- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 08 November 2017 16:55
- Hits: 1474
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM) SET Index: แนวต้าน 1715 แนวรับ 1708 และ 1700
SET Index: 1712.63 เคลื่อนไหวในกรอบแคบที่บริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 10 และ 20 วันที่ 1710 จุด แต่มูลค่าการซื้อขายไม่สูงมาก ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังเป็นการเคลื่อนไหวในกรอบแคบต่อเนื่อง โดยมีแนวรับในระยะสั้นที่ 1708 จุด ถ้าปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 20 วันลงไป จะมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 1700 จุด ในขณะที่แนวโน้มหลักยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1670 จุดเป็นแนวรับสำคัญของการปรับฐาน และมีแนวต้านสำคัญที่ 1730 จุด
แนวต้าน : 1714 และ 1716
แนวรับ : 1710 และ 1708**
SCC = 474/478, SCB = 149/150, PTT = 420/424, PTTGC = 78.50/79.50, PTTEP = 93.50/94.50
Pylon (PYLON TB; THB 14.10) – ซื้อ
แนวต้าน : 14.80 และ 15.20 / แนวต้านสำคัญ 16.50
แนวรับ : 14.10 และ 14.00
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลังจากเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่งเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยทดสอบระดับ 0 เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ PYLON โดยมีแนวรับที่ 14.10 และ 14.00 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 14.80 และ 15.20 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 13.50 ลงไป
Somboon Advance Technology (SAT TB; THB 20.90) – ซื้อ
แนวต้าน : 21.50 และ 22.00 / แนวต้านสำคัญ 22.50
แนวรับ : 20.90 และ 20.70
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคต่อเนื่อง พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเพื่อสร้างฐานเหนือจุดสูงสุดเดิม ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลงต่อเนื่อง RSI เคลื่อนไหวเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ SAT โดยมีแนวรับที่ 20.90 และ 20.70 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 21.50 และ 22.00 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 20.20 ลงไป
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET…เข้าสู่ฤดูกาลเก็งกำไรงบไตรมาส 3/60
ภาพตลาดเมื่อวานนี้ ยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เพื่อรอดู 1) ผลประกอบการไตรมาส 3/60 2) ผลการประชุม กนง. ในวันนี้ และ 3) ผลการประชุมครม. เกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปีนี้ โดยตลาดปิด +1.01 จุด หรือ +0.06% ปิดที่ 1,712.75 จุด ด้วยปริมาณการซื้อขาย 56,758 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างประเทศกลับมาเป็นผู้ซื้อสุทธิ 258 ล้านบาท เป็นวันแรกในรอบ 9 วันทำการ เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนที่ขายสุทธิไปกว่า 8 พันล้านบาท ในขณะที่กองทุนในประเทศเริ่มกลับมาซื้อสุทธิต่อเนื่อง 3 วันประมาณ 2.4 พันล้านบาท หลังตลาดมีการปรับฐานลง ส่งผลให้นักลงทุนเริ่มมีการทยอยซื้อกองทุนลดหย่อนภาษี (LTF,RMF) มากขึ้นในช่วงนี้ โดยเราประเมินว่าจะมีเม็ดเงินเข้าซื้อกองทุน LTFประมาณ 2 หมื่นล้านบาทและ RMF ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยพยุงตลาดให้ยืนเหนือระดับ 1,700 จุดได้
เมื่อวานนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอมาตรการ "ช็อปช่วยชาติ" เพื่อเป็นการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ สามารถนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าและบริการวงเงินไม่เกิน 15,000 บาท ยกเว้น สุรา ยาสูบ ที่ใช้จ่ายในช่วงวันที่ 11 พ.ย.-3ธ.ค. 60 มาหักลดหย่อนภาษีเงินได้ ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง ประเมินว่ามาตรการดังกล่าวจะทำให้มีภาษีสูญเสียประมาณ 2 พันล้านบาท แต่จะช่วยเพิ่มยอดขายสินค้าหรือการให้บริการแก่ผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งจะส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวม โดยคาดว่าจะส่งผลให้เศรษฐกิจปีนี้ขยายตัวเพิ่มขึ้นราว 0.05% ดังนั้นประเด็นดังกล่าวจะเป็นบวกกับหุ้นที่เกี่ยวข้องอย่างกลุ่มค้าปลีก, ร้านอาหารและการท่องเที่ยวในประเทศอย่าง HMPRO ROBINS GLOBAL BJC COM7 CPALL BEAUTY SPA CENTEL MINT AU M โดยเราให้ top pick เป็นBEAUTY CENTEL MINT ROBINS และ SPA
สำหรับการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันนี้ เราคาดว่า กนง. จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50% ต่อไปและน่าจะยังคงอยู่ในระดับดังกล่าวไปในตลอดปี 2018 เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) คาดว่าจะมีการปรับขึ้นอีก 1 ครั้งในการประชุมเดือนธันวาคมนี้จาก 1.25% เป็น 1.50% และเฟดคาดการณ์ (Dotplot) ว่าจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น 3 ครั้งในปี 2018 โดยหากผลการประชุมของกนง. ในวันนี้ออกมาตามที่ตลาดคาดไว้น่าจะมีแรงซื้อกลับในกลุ่มอสังหาฯ (LPN SIRI SPALI)กลุ่มหุ้นที่ให้อัตราเงินปันผลตอบแทนสูง อย่าง ADVANC INTUCH JASIF LH
เมื่อวานนี้มีบริษัทที่ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/60 ออกมาดีประกอบด้วย AIT PLAT THREL ซึ่งน่าจะมีแรงซื้อเก็งกำไรระยะสั้นเข้ามาในขณะที่บริษัทที่ประกาศงบออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดประกอบด้วย KCE III SCCC ซึ่งคาดว่าจะถูกแรงขายออกมาในวันนี้ วันนี้คาดว่าจะมีงบบริษัท SF PTTGC TVO และ ICHI ประกาศ ส่วนวันที่ 9 พ.ย. คาดว่า BEM GFPT LPN IVL MC MALEE MTLS AAV จะประกาศผลการดำเนินงานออกมา และวันที่ 10 พ.ย. คาดว่าจะมีบริษัท AP QH ERW MAKRO ROBINS MINT CENTEL AMATAV MAJOR STEC SVITICON WHA WORK SAPPE ประกาศงบออกมา โดยเราให้ IVL, MALEE, AP, ROBINS, MINT และ MAJOR เป็น top pick ของเรา ส่วนOpportunity day สัปดาห์นี้จะมี VGI INOX ในวันนี้และวันที่ 10 พ.ย. มี IVL COM7 SELIC MONO
สำหรับการประกาศหุ้นเข้า/ออก จากการคำนวณ SET50 ในงวดเดือนมกราคม-มิถุนายน 2561 ที่ตลาดจะมีการประกาศในกลางเดือนหน้า เราคาดว่า CENTEL SAWAD และ TPIPP จะถูกนำเข้าไปในการคำนวณ SET50 ในขณะที่ KCE PSH และ TPIPL จะเป็นหุ้นที่ถูกถอดออก ดังนั้นเราคาดว่าหุ้นที่ถูกเลือกเข้ามีโอกาสที่จะปรับตัวดีกว่าตลาด (outperform) ในระยะสั้นได้ ส่วนหุ้นที่ถูกถอดออกก็จะปรับตัวแย่กว่าตลาด(underperform) ได้ เราเลือก CENTEL และ TPIPP เป็น top pick ในการเก็งกำไรหุ้นเข้า SET50 โดยราคาเป้าหมาย 52 บาทและ 9.00 บาทตามลำดับ
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ ยังคงเน้นซื้อขายเก็งกำไรสั้นๆ ในหุ้นรายตัวที่มีผลประกอยการออกมาดีหรือมี story การฟื้นตัวของผลกำไรในไตรมาสหน้ารวมไปถึงปีหน้า ในขณะที่ราคาหุ้นยังคงมี upside อยู่พอสมควรจากราคาเป้าหมาย โดยหุ้นที่น่าสนใจในแต่ละกลุ่มประกอบด้วย กลุ่มธนาคาร (TISCO), กลุ่มพลังงาน (PTTEP) กลุ่มปิโตรเคมี (IVL IRPC) กลุ่ม ICT (DTAC ADVANC) กลุ่มโรงไฟฟ้า (EA TPIPP) กลุ่มโรงพยาบาล (BCH) กลุ่มอาหาร (CPF BR) กลุ่มค้าปลีก (BJC CPALL) กลุ่มอสังหา (ANAN LH) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง (TASCO) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง (STEC) และกลุ่มยานยนต์ (SAT) วันนี้คาดตลาดจะเคลื่อนไหวแบบ sideway แนะนำ ซื้อ AIT DTAC TASCO TISCO เราให้แนวรับที่1708-1700 จุด และแนวต้านที่ 1715-1723 จุด
ภาพตลาดเมื่อวานนี้ ยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เพื่อรอดู 1) ผลประกอบการไตรมาส 3/60 2) ผลการประชุม กนง. ในวันนี้ และ 3) ผลการประชุมครม. เกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปีนี้ โดยตลาดปิด +1.01 จุด หรือ +0.06% ปิดที่ 1,712.75 จุด ด้วยปริมาณการซื้อขาย 56,758 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างประเทศกลับมาเป็นผู้ซื้อสุทธิ 258 ล้านบาท เป็นวันแรกในรอบ 9 วันทำการ เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนที่ขายสุทธิไปกว่า 8 พันล้านบาท ในขณะที่กองทุนในประเทศเริ่มกลับมาซื้อสุทธิต่อเนื่อง 3 วันประมาณ 2.4 พันล้านบาท หลังตลาดมีการปรับฐานลง ส่งผลให้นักลงทุนเริ่มมีการทยอยซื้อกองทุนลดหย่อนภาษี (LTF,RMF) มากขึ้นในช่วงนี้ โดยเราประเมินว่าจะมีเม็ดเงินเข้าซื้อกองทุน LTFประมาณ 2 หมื่นล้านบาทและ RMF ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยพยุงตลาดให้ยืนเหนือระดับ 1,700 จุดได้
เมื่อวานนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอมาตรการ "ช็อปช่วยชาติ" เพื่อเป็นการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ สามารถนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าและบริการวงเงินไม่เกิน 15,000 บาท ยกเว้น สุรา ยาสูบ ที่ใช้จ่ายในช่วงวันที่ 11 พ.ย.-3ธ.ค. 60 มาหักลดหย่อนภาษีเงินได้ ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง ประเมินว่ามาตรการดังกล่าวจะทำให้มีภาษีสูญเสียประมาณ 2 พันล้านบาท แต่จะช่วยเพิ่มยอดขายสินค้าหรือการให้บริการแก่ผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งจะส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวม โดยคาดว่าจะส่งผลให้เศรษฐกิจปีนี้ขยายตัวเพิ่มขึ้นราว 0.05% ดังนั้นประเด็นดังกล่าวจะเป็นบวกกับหุ้นที่เกี่ยวข้องอย่างกลุ่มค้าปลีก, ร้านอาหารและการท่องเที่ยวในประเทศอย่าง HMPRO ROBINS GLOBAL BJC COM7 CPALL BEAUTY SPA CENTEL MINT AU M โดยเราให้ top pick เป็นBEAUTY CENTEL MINT ROBINS และ SPA
สำหรับการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันนี้ เราคาดว่า กนง. จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50% ต่อไปและน่าจะยังคงอยู่ในระดับดังกล่าวไปในตลอดปี 2018 เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) คาดว่าจะมีการปรับขึ้นอีก 1 ครั้งในการประชุมเดือนธันวาคมนี้จาก 1.25% เป็น 1.50% และเฟดคาดการณ์ (Dotplot) ว่าจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น 3 ครั้งในปี 2018 โดยหากผลการประชุมของกนง. ในวันนี้ออกมาตามที่ตลาดคาดไว้น่าจะมีแรงซื้อกลับในกลุ่มอสังหาฯ (LPN SIRI SPALI)กลุ่มหุ้นที่ให้อัตราเงินปันผลตอบแทนสูง อย่าง ADVANC INTUCH JASIF LH
เมื่อวานนี้มีบริษัทที่ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/60 ออกมาดีประกอบด้วย AIT PLAT THREL ซึ่งน่าจะมีแรงซื้อเก็งกำไรระยะสั้นเข้ามาในขณะที่บริษัทที่ประกาศงบออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดประกอบด้วย KCE III SCCC ซึ่งคาดว่าจะถูกแรงขายออกมาในวันนี้ วันนี้คาดว่าจะมีงบบริษัท SF PTTGC TVO และ ICHI ประกาศ ส่วนวันที่ 9 พ.ย. คาดว่า BEM GFPT LPN IVL MC MALEE MTLS AAV จะประกาศผลการดำเนินงานออกมา และวันที่ 10 พ.ย. คาดว่าจะมีบริษัท AP QH ERW MAKRO ROBINS MINT CENTEL AMATAV MAJOR STEC SVITICON WHA WORK SAPPE ประกาศงบออกมา โดยเราให้ IVL, MALEE, AP, ROBINS, MINT และ MAJOR เป็น top pick ของเรา ส่วนOpportunity day สัปดาห์นี้จะมี VGI INOX ในวันนี้และวันที่ 10 พ.ย. มี IVL COM7 SELIC MONO
สำหรับการประกาศหุ้นเข้า/ออก จากการคำนวณ SET50 ในงวดเดือนมกราคม-มิถุนายน 2561 ที่ตลาดจะมีการประกาศในกลางเดือนหน้า เราคาดว่า CENTEL SAWAD และ TPIPP จะถูกนำเข้าไปในการคำนวณ SET50 ในขณะที่ KCE PSH และ TPIPL จะเป็นหุ้นที่ถูกถอดออก ดังนั้นเราคาดว่าหุ้นที่ถูกเลือกเข้ามีโอกาสที่จะปรับตัวดีกว่าตลาด (outperform) ในระยะสั้นได้ ส่วนหุ้นที่ถูกถอดออกก็จะปรับตัวแย่กว่าตลาด(underperform) ได้ เราเลือก CENTEL และ TPIPP เป็น top pick ในการเก็งกำไรหุ้นเข้า SET50 โดยราคาเป้าหมาย 52 บาทและ 9.00 บาทตามลำดับ
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ ยังคงเน้นซื้อขายเก็งกำไรสั้นๆ ในหุ้นรายตัวที่มีผลประกอยการออกมาดีหรือมี story การฟื้นตัวของผลกำไรในไตรมาสหน้ารวมไปถึงปีหน้า ในขณะที่ราคาหุ้นยังคงมี upside อยู่พอสมควรจากราคาเป้าหมาย โดยหุ้นที่น่าสนใจในแต่ละกลุ่มประกอบด้วย กลุ่มธนาคาร (TISCO), กลุ่มพลังงาน (PTTEP) กลุ่มปิโตรเคมี (IVL IRPC) กลุ่ม ICT (DTAC ADVANC) กลุ่มโรงไฟฟ้า (EA TPIPP) กลุ่มโรงพยาบาล (BCH) กลุ่มอาหาร (CPF BR) กลุ่มค้าปลีก (BJC CPALL) กลุ่มอสังหา (ANAN LH) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง (TASCO) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง (STEC) และกลุ่มยานยนต์ (SAT) วันนี้คาดตลาดจะเคลื่อนไหวแบบ sideway แนะนำ ซื้อ AIT DTAC TASCO TISCO เราให้แนวรับที่1708-1700 จุด และแนวต้านที่ 1715-1723 จุด
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,712.63 จุด ลดลง 0.12 จุด (-0.01%) มูลค่าการซื้อขาย27,114.50 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้แกว่งแคบตามตลาดภูมิภาคที่แกว่งบวก-ลบ ขณะที่นักลงทุนกังวลแผนปฏิรูปภาษีสหรัฐฯ อาจล่าช้าออกไป ติดตามการมาเยือนเอเชียของ"ทรัมป์" และสถานการณ์การเมืองในซาอุดิอาระเบีย บ้านเรามีแรงขายในกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันปรับลง ติดตามการประชุมกนง. (บ่ายนี้)
CPN รายงานผลประกอบ 3Q17 มีกำไรสุทธิ 5,983 ล้านบาท (+155% YoY, +141%QoQ) หรือ EPS 1.33 สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ 106% โดย Bloomberg consensus ให้ราคาเป้าหมาย 81.51 บาท (Buy/Hold/Sell : 18/8/1)
PTTGC รายงานผลประกอบ 3Q17 มีกำไรสุทธิ 9,955 ล้านบาท (+60% YoY, +51%QoQ) หรือ EPS 2.23 สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ 4% โดย Bloomberg consensus ให้ราคาเป้าหมาย 86.03 บาท (Buy/Hold/Sell : 15/12/1)
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,712.63 จุด ลดลง 0.12 จุด (-0.01%) มูลค่าการซื้อขาย27,114.50 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้แกว่งแคบตามตลาดภูมิภาคที่แกว่งบวก-ลบ ขณะที่นักลงทุนกังวลแผนปฏิรูปภาษีสหรัฐฯ อาจล่าช้าออกไป ติดตามการมาเยือนเอเชียของ"ทรัมป์" และสถานการณ์การเมืองในซาอุดิอาระเบีย บ้านเรามีแรงขายในกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันปรับลง ติดตามการประชุมกนง. (บ่ายนี้)
CPN รายงานผลประกอบ 3Q17 มีกำไรสุทธิ 5,983 ล้านบาท (+155% YoY, +141%QoQ) หรือ EPS 1.33 สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ 106% โดย Bloomberg consensus ให้ราคาเป้าหมาย 81.51 บาท (Buy/Hold/Sell : 18/8/1)
PTTGC รายงานผลประกอบ 3Q17 มีกำไรสุทธิ 9,955 ล้านบาท (+60% YoY, +51%QoQ) หรือ EPS 2.23 สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ 4% โดย Bloomberg consensus ให้ราคาเป้าหมาย 86.03 บาท (Buy/Hold/Sell : 15/12/1)
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดช่วงบ่าย แกว่งแคบ ภาพระยะสั้น เรามองว่าน่าจะยังต้องรอปัจจัยใหม่ๆเข้ามาหนุนตลาด โดยเรายังคงมองหลักๆในเรื่องราคาน้ำมัน หากยังคงปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่องก็จะช่วยหนุน SET Index ให้ดีดตัวขึ้นต่อได้ และยังคงมีลุ้นกลับไปที่ระดับ 1730จุด แต่หากไม่เป็นไปในทิศทางดังกล่าว ตลาดอาจจะแกว่งแคบๆ หรือสลับกลับไปเน้นเก็งกำไรหุ้นขนาดกลางขนาดเล็กที่ผลการดำเนินงานออกมาดีกว่าที่คาด เรามองแนวต้านสำคัญที่ 1720 จุด แนวรับ 1710 จุด โดยเชื่อว่ากลุ่มพลังงานน่าจะเป็นตัวผลักดันตลาดในรอบนี้ แนะนำ PTTEP PTT PTTGC
แนวโน้มตลาดช่วงบ่าย แกว่งแคบ ภาพระยะสั้น เรามองว่าน่าจะยังต้องรอปัจจัยใหม่ๆเข้ามาหนุนตลาด โดยเรายังคงมองหลักๆในเรื่องราคาน้ำมัน หากยังคงปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่องก็จะช่วยหนุน SET Index ให้ดีดตัวขึ้นต่อได้ และยังคงมีลุ้นกลับไปที่ระดับ 1730จุด แต่หากไม่เป็นไปในทิศทางดังกล่าว ตลาดอาจจะแกว่งแคบๆ หรือสลับกลับไปเน้นเก็งกำไรหุ้นขนาดกลางขนาดเล็กที่ผลการดำเนินงานออกมาดีกว่าที่คาด เรามองแนวต้านสำคัญที่ 1720 จุด แนวรับ 1710 จุด โดยเชื่อว่ากลุ่มพลังงานน่าจะเป็นตัวผลักดันตลาดในรอบนี้ แนะนำ PTTEP PTT PTTGC
Technical Pick (PM) ...
Pylon (PYLON TB; THB 14.10) – ซื้อ
Somboon Advance Technology (SAT TB; THB 20.90) – ซื้อ
Cash Balance Preview : คาดหลักทรัพย์ที่มีโอกาสจะติด Cash Balance ในสัปดาห์หน้า : AMANAH*, RPC* (กรณีหุ้นแม่ติด ฯ Warrant ทุกตัวของหุ้นนั้นจะติดตามด้วย)
Pylon (PYLON TB; THB 14.10) – ซื้อ
Somboon Advance Technology (SAT TB; THB 20.90) – ซื้อ
Cash Balance Preview : คาดหลักทรัพย์ที่มีโอกาสจะติด Cash Balance ในสัปดาห์หน้า : AMANAH*, RPC* (กรณีหุ้นแม่ติด ฯ Warrant ทุกตัวของหุ้นนั้นจะติดตามด้วย)
Analysts : Kitichan Sirisukarcha +66(2) 761 9232 – [email protected]
Teerawut Kanniphakul +66(2) 761 9233 – [email protected]
Line ID : @CIMBS Youtube : CIMBS
Teerawut Kanniphakul +66(2) 761 9233 – [email protected]
Line ID : @CIMBS Youtube : CIMBS
OO2105
