- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 13 November 2017 16:49
- Hits: 1078
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน กลยุทธ์วันนี้
Selective Buy
Smart Pick
1. สะสม MINT : ราคาปิด 42.50 บาท ราคาเหมาะสม 52.50 บาท
a) Yuanta คาดว่าหุ้นกลุ่มอาหาร และค้าปลีกจะตอบรับเชิงบวกต่อมาตรการช็อปช่วยชาติรอบใหม่ระหว่างวันที่ 11 พ.ย. - 3 ธ.ค. รวม 23 วัน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นภาคบริโภคในประเทศและส่งผลให้ SSSG ใน 4Q60 เร่งตัวขึ้น
b) จะรายงานงบ 3Q60 ในวันนี้ โดยคาดการณ์กำไรที่ 1.04 พันล้านบาท +16% YoY และ +42% QopQ จากแรงหนุนของโรงแรมในต่างประเทศที่เข้าสู่ High Season และเสร็จสิ้นการปรับปรุงโรงแรม Tivoli ในโปรตุเกส ส่งผลให้ REVPAR +8% YoY
c) แนวโน้มผลประกอบการ 4Q60 จะขยายตัวทั้ง YoY และ QoQ เป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี 2560 เนื่องจากธุรกิจโรงแรมในประเทศเข้าสู่ High Season และราคาหุ้นยัง Laggard โดย YTD ราคาหุ้น MINT +18.8% น้อยกว่า ERW ที่ปรับตัวขึ้นถึง +64.4%
2. สะสม LANNA : ราคาปิด 17.50 บาท ราคาเหมาะสม 20.00 บาท
a) หุ้นกลุ่มถ่านหินมีปัจจัยบวกจากการเข้าสู่ High Season ในฤดูหนาว ส่งผลให้ราคาถ่านหิน BJI สัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น US$0.23/ตัน เป็น US$100.68/ตัน
b) จะรายงานงบ 3Q60 ในวันที่ 14 หรือ 15 พ.ย. คาดกำไรสุทธิจะเติบโตสูงถึง +144% YoY และ +13% QoQ เป็น 181 ล้านบาท จากราคาถ่านหิน Newcastle เฉลี่ย 3Q60 ที่เพิ่มขึ้นเป็น US$88.42/ตัน เพิ่มขึ้น +36% YoY และ +22% QoQ ขณะที่ธุรกิจเอทานอลคาดว่ากำไรจะเติบโต YoY และ QoQ เช่นกัน เนื่องจากราคาสินค้าเกษตรที่ปรับตัวลงส่งผลให้ต้นทุนการผลิตลดลง
c) คาดกำไรปกติปี 2560 เติบโต +193% YoY เป็น 642 ล้านบาท และต่อเนื่อง +11% YoY เป็น 711 ล้านบาท ในปี 2561 ขณะที่ Valuation ยังไม่สูงมากนัก ซื้อขายระดับ PER2561 ที่ 12.9 เท่า และมี Upside จากโรงไฟฟ้าถ่านหินกำลังการผลิต 200MW อีก 3.00 บาทต่อหุ้น
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วันศุกร์ที่ผ่านมา SET INDEX ปรับตัวลดลงหลุด 1700 จุด มาปิดที่ 1689.28 จุด (-13.75 จุด) มูลค่าการซื้อขายราว 5.7 หมื่นล้านบาท กดดันจาก CPALL -2.13%, CPN -2.42% และ TOP -3.84% ด้านกระแสเงินทุน นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหนาแน่นเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันอีกราว 2.7 พันล้านบาท เช่นเดียวกับสถาบันในประเทศที่ขายสุทธิเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันอีกราว 637 ล้านบาท ด้านตลาดฟิวเจอร์ส นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิราว 6.3 พันสัญญา เช่นเดียวกับสถานบันในประเทศที่มีสถานะ Short สุทธิเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันอีกราว 2.1 พันสัญญา ส่งผลให้ QTD นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิราว 5.1 หมื่นสัญญา และสถาบันในประเทศเหลือสถานะ Long สุทธิราว 1.9 หมื่นสัญญา
วันศุกร์ที่ผ่านมา SET INDEX ปรับตัวลดลงหลุด 1700 จุด มาปิดที่ 1689.28 จุด (-13.75 จุด) มูลค่าการซื้อขายราว 5.7 หมื่นล้านบาท กดดันจาก CPALL -2.13%, CPN -2.42% และ TOP -3.84% ด้านกระแสเงินทุน นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหนาแน่นเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันอีกราว 2.7 พันล้านบาท เช่นเดียวกับสถาบันในประเทศที่ขายสุทธิเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันอีกราว 637 ล้านบาท ด้านตลาดฟิวเจอร์ส นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิราว 6.3 พันสัญญา เช่นเดียวกับสถานบันในประเทศที่มีสถานะ Short สุทธิเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันอีกราว 2.1 พันสัญญา ส่งผลให้ QTD นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิราว 5.1 หมื่นสัญญา และสถาบันในประเทศเหลือสถานะ Long สุทธิราว 1.9 หมื่นสัญญา
กลยุทธ์วันนี้
วันศุกร์ที่ผ่านมา SET INDEX หลุดแนว 1690 จุด ด้วยแรงขายพร้อมกันจากกองทุนในประเทศ และนักลงทุนต่างชาติ ราว 637 ล้านบาท และ 2.7 พันล้านบาท ตามลำดับ บวกกับ สถานะ Short สุทธิของต่างชาติกว่า 6.3 พันสัญญาในตลาดฟิวเจอร์ส อีกทั้งตลาดหุ้นต่างประเทศเข้าสู่ช่วงพักฐานเช่นกัน เนื่องจากความไม่แน่นอนของนโยบายภาษีสหรัฐฯ และแรงขายทำกำไรรับงบ 3Q60
ภาพระยะกลาง SET INDEX มีแนวโน้มซึมตัวลงในสัปดาห์นี้ หลังจากจบฤดูกาลรายงานผลประกอบการ ทำให้ขาดประเด็นการลงทุนที่โดดเด่น ส่วนระยะสั้น วันนี้ เรามองกรอบ 1685-1695 จุด
ช่วงโค้งสุดท้ายของการรายงานผลการดำเนินงาน 3Q60 ของบริษัทจดทะเบียนไทย สัปดาห์นี้ติดตาม วันที่ 13 พ.ย. LH/ PSH/ PTT/ TOP/ MINT; 14 พ.ย. TRUE/ TCJ/ SPALI; 15 พ.ย. ANAN สำหรับหุ้นที่ประกาศงบออกมาแล้ว โดยรวม ถือว่า ค่อนข้างใกล้เคียงกับคาดการณ์ของ Bloomberg Consensus (กำไรสุทธิรวมต่ำกว่าคาดเล็กน้อยเพียง 2.8%) ทำให้โอกาสในการปรับลดประมาณการลงมีค่อนข้างจำกัด
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำซื้อหุ้นรายตัว (Selective Buy) ที่มีประเด็นการลงทุนบวกเฉพาะตัว ได้แก่ หุ้นได้อานิสงส์จากมาตรการช็อปช่วยชาติ และหุ้นได้ประโยชน์จากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ทรงตัวระดับสูง
วันศุกร์ที่ผ่านมา SET INDEX หลุดแนว 1690 จุด ด้วยแรงขายพร้อมกันจากกองทุนในประเทศ และนักลงทุนต่างชาติ ราว 637 ล้านบาท และ 2.7 พันล้านบาท ตามลำดับ บวกกับ สถานะ Short สุทธิของต่างชาติกว่า 6.3 พันสัญญาในตลาดฟิวเจอร์ส อีกทั้งตลาดหุ้นต่างประเทศเข้าสู่ช่วงพักฐานเช่นกัน เนื่องจากความไม่แน่นอนของนโยบายภาษีสหรัฐฯ และแรงขายทำกำไรรับงบ 3Q60
ภาพระยะกลาง SET INDEX มีแนวโน้มซึมตัวลงในสัปดาห์นี้ หลังจากจบฤดูกาลรายงานผลประกอบการ ทำให้ขาดประเด็นการลงทุนที่โดดเด่น ส่วนระยะสั้น วันนี้ เรามองกรอบ 1685-1695 จุด
ช่วงโค้งสุดท้ายของการรายงานผลการดำเนินงาน 3Q60 ของบริษัทจดทะเบียนไทย สัปดาห์นี้ติดตาม วันที่ 13 พ.ย. LH/ PSH/ PTT/ TOP/ MINT; 14 พ.ย. TRUE/ TCJ/ SPALI; 15 พ.ย. ANAN สำหรับหุ้นที่ประกาศงบออกมาแล้ว โดยรวม ถือว่า ค่อนข้างใกล้เคียงกับคาดการณ์ของ Bloomberg Consensus (กำไรสุทธิรวมต่ำกว่าคาดเล็กน้อยเพียง 2.8%) ทำให้โอกาสในการปรับลดประมาณการลงมีค่อนข้างจำกัด
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำซื้อหุ้นรายตัว (Selective Buy) ที่มีประเด็นการลงทุนบวกเฉพาะตัว ได้แก่ หุ้นได้อานิสงส์จากมาตรการช็อปช่วยชาติ และหุ้นได้ประโยชน์จากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ทรงตัวระดับสูง
ปัจจัยสำคัญวันนี้
การประชุม APEC เผยการร่วมมือทางการค้า TPP ยังคงเดินหน้าต่อไป แต่เปลี่ยนชื่อเป็น CPTPP แม้สหรัฐฯจะถอนตัวออกไปก่อนหน้านี้
จีนเตรียมเปิดให้ต่างชาติเข้าถือหุ้นใน JV ทำธุรกิจ Futures/ หลักทรัพย์ และกองทุนจาก 49% เป็น 51%
ส.อ.ท. เผยกำลังการผลิตเอทานอลภายในประเทศอยู่ในสภาวะ ล้นตลาด และในปี 2561 จะมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีกราว 7 แสนลิตร/วัน
จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 9 แท่น เป็น 738 แท่น
ติดตามการประกาศหุ้นเข้า-ออก ดัชนี MSCI วันนี้
ติดตามการประชุม Asean Summit วันที่ 13-14 พ.ย.
ติดตามการรายงานยอดค้าปลีกจีน, เงินเฟ้ออังกฤษ และ GDP EU 14 พ.ย.
ติดตามการรายงาน GDP ญี่ปุ่น และเงินเฟ้อสหรัฐฯ 15 พ.ย.
ติดตามการรายงานเงินเฟ้อ EU 16 พ.ย
Strategist Team
Mayuree Chowvikran Head of Research , 662-009-8050
Padon Vannarat Strategist , 662-009-8060
Piyapat Patarapuvadol Strategist , 662-009-8062
Nutt Treepoonsuk Strategist , 662-009-8059
การประชุม APEC เผยการร่วมมือทางการค้า TPP ยังคงเดินหน้าต่อไป แต่เปลี่ยนชื่อเป็น CPTPP แม้สหรัฐฯจะถอนตัวออกไปก่อนหน้านี้
จีนเตรียมเปิดให้ต่างชาติเข้าถือหุ้นใน JV ทำธุรกิจ Futures/ หลักทรัพย์ และกองทุนจาก 49% เป็น 51%
ส.อ.ท. เผยกำลังการผลิตเอทานอลภายในประเทศอยู่ในสภาวะ ล้นตลาด และในปี 2561 จะมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีกราว 7 แสนลิตร/วัน
จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 9 แท่น เป็น 738 แท่น
ติดตามการประกาศหุ้นเข้า-ออก ดัชนี MSCI วันนี้
ติดตามการประชุม Asean Summit วันที่ 13-14 พ.ย.
ติดตามการรายงานยอดค้าปลีกจีน, เงินเฟ้ออังกฤษ และ GDP EU 14 พ.ย.
ติดตามการรายงาน GDP ญี่ปุ่น และเงินเฟ้อสหรัฐฯ 15 พ.ย.
ติดตามการรายงานเงินเฟ้อ EU 16 พ.ย
Strategist Team
Mayuree Chowvikran Head of Research , 662-009-8050
Padon Vannarat Strategist , 662-009-8060
Piyapat Patarapuvadol Strategist , 662-009-8062
Nutt Treepoonsuk Strategist , 662-009-8059
OO2279
