- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 09 November 2017 16:58
- Hits: 975
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> เก็งกำไรหุ้นที่คาดมีกำไร 3Q17 แข็งแกร่ง
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET แกว่งตัว Sideways ในกรอบแคบตลอดทั้งวันตามที่เราคาด โดยปิดตลาดบวกขึ้น 1.90 จุด นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่องในตลาดหุ้นเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันอีก 546 ลบ. ขณะที่สถาบันในประเทศพลิกมาขายสุทธิ 772 ลบ.
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET จะยังแกว่งตัว Sideways ต่อเนื่อง โดยราคาน้ำมันดิบยังอยู่ในช่วงของการพักตัวรวมถึงมีข่าวว่าแกนนำวุฒิสภาของพรรครีพับลิกันอาจเลื่อนกรอบเวลาผลักดันกฎหมายปฏิรูปภาษีออกไปอีก 1 ปีหลังพ่ายเลือกตั้งในรัฐ New Jersey และ Virginia ขณะที่ปัจจุบันตลาดน่าจะยังให้น้ำหนักกับการประกาศกำไร 3Q17 ของบริษัทจดทะเบียนเป็นหลัก เราจึงยังคาดว่าหุ้นที่มีกำไร 3Q17 แข็งแกร่งน่าจะยังสามารถเคลื่อนไหวได้ดีกว่าตลาดจากการถูกเป็นเป้าเก็งกำไร
กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นที่คาดมีผลประกอบการ 3Q17 แข็งแกร่ง
หุ้นเด่นเดือน พ.ย. : CPALL, CPN, EKH, MINT, SYNEX
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$85 เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากไต้หวัน US$95ล้าน ขณะที่ไหลเข้าเกาหลีใต้ US$50ล้าน และไทย US$17ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางออกจากภูมิภาคหลังเกิดความกังวลต่อมาตรการปรับลดภาษีของสหรัฐจะเลือนการบังคับใช้ออกไป ขณะที่ราคาน้ำมันดิ่งลงอีก 1% เมื่อคืนนี้
กลยุทธ์วันนี้ >> เก็งกำไรหุ้นที่คาดมีกำไร 3Q17 แข็งแกร่ง
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET แกว่งตัว Sideways ในกรอบแคบตลอดทั้งวันตามที่เราคาด โดยปิดตลาดบวกขึ้น 1.90 จุด นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่องในตลาดหุ้นเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันอีก 546 ลบ. ขณะที่สถาบันในประเทศพลิกมาขายสุทธิ 772 ลบ.
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET จะยังแกว่งตัว Sideways ต่อเนื่อง โดยราคาน้ำมันดิบยังอยู่ในช่วงของการพักตัวรวมถึงมีข่าวว่าแกนนำวุฒิสภาของพรรครีพับลิกันอาจเลื่อนกรอบเวลาผลักดันกฎหมายปฏิรูปภาษีออกไปอีก 1 ปีหลังพ่ายเลือกตั้งในรัฐ New Jersey และ Virginia ขณะที่ปัจจุบันตลาดน่าจะยังให้น้ำหนักกับการประกาศกำไร 3Q17 ของบริษัทจดทะเบียนเป็นหลัก เราจึงยังคาดว่าหุ้นที่มีกำไร 3Q17 แข็งแกร่งน่าจะยังสามารถเคลื่อนไหวได้ดีกว่าตลาดจากการถูกเป็นเป้าเก็งกำไร
กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นที่คาดมีผลประกอบการ 3Q17 แข็งแกร่ง
หุ้นเด่นเดือน พ.ย. : CPALL, CPN, EKH, MINT, SYNEX
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$85 เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากไต้หวัน US$95ล้าน ขณะที่ไหลเข้าเกาหลีใต้ US$50ล้าน และไทย US$17ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางออกจากภูมิภาคหลังเกิดความกังวลต่อมาตรการปรับลดภาษีของสหรัฐจะเลือนการบังคับใช้ออกไป ขณะที่ราคาน้ำมันดิ่งลงอีก 1% เมื่อคืนนี้
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> KAMART <<
คาดกำไร 3Q17 กลับมาขยายตัว +29% Q-Q, +10% Y-Y ตามกำลังซื้อในประเทศที่เริ่มฟื้นตัว และการออกสินค้าใหม่ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการทำตลาดที่ลดลงกว่า 1H17 อีกทั้ง คาดว่ายอดขายต่างประเทศทั้งจีนและ CLMV จะเร่งตัวขึ้นกว่า 1H17
แนวโน้ม 4Q17 น่าจะเป็นจุดสูงสุดของปีเพราะเป็น High Season และได้แรงหนุนเพิ่มเติมจากช้อปช่วยชาติ คาดกำไรสุทธิปีนี้ 326 ลบ. +24% Y-Y และปีหน้า 383 ลบ. +17% Y-Y
ราคาปัจจุบันซื้อขายบน PE2018 เพียง 19 เท่า ต่ำกว่า BEAUTY ที่ 40 เท่า และกลุ่มค้าปลีกที่ 26 เท่า และถ้าอิงอดีตช่วงช้อปช่วยชาติจะพบว่า KAMART มักเป็นหุ้นที่ Outperform ตลาดและกลุ่มในช่วงนั้น แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปีหน้า 11.30 บาท
คาดกำไร 3Q17 กลับมาขยายตัว +29% Q-Q, +10% Y-Y ตามกำลังซื้อในประเทศที่เริ่มฟื้นตัว และการออกสินค้าใหม่ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการทำตลาดที่ลดลงกว่า 1H17 อีกทั้ง คาดว่ายอดขายต่างประเทศทั้งจีนและ CLMV จะเร่งตัวขึ้นกว่า 1H17
แนวโน้ม 4Q17 น่าจะเป็นจุดสูงสุดของปีเพราะเป็น High Season และได้แรงหนุนเพิ่มเติมจากช้อปช่วยชาติ คาดกำไรสุทธิปีนี้ 326 ลบ. +24% Y-Y และปีหน้า 383 ลบ. +17% Y-Y
ราคาปัจจุบันซื้อขายบน PE2018 เพียง 19 เท่า ต่ำกว่า BEAUTY ที่ 40 เท่า และกลุ่มค้าปลีกที่ 26 เท่า และถ้าอิงอดีตช่วงช้อปช่วยชาติจะพบว่า KAMART มักเป็นหุ้นที่ Outperform ตลาดและกลุ่มในช่วงนั้น แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปีหน้า 11.30 บาท
ประเด็นสำคัญวันนี้
(-) กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ปีหน้าเรามองลบมากขึ้น เพราะ KCE ที่เป็นต้นน้ำถูกกระทบจากวัตถุดิบแพงก่อนรายอื่น ถ้าหากขึ้นต่อจนทำให้ PCB แพงขึ้นจะกระทบกับ SVI HANA และ DELTA ตอนนี้เหลือ SVI และ HANA ที่ยังไม่ประกาศงบ 3Q17 เราคาด SVI ยังไม่ดี เพราะยังขาดแคลนวัตถุดิบ IC ส่วน HANA คาดดีสุดในกลุ่ม เพราะ HANA เป็นคนผลิต IC แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 58 บาท
(0) PTTGC กำไรสุทธิ 3Q17 เท่ากับ 1.0 หมื่นลบ. (+51% Q-Q, +60% Y-Y) ส่วนกำไรปกติเท่ากับ 9.7 พันลบ. (+54% Q-Q, +64% Y-Y) แข็งแกร่งตามคาด เนื่องจากปิดซ่อมโรงงานน้อยลงและมาร์จิ้นดีขึ้นทั้งโรงกลั่นและโอเลฟินส์ หักล้างกับมาร์จิ้นอะโรเมติกส์ที่ลดลง ขณะที่ ส่วนแบ่งกำไรเพิ่มขึ้นจากการรับโอนธุรกิจของ PTT เราปรับกำไรปี 2017-2018 ขึ้น 6% และ 5% ตามลำดับ และปรับใช้ราคาเป้าหมายปี 2018 ที่ 89 บาท แนะนำซื้อ
(0) ADB เริ่มซื้อขายวันแรก ราคา IPO 1.69 บาท จำนวน 180 ล้านหุ้น เราประเมินราคาเหมาะสมปี 2018 เท่ากับ 2.30 บาท อิง PE เฉลี่ยของ peer group ที่ 20 เท่า โดยคาดกำไรปีนี้ -78% Y-Y จากราคาเม็ดพลาสติกที่ผันผวน แต่จะกลับมาโตแรง 318% Y-Y อยู่ที่ 69 ลบ. ในปีหน้า จากการรุกตลาดส่งออกกาวและยาแนว ผนวกกับการรุกสินค้ากลุ่ม DIY ที่ใช้ในครัวเรือนซึ่งมีอัตรากำไรดี ส่วนธุรกิจพีวีซีหุ้มสายไฟเริ่มชะลอ แต่ชดเชยได้จากการเริ่มผลิตเม็ดพลาสติกที่ใช้ในเครื่องมือแพทย์ ร่วมกับกลุ่มโชวะที่มีความชำนาญสูง ราคา IPO คิดเป็น PE2018 เท่ากับ 15 เท่า ถือว่ามีส่วนลดเมื่อเทียบกับกลุ่มพอควร (FSS เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น IPO ของ ADB)
(+) IT กำไรสุทธิ 3Q17 ออกมาดีมาก +13% Q-Q, +96% Y-Y อยู่ที่ 23 ลบ. ทำให้กำไรสุทธิ 9M17 +105% Y-Y อยู่ที่ 50 ลบ. จากทั้งรายได้และอัตรากำไรที่ขยายตัว แนวโน้มยังดีต่อเนื่องใน 4Q17 เพราะกระแสบิทคอยน์ไม่ตก และได้แรงหนุนเพิ่มจากมาตรการช้อปช่วยชาติ เราปรับกำไรปีนี้ขึ้นเป็น 68 ลบ. +343% Y-Y ปีหน้าเป็น 79 ลบ. +16% Y-Y และปรับใช้ราคาเป้าหมายปีหน้าที่ 5.90 บาท แนะนำซื้อ ที่น่าสนใจคือ SYNEX ซึ่งเป็น Supplier หลักให้ IT น่าจะออกมาดีมากเช่นกัน เราคาดกำไร 170 ลบ. +13% Q-Q, +57% Y-Y แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 20 บาท
(+) PLANB กำไรสุทธิ 3Q17 ออกมาตามคาดที่ 150 ลบ. +24% Q-Q, +23% Y-Y เป็นกำไรสูงสุดของปี จากอัตราการใช้สื่อที่เพิ่มเป็น 75% จาก 70% ใน 2Q17 และ 60% ใน 3Q16 แนวโน้มกำไร 4Q17 คาดชะลอตัว Q-Q แต่ยังโตสูง Y-Y จากฐานที่ต่ำ คงกำไรปีนี้ +39% Y-Y และปีหน้า +20% Y-Y แนะนำถือ ราคาเป้าหมายปี 2018 ที่ 7.10 บาท
(+) FTE กำไรสุทธิ 3Q17 ออกมาดีมาก อยู่ที่ 40 ลบ. +47% Q-Q, +92% Y-Y จากยอดขายและงานรับเหมาติดตั้งอุปกรณ์ดับเพลิงที่เพิ่มขึ้น Q-Q และ Y-Y ครั้งแรกในรอบ 3 ไตรมาส ขณะที่ อัตรากำไรขั้นต้นยังทรงตัวในระดับสูงราว 26% เรายังคาดกำไรปีนี้ +45% Y-Y และปีหน้า +19% Y-Y แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปีหน้า 5.00 บาท Upside จากงานก่อสร้างตึกสูงที่ฟื้นตัว และงานวางระบบของ กฟผ. และ กฟน. ที่ต่อเนื่องอีก 500 ลบ./ปี ทั้งนี้ FTE ประกาศจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น XD 20 พ.ย.
(-) กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ปีหน้าเรามองลบมากขึ้น เพราะ KCE ที่เป็นต้นน้ำถูกกระทบจากวัตถุดิบแพงก่อนรายอื่น ถ้าหากขึ้นต่อจนทำให้ PCB แพงขึ้นจะกระทบกับ SVI HANA และ DELTA ตอนนี้เหลือ SVI และ HANA ที่ยังไม่ประกาศงบ 3Q17 เราคาด SVI ยังไม่ดี เพราะยังขาดแคลนวัตถุดิบ IC ส่วน HANA คาดดีสุดในกลุ่ม เพราะ HANA เป็นคนผลิต IC แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 58 บาท
(0) PTTGC กำไรสุทธิ 3Q17 เท่ากับ 1.0 หมื่นลบ. (+51% Q-Q, +60% Y-Y) ส่วนกำไรปกติเท่ากับ 9.7 พันลบ. (+54% Q-Q, +64% Y-Y) แข็งแกร่งตามคาด เนื่องจากปิดซ่อมโรงงานน้อยลงและมาร์จิ้นดีขึ้นทั้งโรงกลั่นและโอเลฟินส์ หักล้างกับมาร์จิ้นอะโรเมติกส์ที่ลดลง ขณะที่ ส่วนแบ่งกำไรเพิ่มขึ้นจากการรับโอนธุรกิจของ PTT เราปรับกำไรปี 2017-2018 ขึ้น 6% และ 5% ตามลำดับ และปรับใช้ราคาเป้าหมายปี 2018 ที่ 89 บาท แนะนำซื้อ
(0) ADB เริ่มซื้อขายวันแรก ราคา IPO 1.69 บาท จำนวน 180 ล้านหุ้น เราประเมินราคาเหมาะสมปี 2018 เท่ากับ 2.30 บาท อิง PE เฉลี่ยของ peer group ที่ 20 เท่า โดยคาดกำไรปีนี้ -78% Y-Y จากราคาเม็ดพลาสติกที่ผันผวน แต่จะกลับมาโตแรง 318% Y-Y อยู่ที่ 69 ลบ. ในปีหน้า จากการรุกตลาดส่งออกกาวและยาแนว ผนวกกับการรุกสินค้ากลุ่ม DIY ที่ใช้ในครัวเรือนซึ่งมีอัตรากำไรดี ส่วนธุรกิจพีวีซีหุ้มสายไฟเริ่มชะลอ แต่ชดเชยได้จากการเริ่มผลิตเม็ดพลาสติกที่ใช้ในเครื่องมือแพทย์ ร่วมกับกลุ่มโชวะที่มีความชำนาญสูง ราคา IPO คิดเป็น PE2018 เท่ากับ 15 เท่า ถือว่ามีส่วนลดเมื่อเทียบกับกลุ่มพอควร (FSS เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น IPO ของ ADB)
(+) IT กำไรสุทธิ 3Q17 ออกมาดีมาก +13% Q-Q, +96% Y-Y อยู่ที่ 23 ลบ. ทำให้กำไรสุทธิ 9M17 +105% Y-Y อยู่ที่ 50 ลบ. จากทั้งรายได้และอัตรากำไรที่ขยายตัว แนวโน้มยังดีต่อเนื่องใน 4Q17 เพราะกระแสบิทคอยน์ไม่ตก และได้แรงหนุนเพิ่มจากมาตรการช้อปช่วยชาติ เราปรับกำไรปีนี้ขึ้นเป็น 68 ลบ. +343% Y-Y ปีหน้าเป็น 79 ลบ. +16% Y-Y และปรับใช้ราคาเป้าหมายปีหน้าที่ 5.90 บาท แนะนำซื้อ ที่น่าสนใจคือ SYNEX ซึ่งเป็น Supplier หลักให้ IT น่าจะออกมาดีมากเช่นกัน เราคาดกำไร 170 ลบ. +13% Q-Q, +57% Y-Y แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 20 บาท
(+) PLANB กำไรสุทธิ 3Q17 ออกมาตามคาดที่ 150 ลบ. +24% Q-Q, +23% Y-Y เป็นกำไรสูงสุดของปี จากอัตราการใช้สื่อที่เพิ่มเป็น 75% จาก 70% ใน 2Q17 และ 60% ใน 3Q16 แนวโน้มกำไร 4Q17 คาดชะลอตัว Q-Q แต่ยังโตสูง Y-Y จากฐานที่ต่ำ คงกำไรปีนี้ +39% Y-Y และปีหน้า +20% Y-Y แนะนำถือ ราคาเป้าหมายปี 2018 ที่ 7.10 บาท
(+) FTE กำไรสุทธิ 3Q17 ออกมาดีมาก อยู่ที่ 40 ลบ. +47% Q-Q, +92% Y-Y จากยอดขายและงานรับเหมาติดตั้งอุปกรณ์ดับเพลิงที่เพิ่มขึ้น Q-Q และ Y-Y ครั้งแรกในรอบ 3 ไตรมาส ขณะที่ อัตรากำไรขั้นต้นยังทรงตัวในระดับสูงราว 26% เรายังคาดกำไรปีนี้ +45% Y-Y และปีหน้า +19% Y-Y แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปีหน้า 5.00 บาท Upside จากงานก่อสร้างตึกสูงที่ฟื้นตัว และงานวางระบบของ กฟผ. และ กฟน. ที่ต่อเนื่องอีก 500 ลบ./ปี ทั้งนี้ FTE ประกาศจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น XD 20 พ.ย.
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
9 พ.ย. - ไทย: ADB เริ่มซื้อขายวันแรก ราคา IPO 1.69 บาท(FSS เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น IPO ของ ADB), ผลประกอบการ 3Q17 ของ BANPU, IVL, ASAP, ERW, MTLS, AP, BEM
10 พ.ย.- ไทย: RSP เริ่มซื้อขายวันแรก ราคา IPO 5.80 บาท
11 พ.ย.- จีน: ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมและยอดค้าปลีก (ต.ค. 17)
(0) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนปิดบวกเล็กน้อยโดยแม้มีแรงหนุนจากการประกาศผลประกอบการที่แข็งแกร่ง แต่นักลงทุนส่วนใหญ่ยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนการเปิดเผยร่างกฏหมายปฏิรูปภาษี
(-) ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดลบโดยปัจจัยกดดันมาจากการเปิดเผยผลประกอบการของกลุ่มธนาคารที่แย่กว่าคาด
(+) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดบวกนำโดยตลาดญี่ปุ่นหลังการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขเงินเฟ้อจีน และ การมาเยือนจีนของทรัมป์
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ปรับตัว sideway ในกรอบแคบๆแถว 33.09-33.10 บาท/ดอลลาร์
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดลบ 0.39 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 56.81 ดอลลาร์/บาร์เรล จากตัวเลขการผลิตน้ำมันของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นเป็น 9.62 ล้านบาร์เรล/วัน และ ตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น 2.2 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่ตลาดคาด อย่างไรก็ตาม การปรับลงถูกจักดจากสต๊อกน้ำมันที่ลดลงมากกว่าที่ตลาดคาดกัน
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดบวก 7.90 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,283.70 ดอลลาร์/ออนซ์ จากความไม่แน่นอนของมาตราการภาษีของสหรัฐ และ ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า
Contact person : Jitra Amornthum
Register : 014530 Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research
OO2163
10 พ.ย.- ไทย: RSP เริ่มซื้อขายวันแรก ราคา IPO 5.80 บาท
11 พ.ย.- จีน: ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมและยอดค้าปลีก (ต.ค. 17)
(0) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนปิดบวกเล็กน้อยโดยแม้มีแรงหนุนจากการประกาศผลประกอบการที่แข็งแกร่ง แต่นักลงทุนส่วนใหญ่ยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนการเปิดเผยร่างกฏหมายปฏิรูปภาษี
(-) ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดลบโดยปัจจัยกดดันมาจากการเปิดเผยผลประกอบการของกลุ่มธนาคารที่แย่กว่าคาด
(+) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดบวกนำโดยตลาดญี่ปุ่นหลังการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขเงินเฟ้อจีน และ การมาเยือนจีนของทรัมป์
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ปรับตัว sideway ในกรอบแคบๆแถว 33.09-33.10 บาท/ดอลลาร์
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดลบ 0.39 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 56.81 ดอลลาร์/บาร์เรล จากตัวเลขการผลิตน้ำมันของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นเป็น 9.62 ล้านบาร์เรล/วัน และ ตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น 2.2 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่ตลาดคาด อย่างไรก็ตาม การปรับลงถูกจักดจากสต๊อกน้ำมันที่ลดลงมากกว่าที่ตลาดคาดกัน
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดบวก 7.90 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,283.70 ดอลลาร์/ออนซ์ จากความไม่แน่นอนของมาตราการภาษีของสหรัฐ และ ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า
Contact person : Jitra Amornthum
Register : 014530 Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research
OO2163