- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 10 November 2017 16:45
- Hits: 2458
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้
Earnings Play
Smart Pick
1. สะสม BEM : ราคาปิด 8.10 บาท ราคาเหมาะสม 9.55 บาท
a) รายงานกำไรปกติ 3Q60 ที่ 940 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +16% YoY และ +30% QoQ ดีกว่าคาดการณ์ของ Consensus ถึง 11% จากการเติบโตของทุกธุรกิจทั้งทางด่วนและระบบราง โดยจำนวนผู้โดยสารรถไฟสายสีน้ำเงินเพิ่มขึ้น +11% YoY เป็น 3.16 แสนคน จากอานิสงค์ของการเชื่อมต่อสถานีรถไฟสายสีม่วงและสายสีน้ำเงิน ตั้งแต่เดือน ส.ค.ที่ผ่านมา
b) Catalyst ระยะสั้น คือความชัดเจนแผนลงทุน PPP โครงการรถไฟสายสีส้ม หากนำเสนอให้ครม.พิจารณาได้ใน 4Q60 จะเป็นบวกต่อ BEM และเป็น Upside ที่ยังไม่รวมไว้ในประมาณการ
c) ราคาหุ้นปรับตัวขึ้น +8.7% YTD น้อยกว่า SET INDEX +10.4% ขณะที่กำไรปกติปี 2560 คาดเติบโต +23.8% YoY เป็น 3.18 พันล้านบาท และ Valuation น่าสนใจ ที่ระดับ EV/EBITDA เพียง 18.4 เท่า ต่ำกว่า BTS ที่ 33 เท่า
2. สะสม AAV : ราคาปิด 6.30 บาท ราคาเหมาะสม 9.00 บาท
a) รายงานกำไรปกติ 3Q60 ที่ 189 ล้านบาท เติบโต +34% QoQ ส่งสัญญาณฟื้นตัวชัดเจนว่าผลประกอบการได้ผ่านจุดต่ำสุดแล้วใน 2Q60 และ Loading Factor อยู่ในระดับสูงที่ 85%
b) ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 0.15 บาท คิดเป็น Dividend Yield ที่ 2.4% ขึ้น XD วันที่ 22 พ.ย.
c) คาดกำไรปกติ 4Q60 จะเติบโตทั้ง YoY และ QoQ เนื่องจากเข้าสู่ High Season ของธุรกิจ และได้ Hedging ต้นทุนน้ำมันใน 4Q60 ไปแล้วเกือบ 80% และทยอย Hedging ต่อเนื่องสำหรับปี 2561 โดยคาดว่ากำไรปกติปี 2561 จะเติบโต +27.4% YoY เป็น 1,603 ล้านบาท จากแรงหนุนของเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว และการขยายเส้นทางบินใหม่ของ Air Asia X หลัง ICAO ปลดล็อกธงแดงจะเป็นบวกต่อจำนวนผู้โดยสารที่ใช้เส้นทางของ Air Asia เพื่อเชื่อมต่อด้วยเช่นกัน
กลยุทธ์วันนี้
Earnings Play
Smart Pick
1. สะสม BEM : ราคาปิด 8.10 บาท ราคาเหมาะสม 9.55 บาท
a) รายงานกำไรปกติ 3Q60 ที่ 940 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +16% YoY และ +30% QoQ ดีกว่าคาดการณ์ของ Consensus ถึง 11% จากการเติบโตของทุกธุรกิจทั้งทางด่วนและระบบราง โดยจำนวนผู้โดยสารรถไฟสายสีน้ำเงินเพิ่มขึ้น +11% YoY เป็น 3.16 แสนคน จากอานิสงค์ของการเชื่อมต่อสถานีรถไฟสายสีม่วงและสายสีน้ำเงิน ตั้งแต่เดือน ส.ค.ที่ผ่านมา
b) Catalyst ระยะสั้น คือความชัดเจนแผนลงทุน PPP โครงการรถไฟสายสีส้ม หากนำเสนอให้ครม.พิจารณาได้ใน 4Q60 จะเป็นบวกต่อ BEM และเป็น Upside ที่ยังไม่รวมไว้ในประมาณการ
c) ราคาหุ้นปรับตัวขึ้น +8.7% YTD น้อยกว่า SET INDEX +10.4% ขณะที่กำไรปกติปี 2560 คาดเติบโต +23.8% YoY เป็น 3.18 พันล้านบาท และ Valuation น่าสนใจ ที่ระดับ EV/EBITDA เพียง 18.4 เท่า ต่ำกว่า BTS ที่ 33 เท่า
2. สะสม AAV : ราคาปิด 6.30 บาท ราคาเหมาะสม 9.00 บาท
a) รายงานกำไรปกติ 3Q60 ที่ 189 ล้านบาท เติบโต +34% QoQ ส่งสัญญาณฟื้นตัวชัดเจนว่าผลประกอบการได้ผ่านจุดต่ำสุดแล้วใน 2Q60 และ Loading Factor อยู่ในระดับสูงที่ 85%
b) ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 0.15 บาท คิดเป็น Dividend Yield ที่ 2.4% ขึ้น XD วันที่ 22 พ.ย.
c) คาดกำไรปกติ 4Q60 จะเติบโตทั้ง YoY และ QoQ เนื่องจากเข้าสู่ High Season ของธุรกิจ และได้ Hedging ต้นทุนน้ำมันใน 4Q60 ไปแล้วเกือบ 80% และทยอย Hedging ต่อเนื่องสำหรับปี 2561 โดยคาดว่ากำไรปกติปี 2561 จะเติบโต +27.4% YoY เป็น 1,603 ล้านบาท จากแรงหนุนของเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว และการขยายเส้นทางบินใหม่ของ Air Asia X หลัง ICAO ปลดล็อกธงแดงจะเป็นบวกต่อจำนวนผู้โดยสารที่ใช้เส้นทางของ Air Asia เพื่อเชื่อมต่อด้วยเช่นกัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วานนี้ SET INDEX ลงมาทดสอบแนวรับที่บริเวณ 1700 จุด ปิดที่ 1703.03 จุด ปรับตัวลดลง 11.62 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5.5 หมื่นล้านบาท โดนกดดันจากหุ้นขนาดใหญ่อย่าง PTT (-0.95%), ADVANC (-2.17%), AOT(-0.85%), CPALL(-0.7%) และ PTTEP(-1.06%) ด้านกระแสเงินทุน นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิราว 1.7 พันล้านบาท เช่นเดียวกับสถาบันในประเทศที่ขายสุทธิราว 1 พันล้านบาท ด้านตลาดฟิวเจอร์ส นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Long สุทธิราว 1.7 พันสัญญา สวนทางกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Short สุทธิราว 2.1 พันสัญญา ส่งผลให้ QTD นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิราว 4.5 หมื่นสัญญา สวนทางกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Long สุทธิราว 2.1 หมื่นสัญญา
วานนี้ SET INDEX ลงมาทดสอบแนวรับที่บริเวณ 1700 จุด ปิดที่ 1703.03 จุด ปรับตัวลดลง 11.62 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5.5 หมื่นล้านบาท โดนกดดันจากหุ้นขนาดใหญ่อย่าง PTT (-0.95%), ADVANC (-2.17%), AOT(-0.85%), CPALL(-0.7%) และ PTTEP(-1.06%) ด้านกระแสเงินทุน นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิราว 1.7 พันล้านบาท เช่นเดียวกับสถาบันในประเทศที่ขายสุทธิราว 1 พันล้านบาท ด้านตลาดฟิวเจอร์ส นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Long สุทธิราว 1.7 พันสัญญา สวนทางกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Short สุทธิราว 2.1 พันสัญญา ส่งผลให้ QTD นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิราว 4.5 หมื่นสัญญา สวนทางกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Long สุทธิราว 2.1 หมื่นสัญญา
กลยุทธ์วันนี้
แนวโน้ม SET INDEX ในวันทำการสุดท้ายของสัปดาห์ จะซึมตัว และระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย มีโอกาสหลุดแนวจิตวิทยา 1700 จุด แต่เชื่อว่า ณ สิ้นวัน SET INDEX จะปิดเหนือ 1700 จุดได้ เพราะราคาน้ำมันดิบที่ทรงตัวระดับสูง จะช่วยประคับประคองภาพรวมตลาด
แผนการปรับโครงสร้างภาษียังคงมีความไม่แน่นอนสูง หลังจากสมาชิกวุฒิสภา (สว.) พรรครีพับลิกันของสหรัฐฯ นำเสนอนโยบายลดอัตราภาษีนิติบุคคลจาก 35% เหลือ 20% แต่ยืดเวลาการตัดลดออกไปเป็นปี 2562 ต่างจากร่างนโยบายจากฝั่ง ส.ส.ซึ่งพยายามผลักดันให้มีผลในปีหน้าทันที
ประเด็นความล่าช้าและความไม่แน่นอนของนโยบายด้านภาษีของสหรัฐฯ อาจเป็นผลบวกต่อกระแสเงินทุนต่างชาติในตลาดหุ้นเอเชีย ด้วยการกดดันให้ดอลล่าร์สหรัฐฯอ่อนค่าชั่วคราว ประกอบกับ ตลาดหุ้นสหรัฐฯขึ้นมาอย่างร้อนแรงตลอดทั้งปีนี้ ทำให้ Valuation ตึงตัว น่าจะเป็นโอกาสปรับพอร์ตของต่างชาติให้โยกย้ายเงินทุนเข้ามาสู่ตลาดหุ้นเกิดใหม่ (Emerging Markets) ในระยะสั้น
กลยุทธ์วันนี้ เลือกซื้อหุ้นที่ผลประกอบการ 3Q60 ออกมาอยู่ในเกณฑ์ดี หรือน่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และแนวโน้มกำไรยังเติบโตได้ต่อเนื่อง
แนวโน้ม SET INDEX ในวันทำการสุดท้ายของสัปดาห์ จะซึมตัว และระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย มีโอกาสหลุดแนวจิตวิทยา 1700 จุด แต่เชื่อว่า ณ สิ้นวัน SET INDEX จะปิดเหนือ 1700 จุดได้ เพราะราคาน้ำมันดิบที่ทรงตัวระดับสูง จะช่วยประคับประคองภาพรวมตลาด
แผนการปรับโครงสร้างภาษียังคงมีความไม่แน่นอนสูง หลังจากสมาชิกวุฒิสภา (สว.) พรรครีพับลิกันของสหรัฐฯ นำเสนอนโยบายลดอัตราภาษีนิติบุคคลจาก 35% เหลือ 20% แต่ยืดเวลาการตัดลดออกไปเป็นปี 2562 ต่างจากร่างนโยบายจากฝั่ง ส.ส.ซึ่งพยายามผลักดันให้มีผลในปีหน้าทันที
ประเด็นความล่าช้าและความไม่แน่นอนของนโยบายด้านภาษีของสหรัฐฯ อาจเป็นผลบวกต่อกระแสเงินทุนต่างชาติในตลาดหุ้นเอเชีย ด้วยการกดดันให้ดอลล่าร์สหรัฐฯอ่อนค่าชั่วคราว ประกอบกับ ตลาดหุ้นสหรัฐฯขึ้นมาอย่างร้อนแรงตลอดทั้งปีนี้ ทำให้ Valuation ตึงตัว น่าจะเป็นโอกาสปรับพอร์ตของต่างชาติให้โยกย้ายเงินทุนเข้ามาสู่ตลาดหุ้นเกิดใหม่ (Emerging Markets) ในระยะสั้น
กลยุทธ์วันนี้ เลือกซื้อหุ้นที่ผลประกอบการ 3Q60 ออกมาอยู่ในเกณฑ์ดี หรือน่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และแนวโน้มกำไรยังเติบโตได้ต่อเนื่อง
ปัจจัยสำคัญวันนี้
จีนรายงานเงินเฟ้อเดือน ต.ค. ขยายตัว 1.9% YoY ดีกว่าคาดที่ 1.8% YoY
สว.พรรค Republican เสนอแผนการลดภาษีจาก 35% เป็น 20% แต่เสนอให้เริ่มใช้ปี 2562 แตกต่างจากแผนของ สส. ที่เสนอให้ทำทันที
คณะกรรมาธิการยุโรป คาดเศรษฐกิจยูโรโซนปี 60 จะขยายตัว 2.2% YoYสูงสุดในรอบ 10 และคาดปี 61 ขยายตัว 2.1% YoY
หุ้น RSP เข้าซื้อขายวันแรกในตลาด SET ในกลุ่มบริการ ราคา IPO ที่ 5.80 บาท ราคาพาร์ที่ 1 บาท
จีนรายงานเงินเฟ้อเดือน ต.ค. ขยายตัว 1.9% YoY ดีกว่าคาดที่ 1.8% YoY
สว.พรรค Republican เสนอแผนการลดภาษีจาก 35% เป็น 20% แต่เสนอให้เริ่มใช้ปี 2562 แตกต่างจากแผนของ สส. ที่เสนอให้ทำทันที
คณะกรรมาธิการยุโรป คาดเศรษฐกิจยูโรโซนปี 60 จะขยายตัว 2.2% YoYสูงสุดในรอบ 10 และคาดปี 61 ขยายตัว 2.1% YoY
หุ้น RSP เข้าซื้อขายวันแรกในตลาด SET ในกลุ่มบริการ ราคา IPO ที่ 5.80 บาท ราคาพาร์ที่ 1 บาท
ปัจจัยสำคัญในสัปดาห์หน้า
ติดตามการประกาศหุ้นเข้า-ออก ดัชนี MSCI 13 พ.ย.
ติดตามการรายงานยอดค้าปลีกจีน, เงินเฟ้ออังกฤษ และ GDP EU 14 พ.ย.
ติดตามการรายงาน GDP ญี่ปุ่น และเงินเฟ้อสหรัฐฯ 15 พ.ย.
ติดตามการรายงานเงินเฟ้อ EU 16 พ.ย
ติดตามการประกาศหุ้นเข้า-ออก ดัชนี MSCI 13 พ.ย.
ติดตามการรายงานยอดค้าปลีกจีน, เงินเฟ้ออังกฤษ และ GDP EU 14 พ.ย.
ติดตามการรายงาน GDP ญี่ปุ่น และเงินเฟ้อสหรัฐฯ 15 พ.ย.
ติดตามการรายงานเงินเฟ้อ EU 16 พ.ย
Strategist Team
Mayuree Chowvikran Head of Research , 662-009-8050
Padon Vannarat Strategist, 662-009-8060
Piyapat Patarapuvadol Strategist , 662-009-8062
Nutt Treepoonsuk Strategist , 662-009-8
OO2223