- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 15 November 2017 17:15
- Hits: 702
บล.โนมูระ พัฒนสิน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
“MSCI Weight Added Play”
CNS Daily Strategy : คาดตลาด “แกว่งขึ้น” ต้าน 1710/1715จุด รับ 1695/1690จุด ดัชนี PPI สหรัฐฯดีกว่าคาด บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯและโลก ขณะที่ร่างแผนปฏิรูปภาษีที่ยังไม่แน่นอนกดดันตลาดสั้น แต่มองตลาดตอบรับไปมากแล้ว ซึ่งหากชัดเจนมากขึ้นจะเป็น Upside Risk ให้กับตลาด ส่วนงบ 3Q17 141 บริษัทที่มีคาดการณ์ใน Bloomberg Cons แย่กว่าคาด -4% แต่หากตัดรายการพิเศษออกไป จะพบว่า ดีกว่าคาดกว่า 6.3% ซึ่งแนวโน้ม Core Business ที่เติบโตดี คาดหนุนตลาดรีบาวด์ได้ วันนี้แนะนำ “MSCI Weight Added Play ” : KBANK, SCB, NYT
“MSCI Weight Added Play”
CNS Daily Strategy : คาดตลาด “แกว่งขึ้น” ต้าน 1710/1715จุด รับ 1695/1690จุด ดัชนี PPI สหรัฐฯดีกว่าคาด บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯและโลก ขณะที่ร่างแผนปฏิรูปภาษีที่ยังไม่แน่นอนกดดันตลาดสั้น แต่มองตลาดตอบรับไปมากแล้ว ซึ่งหากชัดเจนมากขึ้นจะเป็น Upside Risk ให้กับตลาด ส่วนงบ 3Q17 141 บริษัทที่มีคาดการณ์ใน Bloomberg Cons แย่กว่าคาด -4% แต่หากตัดรายการพิเศษออกไป จะพบว่า ดีกว่าคาดกว่า 6.3% ซึ่งแนวโน้ม Core Business ที่เติบโตดี คาดหนุนตลาดรีบาวด์ได้ วันนี้แนะนำ “MSCI Weight Added Play ” : KBANK, SCB, NYT
Nomura : Key Factors
(+) US: ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนตค. ปรับตัวขึ้น 0.4%
(+) US: หากร่างภาษีมีความชัดเจนมากขึ้นจะเป็น Upside Risk ให้กับตลาดในช่วงถัดไป
(+) TH: งบ 3Q17 หากตัดรายพิเศษ พบว่า141บริษัทที่มีคาดการณ์Cons ดีกว่าคาดที่ 6.3%
(-) OIL: ราคาน้ำมันดิบวานนี้ WTI -1.87% สู่ $55.70/bbl / BRT -1.50% สู่ $62.21/bbl
(-) OIL: IEA ปรับลดคาดการณ์ Demand ปี2017ลง 1แสนบาร์เรล/วัน สู่ 1.5ล้านบาร์เรล
(-) Fund Flow: ล่าสุดขายหุ้น -1241ลบ.,Short Future -6907สัญญา,ขายBond-75ลบ.
(+) US: ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนตค. ปรับตัวขึ้น 0.4%
(+) US: หากร่างภาษีมีความชัดเจนมากขึ้นจะเป็น Upside Risk ให้กับตลาดในช่วงถัดไป
(+) TH: งบ 3Q17 หากตัดรายพิเศษ พบว่า141บริษัทที่มีคาดการณ์Cons ดีกว่าคาดที่ 6.3%
(-) OIL: ราคาน้ำมันดิบวานนี้ WTI -1.87% สู่ $55.70/bbl / BRT -1.50% สู่ $62.21/bbl
(-) OIL: IEA ปรับลดคาดการณ์ Demand ปี2017ลง 1แสนบาร์เรล/วัน สู่ 1.5ล้านบาร์เรล
(-) Fund Flow: ล่าสุดขายหุ้น -1241ลบ.,Short Future -6907สัญญา,ขายBond-75ลบ.
Nomura Daily Top Picks: KBANK, SCB, NYT
Equity Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ “Sideway Up” แนวต้าน 1710/1715จุด แนวรับ 1695/1690จุด ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนตค. ปรับตัวขึ้น 0.4% โดยได้รับแรงหนุนจากราคาของภาคบริการที่ฟื้นเด่น บ่งชี้ถึงเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ฟื้นตัวดีอย่างต่อเนื่อง เป็นแรงหนุนเศรษฐกิจโลก ประกอบกับทางด้านของร่างแผนปฏิรูปภาษีที่ยังคงไม่ชัดเจน กดดันตลาดในระยะสั้น แต่อย่างไรก็ดีเรามองว่าตลาดได้ตอบรับความไม่แน่นอนดังกล่าวไปมากแล้ว โดยมองว่าหากร่างดังกล่าวมีความชัดเจนมากขึ้นจะเป็น Upside Risk ให้กับตลาดได้ในช่วงถัดไป โดยพรุ่งนี้ติดตามกระบวนการพิจารณาร่างแผนปฏิรูปภาษีในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ซึ่งจะเป็นตัวบ่งชี้แนวโน้มในช่วงถัดไป ส่วนการรายงานผลประกอบการ 3Q17 ของบมจ.ใกล้จะสิ้นสุดลง โดยจาก 141 บริษัทที่มีคาดการณ์ใน Bloomberg Consensus พบว่า มีกำไรสุทธิ 1.53แสนลบ. แย่กว่าคาด -4% แต่หากตัดรายการพิเศษออกไป จะพบว่ามีกำไรสุทธิรวมที่ 1.7แสนลบ. ดีกว่าคาดกว่า 6.3% ซึ่งเรามองว่าแนวโน้มกำไรที่มาจาก Core Business ที่ดีกว่าคาดนี้ ผสานMSCI ประกาศเพิ่มน้ำหนักหุ้นไทย จาก 2.1% สู่ 2.11% หรือคิดเป็นเม็ดเงินไหลเวียนราว 151.64ล้านเหรียญฯ และคาดจะมีสถานะซื้อสุทธิราว +28ล้านเหรียญฯ ในวันที่ 30 พ.ย. 2017 ราคาปิด ถือเป็นจิตวิทยาบวก หนุนตลาดต่อเนื่อง โดยหุ้นที่ MSCI เพิ่มน่ำหนักราว 10-40ล้านเหรียญฯต่อตัว ได้แก่ KBANK, SCB, IVL, PTTGC, TOP ลดน้ำหนัก BEC ราว 23ล้านเหรียญฯ
Asset allocation : หุ้น 60% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5% และเงินสด 22.5%
Daily Strategy : กลยุทธ์ยังแนะนำ ลดน้ำหนักกลุ่มโรงกลั่น และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ไปกลุ่มปิโตรเลียมขั้นต้น (PTTEP, BANPU, PTT) ปิโตรเคมี(IVL, IRPC, PTTGC) และธนาคาร(KBANK, BBL, TMB) ผสาน 6 Theme เด่น ที่ถือต่อหรือย่อสะสม ได้แก่
1. MSCI Global Standard Indexes (Additions : ไม่มี Deletions : BEC)
หุ้นใน MSCI Global Standard ที่ถูกเพิ่มน้ำหนักได้แก่ +TOP, +KBANK, +SCB, +PTTGC, +IVL
หุ้นใน MSCI Global Standard ที่ถูกลดน้ำหนักได้แก่ -BEC
2. MSCI Small Cap Indexes (Additions : BEC, GGC, ORI, VNT, WHAUP Deletions : AIRA, GPSC, NYT, SCN, STPI, THRE)
3. หุ้น Consumer Play ที่รายงานงบ 3Q17 เด่นและฟื้นตัวต่อเนื่อง JUBILE, TK, PM และกลุ่มที่น่าจะฟื้นตัว 4Q17 และปี 2018 ในช่วงถัดไป FN, KAMART, S11 ส่วน Big Cap เน้นถือลงทุน ROBINS, CPALL, HMPRO
4. CNS Upgrade : IVL(TP61), SAWAD(TP82), TK(TP22.2), BCH(TP17.7), MONO(TP5.6)
5. Shop for Nation play: ครม.อนุมัติช็อปช่วยชาติ แนะย่อซื้อ ถือลงทุน ROBINS, HMPRO, FN JUBILE, KAMART, MINT, ERW, CENTEL และกลุ่มผู้ขายสินค้าไอทีและบัตรเครดิต (เก็งกำไร COM7, JMART, KTC)
6. MSCI Play : เพิ่มน้ำหนัก KBANK, SCB, IVL, PTTGC, TOP
7. Domestic Play : ธปท. คาด GDP ไทย 3Q17 แตะ 4% และทั้งปีนี้อาจแตะ 4% บวกการเร่งลงทุนภาครัฐ หนุนกลุ่มธนาคาร KBANK, BBL, TMB และอสังหาฯ AP, SPALI, CK
8. Tourism & Season laggard Play : เน้น MINT, BDMS
Equity Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ “Sideway Up” แนวต้าน 1710/1715จุด แนวรับ 1695/1690จุด ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนตค. ปรับตัวขึ้น 0.4% โดยได้รับแรงหนุนจากราคาของภาคบริการที่ฟื้นเด่น บ่งชี้ถึงเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ฟื้นตัวดีอย่างต่อเนื่อง เป็นแรงหนุนเศรษฐกิจโลก ประกอบกับทางด้านของร่างแผนปฏิรูปภาษีที่ยังคงไม่ชัดเจน กดดันตลาดในระยะสั้น แต่อย่างไรก็ดีเรามองว่าตลาดได้ตอบรับความไม่แน่นอนดังกล่าวไปมากแล้ว โดยมองว่าหากร่างดังกล่าวมีความชัดเจนมากขึ้นจะเป็น Upside Risk ให้กับตลาดได้ในช่วงถัดไป โดยพรุ่งนี้ติดตามกระบวนการพิจารณาร่างแผนปฏิรูปภาษีในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ซึ่งจะเป็นตัวบ่งชี้แนวโน้มในช่วงถัดไป ส่วนการรายงานผลประกอบการ 3Q17 ของบมจ.ใกล้จะสิ้นสุดลง โดยจาก 141 บริษัทที่มีคาดการณ์ใน Bloomberg Consensus พบว่า มีกำไรสุทธิ 1.53แสนลบ. แย่กว่าคาด -4% แต่หากตัดรายการพิเศษออกไป จะพบว่ามีกำไรสุทธิรวมที่ 1.7แสนลบ. ดีกว่าคาดกว่า 6.3% ซึ่งเรามองว่าแนวโน้มกำไรที่มาจาก Core Business ที่ดีกว่าคาดนี้ ผสานMSCI ประกาศเพิ่มน้ำหนักหุ้นไทย จาก 2.1% สู่ 2.11% หรือคิดเป็นเม็ดเงินไหลเวียนราว 151.64ล้านเหรียญฯ และคาดจะมีสถานะซื้อสุทธิราว +28ล้านเหรียญฯ ในวันที่ 30 พ.ย. 2017 ราคาปิด ถือเป็นจิตวิทยาบวก หนุนตลาดต่อเนื่อง โดยหุ้นที่ MSCI เพิ่มน่ำหนักราว 10-40ล้านเหรียญฯต่อตัว ได้แก่ KBANK, SCB, IVL, PTTGC, TOP ลดน้ำหนัก BEC ราว 23ล้านเหรียญฯ
Asset allocation : หุ้น 60% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5% และเงินสด 22.5%
Daily Strategy : กลยุทธ์ยังแนะนำ ลดน้ำหนักกลุ่มโรงกลั่น และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ไปกลุ่มปิโตรเลียมขั้นต้น (PTTEP, BANPU, PTT) ปิโตรเคมี(IVL, IRPC, PTTGC) และธนาคาร(KBANK, BBL, TMB) ผสาน 6 Theme เด่น ที่ถือต่อหรือย่อสะสม ได้แก่
1. MSCI Global Standard Indexes (Additions : ไม่มี Deletions : BEC)
หุ้นใน MSCI Global Standard ที่ถูกเพิ่มน้ำหนักได้แก่ +TOP, +KBANK, +SCB, +PTTGC, +IVL
หุ้นใน MSCI Global Standard ที่ถูกลดน้ำหนักได้แก่ -BEC
2. MSCI Small Cap Indexes (Additions : BEC, GGC, ORI, VNT, WHAUP Deletions : AIRA, GPSC, NYT, SCN, STPI, THRE)
3. หุ้น Consumer Play ที่รายงานงบ 3Q17 เด่นและฟื้นตัวต่อเนื่อง JUBILE, TK, PM และกลุ่มที่น่าจะฟื้นตัว 4Q17 และปี 2018 ในช่วงถัดไป FN, KAMART, S11 ส่วน Big Cap เน้นถือลงทุน ROBINS, CPALL, HMPRO
4. CNS Upgrade : IVL(TP61), SAWAD(TP82), TK(TP22.2), BCH(TP17.7), MONO(TP5.6)
5. Shop for Nation play: ครม.อนุมัติช็อปช่วยชาติ แนะย่อซื้อ ถือลงทุน ROBINS, HMPRO, FN JUBILE, KAMART, MINT, ERW, CENTEL และกลุ่มผู้ขายสินค้าไอทีและบัตรเครดิต (เก็งกำไร COM7, JMART, KTC)
6. MSCI Play : เพิ่มน้ำหนัก KBANK, SCB, IVL, PTTGC, TOP
7. Domestic Play : ธปท. คาด GDP ไทย 3Q17 แตะ 4% และทั้งปีนี้อาจแตะ 4% บวกการเร่งลงทุนภาครัฐ หนุนกลุ่มธนาคาร KBANK, BBL, TMB และอสังหาฯ AP, SPALI, CK
8. Tourism & Season laggard Play : เน้น MINT, BDMS
Investment Theme:
4Q17F : Domestic Recovery: KBANK, BBL, TMB, ROBINS, CPALL, MINT, SCC
1) Consumer Recovery : KBANK, BBL, TMB, ROBINS, CPALL
2) Seasonal & Laggard : MINT
3) Infrastructure spending begins & High Yield : SCC
Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
KBANK (TP18F 256*): Support 220/213 Resistant 226/230
4Q17F : Domestic Recovery: KBANK, BBL, TMB, ROBINS, CPALL, MINT, SCC
1) Consumer Recovery : KBANK, BBL, TMB, ROBINS, CPALL
2) Seasonal & Laggard : MINT
3) Infrastructure spending begins & High Yield : SCC
Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
KBANK (TP18F 256*): Support 220/213 Resistant 226/230
Theme : Earning Play
Earning outlook : คาดกำไรปี 2018F จะกลับมาโตเด่น +23% y-y สูงสุดในกลุ่มฯ จากภาวะเศรษฐกิจดีขึ้น หนุนการปล่อยสินเชื่อ +6.6% y-y รวมถึง คุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้น มอง NPL ใกล้ถึงจุดต่ำสุด รวมถึง Credit cost ที่จะลดลง และมีจุดเด่นที่ ระบบไอทีและฐานข้อมูล ที่ธนาคารมีการลงทุนมาอย่างต่อเนื่อง จะพร้อมสุดเมื่อเศรษฐกิจกลับมาดี
Valuation : มองยังเป็นผู้นำในกลุ่มได้ จากทั้งแนวโน้มกำไรที่ดี และ Valuation ซื้อขาย P/BV 1.4x ยังต่ำกว่าเฉลี่ยซึ่งอยู่ที่ 1.69x
Catalyst : MSCI เพิ่มน้ำหนัก KBANK มีผลราคาปิด 30 พ.ย. + แนวโน้ม NPL ใกล้ถึงจุดต่ำสุด บวกกับ ภาวะเศรษฐกิจดีขึ้น จะเป็น upside risk ต่อ Loan growth ได้ในช่วงถัดไป
SCB (TP18F TP168*): Support: 149/147 Resistant: 153/155.5
Earning outlook : คาดกำไรปี 2018F จะกลับมาโตเด่น +23% y-y สูงสุดในกลุ่มฯ จากภาวะเศรษฐกิจดีขึ้น หนุนการปล่อยสินเชื่อ +6.6% y-y รวมถึง คุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้น มอง NPL ใกล้ถึงจุดต่ำสุด รวมถึง Credit cost ที่จะลดลง และมีจุดเด่นที่ ระบบไอทีและฐานข้อมูล ที่ธนาคารมีการลงทุนมาอย่างต่อเนื่อง จะพร้อมสุดเมื่อเศรษฐกิจกลับมาดี
Valuation : มองยังเป็นผู้นำในกลุ่มได้ จากทั้งแนวโน้มกำไรที่ดี และ Valuation ซื้อขาย P/BV 1.4x ยังต่ำกว่าเฉลี่ยซึ่งอยู่ที่ 1.69x
Catalyst : MSCI เพิ่มน้ำหนัก KBANK มีผลราคาปิด 30 พ.ย. + แนวโน้ม NPL ใกล้ถึงจุดต่ำสุด บวกกับ ภาวะเศรษฐกิจดีขึ้น จะเป็น upside risk ต่อ Loan growth ได้ในช่วงถัดไป
SCB (TP18F TP168*): Support: 149/147 Resistant: 153/155.5
Theme : Event play
Earnings outlook : แนวโน้มกำไรปกติ 17F เติบโต 2.8%y-y ต่อเนื่องในปี 18F +6.2%y-y ด้วยแรงหนุนจากคุณภาพสินทรัพย์ NPL ไม่ได้เพิ่มอย่างมีนัยสำคัญ และมี Coverage ratio ใกล้เคียงกลุ่มฯ ขณะที่ค่าใช้จ่ายมีแนวโน้มเพิ่มจากการลงทุน SCB Transformation รับการเปลี่ยนถ่ายสู่ Digital Banking เอื้อประโยชน์ในระยะยาว
Valuation : ราคาหุ้นอยู่ในจุดที่มีความคาดหวังต่ำและมี Downside จำกัด โดยซื้อขายที่ระดับ PBV18F 1.29x เท่า คิดเป็นเพียง ค่าเฉลี่ย -0.8 SD upside 15%
Catalyst : MSCI เพิ่มน้ำหนักการลงทุน มีผลราคาปิด 30 พ.ย. + ปัจจัย Overhang ราคาหุ้นมานาน กรณี PACE ปลดล็อคแล้ว
Earnings outlook : แนวโน้มกำไรปกติ 17F เติบโต 2.8%y-y ต่อเนื่องในปี 18F +6.2%y-y ด้วยแรงหนุนจากคุณภาพสินทรัพย์ NPL ไม่ได้เพิ่มอย่างมีนัยสำคัญ และมี Coverage ratio ใกล้เคียงกลุ่มฯ ขณะที่ค่าใช้จ่ายมีแนวโน้มเพิ่มจากการลงทุน SCB Transformation รับการเปลี่ยนถ่ายสู่ Digital Banking เอื้อประโยชน์ในระยะยาว
Valuation : ราคาหุ้นอยู่ในจุดที่มีความคาดหวังต่ำและมี Downside จำกัด โดยซื้อขายที่ระดับ PBV18F 1.29x เท่า คิดเป็นเพียง ค่าเฉลี่ย -0.8 SD upside 15%
Catalyst : MSCI เพิ่มน้ำหนักการลงทุน มีผลราคาปิด 30 พ.ย. + ปัจจัย Overhang ราคาหุ้นมานาน กรณี PACE ปลดล็อคแล้ว
NYT (TP18F 7.65*) : Support 6.0/5.85 Resistant 6.65/6.85
Theme : Bottom Play
Earning Outlook : แนวโน้มกำไรสุทธิ 4Q17F ฟื้นตัวเด่น y-y และคาดตัวเลขส่งออกรถยนต์มีแนวโน้มมากกว่าตลาดคาด จากตัวเลข 9 เดือนมีสัดส่วนกว่า 77.3% ของประมาณการทั้งปี ในส่วนของฐานกำไรจะเร่งตัวอีกครั้งใน 2Q18F หลังเริ่มบันทึกรายได้จากพื้นที่เช่าใหม่ 1.2 แสนตร.ม. เป็น upside risk จาก Hidden assets 75 ไร่ ในพื้นที่ EEC หนุนค่าเช่าสูงขึ้นราว +30% จากสมมติฐานเดิม จะเพิ่มฐานกำไรสุทธิปี18F/19F/20F ที่ระดับ +4.3%/+5.7%/+6.4% ตามลำดับ
Valuation : NYT เป็นหุ้น Defensive ที่มีรายได้และกระแสเงินสดมั่นคง + คาดราคาหุ้นผ่านจุดต่ำสุดงมามากและเริ่มยืนได้อีกครั้ง โดยซื้อขาย PER ปี 2018F เพียง 16.7x เท่าต่ำกว่ากลุ่มขนส่งฯที่ 29.1x + Dividend yield 18F คาดจ่าย 0.35 บาท/หุ้นหรือสูงถึง 5.5%
Catalyst : รอความชัดเจนของพื้นที่เช่าใหม่ คาดได้ข้อสรุปใน 4Q17F เป็น Upside risk เบื้องต้น คำนวณมูลค่าพื้นฐานเป็น Scenario หากเป็นกรณีที่ 1) ปล่อยเช่าพื้นที่ให้แก่ภาคเอกชน มูลค่าพื้นฐานเพิ่มขึ้นสู่ 8.00-8.10 บาท กรณีที่ 2) เข้าสู่ธุรกิจใหม่ Warehousing เต็มตัว ก่อสร้างและให้บริการลูกค้าครบวงจร คาดมูลค่าพื้นฐานเพิ่มสู่ 8.25-8.35 บาท และขายสินทรัพย์เข้ากอง REIT ได้
Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS), **TP(Nomura)
Earning Outlook : แนวโน้มกำไรสุทธิ 4Q17F ฟื้นตัวเด่น y-y และคาดตัวเลขส่งออกรถยนต์มีแนวโน้มมากกว่าตลาดคาด จากตัวเลข 9 เดือนมีสัดส่วนกว่า 77.3% ของประมาณการทั้งปี ในส่วนของฐานกำไรจะเร่งตัวอีกครั้งใน 2Q18F หลังเริ่มบันทึกรายได้จากพื้นที่เช่าใหม่ 1.2 แสนตร.ม. เป็น upside risk จาก Hidden assets 75 ไร่ ในพื้นที่ EEC หนุนค่าเช่าสูงขึ้นราว +30% จากสมมติฐานเดิม จะเพิ่มฐานกำไรสุทธิปี18F/19F/20F ที่ระดับ +4.3%/+5.7%/+6.4% ตามลำดับ
Valuation : NYT เป็นหุ้น Defensive ที่มีรายได้และกระแสเงินสดมั่นคง + คาดราคาหุ้นผ่านจุดต่ำสุดงมามากและเริ่มยืนได้อีกครั้ง โดยซื้อขาย PER ปี 2018F เพียง 16.7x เท่าต่ำกว่ากลุ่มขนส่งฯที่ 29.1x + Dividend yield 18F คาดจ่าย 0.35 บาท/หุ้นหรือสูงถึง 5.5%
Catalyst : รอความชัดเจนของพื้นที่เช่าใหม่ คาดได้ข้อสรุปใน 4Q17F เป็น Upside risk เบื้องต้น คำนวณมูลค่าพื้นฐานเป็น Scenario หากเป็นกรณีที่ 1) ปล่อยเช่าพื้นที่ให้แก่ภาคเอกชน มูลค่าพื้นฐานเพิ่มขึ้นสู่ 8.00-8.10 บาท กรณีที่ 2) เข้าสู่ธุรกิจใหม่ Warehousing เต็มตัว ก่อสร้างและให้บริการลูกค้าครบวงจร คาดมูลค่าพื้นฐานเพิ่มสู่ 8.25-8.35 บาท และขายสินทรัพย์เข้ากอง REIT ได้
Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS), **TP(Nomura)
Strategist Team
Koraphat Vorachet : Analyst Registration No. 043100
Fundamental Investment Analyst on Capital Market and Technical
[email protected] 0-2287-6771
Wijit Arayapisit : Analyst Registration No. 044799
Fundamental Investment Analyst on Securities and Technical
[email protected] 0-2287-6871
Yada Kampalanonwat : Analyst Registration No. 083785
Fundamental Investment Analyst on Securities
[email protected] 0-2287-6783
CK (ซื้อ ราคาเป้าหมาย 32 บาท) 3Q60 ได้รับแรงหนุนจากดอกเบี้ยรับเงินกู้ และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทลูก
CPF (ซื้อ ราคาเป้าหมาย 30 บาท) กำไร 3Q60 ดีขึ้น แต่ยังไม่เท่าที่คาด
LH (ซื้อ ราคาเป้าหมาย 12.30 บาท) ยอดขายแนวราบหนุน 3Q60 ผลประกอบการ
RATCH (ซื้อ ราคาเป้าหมาย 61 บาท) กำไร 1,861 ล้านบาท 120% Growth YoY
TRUE (ถือ ราคาเป้าหมาย 7.28 บาท) ผลการดำเนินงานใกล้กับที่คาดการณ์ ทว่ายังขาดทุนสุทธิต่อเนื่อง
QH (ซื้อ ราคาเป้าหมาย 3.50 บาท) กำไรปกติ 3Q60 เติบโต จากการลดค่าใช้จ่าย
Stock Comment: SIRI: 3Q60 Earnings Review
Today's Event
DIMET ลูกหุ้นเข้า 11,491,048 หุ้น
นักวิเคราะห์ : ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379)
E-mail: [email protected]
Koraphat Vorachet : Analyst Registration No. 043100
Fundamental Investment Analyst on Capital Market and Technical
[email protected] 0-2287-6771
Wijit Arayapisit : Analyst Registration No. 044799
Fundamental Investment Analyst on Securities and Technical
[email protected] 0-2287-6871
Yada Kampalanonwat : Analyst Registration No. 083785
Fundamental Investment Analyst on Securities
[email protected] 0-2287-6783
CK (ซื้อ ราคาเป้าหมาย 32 บาท) 3Q60 ได้รับแรงหนุนจากดอกเบี้ยรับเงินกู้ และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทลูก
CPF (ซื้อ ราคาเป้าหมาย 30 บาท) กำไร 3Q60 ดีขึ้น แต่ยังไม่เท่าที่คาด
LH (ซื้อ ราคาเป้าหมาย 12.30 บาท) ยอดขายแนวราบหนุน 3Q60 ผลประกอบการ
RATCH (ซื้อ ราคาเป้าหมาย 61 บาท) กำไร 1,861 ล้านบาท 120% Growth YoY
TRUE (ถือ ราคาเป้าหมาย 7.28 บาท) ผลการดำเนินงานใกล้กับที่คาดการณ์ ทว่ายังขาดทุนสุทธิต่อเนื่อง
QH (ซื้อ ราคาเป้าหมาย 3.50 บาท) กำไรปกติ 3Q60 เติบโต จากการลดค่าใช้จ่าย
Stock Comment: SIRI: 3Q60 Earnings Review
Today's Event
DIMET ลูกหุ้นเข้า 11,491,048 หุ้น
นักวิเคราะห์ : ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379)
E-mail: [email protected]
OO2405