- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 01 November 2017 18:05
- Hits: 5923
บล.ทิสโก้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET +2.71 จุด ศก.โตดี, เม็ดเงิน LTF & RMF ไหลเข้า
SET แกว่ง +/- ในกรอบ 1717-26 ปรับขึ้น 6 วันติด จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น, ตัวเลขศก.ไทยเดือน ก.ย. โตต่อเนื่อง (ธปท.คาด GDP 3Q17F โต 4%) และเม็ดเงิน LTF & RMF ไหลเข้า โดยกองทุนในปท.ซื้อสุทธิ 827 ลบ. 6 วันติด ขณะที่ต่างชาติขายสุทธิ 400 ลบ. แต่ Long S50 Futures 3,851 สัญญา 3 วันติด
สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET +2.71 จุด ศก.โตดี, เม็ดเงิน LTF & RMF ไหลเข้า
SET แกว่ง +/- ในกรอบ 1717-26 ปรับขึ้น 6 วันติด จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น, ตัวเลขศก.ไทยเดือน ก.ย. โตต่อเนื่อง (ธปท.คาด GDP 3Q17F โต 4%) และเม็ดเงิน LTF & RMF ไหลเข้า โดยกองทุนในปท.ซื้อสุทธิ 827 ลบ. 6 วันติด ขณะที่ต่างชาติขายสุทธิ 400 ลบ. แต่ Long S50 Futures 3,851 สัญญา 3 วันติด
ทิศทางตลาดวันนี้ : ไต่ขึ้นต่อ ลุ้นทดสอบไฮเดิมบริเวณ 1730, ปัจจัยในปท.หนุน
หุ้นโลกเมื่อวาน (31 ต.ค.) บวกต่ออีกเล็กน้อย โดยหุ้นสหรัฐฯ ขึ้น 7 เดือนติด ทำสถิติสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ อานิสงส์จากกำไรบจ.และ GDP ในไตรมาส 3 ของสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาด รวมทั้งคลายกังวลต่อเนื่องจากปัญหาการเมืองในสเปน (หุ้นสเปน +0.7% นำโดยหุ้นในกลุ่มธนาคาร) ด้านราคาน้ำมันดิบ Brent วิ่งขึ้นต่อ +0.7% มาที่ประมาณ 61 ดอลลาร์ฯ/บาร์เรล ใกล้ระดับสูงสุดรอบ 2 ปี หลังคาดว่า EIA จะรายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ลดลงราว 2.6 ล้านบาร์เรล มอง SET มีโอกาสไต่ขึ้นต่อ หลัก ๆ จากปัจจัยในปท.แข็งแกร่ง โดยเราคาด GDP ใน 3Q17F ที่สภาพัฒน์จะประกาศวันที่ 20 พ.ย. จะโตสูงถึง 4.2% นอกจากนี้ นายกฯ เพิ่งสั่งคลังพิจารณามาตรการช็อปช่วยชาติใหม่ หนุนศก.ปลายปีนี้อีกด้วย เรามองหลังประกาศงบ Q3 ตลาดจะปรับประมาณการกำไรและเป้าพื้นฐานราคาหุ้นขึ้น อย่างไรก็ดี ต้องติดตามปัจจัยตปท.ใกล้ชิด เพราะอาจทำให้ราคาหุ้นผันผวนได้ โดยเฉพาะการเสนอชื่อปธ.FED คนใหม่ และการเปิดเผยแผนปฏิรูปภาษีสหรัฐฯ ซึ่งล่าสุด เลื่อนไปอีก 2 วันเป็นช่วงปลายสัปดาห์นี้ แนวรับ 1718, 1712 แนวต้าน 1726, 1730
หุ้นโลกเมื่อวาน (31 ต.ค.) บวกต่ออีกเล็กน้อย โดยหุ้นสหรัฐฯ ขึ้น 7 เดือนติด ทำสถิติสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ อานิสงส์จากกำไรบจ.และ GDP ในไตรมาส 3 ของสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาด รวมทั้งคลายกังวลต่อเนื่องจากปัญหาการเมืองในสเปน (หุ้นสเปน +0.7% นำโดยหุ้นในกลุ่มธนาคาร) ด้านราคาน้ำมันดิบ Brent วิ่งขึ้นต่อ +0.7% มาที่ประมาณ 61 ดอลลาร์ฯ/บาร์เรล ใกล้ระดับสูงสุดรอบ 2 ปี หลังคาดว่า EIA จะรายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ลดลงราว 2.6 ล้านบาร์เรล มอง SET มีโอกาสไต่ขึ้นต่อ หลัก ๆ จากปัจจัยในปท.แข็งแกร่ง โดยเราคาด GDP ใน 3Q17F ที่สภาพัฒน์จะประกาศวันที่ 20 พ.ย. จะโตสูงถึง 4.2% นอกจากนี้ นายกฯ เพิ่งสั่งคลังพิจารณามาตรการช็อปช่วยชาติใหม่ หนุนศก.ปลายปีนี้อีกด้วย เรามองหลังประกาศงบ Q3 ตลาดจะปรับประมาณการกำไรและเป้าพื้นฐานราคาหุ้นขึ้น อย่างไรก็ดี ต้องติดตามปัจจัยตปท.ใกล้ชิด เพราะอาจทำให้ราคาหุ้นผันผวนได้ โดยเฉพาะการเสนอชื่อปธ.FED คนใหม่ และการเปิดเผยแผนปฏิรูปภาษีสหรัฐฯ ซึ่งล่าสุด เลื่อนไปอีก 2 วันเป็นช่วงปลายสัปดาห์นี้ แนวรับ 1718, 1712 แนวต้าน 1726, 1730
กลยุทธ์การลงทุน : เทรดดิ้งสั้น ลงซื้อ-ขึ้นขาย เล็งเป้าใกล้ 1730, Stop ที่ 1690
แนะหาจังหวะเทรดดิ้งสั้นในกรอบหลัก 1700-1730 / หาก SET ขึ้นปิดเหนือระดับ 1730 ได้ เล็งเป้าถัดไป 1750 และเราจะปรับ Trailing Stop ขึ้นจาก 1690 เป็น 1700
ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Trading Pick LH – คาดกำไร 3Q17F โตสูง 73% YoY จากกำไรพิเศษราว 1 พันลบ.จากการเพิ่มทุน LHBANK ให้แก่ CTBC, มองได้ประโยชน์จากการบริโภคในปท.ที่แข็งแกร่งในปีหน้า ปันผลสูง 5-6% ต่อปี, เป้าพื้นฐาน 11.5 บ. / FLOYD เข้าเทรด mai วันนี้ - ให้บริการรับเหมาติดตั้งงานระบบไฟฟ้า ระบบสื่อสาร ระบบสุขาภิบาล ระบบป้องกันอัคคีภัย และระบบปรับอากาศ, IPO 90 m. @ 2.8 บ., เรามองมูลค่าเหมาะสมเบื้องต้นที่ 3-3.24 บ. / นายกฯ สั่งคลังพิจารณามาตรการช็อปช่วยชาติใหม่ – BEAUTY, BIG, COL, COM7, HMPRO, ROBINS, CENTEL, ERW / หุ้นคาดงบจะออกมาดี ยังมี Upside เพิ่มขึ้น YoY และ QoQ ชอบ AMA, AP, BCH, BEAUTY, COL, EKH, INTUCH, IRPC, MTLS, PRM, RS, SEAFCO, STEC, TASCO, TMT เพิ่ม YoY ชอบ BANPU, BR, CK, LH, PSH / หุ้นที่มีโอกาสปรับประมาณการและเป้าพื้นฐานสูงขึ้น ชอบ GPSC, PTTGC, RS, SQ, WORK / มองหุ้นกลุ่มแบงก์ (ชอบ BBL, KBANK, TCAP, TMB), ค้าปลีก (BEAUTY, BIG, COM7, ROBINS) และสื่อ (PLANB, TKS, VGI) ได้ประโยชน์หลักจากการเลือกตั้งปลายปีหน้า / รัฐเร่งผลักดัน EEC ลงทุนภาคเอกชนฟื้นตัว - AMATA, ROJNA, WHA / ลงทุนภาครัฐ – CK, STEC, UNIQ, SEAFCO
หุ้น Weekly GURU ซื้อ KKP (เป้าสั้น 80 บ.), LH (11.8 บ.), ORI (22 บ.), SAWAD (75 บ.), SCC (524 บ.) / ถึงเป้าทำกำไร RS (+7.0%), WHA (+6.7%) /ขายเปลี่ยนตัว MTLS (+4.1%), TMB (+1.6%)
หุ้นเด่น ต.ค. (Smart Tactics) ASAP, BANPU, BR, ILINK, MCS, QH, ROJNA, TPIPP
หุ้นเด่น 2H17 AMA, BEAUTY, CK, JWD, ROJNA, SEAFCO
แนะหาจังหวะเทรดดิ้งสั้นในกรอบหลัก 1700-1730 / หาก SET ขึ้นปิดเหนือระดับ 1730 ได้ เล็งเป้าถัดไป 1750 และเราจะปรับ Trailing Stop ขึ้นจาก 1690 เป็น 1700
ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Trading Pick LH – คาดกำไร 3Q17F โตสูง 73% YoY จากกำไรพิเศษราว 1 พันลบ.จากการเพิ่มทุน LHBANK ให้แก่ CTBC, มองได้ประโยชน์จากการบริโภคในปท.ที่แข็งแกร่งในปีหน้า ปันผลสูง 5-6% ต่อปี, เป้าพื้นฐาน 11.5 บ. / FLOYD เข้าเทรด mai วันนี้ - ให้บริการรับเหมาติดตั้งงานระบบไฟฟ้า ระบบสื่อสาร ระบบสุขาภิบาล ระบบป้องกันอัคคีภัย และระบบปรับอากาศ, IPO 90 m. @ 2.8 บ., เรามองมูลค่าเหมาะสมเบื้องต้นที่ 3-3.24 บ. / นายกฯ สั่งคลังพิจารณามาตรการช็อปช่วยชาติใหม่ – BEAUTY, BIG, COL, COM7, HMPRO, ROBINS, CENTEL, ERW / หุ้นคาดงบจะออกมาดี ยังมี Upside เพิ่มขึ้น YoY และ QoQ ชอบ AMA, AP, BCH, BEAUTY, COL, EKH, INTUCH, IRPC, MTLS, PRM, RS, SEAFCO, STEC, TASCO, TMT เพิ่ม YoY ชอบ BANPU, BR, CK, LH, PSH / หุ้นที่มีโอกาสปรับประมาณการและเป้าพื้นฐานสูงขึ้น ชอบ GPSC, PTTGC, RS, SQ, WORK / มองหุ้นกลุ่มแบงก์ (ชอบ BBL, KBANK, TCAP, TMB), ค้าปลีก (BEAUTY, BIG, COM7, ROBINS) และสื่อ (PLANB, TKS, VGI) ได้ประโยชน์หลักจากการเลือกตั้งปลายปีหน้า / รัฐเร่งผลักดัน EEC ลงทุนภาคเอกชนฟื้นตัว - AMATA, ROJNA, WHA / ลงทุนภาครัฐ – CK, STEC, UNIQ, SEAFCO
หุ้น Weekly GURU ซื้อ KKP (เป้าสั้น 80 บ.), LH (11.8 บ.), ORI (22 บ.), SAWAD (75 บ.), SCC (524 บ.) / ถึงเป้าทำกำไร RS (+7.0%), WHA (+6.7%) /ขายเปลี่ยนตัว MTLS (+4.1%), TMB (+1.6%)
หุ้นเด่น ต.ค. (Smart Tactics) ASAP, BANPU, BR, ILINK, MCS, QH, ROJNA, TPIPP
หุ้นเด่น 2H17 AMA, BEAUTY, CK, JWD, ROJNA, SEAFCO
ปัจจัยติดตาม
วันที่ ปท. เหตุการณ์
1 พ.ย. TH, JP ดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจไทยใน ต.ค., ยอดขายรถยนต์ญี่ปุ่นใน ต.ค.
JP, CH, US PMI ภาคอุตฯ ญี่ปุ่น, จีน (ของภาคเอกชนจีน - Caixin) ใน ต.ค., ประชุมFED
US ISM Manuf. และการจ้างงานภาคเอกชนทั่วปท.สหรัฐฯ (ADP) ใน ต.ค., การใช้จ่ายก่อสร้างใน ก.ย.
วันที่ ปท. เหตุการณ์
1 พ.ย. TH, JP ดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจไทยใน ต.ค., ยอดขายรถยนต์ญี่ปุ่นใน ต.ค.
JP, CH, US PMI ภาคอุตฯ ญี่ปุ่น, จีน (ของภาคเอกชนจีน - Caixin) ใน ต.ค., ประชุมFED
US ISM Manuf. และการจ้างงานภาคเอกชนทั่วปท.สหรัฐฯ (ADP) ใน ต.ค., การใช้จ่ายก่อสร้างใน ก.ย.
ที่มา : Bloomberg, DB, TISCO Research
นักวิเคราะห์ :
อภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 18171 02-633-6467 : [email protected]
ธนพล บำรุงพงศ์ เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 46537 02-633-6471 : [email protected]
อภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 18171 02-633-6467 : [email protected]
ธนพล บำรุงพงศ์ เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 46537 02-633-6471 : [email protected]
OO1784