- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 10 November 2017 16:40
- Hits: 2087
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM) SET Index: แนวต้าน 1710 แนวรับ 1685
SET Index: 1698.45 ปรับตัวลดลงหลุดแนวรับสำคัญที่ 1700 จุดลงไป หลังจากปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 10 และ 20 วันที่ 1710 จุดลงไป ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 1685 จุด และมีแนวต้านที่ 1710 จุด ในขณะที่โครงสร้างหลักยังมีโอกาสปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1680 จุด
แนวต้าน : 1700 และ 1703
แนวรับ : 1695 และ 1692
AOT = 57.00/58.00, IVL = 49.50/50.00, PTT = 414/420, ADVANC = 181/183, BANPU = 17.40/17.80
United Paper (UTP TB; THB 9.65) – ซื้อ
แนวต้าน : 10.00 และ 10.20 / แนวต้านสำคัญ 10.60
แนวรับ : 9.65 และ 9.60
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวในกรอบแคบเพื่อสร้างฐานเหนือจุดสูงสุดเดิม ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ UTP โดยมีแนวรับที่ 9.65 และ 9.60 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 10.00 และ 10.20 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 9.30 ลงไป
RPCG (RPC TB; THB 0.77) – ซื้อ
แนวต้าน : 0.83 และ 0.86 / แนวต้านสำคัญ 0.91
แนวรับ : 0.77 และ 0.75
ราคาหุ้นฟื้นตัวในระยะสั้น พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบสำคัญของเส้นค่าเฉลี่ย 200 ชั่วโมง แต่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
60 Min: MACD ปรับตัวลดลงต่ำกว่าเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 50
แนะนำซื้อ RPC โดยมีแนวรับที่ 0.77 และ 0.75 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 0.83 และ 0.86 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 0.72 ลงไป
Analysts : Teerasak Tanavarakul +662 761-9231 - [email protected]
Line ID : @CIMBS Youtube : CIMBS
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
หากหลุด 1700 จุด เป็นโอกาสในการเข้าซื้อลงทุนอีกรอบ
ตลาดเมื่อวานนี้ปรับลดลงแรง -11.62 จุดหรือ -0.68% ปิดที่ 1,703.03 จุด ด้วยปริมาณการซื้อขาย 55,042 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างประเทศกลับมาขายสุทธิ 1,731 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าที่ซื้อสุทธิไป 546 ล้านบาท ส่งผลให้ทั้งปีขายสุทธิรวม 3,797 ล้านบาท ในขณะที่กองทุนในประเทศก็ขายสุทธิต่อเนื่องอีก 1,048 ล้านบาท จึงกดดันตลาดให้ปรับลงมาใกล้แนวรับสำคัญที่ 1,700 จุด โดยแรงขายกระจายตัวในหุ้นขนาดใหญ่อย่าง ADVANC, AOT, PTTGC, PTT และ SCB ส่วนหนึ่งอาจเป็นการขายทำกำไรหลังขาดปัจจัยหนุนระยะสั้น บวกกับบางส่วนอาจมีการคาดการณ์ว่าการประกาศ MSCI Semi-Annual Index Review ในวันที่ 13 พ.ย. อาจมีการปรับลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นไทยลงเล็กน้อย จากการที่ตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ปรับตัวแย่กว่าตลาดในภูมิภาค (underperform)
เมื่อวานนี้มีบริษัทที่ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/60 ออกมาดีประกอบด้วย BCH IVL JASIF SAT AAV BEM WORK CKP TTW PTGMTLS ซึ่งน่าจะมีแรงซื้อเก็งกำไรระยะสั้นเข้ามา ในขณะที่บริษัทที่ประกาศงบออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดประกอบด้วย GFPT LPN COM7 BLAMALEE CHG TWPC VNT BPP ซึ่งคาดว่าจะถูกแรงขายออกมาในวันนี้ วันนี้คาดว่าจะมีงบบริษัท AP QH ERW MAKRO ROBINS MINTCENTEL AMATAV MAJOR STEC SVI TICON WHA SAPPE ประกาศงบออกมา โดยเราให้ IVL, SAT, JASIF, AP, ROBINS, MINT และMAJOR เป็น top pick ของเรา ส่วน Opportunity day สัปดาห์นี้ในวันที่ 10 พ.ย. มี IVL COM7 SELIC MONO และสัปดาห์หน้าวันที่ 13 พ.ย. มีAGE MALEE SPCG MOONG FSMART วันที่ 14 พ.ย. มี ECL MTLS THCOM INTUCH WHAUP NVD TKN
ในสัปดาห์หน้าจะมีปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามคือ การประกาศ MSCI Semi-Annual Index Review ในวันที่ 13 พ.ย. (แต่เราจะทราบผลในเช้าวันที่ 14 พ.ย.) และมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ธ.ค. นี้ โดยตลาดคาดว่า SAWAD จะเป็นหุ้นที่ถูกเพิ่มเข้าไปในดัชนี MSCI ในรอบนี้และ BEC จะเป็นบริษัทที่ถูกถอดออก ส่วนวันที่ 15 พ.ย. ก็จะมีการประกาศดัชนี FTSE Rebalancing ซึ่งเราจะต้องติดตามว่าทั้ง 2 ดัชนีจะมีการปรับเพิ่มหรือลดน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทยอย่างไรบ้าง หากมีการปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนเราคาดว่าตลาดจะปรับขึ้นไปทดสอบระดับ 1730 จุดได้ แต่หากถูกปรับลดน้ำหนักเรายังเชื่อว่าแรงซื้อของกองทุน (LTF, RMF) น่าจะพยุงให้ตลาดไม่หลุดลงไปต่ำกว่า 1670 จุดได้
สำหรับการประกาศหุ้นเข้า/ออก จากการคำนวณ SET50 ในงวดเดือนมกราคม-มิถุนายน 2561 ที่ตลาดจะมีการประกาศในกลางเดือนหน้า เราคาดว่า CENTEL SAWAD และ TPIPP จะถูกนำเข้าไปในการคำนวณ SET50 ในขณะที่ KCE PSH และ TPIPL จะเป็นหุ้นที่ถูกถอดออก ดังนั้นเราคาดว่าหุ้นที่ถูกเลือกเข้ามีโอกาสที่จะปรับตัวดีกว่าตลาด (outperform) ในระยะสั้นได้ ส่วนหุ้นที่ถูกถอดออกก็จะปรับตัวแย่กว่าตลาด(underperform) ได้ เราเลือก CENTEL และ TPIPP เป็น top pick ในการเก็งกำไรหุ้นเข้า SET50 โดยราคาเป้าหมาย 52 บาทและ 9.00 บาทตามลำดับ
เมื่อคืนนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐ (Dowjones) ปรับลดลง 100 กว่าจุด จากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความล่าช้าในการบังคับใช้กฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐ หลังจากมีรายงานข่าวว่า สมาชิกพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาได้เสนอให้มีการชะลอการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลออกไปอีก 1 ปี จนถึงปี2562 ถือเป็นการสวนทางความตั้งใจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ต้องการให้การปรับลดอัตราภาษีมีผลบังคับใช้โดยทันทีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ อย่างไรก็ตาม แรงกดดันในตลาดได้บรรเทาลงในระดับหนึ่ง หลังจากคณะกรรมาธิการพิจารณาวิธีการจัดหารายได้ของสภาผู้แทนราษฎร (House Ways and Means Committee) มีมติผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของพรรครีพับลิกัน (ลดภาษีเงินได้นิติบุคคลลงสู่ระดับ20% จากปัจจุบันที่ระดับ 35% และการลดจำนวนขั้นบันไดของการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จาก 7 ขั้น เหลือเพียง 4 ขั้น คือ 12%,25%, 35% และ 39.6%) เมื่อวานนี้ และจะส่งร่างกฎหมายดังกล่าวให้กับสภาผู้แทนราษฎรเต็มคณะ เพื่อทำการพิจารณาในสัปดาห์หน้า จากผลดังกล่าวส่งผลให้ตลาดหุ้นยุโรปและเอเชียเช้านี้ถูกกดดัน
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ ให้รอซื้อเมื่อตลาดมีการปรับฐานลงมาหลุดระดับ 1700 จุด โดยมองแนวรับแรกที่ 1690 จุด แต่หากปรับลงแรงก็ไม่น่าลงไปต่ำกว่าจุดต่ำสุดเดิมในรอบนี้ที่ 1673 จุด โดยยังแนะนำให้เลือกซื้อ 1) หุ้นที่ประกาศผลการดำเนินงานออกมาดี (รวมถึงหุ้นที่คาดว่าจะมีผลการดำเนินงานออกมาดี) และคาดว่าตลาดจะมีการปรับเพิ่มประมาณการกำไรและราคาเป้าหมายต่อไป โดยหุ้นดังกล่าวประกอบด้วย JASIFSAT PTTGC IRPC IVL PTTEP DTAC SF MINT TISCO 2) หุ้นที่จะประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/60 ออกมาชะลอตัวลงแต่กำไรจะฟื้นตัวขึ้นในปีหน้าที่ราคาหุ้นถูกกดดันมาก่อนหน้านี้อย่าง LPN PLANB MALEE TASCO TPIPP วันนี้คาดตลาดจะปรับตัวลงตามตลาดหุ้นต่างประเทศ แนะนำ ซื้อ ADVANC BCH LPN SAT เราให้แนวรับที่ 1690-1685 จุด และแนวต้านที่ 1708-1715 จุด
ตลาดเมื่อวานนี้ปรับลดลงแรง -11.62 จุดหรือ -0.68% ปิดที่ 1,703.03 จุด ด้วยปริมาณการซื้อขาย 55,042 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างประเทศกลับมาขายสุทธิ 1,731 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าที่ซื้อสุทธิไป 546 ล้านบาท ส่งผลให้ทั้งปีขายสุทธิรวม 3,797 ล้านบาท ในขณะที่กองทุนในประเทศก็ขายสุทธิต่อเนื่องอีก 1,048 ล้านบาท จึงกดดันตลาดให้ปรับลงมาใกล้แนวรับสำคัญที่ 1,700 จุด โดยแรงขายกระจายตัวในหุ้นขนาดใหญ่อย่าง ADVANC, AOT, PTTGC, PTT และ SCB ส่วนหนึ่งอาจเป็นการขายทำกำไรหลังขาดปัจจัยหนุนระยะสั้น บวกกับบางส่วนอาจมีการคาดการณ์ว่าการประกาศ MSCI Semi-Annual Index Review ในวันที่ 13 พ.ย. อาจมีการปรับลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นไทยลงเล็กน้อย จากการที่ตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ปรับตัวแย่กว่าตลาดในภูมิภาค (underperform)
เมื่อวานนี้มีบริษัทที่ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/60 ออกมาดีประกอบด้วย BCH IVL JASIF SAT AAV BEM WORK CKP TTW PTGMTLS ซึ่งน่าจะมีแรงซื้อเก็งกำไรระยะสั้นเข้ามา ในขณะที่บริษัทที่ประกาศงบออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดประกอบด้วย GFPT LPN COM7 BLAMALEE CHG TWPC VNT BPP ซึ่งคาดว่าจะถูกแรงขายออกมาในวันนี้ วันนี้คาดว่าจะมีงบบริษัท AP QH ERW MAKRO ROBINS MINTCENTEL AMATAV MAJOR STEC SVI TICON WHA SAPPE ประกาศงบออกมา โดยเราให้ IVL, SAT, JASIF, AP, ROBINS, MINT และMAJOR เป็น top pick ของเรา ส่วน Opportunity day สัปดาห์นี้ในวันที่ 10 พ.ย. มี IVL COM7 SELIC MONO และสัปดาห์หน้าวันที่ 13 พ.ย. มีAGE MALEE SPCG MOONG FSMART วันที่ 14 พ.ย. มี ECL MTLS THCOM INTUCH WHAUP NVD TKN
ในสัปดาห์หน้าจะมีปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามคือ การประกาศ MSCI Semi-Annual Index Review ในวันที่ 13 พ.ย. (แต่เราจะทราบผลในเช้าวันที่ 14 พ.ย.) และมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ธ.ค. นี้ โดยตลาดคาดว่า SAWAD จะเป็นหุ้นที่ถูกเพิ่มเข้าไปในดัชนี MSCI ในรอบนี้และ BEC จะเป็นบริษัทที่ถูกถอดออก ส่วนวันที่ 15 พ.ย. ก็จะมีการประกาศดัชนี FTSE Rebalancing ซึ่งเราจะต้องติดตามว่าทั้ง 2 ดัชนีจะมีการปรับเพิ่มหรือลดน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทยอย่างไรบ้าง หากมีการปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนเราคาดว่าตลาดจะปรับขึ้นไปทดสอบระดับ 1730 จุดได้ แต่หากถูกปรับลดน้ำหนักเรายังเชื่อว่าแรงซื้อของกองทุน (LTF, RMF) น่าจะพยุงให้ตลาดไม่หลุดลงไปต่ำกว่า 1670 จุดได้
สำหรับการประกาศหุ้นเข้า/ออก จากการคำนวณ SET50 ในงวดเดือนมกราคม-มิถุนายน 2561 ที่ตลาดจะมีการประกาศในกลางเดือนหน้า เราคาดว่า CENTEL SAWAD และ TPIPP จะถูกนำเข้าไปในการคำนวณ SET50 ในขณะที่ KCE PSH และ TPIPL จะเป็นหุ้นที่ถูกถอดออก ดังนั้นเราคาดว่าหุ้นที่ถูกเลือกเข้ามีโอกาสที่จะปรับตัวดีกว่าตลาด (outperform) ในระยะสั้นได้ ส่วนหุ้นที่ถูกถอดออกก็จะปรับตัวแย่กว่าตลาด(underperform) ได้ เราเลือก CENTEL และ TPIPP เป็น top pick ในการเก็งกำไรหุ้นเข้า SET50 โดยราคาเป้าหมาย 52 บาทและ 9.00 บาทตามลำดับ
เมื่อคืนนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐ (Dowjones) ปรับลดลง 100 กว่าจุด จากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความล่าช้าในการบังคับใช้กฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐ หลังจากมีรายงานข่าวว่า สมาชิกพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาได้เสนอให้มีการชะลอการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลออกไปอีก 1 ปี จนถึงปี2562 ถือเป็นการสวนทางความตั้งใจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ต้องการให้การปรับลดอัตราภาษีมีผลบังคับใช้โดยทันทีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ อย่างไรก็ตาม แรงกดดันในตลาดได้บรรเทาลงในระดับหนึ่ง หลังจากคณะกรรมาธิการพิจารณาวิธีการจัดหารายได้ของสภาผู้แทนราษฎร (House Ways and Means Committee) มีมติผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของพรรครีพับลิกัน (ลดภาษีเงินได้นิติบุคคลลงสู่ระดับ20% จากปัจจุบันที่ระดับ 35% และการลดจำนวนขั้นบันไดของการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จาก 7 ขั้น เหลือเพียง 4 ขั้น คือ 12%,25%, 35% และ 39.6%) เมื่อวานนี้ และจะส่งร่างกฎหมายดังกล่าวให้กับสภาผู้แทนราษฎรเต็มคณะ เพื่อทำการพิจารณาในสัปดาห์หน้า จากผลดังกล่าวส่งผลให้ตลาดหุ้นยุโรปและเอเชียเช้านี้ถูกกดดัน
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ ให้รอซื้อเมื่อตลาดมีการปรับฐานลงมาหลุดระดับ 1700 จุด โดยมองแนวรับแรกที่ 1690 จุด แต่หากปรับลงแรงก็ไม่น่าลงไปต่ำกว่าจุดต่ำสุดเดิมในรอบนี้ที่ 1673 จุด โดยยังแนะนำให้เลือกซื้อ 1) หุ้นที่ประกาศผลการดำเนินงานออกมาดี (รวมถึงหุ้นที่คาดว่าจะมีผลการดำเนินงานออกมาดี) และคาดว่าตลาดจะมีการปรับเพิ่มประมาณการกำไรและราคาเป้าหมายต่อไป โดยหุ้นดังกล่าวประกอบด้วย JASIFSAT PTTGC IRPC IVL PTTEP DTAC SF MINT TISCO 2) หุ้นที่จะประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/60 ออกมาชะลอตัวลงแต่กำไรจะฟื้นตัวขึ้นในปีหน้าที่ราคาหุ้นถูกกดดันมาก่อนหน้านี้อย่าง LPN PLANB MALEE TASCO TPIPP วันนี้คาดตลาดจะปรับตัวลงตามตลาดหุ้นต่างประเทศ แนะนำ ซื้อ ADVANC BCH LPN SAT เราให้แนวรับที่ 1690-1685 จุด และแนวต้านที่ 1708-1715 จุด
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,698.45 จุด ลดลง 4.58 จุด (-0.27%) มูลค่าการซื้อขาย28,058.36 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับลงในทิศทางเดียวกับตลาดภูมิภาคที่ส่วนใหญ่แกว่งลบ ติดตามการประกาศ MSCI Semi-Annual Index Review (13 พ.ย.)
AP รายงานผลประกอบ 3Q17 มีกำไรสุทธิ 637 ล้านบาท (+39% YoY, +4% QoQ) หรือEPS 0.20 ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ 3% โดย Bloomberg consensus ให้ราคาเป้าหมาย9.26 บาท (Buy/Hold/Sell : 21/2/1)
SAPPE รายงานผลประกอบ 3Q17 มีกำไรสุทธิ 112 ล้านบาท (+19% YoY, -32% QoQ)หรือ EPS 0.37 สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ 6% โดย Bloomberg consensus ให้ราคาเป้าหมาย 30.08 บาท (Buy/Hold/Sell : 4/2/2)
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,698.45 จุด ลดลง 4.58 จุด (-0.27%) มูลค่าการซื้อขาย28,058.36 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับลงในทิศทางเดียวกับตลาดภูมิภาคที่ส่วนใหญ่แกว่งลบ ติดตามการประกาศ MSCI Semi-Annual Index Review (13 พ.ย.)
AP รายงานผลประกอบ 3Q17 มีกำไรสุทธิ 637 ล้านบาท (+39% YoY, +4% QoQ) หรือEPS 0.20 ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ 3% โดย Bloomberg consensus ให้ราคาเป้าหมาย9.26 บาท (Buy/Hold/Sell : 21/2/1)
SAPPE รายงานผลประกอบ 3Q17 มีกำไรสุทธิ 112 ล้านบาท (+19% YoY, -32% QoQ)หรือ EPS 0.37 สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ 6% โดย Bloomberg consensus ให้ราคาเป้าหมาย 30.08 บาท (Buy/Hold/Sell : 4/2/2)
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดช่วงบ่าย แกว่งลง ผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในตลาดโดยรวมถือว่าไม่ได้ดีไปกว่าที่คาด ทำให้เริ่มเห็นแรงขายทำกำไรออกมา ประกอบกับSET ถูกกดดันจากทิศทางตลาดต่างประเทศที่ไม่สดใส ทำให้ภาพตลาดรวมยังคงดูอ่อนแอ ซึ่งทางเทคนิคการปรับตัวต่ำกว่าระดับ 1700 จุด ก็ถือเป็นการเตือนว่ามีโอกาสจะเกิดการขายทำกำไรรอบใหม่อีกครั้ง ซึ่งการฟื้นตัวกลับของ SET จำเป็นต้องอาศัยปัจจัยใหม่ๆ เข้ามากระตุ้น เราคาดว่าตลาดน่าจะสลับกลับไปเน้นเก็งกำไรหุ้นขนาดกลางขนาดเล็กที่ผลการดำเนินงานออกมาดีกว่าที่คาด เรามองแนวต้านสำคัญที่ 1703 จุด แนวรับที่1685 จุด แนะนำ IRPC PTTGC BANPU
แนวโน้มตลาดช่วงบ่าย แกว่งลง ผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในตลาดโดยรวมถือว่าไม่ได้ดีไปกว่าที่คาด ทำให้เริ่มเห็นแรงขายทำกำไรออกมา ประกอบกับSET ถูกกดดันจากทิศทางตลาดต่างประเทศที่ไม่สดใส ทำให้ภาพตลาดรวมยังคงดูอ่อนแอ ซึ่งทางเทคนิคการปรับตัวต่ำกว่าระดับ 1700 จุด ก็ถือเป็นการเตือนว่ามีโอกาสจะเกิดการขายทำกำไรรอบใหม่อีกครั้ง ซึ่งการฟื้นตัวกลับของ SET จำเป็นต้องอาศัยปัจจัยใหม่ๆ เข้ามากระตุ้น เราคาดว่าตลาดน่าจะสลับกลับไปเน้นเก็งกำไรหุ้นขนาดกลางขนาดเล็กที่ผลการดำเนินงานออกมาดีกว่าที่คาด เรามองแนวต้านสำคัญที่ 1703 จุด แนวรับที่1685 จุด แนะนำ IRPC PTTGC BANPU
Technical Pick (PM) ...
United Paper (UTP TB; THB 9.65) – ซื้อ
RPCG (RPC TB; THB 0.77) – ซื้อ
United Paper (UTP TB; THB 9.65) – ซื้อ
RPCG (RPC TB; THB 0.77) – ซื้อ
Analysts :Kitichan Sirisukarcha +66(2) 761 9232 – [email protected]
Teerawut Kanniphakul +66(2) 761 9233 – [email protected]
Line ID : @CIMBS Youtube : CIMBS
Teerawut Kanniphakul +66(2) 761 9233 – [email protected]
Line ID : @CIMBS Youtube : CIMBS
OO2226
