- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 30 October 2017 16:37
- Hits: 1383
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 30-10-17กลยุทธ์วันนี้ >> ถือ Let Profit Run และเก็งกำไรผลประกอบการ 3Q17 เป็นรายตัว
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET ปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่องตามคาดรับผลการประชุม ECB ที่ยังดูดำเนินนโยบายทางการเงินค่อนข้างผ่อนคลาย โดยแรงซื้อส่วนใหญ่ยังมาจากสถาบันในประเทศที่ซื้อสุทธิ 1,802 ลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิต่อเนื่องอีก 2,186 ลบ.
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET จะเคลื่อนไหวในแดนบวกได้ต่อเนื่องโดยกลุ่มพลังงานน่าจะนำตลาดได้จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้น นอกจากนี้ยังมีแรงหนุนจากกระแสคาดการณ์ที่ว่านายเจอโรม พาวเวลน่า (สายพิราบ) จะได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธาน FED คนต่อไป ขณะที่ปัจจัยในประเทศต้องติดตามการประกาศกำไร 3Q17 กลุ่ม Real Sector ซึ่งคาดว่าจะเห็นแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามาในหุ้นที่คาดว่ามีผลประกอบการแข็งแกร่ง
กลยุทธ์ : ถือ Let Profit Run และเลือกเก็งกำไรหุ้นที่มีผลประกอบการ 3Q17 แข็งแกร่ง
หุ้นเด่นเดือน ต.ค. : ADVANC, ATP30, BANPU, IRPC, KKP
Fund Flow เมื่อวันศุกร์กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$41ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากไทย US$66ล้าน และไต้หวัน US$26 ขณะที่ไหลเข้าเกาหลีใต้ US$73ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาคหลังมีกระแสข่าวว่าผู้ว่า Fed คนใหม่น่าจะเป็นสายพิราบ (นาย Powell) ซึ่งน่าจะทำให้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมีความค่อยเป็นค่อยไป
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> ASEFA <<
คาดกำไรสุทธิ 3Q17 +15% Q-Q ตามฤดูกาลที่ครึ่งปีหลังจะมีการรับรู้รายได้มากกว่าครึ่งปีแรก ส่วนเมื่อเทียบ Y-Y คาดโต 4% ซึ่งถือว่าใช้ได้ เพราะอุตสาหกรรมยังไม่ดี การแข่งขันยังสูงจากงานที่ออกมาน้อย
ASEFA เป็นเบอร์ 1 ของผู้จำหน่ายสวิสต์บอร์ดและอุปกรณ์ไฟฟ้า จึงได้ประโยชน์โดยตรงจากโครงการลงทุนขนาดใหญ่ใน 3-5 ปีข้างหน้า เราคาดกำไรจะเร่งตัว +11% Y-Y ในปี 2018 จากที่คาด +5% Y-Y ในปีนี้
ราคาหุ้นถูก PE2018 เพียง 11 เท่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยตั้งแต่เข้าตาดที่ 15 เท่า และปันผลสูงเฉลี่ยปีละ 5% แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปีหน้า 9.80 บาท
คาดกำไรสุทธิ 3Q17 +15% Q-Q ตามฤดูกาลที่ครึ่งปีหลังจะมีการรับรู้รายได้มากกว่าครึ่งปีแรก ส่วนเมื่อเทียบ Y-Y คาดโต 4% ซึ่งถือว่าใช้ได้ เพราะอุตสาหกรรมยังไม่ดี การแข่งขันยังสูงจากงานที่ออกมาน้อย
ASEFA เป็นเบอร์ 1 ของผู้จำหน่ายสวิสต์บอร์ดและอุปกรณ์ไฟฟ้า จึงได้ประโยชน์โดยตรงจากโครงการลงทุนขนาดใหญ่ใน 3-5 ปีข้างหน้า เราคาดกำไรจะเร่งตัว +11% Y-Y ในปี 2018 จากที่คาด +5% Y-Y ในปีนี้
ราคาหุ้นถูก PE2018 เพียง 11 เท่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยตั้งแต่เข้าตาดที่ 15 เท่า และปันผลสูงเฉลี่ยปีละ 5% แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปีหน้า 9.80 บาท
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) ราคาน้ำมันบวก 2% จากความคาดหวังกลุ่มผู้ผลิตขยายเวลาลดการผลิตออกไปอีก 9 เดือน หลังกำหนดการเดิมช่วง มี.ค. 18 โดยผู้ผลิตน้ำมันจะหารือกันอีกครั้งในการประชุมโอเปกวันที่ 30 พ.ย. นี้ ดังนั้น มองเป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมันช่วงนี้จนถึงการประชุม เป็นบวกต่อหุ้นพลังงาน แนะนำ PTTEP ราคาเหมาะสม 102 บาท ที่ราคายัง laggard กลุ่มฯที่ +5% QTD และราคาน้ำมัน +4% QTD แต่ PTTEP -5% QTD
(0) จับตาประชุม FOMC และแผนปฏิรูปภาษี แม้เฟดยังไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยในทันทีในการประชุม 31 ต.ค. – 1 พ.ย. แต่อาจเริ่มลดปริมาณเงิน ก่อนจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็น 1.50% ในการประชุมครั้งสุดท้ายของปี 12-13 ธ.ค. ขณะที่ แผนปฏิรูปภาษีตลาดรับไปแล้วพอควร เหลือประเด็นการเสนอชื่อประธานเฟดคนใหม่ 2 พ.ย. อาจทำให้สินทรัพย์เสี่ยงผันผวนระยะสั้นได้
(+) BANPU คาดกำไรปกติ 3Q17 ที่ 3 พันลบ. +10% Q-Q, +367% Y-Y จากทั้งราคาและปริมาณการขายถ่านหินที่เพิ่มขึ้น ซึ่งมากกว่าการเพิ่มขึ้นของต้นทุนต่อหน่วย และสามารถชดเชยการชะลอตัวของโรงไฟฟ้าที่มีการหยุดซ่อมตามแผน และอัตรากำไรถูกกดดันจากราคาถ่านหินที่เพิ่มขึ้น เรายังคงกำไรปีนี้ที่ 1.1 หมื่นลบ. +226% Y-Y และปีหน้า 9.6 พันลบ. -6% Y-Y ปรับให้ราคาเป้าหมายปีหน้าที่ 21 บาท ลดลงจากปีนี้ที่ 24 บาท เพราะคาดกำไรชะลอและปรับใช้ PE ที่ 11 เท่า จาก 11.5 เท่า ยังแนะนำซื้อ จากราคาที่ laggard ทั้งราคาถ่านหิน ราคาหุ้น BPP และราคาหุ้น ITMG รวมถึงปันผลที่น่าสนใจ 5.7-6% ต่อปี
(+) SAPPE คาดกำไรสุทธิ 3Q17 ที่ 125 ลบ. -23% Q-Q ตามฤดูกาลที่ไตรมาส 2 จะเป็นจุดสูงสุดของปี แต่ +33% Y-Y จากฐานที่ต่ำและการฟื้นตัวของตลาดในประเทศ เราเริ่มเห็นสัญญาณบวกในตลาดอินโดนีเซียที่กลับมาสดใส และ All Coco ที่ใกล้ถึงจุดคุ้มทุน ส่วนตลาดจีน เปลี่ยน Distributor แล้วแต่มาเจอ Low Season จึงคาดว่าจะไปฟื้นอีกทีปีหน้า เราปรับกำไรปีนี้ขึ้น 25% เป็น +13% Y-Y จากเดิม -10% Y-Y และคาดโตต่อเนื่อง 10% Y-Y ในปีหน้า ปรับใช้ราคาเป้าหมายปี 2018 ที่ 38 บาท และปรับคำแนะนำขึ้นเป็นทยอยซื้อจากเดิมถือ
(0) JKN เป็นผู้ให้บริการและจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ จากผู้สร้างที่มีชื่อเสียงระดับโลก ซึ่งหลายรายการ JKN ผูกขาดลิขสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวทั้งในประเทศและประเทศเพื่อบ้าน ขณะที่ การเพิ่มขึ้นของจำนวนช่องทีวีจาก 6 เป็น 22 ช่อง ทำให้มีความต้องการคอนเทนต์มากขึ้น ซึ่งถือเป็นโอกาสเติบโตของ JKN ที่มีคอนเทนต์หลากหลาย ปัจจุบันมีหลายช่องที่เป็นลูกค้า เช่น ช่อง 3, 7, 8 ,MCOT, WPTV เราคาดกำไรปีนี้โตเล็กน้อย 4% Y-Y อยู่ที่ 171 ลบ. เพราะ 1H17 มีค่าตัดจำหน่ายสิทธิเยอะและค่าใช้จ่าย SG&A ขึ้นแรงกว่ารายได้ ก่อนจะโต 28% Y-Y อยู่ที่ 219 ลบ. ในปีหน้า ประเมินราคาเหมาะสมปี 2018 ได้เท่ากับ 11 บาท อิง PE 27 เท่า FSS เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น JKN
(+) ราคาน้ำมันบวก 2% จากความคาดหวังกลุ่มผู้ผลิตขยายเวลาลดการผลิตออกไปอีก 9 เดือน หลังกำหนดการเดิมช่วง มี.ค. 18 โดยผู้ผลิตน้ำมันจะหารือกันอีกครั้งในการประชุมโอเปกวันที่ 30 พ.ย. นี้ ดังนั้น มองเป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมันช่วงนี้จนถึงการประชุม เป็นบวกต่อหุ้นพลังงาน แนะนำ PTTEP ราคาเหมาะสม 102 บาท ที่ราคายัง laggard กลุ่มฯที่ +5% QTD และราคาน้ำมัน +4% QTD แต่ PTTEP -5% QTD
(0) จับตาประชุม FOMC และแผนปฏิรูปภาษี แม้เฟดยังไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยในทันทีในการประชุม 31 ต.ค. – 1 พ.ย. แต่อาจเริ่มลดปริมาณเงิน ก่อนจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็น 1.50% ในการประชุมครั้งสุดท้ายของปี 12-13 ธ.ค. ขณะที่ แผนปฏิรูปภาษีตลาดรับไปแล้วพอควร เหลือประเด็นการเสนอชื่อประธานเฟดคนใหม่ 2 พ.ย. อาจทำให้สินทรัพย์เสี่ยงผันผวนระยะสั้นได้
(+) BANPU คาดกำไรปกติ 3Q17 ที่ 3 พันลบ. +10% Q-Q, +367% Y-Y จากทั้งราคาและปริมาณการขายถ่านหินที่เพิ่มขึ้น ซึ่งมากกว่าการเพิ่มขึ้นของต้นทุนต่อหน่วย และสามารถชดเชยการชะลอตัวของโรงไฟฟ้าที่มีการหยุดซ่อมตามแผน และอัตรากำไรถูกกดดันจากราคาถ่านหินที่เพิ่มขึ้น เรายังคงกำไรปีนี้ที่ 1.1 หมื่นลบ. +226% Y-Y และปีหน้า 9.6 พันลบ. -6% Y-Y ปรับให้ราคาเป้าหมายปีหน้าที่ 21 บาท ลดลงจากปีนี้ที่ 24 บาท เพราะคาดกำไรชะลอและปรับใช้ PE ที่ 11 เท่า จาก 11.5 เท่า ยังแนะนำซื้อ จากราคาที่ laggard ทั้งราคาถ่านหิน ราคาหุ้น BPP และราคาหุ้น ITMG รวมถึงปันผลที่น่าสนใจ 5.7-6% ต่อปี
(+) SAPPE คาดกำไรสุทธิ 3Q17 ที่ 125 ลบ. -23% Q-Q ตามฤดูกาลที่ไตรมาส 2 จะเป็นจุดสูงสุดของปี แต่ +33% Y-Y จากฐานที่ต่ำและการฟื้นตัวของตลาดในประเทศ เราเริ่มเห็นสัญญาณบวกในตลาดอินโดนีเซียที่กลับมาสดใส และ All Coco ที่ใกล้ถึงจุดคุ้มทุน ส่วนตลาดจีน เปลี่ยน Distributor แล้วแต่มาเจอ Low Season จึงคาดว่าจะไปฟื้นอีกทีปีหน้า เราปรับกำไรปีนี้ขึ้น 25% เป็น +13% Y-Y จากเดิม -10% Y-Y และคาดโตต่อเนื่อง 10% Y-Y ในปีหน้า ปรับใช้ราคาเป้าหมายปี 2018 ที่ 38 บาท และปรับคำแนะนำขึ้นเป็นทยอยซื้อจากเดิมถือ
(0) JKN เป็นผู้ให้บริการและจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ จากผู้สร้างที่มีชื่อเสียงระดับโลก ซึ่งหลายรายการ JKN ผูกขาดลิขสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวทั้งในประเทศและประเทศเพื่อบ้าน ขณะที่ การเพิ่มขึ้นของจำนวนช่องทีวีจาก 6 เป็น 22 ช่อง ทำให้มีความต้องการคอนเทนต์มากขึ้น ซึ่งถือเป็นโอกาสเติบโตของ JKN ที่มีคอนเทนต์หลากหลาย ปัจจุบันมีหลายช่องที่เป็นลูกค้า เช่น ช่อง 3, 7, 8 ,MCOT, WPTV เราคาดกำไรปีนี้โตเล็กน้อย 4% Y-Y อยู่ที่ 171 ลบ. เพราะ 1H17 มีค่าตัดจำหน่ายสิทธิเยอะและค่าใช้จ่าย SG&A ขึ้นแรงกว่ารายได้ ก่อนจะโต 28% Y-Y อยู่ที่ 219 ลบ. ในปีหน้า ประเมินราคาเหมาะสมปี 2018 ได้เท่ากับ 11 บาท อิง PE 27 เท่า FSS เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น JKN
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
31 ต.ค.
- ญี่ปุ่น: ประชุม BOJ
- ยูโรโซน: GDP3Q17
- สหรัฐฯ: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค
31 ต.ค.- 1พ.ย.
- สหรัฐฯ: ประชุม FOMC
1พ.ย.
- สหรัฐฯ: ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชน (ต.ค.) และ ISM ภาคการผลิต (ต.ค.)
2พ.ย.
- อังกฤษ: ประชุมธนาคารกลาง MPC
2พ.ย.
- สหรัฐฯ: ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร (ต.ค.) และ ISM ภาคบริการ (ต.ค.)
- ญี่ปุ่น: ประชุม BOJ
- ยูโรโซน: GDP3Q17
- สหรัฐฯ: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค
31 ต.ค.- 1พ.ย.
- สหรัฐฯ: ประชุม FOMC
1พ.ย.
- สหรัฐฯ: ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชน (ต.ค.) และ ISM ภาคการผลิต (ต.ค.)
2พ.ย.
- อังกฤษ: ประชุมธนาคารกลาง MPC
2พ.ย.
- สหรัฐฯ: ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร (ต.ค.) และ ISM ภาคบริการ (ต.ค.)
Contact person : Jitra Amornthum
Register : 014530 Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research
Register : 014530 Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research
OO1700
