- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 06 November 2017 17:14
- Hits: 2211
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
“แกว่งลงแบบมีรีบาวด์เป็นระยะ”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : SET เมื่อวันศุกร์ปิดทรงตัวที่ 1701.47 การซื้อ/ขายกระจายตัว สิ่งที่ควรระวังคือ แรงขาย Sell on fact หลังงบ 3Q60 ออกมา โดยเฉพาะหุ้นที่ราคาขึ้นไปรอก่อนหน้าและกำไรออกมาตามคาดหรือแย่กว่าคาด ต่างชาติยังขายสุทธิต่อ 2.3 พันลบ.ขณะที่สถาบันในประเทศ & รายย่อยซื้อสุทธิ
สำหรับวันนี้ : ปัจจัยภายนอก - การประกาศชื่อนายพาวเวลเป็นประธานเฟดคนใหม่ไม่ได้สร้างความประหลาดใจ เพราะมีกระแสข่าวมาก่อนหน้าแล้ว เราคาดว่านโยบายการเงินเฟดจะไม่เปลี่ยนจากยุคของเยลเลนอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนต.ค. ของสหรัฐที่ออกมา 2.61 แสนตำแหน่ง ต่ำกว่าคาดที่ 3 แสนตำแหน่งก็ไม่กระทบเพราะยังเป็นตัวเลขที่ดี รวมทั้งดัชนีภาคบริการเดือนต.ค.60ของสหรัฐทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 60.1 ทำให้ตลาดเชื่อมั่นว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม 13 ธ.ค.นี้ 25bps เป็น 1.50%
ส่วนในประเทศ ลุ้นว่าจะมีมาตรการชอปช่วยชาติ 2 เดือนสุดท้ายปีนี้หรือไม่ ถ้ามีก็จะเป็นบวกกับกลุ่มค้าปลีก ท่องเที่ยว โรงแรม สนามบิน & สายการบิน หุ้นเด่น คือ CPALL, COM7, HMPRO, ERW, AOT
สำหรับหุ้น Update มี 1) KKP ที่ไป NDR ที่ฮ่องกงกับ DBSV เมื่อ 2-3 พ.ย. ซึ่งธนาคารจัดโครงสร้างธุรกิจและกระบวนการ & โมเดลธุรกิจเรียบร้อยและพร้อมจะเติบโตไปบนความสมดุลระหว่างการทำกำไรและบริหารความเสี่ยง คาดจะจ่ายปันผลสูงในปี 60-61 Yiled 6-7% ต่อปี และมี ROE เพิ่มขึ้นเป็นลำดับ แนะนำซื้อ ให้ TP 78 บาท (Upside 4%) และ 2) CHG ที่คาดว่ากำไร 3Q60 จะโต 27%YoY, 47%QoQ เป็น 174 ลบ. จากรายได้และมาร์จิ้นเพิ่ม (ช่วง 3Q ไข้หวัดระบาด&ได้เงินจากประกันสังคมเพิ่ม) แนะซื้อ ให้ TP 2.90 บาท (Upside 7%)
ปัจจัยที่ติดตาม คือ 1) การเดินทางเยือนเอเชียของทรัมป์ จับตาความสัมพันธ์สหรัฐ-จีน รวมถึงประเด็นเรื่องเกาหลีเหนือ, 2) การประชุม กนง. 8 พ.ย. 3) รายงานกำไรบริษัทจดทะเบียน, 4) ดัชนี CPI ต.ค.ของจีน, 5) ดัชนี PMI ต.ค.ของยูโรโซนและประเทศชั้นนำต่างๆ
หุ้นแนะนำรายสัปดาห์ (1-7 พ.ย.) คือ AOT, SPALI ส่วน Top Picks ใน Wealth Perspective เดือนพ.ย. คือ AMATA, ERW, DIF, SPALI, TMB และ Dark Horse เป็น GOLD
ส่วนหุ้นเทคนิคดีมีโอกาสทำ New High ที่เข้ามาใหม่คือ SUSCO, WHAUP, TNP, AH, CHG, IRPC ส่วนหุ้นแนะนำไปแล้วและให้ถือต่อ เป็น SENA, TMB, RS, CKP, BCH, TIP, BBL, AP, JMART, BEM, PSH, QH, SEAFCO ส่วนหุ้นที่แนะนำไปแล้วและให้หาจังหวะขายทำกำไร ได้แก่ SAWAD, M, MALEE, TCJ, VIH, ICHI หุ้นที่หลุด List คือ TCL
“แกว่งลงแบบมีรีบาวด์เป็นระยะ”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : SET เมื่อวันศุกร์ปิดทรงตัวที่ 1701.47 การซื้อ/ขายกระจายตัว สิ่งที่ควรระวังคือ แรงขาย Sell on fact หลังงบ 3Q60 ออกมา โดยเฉพาะหุ้นที่ราคาขึ้นไปรอก่อนหน้าและกำไรออกมาตามคาดหรือแย่กว่าคาด ต่างชาติยังขายสุทธิต่อ 2.3 พันลบ.ขณะที่สถาบันในประเทศ & รายย่อยซื้อสุทธิ
สำหรับวันนี้ : ปัจจัยภายนอก - การประกาศชื่อนายพาวเวลเป็นประธานเฟดคนใหม่ไม่ได้สร้างความประหลาดใจ เพราะมีกระแสข่าวมาก่อนหน้าแล้ว เราคาดว่านโยบายการเงินเฟดจะไม่เปลี่ยนจากยุคของเยลเลนอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนต.ค. ของสหรัฐที่ออกมา 2.61 แสนตำแหน่ง ต่ำกว่าคาดที่ 3 แสนตำแหน่งก็ไม่กระทบเพราะยังเป็นตัวเลขที่ดี รวมทั้งดัชนีภาคบริการเดือนต.ค.60ของสหรัฐทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 60.1 ทำให้ตลาดเชื่อมั่นว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม 13 ธ.ค.นี้ 25bps เป็น 1.50%
ส่วนในประเทศ ลุ้นว่าจะมีมาตรการชอปช่วยชาติ 2 เดือนสุดท้ายปีนี้หรือไม่ ถ้ามีก็จะเป็นบวกกับกลุ่มค้าปลีก ท่องเที่ยว โรงแรม สนามบิน & สายการบิน หุ้นเด่น คือ CPALL, COM7, HMPRO, ERW, AOT
สำหรับหุ้น Update มี 1) KKP ที่ไป NDR ที่ฮ่องกงกับ DBSV เมื่อ 2-3 พ.ย. ซึ่งธนาคารจัดโครงสร้างธุรกิจและกระบวนการ & โมเดลธุรกิจเรียบร้อยและพร้อมจะเติบโตไปบนความสมดุลระหว่างการทำกำไรและบริหารความเสี่ยง คาดจะจ่ายปันผลสูงในปี 60-61 Yiled 6-7% ต่อปี และมี ROE เพิ่มขึ้นเป็นลำดับ แนะนำซื้อ ให้ TP 78 บาท (Upside 4%) และ 2) CHG ที่คาดว่ากำไร 3Q60 จะโต 27%YoY, 47%QoQ เป็น 174 ลบ. จากรายได้และมาร์จิ้นเพิ่ม (ช่วง 3Q ไข้หวัดระบาด&ได้เงินจากประกันสังคมเพิ่ม) แนะซื้อ ให้ TP 2.90 บาท (Upside 7%)
ปัจจัยที่ติดตาม คือ 1) การเดินทางเยือนเอเชียของทรัมป์ จับตาความสัมพันธ์สหรัฐ-จีน รวมถึงประเด็นเรื่องเกาหลีเหนือ, 2) การประชุม กนง. 8 พ.ย. 3) รายงานกำไรบริษัทจดทะเบียน, 4) ดัชนี CPI ต.ค.ของจีน, 5) ดัชนี PMI ต.ค.ของยูโรโซนและประเทศชั้นนำต่างๆ
หุ้นแนะนำรายสัปดาห์ (1-7 พ.ย.) คือ AOT, SPALI ส่วน Top Picks ใน Wealth Perspective เดือนพ.ย. คือ AMATA, ERW, DIF, SPALI, TMB และ Dark Horse เป็น GOLD
ส่วนหุ้นเทคนิคดีมีโอกาสทำ New High ที่เข้ามาใหม่คือ SUSCO, WHAUP, TNP, AH, CHG, IRPC ส่วนหุ้นแนะนำไปแล้วและให้ถือต่อ เป็น SENA, TMB, RS, CKP, BCH, TIP, BBL, AP, JMART, BEM, PSH, QH, SEAFCO ส่วนหุ้นที่แนะนำไปแล้วและให้หาจังหวะขายทำกำไร ได้แก่ SAWAD, M, MALEE, TCJ, VIH, ICHI หุ้นที่หลุด List คือ TCL
ปัจจัยต่างประเทศ & ในประเทศที่สำคัญ
ปัจจัยต่างประเทศ ตลาดหุ้น ตลาดน้ำมันและทองคำ
+ สหรัฐ : ทรัมป์เสนอชือนายพาวเวลเป็นประธานเฟดคนใหม่...เป็นไปตามกระแสข่าวในตลาด
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ได้ประกาศเสนอชื่อนายเจอโรม พาวเวล ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ ซึ่งเป็นไปตามกระแสข่าว
# เราคาดว่านโยบายการเงินของเฟดจะไม่เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ เพราะนายพาวเวลเป็นเจ้าหน้าที่เฟดสายพิราบสังกัดพรรครีพับลิกันที่สนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามแนวทางของนางเยลเลน ขณะเดียวกันก็เปิดกว้างสำหรับมาตรการลดกฎระเบียบในภาคการเงินซึ่งคณะทำงานทรัมป์พยายามผลักดันมาโดยตลอด
+ สหรัฐ : การจ้างงานนอกภาคเกษตรต.ค.เพิ่ม 2.61 แสนราย ดัชนีภาคบริการ ISM เพิ่มขึ้นต่อในเดือนต.ค.
# ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 261,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค.60 ต่ำกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 310,000 ตำแหน่ง แต่ก็บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐยังคงมีการขยายตัว ส่วนอัตราการว่างงานสหรัฐลดลงเป็น 4.1%
# ผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่าดัชนีภาคบริการ ISM เพิ่มเป็น 60.1 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 58.5
# คำสั่งซื้อภาคโรงงานสหรัฐ +1.4%MoM ในเดือนก.ย. ส่วนคำสั่งซื้อพื้นฐาน (ไม่รวมอาวุธและเครื่องบิน) +1.7%MoM
+ ภาวะตลาดหุ้นสหรัฐ : ดัชนีปรับขึ้นต่อ
# ดัชนี DJIA ปิดที่ 23,539.19 จุด เพิ่มขึ้น 22.93 จุด หรือ +0.10% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,764.44 จุด เพิ่มขึ้น 49.49 จุด หรือ +0.74% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,587.84 จุด เพิ่มขึ้น 7.99 จุด หรือ +0.31%
# การปรับขึ้นของหุ้นแอปเปิลหนุนตลาด หลังรายงานกำไรและรายได้ในช่วงเดือนก.ค.-ก.ย.60 ดีกว่าคาด โดยไตรมาสนี้จำหน่าย iPhone ได้ 46.7 ล้านเครื่อง (รวมง iPhone 8 และ iPhone 8 Plus ซึ่งเริ่มวางจำหน่าย 22 ก.ย. แต่ไม่รวม iPhoneX ซึ่งเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 3 พ.ย.60)
+ ตลาดน้ำมันดิบ : ราคาปรับขึ้นต่อ
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. +1.10 ดอลลาร์ หรือ +2% ปิดที่ 55.64 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วน BRENT ส่งมอบเดือนม.ค. +1.45 ดอลลาร์ หรือ +2.4% ปิดที่ 62.07 ดอลลาร์/บาร์เรล
# เบเกอร์ ฮิวจ์ รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐลด 8 แท่น สู่ระดับ 729 แท่นในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 3 พ.ย.60
# ตลาดยังคงคาดการณ์กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันในการประชุมที่กรุงเวียนนาในวันที่ 30 พ.ย. โดยล่าสุดซาอุฯกับรัสเซียประสานเสียงสนับสนุนให้ขยายไปถึงสิ้นปี 61
- ตลาดทองคำ : ราคาอ่อนลง
# สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. -8.9 ดอลลาร์ หรือ -0.7% ปิดที่ระดับ 1269.2 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาแข็งแกร่ง หนุนความเชื่อว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม 13 ธ.ค.นี้
ปัจจัยในประเทศ และข่าวเด่น
•/+ กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างสรุปมาตรการชอปช่วยชาติ 2 เดือนสุดท้ายปีนี้
# นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.การคลัง เปิดเผยว่ากระทรวงการคลังอยู่ระหว่างสรุปมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงที่เหลือ 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ เพื่อให้เศรษฐกิจไทยโตได้เต็มศักยภาพที่ 4-5% … ถ้ามีมาตรการกระตุ้นออกมาจริงก็จะเป็นบวกกับกลุ่มค้าปลีก ท่องเที่ยว โรงแรม สนามบิน & สายการบิน หุ้นเด่น คือ CPALL, COM7, HMPRO, ERW, AOT
•/- กลุ่มน้ำตาล : ลอยตัวราคาน้ำตาล 1 ธ.ค.นี้...ราคาขายปลีกอาจร่วงลง 2-3 บาท/กก.
# แหล่งข่าวจากคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) เปิดเผยว่า การประชุม กอน.เมื่อวันที่ 31 ต.ค.60 เห็นชอบหลักการแนวทางการบริหารจัดการอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายและร่างระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องประมาณ 5 ประเด็น เพื่อรองรับการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายให้ทันกำหนด กับการลอยตัวราคาน้ำตาลทรายวันที่ 1 ธ.ค.60 โดยการคำนวณราคาน้ำตาลทรายหน้าโรงงานจะอ้างอิงราคาน้ำตาลทรายขาวตลาดลอนดอนนัมเบอร์ไฟว์บวกราคาไทยพรีเมียมซึ่งพิจารณาราคาเฉลี่ยเป็นรายเดือน ในเบื้องต้นคาดการลอยตัวจะส่งผลให้ราคาขายปลีกลดลง 2-3 บาท/กก.
• กลุ่มสายการบิน : กพท.เตรียมเสนอ FAA แก้ไขการบินม.ค.61 หวังเสร็จทันรองรับตารางบินฤดูหนาว
# นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการแก้ไขปัญหาข้อบกพร่อง 40 ข้อเพื่อปรับอันดับของสายการบินไทยให้กลับมาอยู่ในระดับปกติ หลังถูกสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (FAA) จำกัดการบินของไทย โดยเตรียมเชิญเจ้าหน้าที่ FAA มาประเมินเบื้องต้น (Pre-Audit) ในเดือน ม.ค. 2561 หลังจากนั้นจะเชิญมาทดสอบของจริงในเดือน มี.ค.ต่อไป
ปัจจัยต่างประเทศ ตลาดหุ้น ตลาดน้ำมันและทองคำ
+ สหรัฐ : ทรัมป์เสนอชือนายพาวเวลเป็นประธานเฟดคนใหม่...เป็นไปตามกระแสข่าวในตลาด
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ได้ประกาศเสนอชื่อนายเจอโรม พาวเวล ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ ซึ่งเป็นไปตามกระแสข่าว
# เราคาดว่านโยบายการเงินของเฟดจะไม่เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ เพราะนายพาวเวลเป็นเจ้าหน้าที่เฟดสายพิราบสังกัดพรรครีพับลิกันที่สนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามแนวทางของนางเยลเลน ขณะเดียวกันก็เปิดกว้างสำหรับมาตรการลดกฎระเบียบในภาคการเงินซึ่งคณะทำงานทรัมป์พยายามผลักดันมาโดยตลอด
+ สหรัฐ : การจ้างงานนอกภาคเกษตรต.ค.เพิ่ม 2.61 แสนราย ดัชนีภาคบริการ ISM เพิ่มขึ้นต่อในเดือนต.ค.
# ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 261,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค.60 ต่ำกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 310,000 ตำแหน่ง แต่ก็บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐยังคงมีการขยายตัว ส่วนอัตราการว่างงานสหรัฐลดลงเป็น 4.1%
# ผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่าดัชนีภาคบริการ ISM เพิ่มเป็น 60.1 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 58.5
# คำสั่งซื้อภาคโรงงานสหรัฐ +1.4%MoM ในเดือนก.ย. ส่วนคำสั่งซื้อพื้นฐาน (ไม่รวมอาวุธและเครื่องบิน) +1.7%MoM
+ ภาวะตลาดหุ้นสหรัฐ : ดัชนีปรับขึ้นต่อ
# ดัชนี DJIA ปิดที่ 23,539.19 จุด เพิ่มขึ้น 22.93 จุด หรือ +0.10% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,764.44 จุด เพิ่มขึ้น 49.49 จุด หรือ +0.74% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,587.84 จุด เพิ่มขึ้น 7.99 จุด หรือ +0.31%
# การปรับขึ้นของหุ้นแอปเปิลหนุนตลาด หลังรายงานกำไรและรายได้ในช่วงเดือนก.ค.-ก.ย.60 ดีกว่าคาด โดยไตรมาสนี้จำหน่าย iPhone ได้ 46.7 ล้านเครื่อง (รวมง iPhone 8 และ iPhone 8 Plus ซึ่งเริ่มวางจำหน่าย 22 ก.ย. แต่ไม่รวม iPhoneX ซึ่งเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 3 พ.ย.60)
+ ตลาดน้ำมันดิบ : ราคาปรับขึ้นต่อ
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. +1.10 ดอลลาร์ หรือ +2% ปิดที่ 55.64 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วน BRENT ส่งมอบเดือนม.ค. +1.45 ดอลลาร์ หรือ +2.4% ปิดที่ 62.07 ดอลลาร์/บาร์เรล
# เบเกอร์ ฮิวจ์ รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐลด 8 แท่น สู่ระดับ 729 แท่นในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 3 พ.ย.60
# ตลาดยังคงคาดการณ์กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันในการประชุมที่กรุงเวียนนาในวันที่ 30 พ.ย. โดยล่าสุดซาอุฯกับรัสเซียประสานเสียงสนับสนุนให้ขยายไปถึงสิ้นปี 61
- ตลาดทองคำ : ราคาอ่อนลง
# สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. -8.9 ดอลลาร์ หรือ -0.7% ปิดที่ระดับ 1269.2 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาแข็งแกร่ง หนุนความเชื่อว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม 13 ธ.ค.นี้
ปัจจัยในประเทศ และข่าวเด่น
•/+ กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างสรุปมาตรการชอปช่วยชาติ 2 เดือนสุดท้ายปีนี้
# นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.การคลัง เปิดเผยว่ากระทรวงการคลังอยู่ระหว่างสรุปมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงที่เหลือ 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ เพื่อให้เศรษฐกิจไทยโตได้เต็มศักยภาพที่ 4-5% … ถ้ามีมาตรการกระตุ้นออกมาจริงก็จะเป็นบวกกับกลุ่มค้าปลีก ท่องเที่ยว โรงแรม สนามบิน & สายการบิน หุ้นเด่น คือ CPALL, COM7, HMPRO, ERW, AOT
•/- กลุ่มน้ำตาล : ลอยตัวราคาน้ำตาล 1 ธ.ค.นี้...ราคาขายปลีกอาจร่วงลง 2-3 บาท/กก.
# แหล่งข่าวจากคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) เปิดเผยว่า การประชุม กอน.เมื่อวันที่ 31 ต.ค.60 เห็นชอบหลักการแนวทางการบริหารจัดการอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายและร่างระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องประมาณ 5 ประเด็น เพื่อรองรับการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายให้ทันกำหนด กับการลอยตัวราคาน้ำตาลทรายวันที่ 1 ธ.ค.60 โดยการคำนวณราคาน้ำตาลทรายหน้าโรงงานจะอ้างอิงราคาน้ำตาลทรายขาวตลาดลอนดอนนัมเบอร์ไฟว์บวกราคาไทยพรีเมียมซึ่งพิจารณาราคาเฉลี่ยเป็นรายเดือน ในเบื้องต้นคาดการลอยตัวจะส่งผลให้ราคาขายปลีกลดลง 2-3 บาท/กก.
• กลุ่มสายการบิน : กพท.เตรียมเสนอ FAA แก้ไขการบินม.ค.61 หวังเสร็จทันรองรับตารางบินฤดูหนาว
# นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการแก้ไขปัญหาข้อบกพร่อง 40 ข้อเพื่อปรับอันดับของสายการบินไทยให้กลับมาอยู่ในระดับปกติ หลังถูกสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (FAA) จำกัดการบินของไทย โดยเตรียมเชิญเจ้าหน้าที่ FAA มาประเมินเบื้องต้น (Pre-Audit) ในเดือน ม.ค. 2561 หลังจากนั้นจะเชิญมาทดสอบของจริงในเดือน มี.ค.ต่อไป
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]
OO2005