ประโยชน์โดยตรงจากช้อปช่วยชาติ ซึ่งมักกระตุ้นยอดขายให้สูงขึ้นจากภาวะปกติราว 10-15% อีกทั้งเป็นช่วงเปิดตัว iPhone 8 และ iPhone X ซึ่งดีทั้งกับ IT City Mobile และ SPVI (IT ถือ 29%)
คาดกำไรสุทธิปีนี้ 68 ลบ. +441% Y-Y และปีหน้า 79 ลบ. +16% Y-Y ราคาปิดเมื่อวานคิดเป็น PE และ PBV ปีหน้าเพียง 17 เท่า และ 1.3 เท่า ต่ำกว่ากลุ่มซื้อขายสินค้าไอทีที่ 25 เท่า และ 3.5 เท่า ตามลำดับ
แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปี 2018 เท่ากับ 6.90 บาท
ประเด็นสำคัญวันนี้
(-) VIX Index ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 5 ท่ามกลาง Dollar Index ที่พักตัวลง สะท้อนความกังวลในมาตรการภาษีของทรัมป์ที่อาจล่าช้า กระแสเงินเริ่มไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยงเข้าหา Safe Haven อื่น เช่น เงินเยนและทองคำ สอดคล้องกับต่างชาติที่ขายหุ้นบ้านเราต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 รวม 8.9 พันลบ. และ Net Short ใน Index Futures หนาแน่นเป็นวันที่ 2 รวม 12,245 สัญญาหรือราว 2.4 พันลบ. กลุ่มพลังงานต้องระวัง เพราะน้ำมันลงและ PE กลุ่มสะท้อนกำไรผ่านจุด peak ไปแล้ว เหลือแบงก์ปันผลสูงเช่น KKP และหุ้นที่ได้ประโยชน์จากช้อปช่วยชาติ เช่น ค้าปลีก CPALL BJC SYNEX และท่องเที่ยว MINT ERW CENTEL AAV ที่ยังพอไว้ใจได้
(0) MINT การประชุมนักวิเคราะห์วานนี้โทนเป็นกลาง แนวโน้มกำไร 4Q17 คาดว่าจะโตทั้ง Q-Q และ Y-Y จาก High Season และธุรกิจอาหารที่บริหารต้นทุนได้ดีขึ้นต่อเนื่อง ส่วนเงินที่ได้จากการแปลง MINT-W5 กว่า 7 พันลบ. จะเอาไปลงทุนและคืนหนี้บางส่วน ทำให้ฐานการเงินแข็งแกร่งขึ้น ยังคงคาดกำไรปีนี้ +23% Y-Y และปีหน้า +15% Y-Y แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปี 2018 เท่ากับ 48 บาท
(+) AMATA กำไรสุทธิ 3Q17 ดีเกินคาด +129% Q-Q, +221% Y-Y อยู่ที่ 587 ลบ. จากการโอนที่ดินอมตะนครเกือบ 60 ไร่ ซึ่งเป็นผืนที่มีอัตรากำไรสูงราว 75% อีกทั้ง ยังควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีและโรงไฟฟ้าบี.กริมมีผลประกอบการสูงขึ้น แนวโน้ม 4Q17 ยังดีต่อเนื่องถึงปี 2018 จากเศรษฐกิจที่สดใสและมี Backlog สูงถึง 1.96 พันลบ. จากผลของยอดขายที่ดิน 3Q17 ที่สูงถึง 155 ไร่ เทียบกับ 2Q17 ที่ขายได้ 113 ไร่ ยังคงราคาเป้าหมายปี 2018 ที่ 26.60 บาท แนะนำซื้อ
(-) TASCO แนวโน้ม 4Q17 ไม่ดีอย่างที่เคยคาด เพราะมีค่าใช้จ่ายหยุดโรงกลั่น 4 สัปดาห์ เนื่องจากเวเนซุเอลามีปัญหาการเมือง จึงไม่มีน้ำมันให้กลั่น ส่วนยอดขายในประเทศถูกกระทบในเดือน ต.ค. 17 ที่ยังมีฝน เรามีแนวโน้มปรับกำไรปกติปีนี้ลงจาก 2.7 พันลบ. แต่ยังคงกำไรปกติปีหน้าที่ 2.9 พันลบ. ราคาเต็มมูลค่าที่ 22 บาท แนะนำขาย
(-) BKD งบ 3Q17 ยังขาดทุน 10 ลบ. เพราะปิดงานใหญ่ไม่ได้ โดย Backlog ที่มีกว่า 1.1 พันลบ. ส่วนมากรับรู้ใน 4Q17 แต่อัตรากำไรขั้นต้นที่มีแนวโน้มแย่กว่าคาด จากผลของการแข่งขันประมูลงานที่สูงขึ้น เราจึงปรับลดกำไรปีนี้และปีหน้า 14% และ 19% เหลือ 434 ล้านบาท และ 178 ล้านบาท และปรับใช้ราคาเป้าหมายปีหน้าที่ 3.60 บาท แนะนำถือหรือเปลี่ยนไปลงทุนใน K ที่ผลประกอบการ 4Q17 จะฟื้นตัวได้โดดเด่นอย่างมากแทน (ราคาเป้าหมายปีหน้าของ K อยู่ที่ 6.50 บาท)
(0) RS กำไรปกติ 3Q17 อยู่ที่ 129 ลบ. +138% Q-Q และพลิกจากขาดทุน 54 ลบ. ใน 3Q16 แรงหนุนยังมาจาก Health & Beauty และรายได้จากทีวีที่เพิ่มขึ้น ตามอัตราการใช้เวลาโฆษณาที่เพิ่มขึ้นพร้อมกับการควบคุมต้นทุนที่ทำได้อย่างดี แนวโน้ม 4Q17 คาดชะลอตัวและราคาเต็มมูลค่าที่ 18 บาท ยังแนะนำขาย
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
16 พ.ย.- สหรัฐฯ: ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และผลผลิตภาคอุตสาหกรรม
17 พ.ย.- ยูโรโซน: ถ้อยแถลงของประธาน ECB
- สหรัฐฯ: ยอดอนุญาตก่อสร้างและยอดสร้างบ้านใหม่
23 พ.ย.- ไทย: THMUI เริ่มซื้อขายวันแรก
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนปิดลบจากแรงขายนำมาในกลุ่มพลังงานเนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงต่อ อีกทั้ง นักลงทุนยังมีความไม่มั่นใจเกี่ยวกับการผ่านร่างมาตราการภาษีหลังวุฒิสภามีการสร้างเงื่อนไขใหม่ในแผนปฏิรูปภาษี
(-) ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดลบต่อเนื่องเป็นวันที่ 7 จากแรงขายกลุ่มเหมืองแร่และพลังงานเนื่องจากได้รับแรงกดดันจากตัวเลขข้อมูลเศรษฐกิจจีน และ ตัวเลขสต๊อกน้ำมันรายสัปดาห์ของสหรัฐ
(-) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดบวกสวนทางตลาดโลกจากแรงซื้อเก็งกำไรหลังการปรับลดลงต่อเนื่องก่อนหน้านี้
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ปรับตัวในทิศทางแข็งค่าเล็กน้อย ในล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆแถว 32.98-33.00 บาท/ดอลลาร์
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดลบ 0.37 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 55.33 ดอลลาร์/บาร์เรล จากการประกาศตัวเลขสต๊อกน้ำมันของ EIA ที่เพิ่มขึ้นสวนทางคาดทั้งน้ำมันดิบที่เพิ่ม 1.9 ล้านบาร์เรล และ น้ำมันเบนซินที่เพิ่ม 0.9 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ การซื้อขายยังถูกกดดันจากการผลิตน้ำมันของสหรัฐที่อยู่ระดับสูงสุด ขณะที่ IEA มีมุมมองต่อการเติบโตของอุปสงค์ที่อาจชะลอลง
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดลบ 5.20 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,277.70 ดอลลาร์/ออนซ์ จากค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า
Contact person : Jitra Amornthum
Register : 014530 Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research
OO2440