- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 03 November 2017 17:18
- Hits: 2873
บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Today Selection >> PTTEP, SEAFCO, TNP
Stock S R Comment
PTTEP 87.00 88.50 ผลการดำเนินงานปกติดีกว่าคาด แนวโน้มราคาก๊าซปรับขึ้น
SEAFCO 9.00 9.45 อานิสงส์แผนเมกะโปรเจคปี 61 คาดหนุนกลุ่มฐานราก
TNP 2.80 2.90 ธกส.อัดเงินกู้รากหญ้า เพิ่มกำลังซื้อต่างจังหวัด
SET50/SET100 predictions
Fund flow : มองปัจจัยกดดันเงิน USD และ Bond yield สหรัฐฯในระยะสั้นได้แก่การที่นาย Jerome Powell ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นประธาน Fed คนใหม่ ซึ่งนาย Powell นี้เป็นผู้ที่มีแนวคิด Dovish คล้ายคลึงกับประธาน Fed คนปัจจุบัน Janet Yellen อย่างมาก มองปัจจัยดังกล่าวอาจทำให้ Fund flow ในตลาดหุ้นไทยกลับมาพลิกฟื้นในระยะสั้น อย่างไรก็ดีหากมองไปอีก 1-2 เดือนข้างหน้า คาดว่ามีปัจจัยสนับสนุนเงิน USD และ Bond yield สหรัฐฯรออยู่ นั่นก็คือการออกกฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯฉบับใหม่ ซึ่งล่าสุดมีความก้าวหน้าอีกครั้ง หลังส.ส.รีพับลิกันในสภาล่างได้เปิดเผยรายละเอียดร่างกฎหมายดังกล่าวเมื่อคืนนี้ หากสภา Congress เห็นชอบและผลักดันออกมาเป็นตัวบทกฎหมายได้เร็วเท่าไหร่ มองจะเป็นความเสี่ยงต่อ Fund flow ที่สำคัญที่สุดในช่วงถัดไป
SET50/SET100 : เราได้ทำการคำนวณล่าสุดสำหรับหุ้นที่มีโอกาสถูกนำเข้า/ตัดออกจากดัชนี SET50 และ SET100 ในรอบถัดไป ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 3 มกราคมปีหน้า โดยใช้ข้อมูลถึงวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา (ข้อมูลจริงต้องใช้ถึงวันที่ 30 พฤษจิกายน) มีผลดังนี้
1) หุ้นที่มีแนวโน้มถูกนำเข้าดัชนี SET50 ได้แก่ SAWAD, TPIPP, CENTEL
2) หุ้นที่แนวโน้มถูกตัดออกจากดัชนี SET50 ได้แก่ KCE*, PSH, TPIPL
โดยในส่วนของ SET50 นั้น KCE อาจจะยังมีลุ้นลึกๆที่จะไม่หลุดจากดัชนี หากราคาในกระดานขยับขึ้นมายืนแถว 105 บาทได้ แต่ถึงกระนั้นก็อาจจะยังยากอยู่ดี เนื่องจากล่าสุดราคาหุ้น CENTEL ปรับตัวขึ้นมาแรงแล้วเช่นกัน สำหรับทางฝั่งของดัชนี SET100 คาดมีผลดังนี้
1) หุ้นที่มีแนวโน้มถูกนำเข้าดัชนี SET100 ได้แก่ TPIPP, ESSO, TTW, HANA, ORI, WHAUP, PLAT, SPCG, KSL, UV*, VNG*
2) หุ้นที่แนวโน้มถูกตัดออกจากดัชนี SET100 ได้แก่ ANAN, TTA, THCOM, LPN, THANI, COM7, MONO, BIG, PTL, MALEE, STPI
สำหรับกรณีของ SET100 นั้น หากวิเคราะห์กันตามเกณฑ์แล้ว JAS กับ GL ควรต้องได้เข้า แต่ดูแล้วอาจจะยากหากทางตลาดฯใช้ปัจจัยเชิงคุณภาพเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินด้วย จึงทำให้เราประเมินว่า UV กับ VNG จะมีลุ้นเข้าแทน
Back-test : จากผลการศึกษาของเราในอดีตพบว่าการปรับตัวของราคาหุ้นที่ถูกนำเข้านี้มักจะมีนัยสำคัญเฉพาะในส่วนของ SET50 โดยมักมีการปรับตัว Outperform ตลาดราว 6% นับตั้งแต่ช่วง 10 สัปดาห์ก่อนวันมีผลบังคับใช้ ซึ่งตรงกับช่วงเวลานี้พอดี ไปจนถึงช่วง 1 สัปดาห์ก่อนวันมีผลบังคับใช้ ด้วยเหตุนี้นักลงทุนที่สนใจธีมการลงทุนดังกล่าว สามารถ Focus การลงทุนใน SAWAD, TPIPP และ CENTEL ได้ และถือครองไปขายในช่วงสัปดาห์ก่อนสุดท้ายของเดือนธันวาคม ในทางกลับกันสำหรับกลุ่มหุ้นที่ถูกตัดออกจากดัชนี SET50 พบว่าในช่วง 3 รอบการคำนวณหลังสุด มักปรับตัว Underperform ตลาดไม่มากนัก เฉลี่ยอยู่เพียงแค่ 2% ในช่วงเวลาเดียวกัน จึงมองว่าหากใครถือครองหุ้นกลุ่มดังกล่าวอยู่ ก็อาจจะถือครองต่อไปได้ โดยในกลุ่มนี้ เรายังคงชื่นชอบ KCE สำหรับการลงทุนระยะยาว แนะนำ "ซื้อ" ที่ราคาเป้าหมาย 104 บาทเช่นเดิม
กลยุทธ์การลงทุน : คาดการณ์ SET Index แกว่งตัวในกรอบ 1650-1750 ในช่วงที่เหลือของปีนี้ ด้วยเหตุนี้จึงแนะนำกลยุทธ์ Selective ต่อไป โดยในระยะสั้นประเมินกลุ่มที่น่าสนใจได้แก่ กลุ่มธนาคารเช่าซื้อ ชิ้นส่วนยานยนต์ ค้าปลีก ส่วนกลุ่มที่น่าสนใจลงทุนระยะยาวได้แก่ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม
แนวรับ 1,692 แนวต้าน 1,721
บทวิเคราะห์วันนี้
ADVANC (ซื้อเก็งกำไร ราคาเป้าหมาย 189 บาท) ผลการดำเนินงานใกล้กับที่คาด ทว่าไส้ในยังต้องตามต่อว่าของจริงไหม
PTTEP (ซื้อเก็งกำไร ราคาเป้าหมาย 103.75 บาท) ผลการดำเนินงานปกติดีกว่าคาด ราคารับรู้ข่าวร้ายไปแล้ว
นักวิเคราะห์ : ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379)
E-mail: [email protected]
OO1934