- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 13 November 2017 17:24
- Hits: 2231
บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market Summary 10-11-17
Market Summary 10-11-17
Close 1,689.28 Volume Bt57092M
Change -13.75 P/E 18.21
%Change -0.81% P/BV 2.04
Change -13.75 P/E 18.21
%Change -0.81% P/BV 2.04
หุ้นแนะนำพิเศษ
BANPU Analyst Meeting
คาดราคาถ่านหินทรงตัวในระดับสูง(ปัจจุบันอยู่ที่ 90-100 ดอลลาร์ต่อตัน สูงที่สุดในปีนี้) เนื่องจากมีความต้องการจากจีนที่เข้าสู่ฤดูหนาว และมีความต้องการใช้ถ่านหินในการผลิตไฟฟ้าเพื่อทดแทนการหยุดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
บริษัทเล็งเข้าลงทุนใน Shale Gas ที่สหรัฐอย่างต่อเนื่องเพราะเล็งเห็นความต้องการในอนาคตที่เพิ่มขึ้นตามความต้องการใช้ไฟฟ้า ณ ปัจจุบันมีกำลังการผลิตที่ 149 MMCFD โดยบริษัทตั้งเป้าหมายกำลังการผลิตที่ 500 MMCFD ภายในปี 2020
ความเห็น เรามีมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการไตรมาส 4 ของ BANPU เนื่องจากคาดว่าทั้งเหมืองในอินโดนีเซียและออสเตรเลียจะผลิตถ่านได้เพิ่มขึ้นเนื่องจากผ่านช่วงฤดูฝนและเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว อีกทั้งราคาถ่านหินทรงตัวในระดับสูง 90-100 ดอลลาร์ต่อตันคอยหนุนผลประกอบการเพิ่มเติม
ส่องหุ้น
DNA แนวรับ 1.34-1.33 บาท แนวต้าน 1.41-1.42 บาท
NOK แนวรับ 3.44-3.42 บาท แนวต้าน 3.54-3.56 , 3.70 บาท
COMAN แนวรับ 8.00 , 7.85 บาท แนวต้าน 8.25-8.30 , 8.60 บาท
EFORL เผยเลื่อนนัดไกล่เกลี่ยกรณีถูกฟ้องคดีตั๋วแลกเงิน-ค้ำประกันออกไปเป็น 6 ธ.ค.60 เนื่องจากบริษัทย่อยเพิ่มทุนไม่สำเร็จตามแผน
BANPU Analyst Meeting
คาดราคาถ่านหินทรงตัวในระดับสูง(ปัจจุบันอยู่ที่ 90-100 ดอลลาร์ต่อตัน สูงที่สุดในปีนี้) เนื่องจากมีความต้องการจากจีนที่เข้าสู่ฤดูหนาว และมีความต้องการใช้ถ่านหินในการผลิตไฟฟ้าเพื่อทดแทนการหยุดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
บริษัทเล็งเข้าลงทุนใน Shale Gas ที่สหรัฐอย่างต่อเนื่องเพราะเล็งเห็นความต้องการในอนาคตที่เพิ่มขึ้นตามความต้องการใช้ไฟฟ้า ณ ปัจจุบันมีกำลังการผลิตที่ 149 MMCFD โดยบริษัทตั้งเป้าหมายกำลังการผลิตที่ 500 MMCFD ภายในปี 2020
ความเห็น เรามีมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการไตรมาส 4 ของ BANPU เนื่องจากคาดว่าทั้งเหมืองในอินโดนีเซียและออสเตรเลียจะผลิตถ่านได้เพิ่มขึ้นเนื่องจากผ่านช่วงฤดูฝนและเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว อีกทั้งราคาถ่านหินทรงตัวในระดับสูง 90-100 ดอลลาร์ต่อตันคอยหนุนผลประกอบการเพิ่มเติม
ส่องหุ้น
DNA แนวรับ 1.34-1.33 บาท แนวต้าน 1.41-1.42 บาท
NOK แนวรับ 3.44-3.42 บาท แนวต้าน 3.54-3.56 , 3.70 บาท
COMAN แนวรับ 8.00 , 7.85 บาท แนวต้าน 8.25-8.30 , 8.60 บาท
EFORL เผยเลื่อนนัดไกล่เกลี่ยกรณีถูกฟ้องคดีตั๋วแลกเงิน-ค้ำประกันออกไปเป็น 6 ธ.ค.60 เนื่องจากบริษัทย่อยเพิ่มทุนไม่สำเร็จตามแผน
Market View : ลุ้นเด้งในวัน
Technical insight : NOK DNA
หุ้นแนะนำพิเศษ : BANPU
Technical insight : NOK DNA
หุ้นแนะนำพิเศษ : BANPU
หุ้นมีข่าว : BPP XO BIZ SYNEX
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันก่อน แกว่งตัวลบต่อเนื่อง จากกลุ่ม ENERG (โรงไฟฟ้าเป็นหลัก) และกลุ่ม COMM จากการ Sell on fact “ช็อปช่วยชาติ” ส่วน Fund Flow ยังเป็นขายสุทธิวันที่ 3 โดยรวม SET Index ปิดที่ 1,689.28 จุด (-13.75 จุด) Volume 5.94 หมื่นลบ. โดย Foreign Net -2,727.20 ลบ. TFEX Net -6,310 สัญญา ตราสารหนี้ -656 ลบ.
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันก่อน แกว่งตัวลบต่อเนื่อง จากกลุ่ม ENERG (โรงไฟฟ้าเป็นหลัก) และกลุ่ม COMM จากการ Sell on fact “ช็อปช่วยชาติ” ส่วน Fund Flow ยังเป็นขายสุทธิวันที่ 3 โดยรวม SET Index ปิดที่ 1,689.28 จุด (-13.75 จุด) Volume 5.94 หมื่นลบ. โดย Foreign Net -2,727.20 ลบ. TFEX Net -6,310 สัญญา ตราสารหนี้ -656 ลบ.
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
- ดาวโจนส์ปรับตัวลดลงเนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับความล่าช้าในการบังคับใช้กฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐ และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐดิ่งลงสู่ระดับ 97.8 ในเดือนพ.ย.
- น้ำมันดิบปรับตัวลงเนื่องจากแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดีสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองในตะวันออกกลางยังเป็นปัจจัยหนุนต่อราคาน้ำมัน
-ธปท.เผยสินเชื่อ แบงก์พาณิชย์ Q3/60 ทรงตัว กำไรลดจากตั้งสำรองเพิ่ม มองแนวโน้ม NPL สูงสุดใน Q4/60
+/- Fund Flow ยังผันผวนต่างชาติพลิกกลับมาขายติดต่อกันเป็นวันที่ 2 รวม 4.4 พันล้านบาท ขณะที่เงินบาทแข็งค่าสู่ 33.07 Bath/USD โดยนักลงทุนต่างชาติยังมีสถานะ Short TFEX ตั้งแต่เดือน ก.ย. ราว 1.06 แสนสัญญา)
**จับตาความคืบหน้าร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐ หลังจากมีรายงานข่าวว่า สมาชิกพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาเสนอให้มีการชะลอการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 35% สู่ระดับ 20% ออกไปอีก 1 ปี จนถึงปี 2562
ภาวะตลาดหุ้นไทยถูกดดันจากความกังกลเรื่องความล่าช้าในการปฎิรูปภาษีของสหรัฐ โดยมีปัจจัยลบจากราคาน้ำมันดิบและ fund flow ต่างชาติที่ผันผวน คาดวันนี้ SET จะอ่อนตัวลงและเกิดTechnical รีบาวด์ระหว่างวันโดยมองกรอบการเคลื่อนไหวที่ 1,680-1,700 จุด
- ดาวโจนส์ปรับตัวลดลงเนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับความล่าช้าในการบังคับใช้กฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐ และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐดิ่งลงสู่ระดับ 97.8 ในเดือนพ.ย.
- น้ำมันดิบปรับตัวลงเนื่องจากแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดีสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองในตะวันออกกลางยังเป็นปัจจัยหนุนต่อราคาน้ำมัน
-ธปท.เผยสินเชื่อ แบงก์พาณิชย์ Q3/60 ทรงตัว กำไรลดจากตั้งสำรองเพิ่ม มองแนวโน้ม NPL สูงสุดใน Q4/60
+/- Fund Flow ยังผันผวนต่างชาติพลิกกลับมาขายติดต่อกันเป็นวันที่ 2 รวม 4.4 พันล้านบาท ขณะที่เงินบาทแข็งค่าสู่ 33.07 Bath/USD โดยนักลงทุนต่างชาติยังมีสถานะ Short TFEX ตั้งแต่เดือน ก.ย. ราว 1.06 แสนสัญญา)
**จับตาความคืบหน้าร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐ หลังจากมีรายงานข่าวว่า สมาชิกพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาเสนอให้มีการชะลอการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 35% สู่ระดับ 20% ออกไปอีก 1 ปี จนถึงปี 2562
ภาวะตลาดหุ้นไทยถูกดดันจากความกังกลเรื่องความล่าช้าในการปฎิรูปภาษีของสหรัฐ โดยมีปัจจัยลบจากราคาน้ำมันดิบและ fund flow ต่างชาติที่ผันผวน คาดวันนี้ SET จะอ่อนตัวลงและเกิดTechnical รีบาวด์ระหว่างวันโดยมองกรอบการเคลื่อนไหวที่ 1,680-1,700 จุด
กลยุทธ์การลงทุน เก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน
- หุ้นที่ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ANAN COMAN XO MALEE TPCH TWPC MAJOR
- ประเด็นบวกกลุ่มโรงไฟฟ้า กกพ.คาดรับซื้อไฟฟ้าจากขยะ 78 MWในสัปดาห์หน้า เปิดรับซื้อ VSPP Semi-firm 269 MW ต้นปี 61
- กลุ่มรับเหมาฯ การจัดตั้งไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ และการร่วมทุน PPP
- กลุ่มที่คาดว่างบ Q3/2560 จะเติบโตขึ้น ได้แก่ BCPG ASIMAR SPALI
หุ้นมีข่าว
BPP Analyst Meeting
ไตรมาส 4 มีแผนหยุดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้า BLCP หน่วยที่ 1 เป็นเวลา 7 สัปดาห์ และมีแผนหยุดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าหงสา หน่วยที่ 3 อีก 3 สัปดาห์ (เพิ่มขึ้น 1 สัปดาห์จากแผนในไตรมาส 2)
ความเห็น เรามีมุมมองเชิงลบต่อผลประกอบการในไตรมาส 4 เนื่องจากมีการหยุดซ่อมบำรุงค่อนข้างมากทั้งโรงไฟฟ้า BLCP และโรงไฟฟ้าหงสา แต่มีมุมมองบวกผลประกอบการในปี 2018 เพราะคาดว่าจะมีการรับรู้กำลังการผลิตใหม่อีก 69.5 MW จากโรงไฟฟ้า Luannan ในจีน 25 MW และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่น 44.5 MW เข้ามาหนุนผลประกอบการเพิ่มเติม
Analyst Meeting : AP (ราคาปิด 8.95 IAA consensus 9.80)
3Q60 กำไร 636 ลบ. +4%qoq +39%yoy 9M60 กำไร 1.8 พันลบ. +25%yoy เนื่องจากGP ปรับดีขึ้นและมีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุน 366 พลิกจากขาดทุน 139 ลบ. ใน 9M59 หลังมีรายได้จากการโอนโครงการคอนโดฯ JV มากขึ้น
ยอดขาย presale ปี 60 เท่ากับ 3.1 หมื่นลบ. +46%YoY ทำสถิติสูงสุดและดีกว่าเป้าที่ 2.6 หมื่นลบ.ได้แรงหนุนจากยอดขายโครงการแนวราบหนุน backlog แข็งแกร่ง ส่วนเป้ารายได้ปี 60 ที่ 2.22 หมื่นลบ.มี backlog รองรับแล้ว 88% เท่ากับ 1.03 หมืนลบ.
ความเห็น backlog ที่แข็งแกร่งทำให้เรามีมุมมองบวกต่อการเติบโตของรายได้และกำไรในอนาคต ราคาหุ้นซื้อขายที่ PER 9.8 เท่าต่ำกว่ากลุ่มที่อยู่ที่ระดับ 19 เท่า yield เฉลี่ยจาก IAA consensus ที่ 3.8% แนะนำ ซื้อ
HARN (ราคาปิด 3.50 บาท "ซื้อเก็งกำไร" ราคาเหมาะสม 4.00 บาท)กำไร 3Q60 ออกมาใกล้เคียงคาด (สูงกว่าราว 5.9%) โดยอยู่ที่ 33.9 ล้านบาทเติบโต 165%YoY จากรายได้รวมเติบโต 93%YoY (จากผลควบรวม CM เป็นหลัก) นอกจากนี้ อัตรากำไรขั้นต้นยังยืนตัวสูง QoQ ที่ 28.8% และเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 25.1% จากสินค้าใหม่ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงที่กรอบ 32 -44% เทียบกับสินค้าเดิมที่ 26 - 27% ส่วนอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อรายได้รวมยังทรงตัว YoY
ความเห็น เนื่องจากกำไร 9M60 คิดเป็น 86.7% ของประมาณการปี 60 ของฝ่ายวิจัย กอปรกับช่วง 2H60 ยังเป็นช่วง High Season ที่ผู้รับเหมามีการเร่งส่งมอบงานกันมากขึ้น รวมถึง HARN ยังเป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์จากค่าเงินบาทที่ยังแข็งค่า (-0.65%QoQ และ -7.64%YoY) หนุนให้อัตรากำไรขั้นต้นน่าจะยังทรงตัวสูงต่อได้ในงวด 4Q60 โดยรวมติดตามการปรับเพิ่มประมาณการของฝ่ายวิจัยได้ในบทวิเคราะห์วันนี้ ส่วนเช้านี้แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" มูลค่าเหมาะสมเดิมไปก่อนที่ 4.00 บาท
XO รายงานกำไรไตรมาส 3/60 ที่ 19.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 91%YoY เนื่องจากรายได้ปรับตัวขึ้น 12%YoY และค่าใช้จ่ายในการขายลดลงจากการใช้บุคลากรได้มีประสิทธิ์ภาพเพิ่มขึ้น
BIZ รายงานกำไรไตรมาส 3/60 ที่ 14.56 ล้านบาท ลดลง 76%YoY เนื่องจากส่งมอบเครื่องฉายรังสีได้ตามแผนเพียง 1 เครื่อง
SYNEX รายงานกำไรไตรมาส 3/60 ที่ 160 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48%YoY โดยมีรายได้เพิ่มขึ้น 31%YoY’
LIT (ราคาปิด 10.90 ซื้อ ราคาเหมาะสม 14.20) รายงานกำไร 3Q60 เท่ากับ 39 ลบ. +46%yoy 9M60 มีกำไร 110 ]บ. +53%yoy
นักวิเคราะห์ 02-672-5999 ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
วิลาสินี บุญมาสูงทรง ext.5937 ระพีพัฒน์ ด่านไพบูลย์
ชัยยศ จิวางกูร ext.5805 สรรพกัณฑ์ ปัทมบริสุทธิ์
ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ext.5936
ธนวินท์ พิเชษฐศิริพร ext.5940
- หุ้นที่ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ANAN COMAN XO MALEE TPCH TWPC MAJOR
- ประเด็นบวกกลุ่มโรงไฟฟ้า กกพ.คาดรับซื้อไฟฟ้าจากขยะ 78 MWในสัปดาห์หน้า เปิดรับซื้อ VSPP Semi-firm 269 MW ต้นปี 61
- กลุ่มรับเหมาฯ การจัดตั้งไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ และการร่วมทุน PPP
- กลุ่มที่คาดว่างบ Q3/2560 จะเติบโตขึ้น ได้แก่ BCPG ASIMAR SPALI
หุ้นมีข่าว
BPP Analyst Meeting
ไตรมาส 4 มีแผนหยุดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้า BLCP หน่วยที่ 1 เป็นเวลา 7 สัปดาห์ และมีแผนหยุดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าหงสา หน่วยที่ 3 อีก 3 สัปดาห์ (เพิ่มขึ้น 1 สัปดาห์จากแผนในไตรมาส 2)
ความเห็น เรามีมุมมองเชิงลบต่อผลประกอบการในไตรมาส 4 เนื่องจากมีการหยุดซ่อมบำรุงค่อนข้างมากทั้งโรงไฟฟ้า BLCP และโรงไฟฟ้าหงสา แต่มีมุมมองบวกผลประกอบการในปี 2018 เพราะคาดว่าจะมีการรับรู้กำลังการผลิตใหม่อีก 69.5 MW จากโรงไฟฟ้า Luannan ในจีน 25 MW และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่น 44.5 MW เข้ามาหนุนผลประกอบการเพิ่มเติม
Analyst Meeting : AP (ราคาปิด 8.95 IAA consensus 9.80)
3Q60 กำไร 636 ลบ. +4%qoq +39%yoy 9M60 กำไร 1.8 พันลบ. +25%yoy เนื่องจากGP ปรับดีขึ้นและมีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุน 366 พลิกจากขาดทุน 139 ลบ. ใน 9M59 หลังมีรายได้จากการโอนโครงการคอนโดฯ JV มากขึ้น
ยอดขาย presale ปี 60 เท่ากับ 3.1 หมื่นลบ. +46%YoY ทำสถิติสูงสุดและดีกว่าเป้าที่ 2.6 หมื่นลบ.ได้แรงหนุนจากยอดขายโครงการแนวราบหนุน backlog แข็งแกร่ง ส่วนเป้ารายได้ปี 60 ที่ 2.22 หมื่นลบ.มี backlog รองรับแล้ว 88% เท่ากับ 1.03 หมืนลบ.
ความเห็น backlog ที่แข็งแกร่งทำให้เรามีมุมมองบวกต่อการเติบโตของรายได้และกำไรในอนาคต ราคาหุ้นซื้อขายที่ PER 9.8 เท่าต่ำกว่ากลุ่มที่อยู่ที่ระดับ 19 เท่า yield เฉลี่ยจาก IAA consensus ที่ 3.8% แนะนำ ซื้อ
HARN (ราคาปิด 3.50 บาท "ซื้อเก็งกำไร" ราคาเหมาะสม 4.00 บาท)กำไร 3Q60 ออกมาใกล้เคียงคาด (สูงกว่าราว 5.9%) โดยอยู่ที่ 33.9 ล้านบาทเติบโต 165%YoY จากรายได้รวมเติบโต 93%YoY (จากผลควบรวม CM เป็นหลัก) นอกจากนี้ อัตรากำไรขั้นต้นยังยืนตัวสูง QoQ ที่ 28.8% และเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 25.1% จากสินค้าใหม่ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงที่กรอบ 32 -44% เทียบกับสินค้าเดิมที่ 26 - 27% ส่วนอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อรายได้รวมยังทรงตัว YoY
ความเห็น เนื่องจากกำไร 9M60 คิดเป็น 86.7% ของประมาณการปี 60 ของฝ่ายวิจัย กอปรกับช่วง 2H60 ยังเป็นช่วง High Season ที่ผู้รับเหมามีการเร่งส่งมอบงานกันมากขึ้น รวมถึง HARN ยังเป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์จากค่าเงินบาทที่ยังแข็งค่า (-0.65%QoQ และ -7.64%YoY) หนุนให้อัตรากำไรขั้นต้นน่าจะยังทรงตัวสูงต่อได้ในงวด 4Q60 โดยรวมติดตามการปรับเพิ่มประมาณการของฝ่ายวิจัยได้ในบทวิเคราะห์วันนี้ ส่วนเช้านี้แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" มูลค่าเหมาะสมเดิมไปก่อนที่ 4.00 บาท
XO รายงานกำไรไตรมาส 3/60 ที่ 19.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 91%YoY เนื่องจากรายได้ปรับตัวขึ้น 12%YoY และค่าใช้จ่ายในการขายลดลงจากการใช้บุคลากรได้มีประสิทธิ์ภาพเพิ่มขึ้น
BIZ รายงานกำไรไตรมาส 3/60 ที่ 14.56 ล้านบาท ลดลง 76%YoY เนื่องจากส่งมอบเครื่องฉายรังสีได้ตามแผนเพียง 1 เครื่อง
SYNEX รายงานกำไรไตรมาส 3/60 ที่ 160 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48%YoY โดยมีรายได้เพิ่มขึ้น 31%YoY’
LIT (ราคาปิด 10.90 ซื้อ ราคาเหมาะสม 14.20) รายงานกำไร 3Q60 เท่ากับ 39 ลบ. +46%yoy 9M60 มีกำไร 110 ]บ. +53%yoy
นักวิเคราะห์ 02-672-5999 ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
วิลาสินี บุญมาสูงทรง ext.5937 ระพีพัฒน์ ด่านไพบูลย์
ชัยยศ จิวางกูร ext.5805 สรรพกัณฑ์ ปัทมบริสุทธิ์
ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ext.5936
ธนวินท์ พิเชษฐศิริพร ext.5940
OO2289