WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

DBSบล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 
  
“เลือกซื้อ/ถือเมื่อ SET เหนือ 1710”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : VGI (จาก Fully Valued เป็นซื้อ)
  ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : SET เมื่อวานนี้อ่อนตัวลงไปต่ำสุด 1704.17 แล้วเด้งขึ้นในวันไปสูงสุด 1723.04 ส่วนระดับปิดอยู่ที่ 1718.66 (+2.63 จุด) นำโดย KBANK, PTTEP, PTT และพลังงานทางเลือกอย่าง BCPG, BPP ต่างชาติขายสุทธิ 3.2 พันลบ. พอร์ตบล.ขายสุทธิ 1.2 พันลบ. ด้านสถาบันในประเทศและรายย่อยซื้อสุทธิ 2.7 และ 1.7 พันลบ. ตามลำดับ
  สำหรับสัปดาห์นี้ : ปัจจัยภายนอก – สมาชิกรีพับลิกันกำลังพิจารณาแผนปฎิรูปภาษี ในเบื้องต้นจะทยอยลดภาษีภาคธุรกิจจาก 35% เป็น 25% ในระยะเวลา 5 ปี (หรือทยอยลดปีละ 2%) ซึ่งจะทำให้กำไรเพิ่มอีกปีละ 3% จากปกติที่กำไรตลาดหุ้น S&P 500 โตเฉลี่ยปีละ 6-7% ด้านราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นดีกว่าคาด โดย BRENT ปิดเหนือ 60 US$/bbl แล้ว หนุนโดยกระแสคาดการณ์ว่าจะขยายเวลา Cut Production ไปถึงสิ้นปี 61 (จากสิ้น 1Q61 ในปัจจุบัน) ซึ่งเป็นบวกกับกลุ่มพลังงาน & ปิโตรเคมี หุ้นเด่นเป็น BCP, PTTGC
  สำหรับปัจจัยที่ติดตาม คือ 1) ผลประชุมเฟด 31 ต.ค.-1 พ.ย. ซึ่งตลาดคาดว่าจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 1.25% แล้วค่อยไปปรับขึ้น 0.25% ในการประชุมครั้งสุดท้ายปีนี้ 13 ธ.ค.60, 2) ผลประชุม BOE 2 พ.ย.นี้ ซึ่งคาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็น 0.50%, 3) ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนต.ค.ที่จะออกมา 3 พ.ย.นี้ โดยตลาดคาดว่าจะเพิ่ม 3 แสนตำแหน่ง, 4) รายชื่อประธานเฟดคนใหม่ ซึ่งทรัมป์อาจประกาศ 3 พ.ย. นี้ ก่อนเดินทางเยือนประเทศต่างๆในเอเชีย
  ส่วนปัจจัยภายใน – สศค.ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP Growth ของไทยปีนี้เป็น +3.8% (เดิม +3.6%) ด้านบจ.ทยอยรายงานกำไร 3Q60 ไปถึงกลางเดือนพ.ย.60
  กลยุทธ์ลงทุน : เน้นซื้อตามค่าบวก โดยช่วงนี้ SET มีแนวต้าน 1720-1730, 1740-1750 จุด แนวฟิวเตอร์ 1710 จุด (ต่ำกว่านี้ดูไม่ค่อยดี)
  สำหรับหุ้นแนะนำรายสัปดาห์ (25-31 ต.ค.) คือ AMATA, ERW ส่วนหุ้น Picks ใน Wealth Perspective-Equity เดือนต.ค.60 คือ ERW, MTLS, KBANK, PTTGC, TISCO และ Dark Horse เป็น COM7
  ส่วนหุ้นเทคนิคดีมีโอกาสทำ New High ที่เข้ามาใหม่คือ TCMC, GOLD, BPP, BCH, SINGER, RCL, TIP, ROBINS ส่วนหุ้นแนะนำไปแล้วและให้ถือต่อ เป็น SENA, PTTGC, TMB, ESSO, GLOBAL, RS, CENTEL, RATCH, M, CKP, TMILL ส่วนหุ้นที่แนะนำไปแล้วและให้หาจังหวะขายทำกำไร ได้แก่ UV, HANA, PM หุ้นที่หลุด List คือ AMATA

 

ปัจจัยต่างประเทศ & ในประเทศที่สำคัญ
ปัจจัยต่างประเทศ ตลาดหุ้น ตลาดน้ำมันและทองคำ
• สหรัฐ : เบื้องต้นมีแนวคิดที่จะทยอยลดภาษีภาคธุรกิจจาก 35% ในปัจจุบันเป็น 25% ในระยะเวลา 5 ปี
  # สมาชิกพรรครีพับลิกันกำลังพิจารณาลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลอย่างค่อยเป็นค่อยไปในแผนการปฏิรูปโครงสร้างภาษีโดยจะลดจาก 35% เป็น 25% ในระยะเวลา 5 ปี หรือลดเฉลี่ยปีละ 2% อย่างไรก็ตาม เป็นเพียงแนวคิดเบื้องต้นที่ยังไม่ได้ข้อสรุปอย่างเป็นทางการ
• สหรัฐ : ติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนต.ค.วันที่ 3 พ.ย.นี้
  จับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนต.ค.ในวันศุกร์ที่ 3 พ.ย.นี้ นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 300,000 ตำแหน่ง ส่วนตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อคาดว่าจะเพิ่ม 2.7%YoY (+0.2%MoM)
• สหรัฐ : จับตาประธานเฟดคนใหม่
  # นักลงทุนยังคงจับตาผู้ที่จะขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ โดยมีการคาดการณ์ว่าประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์จะประกาศการตัดสินใจเลือกในวันที่ 3 พ.ย.นี้ ก่อนที่เขาจะเดินทางเยือนประเทศต่างๆในเอเชีย
  # หนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ และสำนักข่าวโพลิติโค รายงานว่าขณะนี้มีตัวเก็งเหลือเพียง 2 คน คือ นายเจอโรม พาวเวลปัจจุบันเป็นผู้ว่าการเฟด และนายจอห์น เทย์เลอร์ นักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด โดยกระแสข่าวระบุว่านายพาวเวลดูมีโอกาสมากกว่า
  # ทั้งนี้นายพาวเวลเป็นเจ้าหน้าที่เฟดสายพิราบที่หนุนการผ่อนคลายนโยบายการเงินของนางเยลเลน ส่วนนายเทย์เลอร์เป็นนักวิชาการสายเหยี่ยว เน้นการคุมเข้มนโยบายการเงินและสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่านางเยลเลน
• สหรัฐ : ประชุมเฟด 31 ต.ค.-1 พ.ย.นี้...คาดคงดอกเบี้ยไว้ที่ 1.25% ก่อน
  # คณะกรรมการ FOMC มีประชุม 31 ต.ค.-1 พ.ย.60 CME Group FedWatch ระบุถึงโอกาสความเป็นไปได้ที่จะคงดอกเบี้ยในการประชุมรอบนี้ 99% แล้วมีโอกาส 97.2% ที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งสุดท้ายปีนี้วันที่ 13 ธ.ค.60
+ อังกฤษ : คาดประชุม BOE 2 พ.ย.นี้...อาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยหลัง GDP งวด 3Q60 โตดีกว่าคาด
  # ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในวันที่ 2 พ.ย.นี้ ตลาดการเงินคาดการณ์ว่า BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งนี้จาก 0.25% เป็น 0.50% หลัง GDP อังกฤษขยายตัว +0.4%QoQ ในไตรมาส 3/60 (+1.5%YoY) สูงกว่าไตรมาส 2/60 ที่ +0.3%QoQ โดยมีแรงหนุนจากการเติบโตของภาคการผลิตและบริการ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมรถยนต์
• สเปน : สถานการณ์เริ่มคลี่คลายลง ผู้นำแคว้นกาตาลุญญาถูกฟ้องข้อหากบฏและปลุกปั่นความวุ่นวาย
  # สถานการณ์การเมืองในสเปนเริ่มคลี่คลายหลังรัฐบาลกลางของสเปนได้เข้ายึดอำนาจการปกครองในแคว้นกาตาลุญญาและอธิบดีอัยการสเปนตั้งข้อหากบฏและปลุกปั่นสร้างความวุ่นวายต่อนายคาร์เลส ปุกเดมองต์ อดีตผู้นำแคว้นกาตาลุญญา รวมถึงรัฐบาลของนายปุกเดมองต์ หลังจากที่ได้ประกาศแยกตัวเป็นเอกราชจากสเปน
- ภาวะตลาดหุ้นสหรัฐ : อ่อนลงหลังบวกมาหลายวัน
  # ดัชนี DJIA ปิดที่ 23,348.74 จุด -85.45 จุด หรือ -0.36% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,572.83 จุด -8.24 จุด หรือ -0.32% และ ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,698.96 จุด -2.30 จุด หรือ -0.03% โดยหลักมาจากแรงขายทำกำไร
  # อย่างไรก็ตาม หุ้นแอปเปิล +2.3% หลังจากหนังสือพิมพ์อีโคโนมิค เดลี่ นิวส์ของจีนรายงานว่าบริษัทแอปเปิลได้รับคำสั่งจองซื้อ iPhone X เป็นจำนวนมากนับตั้งแต่ที่เปิดรับจองเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา จนทำให้แอปเปิลต้องแจ้งให้บริษัทซัพพลายเออร์ที่ผลิตชิ้นส่วนในไต้หวันเพิ่มการผลิตเป็น 2 เท่า
+ ภาวะตลาดน้ำมัน : ราคา BRENT ปิดเหนือ 60 US$/bbl
  # สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 25 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 54.15 ดอลลาร์/บาร์เรล และ BRENT ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 46 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 60.90 ดอลลาร์/บาร์เรล
  # ปัจจัยหนุนมาจากการคาดการณ์ที่ว่ากลุ่มโอเปกและประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกจะตกลงขยายเวลาการปรับลดการผลิตออกไปถึงสิ้นปี 61 (จากปัจจุบันที่ตกลงกันว่าจะสิ้นสุดมี.ค.61) โดยกลุ่มโอเปกจะประชุมทางการวันที่ 30 พ.ย.นี้
+ ภาวะตลาดทองคำ : ราคาบวกขึ้นหลังเงิน US$ อ่อนลง
  # สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 5.90 ดอลลาร์ หรือ 0.46% ปิดที่ระดับ 1,277.70 ดอลลาร์/ออนซ์
ปัจจัยในประเทศ และข่าวเด่น
+ เศรษฐกิจไทย : สศค.ปรับคาดการณ์จีดีพีไทยปี 60 เป็น 3.8%
  # สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่าได้ปรับประมาณการอัตราการเติบโตเศรษฐกิจไทยปี 60 จาก +3.6% เป็น +3.8% (อยู่ในช่วงคาดการณ์ที่ 3.6-4.0%) ปัจจัยหนุนคือจากการส่งออกสินค้าและบริการที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของปี การลงทุนภาคเอกชนที่มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามการลงทุนภาครัฐมีแนวโน้มชะลอลงจากการเบิกจ่ายลงทุนภายใต้งบเพิ่มเติมปี 60 ที่ค่อนข้างล่าช้า แต่คาดว่าส่วนนี้จะเป็นปัจจัยหนุนการเติบโตในปี 61
+ ตลาดหลักทรัพย์ฯระบุ Market Cap ตลาดหุ้นไทยเพิ่มเป็นกว่า 17 ล้านล้านบาท
  # นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า Market Cap ตลาดหุ้นไทยเพิ่มขึ้นเป็น 17 ล้านล้านบาท ขณะที่จำนวนบริษัทจดทะเบียน (บจ.)เพิ่มขึ้นเป็น 700 กว่าบริษัทแล้ว และฐานผู้ลงทุนเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 1 ล้านราย สะท้อนคุณภาพตลาดหลักทรัพย์มีความแข็งแรงมากขึ้น

 

นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]
OO1757

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!