- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 30 October 2017 16:35
- Hits: 1266
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 30-10-17
กลยุทธ์วันนี้
Big Cap
Smart Pick
1. สะสม ADVANC : ราคาปิด 193.50 บาท ราคาเหมาะสม 220.00 บาท
a) จะรายงานผลประกอบการ 3Q60 ในวันพฤหัสนี้ คาดกำไรปกติ 3Q60 ที่ 7.3 พันล้านบาท +12% YoY กลับมาเติบโต YoY เป็นครั้งแรกในรอบ 7 ไตรมาส จากค่าใช้จ่าย Handset Subsidy ที่ลดลง ขณะที่รายได้ยังขยายตัวได้ดี +5.2% YoYจากแรงหนุนของความต้องการใช้ Data ที่เพิ่มขึ้น
b) การแข่งขันในอุตสาหกรรมที่บรรเทาลง จะส่งผลให้ภาพรวมอุตสาหกรรมมือดีขึ้นในปี 2561 โดยคาดว่ากำไรสุทธิจะกลับมาขยายตัว +10.4% YoY เป็น 3.3 หมื่นล้านบาท
c) รุกตลาด Internet Broadband เต็มตัว จากการซื้อหุ้น CSL จาก THCOM จะส่งผลให้ตลาด Internet Broadband ของบริษัทครอบคลุมมากขึ้นทั้งลูกค้าครัวเรือน และ Corporate ช่วยเสริมให้การบริหารประสิทธิภาพโครงข่ายดีขึ้น นอกจากนั้น ยังเป็นหุ้นที่ให้ Dividend Yield ดีปีละ 4%
2. สะสม PTT : ราคาปิด 416.00 บาท ราคาเหมาะสม 420.00 บาท
a) Yuanta คาดว่าหุ้นกลุ่มพลังงานจะ Outperform ตลาด เนื่องจากน้ำมันดิบ NYMEX ปรับตัวขึ้นทดสอบ US$54.00/barrel ทำระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน หลังซาอุดิอาระเบียและรัสเซียออกมาสนับสนุนการขยายมาตรการตรึงกำลังการผลิตน้ำมันไปออกไปอีก 9 เดือน จากที่จะสิ้นสุดลงใน มี.ค.2561
b) ผลประกอบการ 3Q60 ที่กำไรสุทธิจะถูกกระทบจากการตั้งสำรองโครงการ Oil Sand ของ PTTEP จำนวน US$550 ล้าน ได้สะท้อนในราคาหุ้นแล้ว อย่างไรก็ตาม เป็นรายการ Non-Cash ขณะที่กำไรปกติ 3Q60 คาดว่าจะเติบโตทั้ง YoY และ QoQ จากแรงหนุนของธุรกิจโรงกลั่นและปิโตรเคมี
c) Valuation ด้วย PER2561 ต่ำเพียง 10.2 เท่า เทียบกับ SET Index ที่ 16 เท่า และมีปัจจัยบวกคือการนำ PTTOR เข้าจดทะเบียนในปี 2561 และเป็น Upside ที่ยังไม่รวมไว้ในเป้าหมายอีกราว 30-40 บาทต่อหุ้น
กลยุทธ์วันนี้
Big Cap
Smart Pick
1. สะสม ADVANC : ราคาปิด 193.50 บาท ราคาเหมาะสม 220.00 บาท
a) จะรายงานผลประกอบการ 3Q60 ในวันพฤหัสนี้ คาดกำไรปกติ 3Q60 ที่ 7.3 พันล้านบาท +12% YoY กลับมาเติบโต YoY เป็นครั้งแรกในรอบ 7 ไตรมาส จากค่าใช้จ่าย Handset Subsidy ที่ลดลง ขณะที่รายได้ยังขยายตัวได้ดี +5.2% YoYจากแรงหนุนของความต้องการใช้ Data ที่เพิ่มขึ้น
b) การแข่งขันในอุตสาหกรรมที่บรรเทาลง จะส่งผลให้ภาพรวมอุตสาหกรรมมือดีขึ้นในปี 2561 โดยคาดว่ากำไรสุทธิจะกลับมาขยายตัว +10.4% YoY เป็น 3.3 หมื่นล้านบาท
c) รุกตลาด Internet Broadband เต็มตัว จากการซื้อหุ้น CSL จาก THCOM จะส่งผลให้ตลาด Internet Broadband ของบริษัทครอบคลุมมากขึ้นทั้งลูกค้าครัวเรือน และ Corporate ช่วยเสริมให้การบริหารประสิทธิภาพโครงข่ายดีขึ้น นอกจากนั้น ยังเป็นหุ้นที่ให้ Dividend Yield ดีปีละ 4%
2. สะสม PTT : ราคาปิด 416.00 บาท ราคาเหมาะสม 420.00 บาท
a) Yuanta คาดว่าหุ้นกลุ่มพลังงานจะ Outperform ตลาด เนื่องจากน้ำมันดิบ NYMEX ปรับตัวขึ้นทดสอบ US$54.00/barrel ทำระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน หลังซาอุดิอาระเบียและรัสเซียออกมาสนับสนุนการขยายมาตรการตรึงกำลังการผลิตน้ำมันไปออกไปอีก 9 เดือน จากที่จะสิ้นสุดลงใน มี.ค.2561
b) ผลประกอบการ 3Q60 ที่กำไรสุทธิจะถูกกระทบจากการตั้งสำรองโครงการ Oil Sand ของ PTTEP จำนวน US$550 ล้าน ได้สะท้อนในราคาหุ้นแล้ว อย่างไรก็ตาม เป็นรายการ Non-Cash ขณะที่กำไรปกติ 3Q60 คาดว่าจะเติบโตทั้ง YoY และ QoQ จากแรงหนุนของธุรกิจโรงกลั่นและปิโตรเคมี
c) Valuation ด้วย PER2561 ต่ำเพียง 10.2 เท่า เทียบกับ SET Index ที่ 16 เท่า และมีปัจจัยบวกคือการนำ PTTOR เข้าจดทะเบียนในปี 2561 และเป็น Upside ที่ยังไม่รวมไว้ในเป้าหมายอีกราว 30-40 บาทต่อหุ้น
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วันศุกร์ที่ผ่านมา SET INDEX ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.19 จุด ปิดที่ 1716.03 จุด มูลค่าการซื้อขายราว 6 หมื่นล้านบาท นำโดยหุ้นขนาดใหญ่อย่าง PTT +1.46%, SCC +0.82% และ AOT +0.43% รวม 3 ตัวกระทบดัชนีราว 3.1 จุด ด้านกระแสเงินทุน นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันราว 2.2 พันล้านบาท สวนทางกับสถาบันในประเทศซื้อสุทธิราว 1.8 พันล้านบาท รวม 4 วันทำการซื้อสุทธิราว 5.2 พันล้านบาท ด้านตลาดฟิวเจอร์ส นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Long สุทธิเล็กน้อยเพียง 220 สัญญา สถาบันในประเทศและบัญชี บล. มีสถานะ Short สุทธิเล็กน้อยเพียง 111 สัญญา
วันศุกร์ที่ผ่านมา SET INDEX ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.19 จุด ปิดที่ 1716.03 จุด มูลค่าการซื้อขายราว 6 หมื่นล้านบาท นำโดยหุ้นขนาดใหญ่อย่าง PTT +1.46%, SCC +0.82% และ AOT +0.43% รวม 3 ตัวกระทบดัชนีราว 3.1 จุด ด้านกระแสเงินทุน นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันราว 2.2 พันล้านบาท สวนทางกับสถาบันในประเทศซื้อสุทธิราว 1.8 พันล้านบาท รวม 4 วันทำการซื้อสุทธิราว 5.2 พันล้านบาท ด้านตลาดฟิวเจอร์ส นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Long สุทธิเล็กน้อยเพียง 220 สัญญา สถาบันในประเทศและบัญชี บล. มีสถานะ Short สุทธิเล็กน้อยเพียง 111 สัญญา
กลยุทธ์วันนี้
คาด SET INDEX วันนี้มีโอกาสปิดยืนเหนือ 1720 จุดได้ หนุนด้วยราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นเด่น ล่าสุด Brent แตะระดับ 60 เหรียญฯ/บาร์เรล บนความคาดหวังเชิงบวกว่า ผู้ผลิตในกลุ่ม OPEC และ Non-OPEC จะร่วมมือกันขยายเวลาการตรึงกำลังการผลิตออกไปเป็นสิ้นปีหน้าจากปัจจุบันสิ้นสุดในเดือน มี.ค.61
ภาพรวมเศรษฐกิจโลกยังคงแข็งแกร่ง สะท้อนจากเศรษฐกิจใหญ่สุดของโลกอย่างสหรัฐฯ รายงาน GDP 3Q60 (รอบแรก) เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ขยายตัวได้ 3% แม้มีผลกระทบจากพายุเฮอริเคน Harvey และ Irma แต่กลับเติบโตดีกว่าตลาดคาดที่ 2.6% และชะลอตัวเพียงเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนหน้าที่ 3.1% ขณะที่ไทย ซึ่งพึ่งพาการส่งออกกว่า 70% ของ GDP เชื่อว่าจะได้รับผลบวกจากเศรษฐกิจโลกที่ขยายตัวได้ดี
สัปดาห์นี้ ตลาดจะกลับมาให้น้ำหนักกับพื้นฐานบริษัทจดทะเบียนเป็นหลัก คือการรายงานงบ 3Q60 ของภาคการผลิตแท้จริง (Real sector) โดยเฉพาะหุ้น Big Cap อย่าง SCC (1 พ.ย.), ADVANC (2 พ.ย.), PTTEP (2 พ.ย.) กลยุทธ์ เราแนะนำซื้อ หุ้นขนาดใหญ่ (Big Cap) ในช่วงที่ภาวะ SET INDEX โดยรวมดูเป็นบวก เราเชื่อว่า หุ้น Big Cap จะได้รับความสนใจก่อน เน้นหุ้นที่ผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโต/ Valuation ไม่แพง/ จ่ายเงินปันผลระดับสูงราว 3-4%
คาด SET INDEX วันนี้มีโอกาสปิดยืนเหนือ 1720 จุดได้ หนุนด้วยราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นเด่น ล่าสุด Brent แตะระดับ 60 เหรียญฯ/บาร์เรล บนความคาดหวังเชิงบวกว่า ผู้ผลิตในกลุ่ม OPEC และ Non-OPEC จะร่วมมือกันขยายเวลาการตรึงกำลังการผลิตออกไปเป็นสิ้นปีหน้าจากปัจจุบันสิ้นสุดในเดือน มี.ค.61
ภาพรวมเศรษฐกิจโลกยังคงแข็งแกร่ง สะท้อนจากเศรษฐกิจใหญ่สุดของโลกอย่างสหรัฐฯ รายงาน GDP 3Q60 (รอบแรก) เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ขยายตัวได้ 3% แม้มีผลกระทบจากพายุเฮอริเคน Harvey และ Irma แต่กลับเติบโตดีกว่าตลาดคาดที่ 2.6% และชะลอตัวเพียงเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนหน้าที่ 3.1% ขณะที่ไทย ซึ่งพึ่งพาการส่งออกกว่า 70% ของ GDP เชื่อว่าจะได้รับผลบวกจากเศรษฐกิจโลกที่ขยายตัวได้ดี
สัปดาห์นี้ ตลาดจะกลับมาให้น้ำหนักกับพื้นฐานบริษัทจดทะเบียนเป็นหลัก คือการรายงานงบ 3Q60 ของภาคการผลิตแท้จริง (Real sector) โดยเฉพาะหุ้น Big Cap อย่าง SCC (1 พ.ย.), ADVANC (2 พ.ย.), PTTEP (2 พ.ย.) กลยุทธ์ เราแนะนำซื้อ หุ้นขนาดใหญ่ (Big Cap) ในช่วงที่ภาวะ SET INDEX โดยรวมดูเป็นบวก เราเชื่อว่า หุ้น Big Cap จะได้รับความสนใจก่อน เน้นหุ้นที่ผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโต/ Valuation ไม่แพง/ จ่ายเงินปันผลระดับสูงราว 3-4%
ปัจจัยสำคัญวันนี้
สหรัฐฯ รายงาน GDP 3Q60 ขยายตัว 3% ดีกว่าที่ตลาดว่าจะขยายตัว 2.6%
รัฐบาลสเปนเข้าควบคุมแคว้นคาตาลัน หลังรัฐบาลแคว้นประกาศแยกตัว
ซาอุฯและรัสเซีย ประกาศจุดยืนต้องการขยายระยะเวลาการการควมคุมปริมาณการผลิตน้ำมันดิบออกไปอีก 9 เดือน
หุ้น IPO ในตลาด mai ได้แก่ FLOYD (1 พ.ย.) และ TITLE (2 พ.ย.)
ติดตามการประชุม (BOJ) และ GDP 3Q60 ของยูโรโซน วันที่ 31 ต.ค.
ติดตามการรายงานภาวะเศรษฐกิจไทย วันที่ 31 ต.ค.
ติดตามการประชุมเฟด วันที่ 31 ต.ค. - 1 พ.ย.
ติดตามการรายงานภาวะเงินเฟ้อไทย วันที่ 1 พ.ย.
ติดตามการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ วันที่ 2 พ.ย.
ติดตามการรายงานดัชนีตลาดแรงงานของสหรัฐฯ วันที่ 3 พ.ย.
ติดตามการประกาศชื่อประธาน Fed คนต่อไป ภายในวันที่ 3 พ.ย.
Strategist Team
Mayuree Chowvikran Head of Research , 662-009-8050
Padon Vannarat Strategist , 662-009-8060
Piyapat Patarapuvadol Strategist , 662-009-8062
Nutt Treepoonsuk Strategist , 662-009-8059
สหรัฐฯ รายงาน GDP 3Q60 ขยายตัว 3% ดีกว่าที่ตลาดว่าจะขยายตัว 2.6%
รัฐบาลสเปนเข้าควบคุมแคว้นคาตาลัน หลังรัฐบาลแคว้นประกาศแยกตัว
ซาอุฯและรัสเซีย ประกาศจุดยืนต้องการขยายระยะเวลาการการควมคุมปริมาณการผลิตน้ำมันดิบออกไปอีก 9 เดือน
หุ้น IPO ในตลาด mai ได้แก่ FLOYD (1 พ.ย.) และ TITLE (2 พ.ย.)
ติดตามการประชุม (BOJ) และ GDP 3Q60 ของยูโรโซน วันที่ 31 ต.ค.
ติดตามการรายงานภาวะเศรษฐกิจไทย วันที่ 31 ต.ค.
ติดตามการประชุมเฟด วันที่ 31 ต.ค. - 1 พ.ย.
ติดตามการรายงานภาวะเงินเฟ้อไทย วันที่ 1 พ.ย.
ติดตามการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ วันที่ 2 พ.ย.
ติดตามการรายงานดัชนีตลาดแรงงานของสหรัฐฯ วันที่ 3 พ.ย.
ติดตามการประกาศชื่อประธาน Fed คนต่อไป ภายในวันที่ 3 พ.ย.
Strategist Team
Mayuree Chowvikran Head of Research , 662-009-8050
Padon Vannarat Strategist , 662-009-8060
Piyapat Patarapuvadol Strategist , 662-009-8062
Nutt Treepoonsuk Strategist , 662-009-8059
OO1699