- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 27 August 2014 17:21
- Hits: 1839
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
“ยืนเหนือ 1550 ได้...ยังเลือกซื้อ/ถือต่อ”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ภาพตลาดวันก่อน : พักเล็กๆ ดัชนีอ่อนตัวลงเล็กน้อย 2.96 จุด มาปิดที่ 1560.17 โดยนักลงทุนอยู่ในช่วงรอข่าวใหม่ และชะลอการซื้อขายหุ้นขนาดเล็กหลังจากที่ตลาดหลักทรัพย์ฯใช้นโยบายเข้มงวดกับหุ้นที่ราคาปรับขึ้นอย่างหวือหวามากขึ้น นักลงทุนสถาบันในประเทศและต่างชาติซื้อสุทธิ แต่ไม่มาก ส่วนพอร์ตบล.และรายย่อยขายสุทธิ
ปัจจัยและกลยุทธ์ : เลือกซื้อ ในช่วงนี้การลงทุนยังเป็นการเลือกซื้อรายบริษัทที่มีข่าวบวก & แนวโน้มผลประกอบการแข็งแกร่งหนุน ซึ่งเรามองว่า Themeขณะนี้จะเป็นเรื่องของการขยายการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ การเข้าซื้อกิจการ (M&A) เพื่อการเป็นผู้นำด้านการตลาด เกิด Synergies ทางธุรกิจ และผลประกอบการขยายตัวได้อย่างรวดเร็วจาก Inorganic growth ซึ่งหุ้นที่เราหยิบยกมาแนะนำในวันนี้เป็น WHA (อยู่ใน DBS Coverage โดยแนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 40.15 บาท) ซึ่งมองว่าธุรกิจคลังสินค้ามีแนวโน้มเติบโตดีและการเปิด AEC ช่วยหนุนธุรกิจในระยะยาว นอกจากนั้นบริษัทยังสนใจลงทุนในพลังงานทดแทน คือ โซลาร์รูฟท็อป รวมถึงจะขายสินทรัพย์เข้า REIT ใน 4Q57 นี้ด้วย และ ICHI (เป็น Equity Explorer & Not Rated แต่เรามีมุมมองที่เป็นบวกกับบริษัทในระยะยาว) ซึ่งผู้บริหารมีจุดแข็งเรื่องการทำการตลาด และล่าสุดจับมือกับพันธมิตรทำธุรกิจเครื่องดื่ม
และชาเขียวพร้อมดื่มในอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีตลาดและกำลังซื้อกว้างขวางมาก โดยมีจำนวนประชากรสูงกว่า 280 ล้านคน (กว่า 3 เท่าของประเทศไทยที่มีประชากรราว 70 ล้านคน)นอกจากนั้นยังมีกลุ่มสื่อ ที่เรามองว่าธุรกิจจะพลิกฟื้นดีขึ้นตั้งแต่ 2H57 เป็นต้นไป หนุนโดยความเชื่อมั่นผู้บริโภคและเศรษฐกิจโดยรวมที่ฟื้นตัวดีขึ้น และขณะนี้กำลังจะเข้าสู่ช่วงฤดูกาลจับจ่ายใช้สอยใน 4Q58 ความต้องการใช้สื่อโฆษณาก็จะเพิ่มขึ้น หุ้นเด่น คือ VGI (อยู่ใน DBS Coverage เราแนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 13.66 บาท) ส่วนปัจจัยภายนอก มีลุ้นว่า ECB อาจจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เช่น QE หุ้นพื้นฐานแนะนำซื้อวันนี้เป็น VGIกลยุทธ์ทางเทคนิค : ซื้อใหม่เน้นซื้อตามค่าบวก ค่าลบหรือการอ่อนตัวที่ต่ำกว่า 1550 จุด ควรชะลอการเก็งกำไร/ลดพอร์ตตามในกรณีที่มีหุ้นมาก เหลือเงินสดอยู่น้อย เพราะดัชนีมีโอกาสอ่อนไปยัง 1520 จุดหรือต่ำกว่า ส่วนการปรับขึ้นต่อมีแนวต้านระยะสั้น 1570, 1580 จุด สำหรับหุ้นที่คาดว่าราคามีโอกาสทำNew High เมื่อพิจารณาจากสัญญาณทางเทคนิค คือ HMPRO, MINT, CENTEL, MALEE, SEAOIL, THREL, MDX, VGI ส่วนหุ้นที่แนะนำไปและอยู่ในพื้นที่น่า Take Profit (สำหรับการลงทุนรอบสั้น) คือ TISCO, AEONTS
Fundamental Pick
VGI แนะนำซื้อราคาปิด 13.40 บาท เป้าหมาย 13.66 บาท
* บริษัทมีความเห็นสอดคล้องกับเราว่ากำไร 1Q57/58 (เม.ย.-มิ.ย.57) ที่ออกมาเป็นจุดต่ำสุดแล้ว จากนี้ไปกำไรรายไตรมาสจะมีพัฒนาการดีขึ้น แม้ปกติไตรมาส 4 (ม.ค.-มี.ค.) จะเป็นฤดูกาลที่อ่อน แต่ปีนี้จะดีกว่า y-o-y
* พัฒนาการสำคัญใน 1Q57-58 เพิ่มส่วนแบ่งการตลาดสื่อนอกบ้านด้วยการเข้าซื้อหุ้น MACO24.89% เริ่มขายสื่อโฆษณา E-Poster จำนวน 23 ป้าย และเริ่มให้บริการโฆษณาตั้งแต่ เม.ย.57และขายโฆษณาบน BTS 5 ขบวนใหม่ (20 ตู้) ตั้งแต่ เม.ย.57 สำหรับการโฆษณาในอาคารสำนักงาน จากสิ้น ก.ค.57 เพิ่มมาได้ 8 อาคาร รวมเป็น 83 อาคาร (722 จอ) โดยคาดว่า ก.ย.57นี้จะเพิ่มเป็น 100 อาคาร (917 จอ) นอกจากนี้ได้มีการลงนามเป็นตัวแทนขายสื่อโฆษณาในเครื่องบินแอร์เอเซียในเดือน พ.ค.57
* จุดเด่น คือ การเติบโตของกำไร และการเข้าซื้อกิจการในอนาคตจะทำให้การเติบโตของกำไรก้าวกระโดดมากขึ้น ทาง DBS ประเมินราคาพื้นฐานไว้ที่ 13.66 บาท
ปัจจัยต่างประเทศและโภคภัณฑ์
+ สหรัฐ : ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคส.ค.เพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี
* คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด เปิดเผยว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 92.4 ในเดือนส.ค. จากระดับ 90.3 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี
* แต่...ดัชนีการคาดการณ์ของผู้บริโภคสำหรับกิจกรรมทางเศรษฐกิจในช่วง 6 เดือนข้างหน้าปรับตัวลงแตะ 90.9 ในเดือนส.ค.จากระดับ 91.9 ในเดือนก.ค.แต่เป็นการอ่อนลงไม่มาก
• สหรัฐ : ดัชนีราคาบ้านมิ.ย.เพิ่มน้อยลง แต่ตลาดยังอยู่ในการฟื้นตัว
* สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยว่าดัชนีราคาบ้าน 20 เมืองในเดือนมิ.ย. ปรับตัวขึ้น 8.1%YoY และ 1%MoM ชะลอตัวจาก 9.4% ในเดือนพ.ค. และเพิ่มขึ้นในอัตราที่ช้าที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.55
+ สหรัฐ : ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนก.ค.เพิ่มขึ้นแกร่ง
* กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่ายอดสั่งซื้อสินค้าคงทนสูงขึ้น 22.6% ในเดือนก.ค. เนื่องจากความต้องการเครื่องบินพาณิชย์ที่ปรับตัวขึ้นแข็งแกร่ง บริษัทโบอิ้งได้รายงานว่ายอดสั่งซื้อเครื่องบินทำสถิติ 324 ลำในเดือนที่แล้ว นอกจากนี้ยอดสั่งซื้อรถยนต์และรถบรรทุกก็ปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งเช่นกัน
+ สหภาพยุโรป : คาด ECB ออกมาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติม
* มีกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจจะประกาศเปิดตัวโครงการซื้อสินทรัพย์หรือ QE เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ หลังจากที่ประธาน ECB กล่าวในการประชุมที่ไวโอมิ่งสัปดาห์ก่อนว่า ECB เต็มใจที่จะผลักดันนโยบายการเงินให้ผ่อนคลายมากขึ้น และกล่าวว่าในการกระตุ้นอุปสงค์ให้แข็งแกร่งขึ้นนั้น นโยบายการเงินสามารถและควรมีบทบาทสำคัญ ซึ่งตลาดตีความว่า ECB จะดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไป
+ ยูเครน : สถานการณ์ตึงเครียดผ่อนคลายลง
* สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนเริ่มผ่อนคลายลง หลังจากที่มีรายงานว่าประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย และประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชนโก ของยูเครน ได้จับมือทักทายกันก่อนที่การประชุมในกรุงมินสก์ เมืองหลวงของประเทศเบลารุสได้เปิดฉากขึ้นเมื่อวานนี้ เพื่อหาทางแก้ไขวิกฤตในยูเครน ผู้นำรัสเซียและยูเครนเข้าร่วมการประชุมสุดยอด"Eurasian Three" เมื่อวานนี้ ร่วมกับผู้นำเบลารุส และคาซัคสถาน รวมถึงแคธรีน แอชตันหัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป (อียู) โดยหัวข้อหลักในการหารือครั้งนี้คือการคลี่คลายให้สถานการณ์ในภาคตะวันออกของยูเครนกลับสู่ความมีเสถียรภาพ
+ ตลาดหุ้นสหรัฐ : ขยับขึ้นต่อ
* ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,106.70 จุด เพิ่มขึ้น 29.83 จุด หรือ +0.17% ดัชนีNASDAQ ปิดที่ 4,570.64 จุด เพิ่มขึ้น 13.29 จุด หรือ +0.29% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,000.02จุด เพิ่มขึ้น 2.10 จุด หรือ +0.11% ปัจจัยหนุน คือ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาดี และข่าวการเข้าซื้อกิจการ
• สัญญาน้ำมันดิบ : ปรับขึ้นเล็กน้อย
* สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 51 เซนต์ ปิดที่ 93.86 ดอลลาร์/บาร์เรลส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 15 เซนต์ ปิดที่102.5 ดอลลาร์/บาร์เรล
+ สัญญาทองคำ COMEX : ปรับขึ้นจากข่าวรัสเซียเพิ่มทองคำเป็นทุนสำรอง
* สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 6.3ดอลลาร์ หรือ 0.49% ปิดที่ 1,285.2 ดอลลาร์/ออนซ์ ทั้งนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)รายงานว่า ธนาคารกลางรัสเซียซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่ถือทองคำรายใหญ่ของโลกเพิ่มทองคำสำรองอีกเกือบ 340,000 ออนซ์ สู่ระดับ 35.5 ล้านออนซ์ในเดือนก.ค.57 ขณะที่ธนาคารกลางคาซัคสถานได้เพิ่มทองคำสำรองอีก 45,000 ออนซ์ สู่ระดับ 5.1 ล้านออนซ์ในเดือนดังกล่าว
ปัจจัยในประเทศ
+ WHA : สนใจโครงการโซลาร์ รูฟท็อป &อาคารสำนักงานให้เช่า...เดินหน้าตั้งกองทุนREIT ใน 4Q57 แนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน40.15 บาท
* สนใจลงทุนโซลาร์รูฟท็อป ทาง WHA มีความสนใจที่จะลงทุนในโครงการพลังงานทางเลือกที่ทางภาครัฐให้การสนันสนุนและผลักดันเป็นอย่างมาก โดยที่เล็งไว้เป็นโครงการโซลาร์รูฟท็อปนอกจากนั้นยังสนใจธุรกิจอาคารสำนักงาน ซึ่งเป็นธุรกิจที่ก่อให้เกิดรายได้ที่แน่นอน และสามารถขายสัญญาเช่าเข้ากองทุน REIT ในอนาคตได้ด้วย
* พื้นที่ให้เช่าเพิ่มขึ้นตามแผน ณ สิ้น 2Q57 บริษัทมีพื้นที่ให้เช่า 3.5 แสนตรม. เพิ่มขึ้น30%YoY และมีการขยับขึ้นค่าเช่าในบางสัญญาด้วย อัตรากำไรขั้นต้นใน 2Q57 อยู่ในเกณฑ์สูงมากที่ 70% อัตรากำไรสุทธิ 23%
* 4Q57 ตั้งกองทุน REIT ผู้บริหารกล่าวว่าการจัดตั้งกองทุน REIT มูลค่าราว 4.7 พันล้านบาทมีความคืบหน้าดี และคาดว่าจะออกได้ใน 4Q57 โดยประเมินว่าจะมีกำไรจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนฯประมาณ 30%
* แนะนำซื้อ WHA โดยให้ราคาพื้นฐาน 40.15 บาท (DCF) เราชอบที่บริษัทมีการเติบโตที่ดีต่อเนื่อง คาดการณ์ EPS growth – fully diluted ปีนี้ที่ 6% และขยายตัวต่อ 17% ในปี 58 ทั้งนี้ธุรกิจคลังสินค้า โรงงาน ศูนย์กระจายสินค้า มีความสดใส เพราะอุปสงค์มีสูง โดยเฉพาะรูปแบบที่เป็น Built to Suit คาดว่าการเปิด AEC จะช่วยหนุนให้ธุรกิจคลังสินค้าขยายตัวได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งบริษัทก็มีแผนที่จะขยายธุรกิจคลังสินค้าไปในตลาดต่างประเทศและต่างจังหวัดของไทยที่มีศักยภาพทางธุรกิจสูง
+ ICHI : ร่วมทุนพันธมิตรลงทุนตั้งโรงงานในอินโดนีเซีย ... ด้วย Growth story ที่ดีของบริษัท ก็น่าสนใจลงทุนระยะยาว
* ร่วมทุนกับพันธมิตรในอินโดฯทำธุรกิจเครื่องดื่ม & ชาพร้อมดื่ม ICHI ร่วมทุนพันธมิตรPT Atri Pasifik (บริษัทจดทะเบียนในอินโดนีเซีย) ขยายธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่ม ชาพร้อมดื่มในประเทศอินโดนีเซีย โดยบริษัทถือหุ้น 50% มูลค่าโครงการ 2,020.2 ล้านบาทนอกจากนั้น ICHI จะให้เงินกู้ยืมในอนาคตแก่บริษัทร่วมทุนตามสัดส่วนการถือหุ้น ซึ่งคิดเป็นประมาณ 418.1 ล้านบาท จากประมาณการจำนวนเงินให้กู้ยืมในอนาคตเบื้องต้นทั้งหมดที่836.2 ล้านบาท อย่างไรก็ตามจำนวนเงินให้กู้ยืมดังกล่าวแก่ JV จะเกิดขึ้นต่อเมื่อยอดขายสินค้าเป็นไปตามสัญญาที่ระบุ และทางบริษัทจะต้องเริ่มก่อสร้างโรงงานผลิตที่ประเทศอินโดนีเซีย
* ธุรกิจเครื่องดื่มในอินโดนีเซียเติบโตสูง ICHI ระบุว่ามูลค่าการเติบโตของตลาดชาพร้อมดื่มเฉลี่ยอยู่ที่ 20% ต่อปี และพันธมิตร คือ AP มีเครือข่ายในช่องทางการจัดจำหน่าย ModernTrade ประเภทร้านสะดวกซื้อ(Convenient Store) ที่มีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศอินโดนีเซียซึ่งจะช่วยสร้างโอกาสทางการตลาดและส่งเสริมแผนการขายของบริษัทได้เป็นอย่างดี
* เดินหน้าขยายกำลังการผลิตในไทยต่อ โดยมีแผนจะใช้งบประมาณลงทุนติดตั้งเครื่องจักรและอุปกรณ์ 750 ล้านบาท เพื่อขยายกำลังผลิตโรงงานเฟส 2 ที่สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จ.พระนครศรีอยุธยา
* นับเป็นบวกกับ ICHI ในระยะยาว ที่มีตลาดกว้างขวางมากขึ้น และมีโอกาสต่อยอดธุรกิจเครื่องดื่มต่อทั้งในอินโดนีเซียและภูมิภาคเอเชียหลังเปิด AEC แล้ว สำหรับเม็ดเงินที่ใช้ในการลงทุนคาดว่าจะมาจากการกู้ยืม เพราะขณะนี้ D/E ของบริษัทอยู่ที่ 0.5 เท่า ซึ่งมีศักยภาพในการกู้ยืมได้อีกราว 3 พันล้านบาทบนเป้าหมาย D/E ที่ไม่เกิน 1 เท่า
* น่าสนใจลงทุนระยะยาว แม้ว่า Valuation ในปี 57 ของ ICHI จะอยู่ในระดับสูง โดยซื้อขายบน P/E ปีนี้ที่สูงถึง 28 เท่า แต่เชื่อว่าด้วยอัตราการเติบโตที่แข็งแกร่ง 18-20% ต่อปีจะทำให้ P/Eลดลงสู่ระดับต่ำกว่า 20 เท่าได้ในอีก 2 ปีข้างหน้า อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ยอยู่ที่ 3-3.5% ต่อปี ในเชิงกลยุทธ์ถือว่า ICHI เป็นหุ้นหนึ่งที่น่าสนใจลงทุนระยะยาว
+ เปิดเวทีรับฟังความเห็นเรื่องการปฎิรูปพลังงาน ที่สโมสรทหารบก
* พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่าในวันนี้ (27 ส.ค.57) พล.อ.อ.ประจิน จั่นตองรองหัวหน้าคสช.ฝ่ายเศรษฐกิจ พร้อมด้วยตัวแทนกระทรวงพลังงาน และผู้เกี่ยวข้อง จะเปิดเวทีรับฟังและแลกเปลี่ยนความเห็นเรื่องพลังงานที่สโมสรทหารบก เพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกันโดยทางกองปราบปรามจะนำตัวนายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอร์รัปชั่น มาร่วมรับฟังในเวทีนี้ด้วยเพื่อจะได้แลกเปลี่ยนข้อมูลกัน
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค : Tel 7829 [email protected]