- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 27 October 2017 16:54
- Hits: 15837
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
“เลือกซื้อ/ถือต่อเมื่อ SET เหนือ 1700”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : SET เมื่อวันก่อนปรับขึ้น 7.03 จุดปิดที่ 1708.84 ตามแรงซื้อแบบ Selective buy แม้ว่านักลงทุนต่างชาติจะขายสุทธิ 1.7 พันลบ. แต่สถาบันในปท.ก็ยังซื้อสุทธิต่อ 1.5 พันลบ.
สำหรับวันนี้ : ปัจจัยภายนอก ที่ประชุม ECB เมื่อ 26 ต.ค.60 คงอัตราดอกเบี้ยไว้ตามคาด และประกาศขยาย QE ถึงก.ย.61 (จากที่จะสิ้นสุดธ.ค.60) แต่ลดวงเงินลงครึ่งหนึ่งเป็น 3 หมื่นยูโร/เดือนนับตั้งแต่ม.ค.61 เป็นต้นไป ซึ่งการขยาย QE ในยูโรโซน การเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐ มีโอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยรอบที่ 3 ของปีนี้ในเดือนธ.ค.60 ส่งผลให้ค่าเงิน US$ แข็งขึ้น (ล่าสุด Dollar Index ขึ้นไปที่ 94.8) ด้านเงินบาทก็อ่อนค่าลง ซึ่งเป็น Sentiment บวกกับกลุ่มส่งออกของไทย
ส่วนปัจจัยภายใน เรายังคงติดตามรายงานกำไร 3Q60 ของบริษัทใน Real Sectors ที่จะออกมาถึงกลางเดือนพ.ย.60 ซึ่งประเมินว่ากลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมีจะออกมาดีเพราะมีกำไรจากสต็อกช่วยหนุน (หุ้นเด่น BCP, PTTGC) กลุ่มค้าปลีก ท่องเที่ยว&สนามบิน ขยายตัวดีต่อ (หุ้นเด่น CPALL, ERW, MINT, AOT) กลุ่มที่พักอาศัยดีขึ้นแต่ก็ยังเติบโตไม่มาก อย่างไรก็ตามให้เงินปันผลสูง (หุ้นเด่น ANAN, AP, LH, SENA)
กลุ่มรับเหมาก่อสร้างทรงๆ (หุ้นเด่น SEAFCO) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรมคาดว่าจะมีกำไรดีขึ้นและเติบโตได้ต่อในระยะกลาง-ยาว (หุ้นเด่น AMATA, WHA)
กลยุทธ์ลงทุน : เน้นซื้อตามค่าบวก โดยช่วงนี้ SET มีแนวรับ 1680, 1670-1660 จุด แนวต้าน 1710-1720 จุด แนวฟิวเตอร์ 1700 จุด (ต่ำกว่านี้ดูไม่ค่อยดี) สำหรับหุ้นแนะนำรายสัปดาห์ (25-31 ต.ค.) คือ AMATA, ERW ส่วนหุ้น Picks ใน Wealth Perspective-Equity เดือนต.ค.60 คือ ERW, MTLS, KBANK, PTTGC, TISCO และ Dark Horse เป็น COM7
ส่วนหุ้นเทคนิคดีมีโอกาสทำ New High ที่เข้ามาใหม่คือ AMATA, GLOBAL, RS, MONO, CENTEL, SYNTEC, WHA ส่วนหุ้นแนะนำไปแล้วและให้ถือต่อ เป็น SENA, PTTGC, TMB, ESSO, TCJ ส่วนหุ้นที่แนะนำไปแล้วและให้หาจังหวะขายทำกำไร ได้แก่ SGP, CBG, KKP, THANI, SQ, ROBINS, PSH หุ้นที่หลุด List เป็น PSL
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : SET เมื่อวันก่อนปรับขึ้น 7.03 จุดปิดที่ 1708.84 ตามแรงซื้อแบบ Selective buy แม้ว่านักลงทุนต่างชาติจะขายสุทธิ 1.7 พันลบ. แต่สถาบันในปท.ก็ยังซื้อสุทธิต่อ 1.5 พันลบ.
สำหรับวันนี้ : ปัจจัยภายนอก ที่ประชุม ECB เมื่อ 26 ต.ค.60 คงอัตราดอกเบี้ยไว้ตามคาด และประกาศขยาย QE ถึงก.ย.61 (จากที่จะสิ้นสุดธ.ค.60) แต่ลดวงเงินลงครึ่งหนึ่งเป็น 3 หมื่นยูโร/เดือนนับตั้งแต่ม.ค.61 เป็นต้นไป ซึ่งการขยาย QE ในยูโรโซน การเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐ มีโอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยรอบที่ 3 ของปีนี้ในเดือนธ.ค.60 ส่งผลให้ค่าเงิน US$ แข็งขึ้น (ล่าสุด Dollar Index ขึ้นไปที่ 94.8) ด้านเงินบาทก็อ่อนค่าลง ซึ่งเป็น Sentiment บวกกับกลุ่มส่งออกของไทย
ส่วนปัจจัยภายใน เรายังคงติดตามรายงานกำไร 3Q60 ของบริษัทใน Real Sectors ที่จะออกมาถึงกลางเดือนพ.ย.60 ซึ่งประเมินว่ากลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมีจะออกมาดีเพราะมีกำไรจากสต็อกช่วยหนุน (หุ้นเด่น BCP, PTTGC) กลุ่มค้าปลีก ท่องเที่ยว&สนามบิน ขยายตัวดีต่อ (หุ้นเด่น CPALL, ERW, MINT, AOT) กลุ่มที่พักอาศัยดีขึ้นแต่ก็ยังเติบโตไม่มาก อย่างไรก็ตามให้เงินปันผลสูง (หุ้นเด่น ANAN, AP, LH, SENA)
กลุ่มรับเหมาก่อสร้างทรงๆ (หุ้นเด่น SEAFCO) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรมคาดว่าจะมีกำไรดีขึ้นและเติบโตได้ต่อในระยะกลาง-ยาว (หุ้นเด่น AMATA, WHA)
กลยุทธ์ลงทุน : เน้นซื้อตามค่าบวก โดยช่วงนี้ SET มีแนวรับ 1680, 1670-1660 จุด แนวต้าน 1710-1720 จุด แนวฟิวเตอร์ 1700 จุด (ต่ำกว่านี้ดูไม่ค่อยดี) สำหรับหุ้นแนะนำรายสัปดาห์ (25-31 ต.ค.) คือ AMATA, ERW ส่วนหุ้น Picks ใน Wealth Perspective-Equity เดือนต.ค.60 คือ ERW, MTLS, KBANK, PTTGC, TISCO และ Dark Horse เป็น COM7
ส่วนหุ้นเทคนิคดีมีโอกาสทำ New High ที่เข้ามาใหม่คือ AMATA, GLOBAL, RS, MONO, CENTEL, SYNTEC, WHA ส่วนหุ้นแนะนำไปแล้วและให้ถือต่อ เป็น SENA, PTTGC, TMB, ESSO, TCJ ส่วนหุ้นที่แนะนำไปแล้วและให้หาจังหวะขายทำกำไร ได้แก่ SGP, CBG, KKP, THANI, SQ, ROBINS, PSH หุ้นที่หลุด List เป็น PSL
ปัจจัยต่างประเทศ & ในประเทศที่สำคัญ
ปัจจัยต่างประเทศ ตลาดหุ้น ตลาดน้ำมันและทองคำ
• ยูโรโซน : ECB คงดอกเบี้ย & ขยาย QE ถึงก.ย.61 (จากสิ้นสุดธ.ค.60) แต่ลดวงเงินเป็น 3 หมื่นยูโร/เดือน
# ที่ประชุม ECB เมื่อ 26 ต.ค.60 มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมกับคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.4% และคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25%
# ประกาศคงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 6 หมื่นล้านยูโร/เดือนจนถึงเดือน ธ.ค.60 และประกาศว่าจะขยายเวลาโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE ไปจนถึงเดือนก.ย.ปีหน้า แต่จะลดวงเงินลงสู่ระดับ 3 หมื่นล้านยูโร/เดือน (จากระดับปัจจุบันที่ 6 หมื่นล้านยูโร/เดือน) โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่เดือนม.ค.61 เป็นต้นไป
+ เยอรมนี : ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเยอรมนีดีดตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนต.ค.60
# Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนี เปิดเผยว่าดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 116.7 ในเดือนต.ค.60 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเพิ่มขึ้นจาก 115.3 ในเดือนก.ย.60
• สหรัฐ : ตัวเลขภาคแรงงาน ที่พักอาศัย และสต็อกสินค้าภาคค้าส่งอ่อนแอกว่าคาดแต่ก็ไม่แย่
# จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้น 10,000 ราย สู่ระดับ 233,000 ราย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 235,000 ราย
# ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 106 ในเดือนก.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 0.4%
# สต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนก.ย.ปรับตัวขึ้น 0.3% สู่ระดับ 6.09 แสนล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับเดือนส.ค.ที่ขยายตัว 0.8% โดยสต็อกสินค้าภาคส่งเดือนก.ย.ออกมาต่ำกว่าการคาดการณ์ที่ระดับ 0.4%
• สหรัฐ : จับตาผู้ที่จะมาเป็นประธานเฟดคนใหม่แทนนางเยลเลน
# จับตาการแต่งตั้งผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ โดยขณะนี้มีตัวเก็ง 5 คนที่อาจได้รับการพิจารณา ซึ่งได้แก่ นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดคนปัจจุบัน ซึ่งจะครบวาระการดำรงตำแหน่งในเดือนก.พ.ปีหน้า, นายแกรี โคห์น หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์, นายเควิน วอร์ช อดีตผู้ว่าการเฟด, นายเจอโรม พาวเวล หนึ่งในผู้ว่าการเฟดสมัยปัจจุบัน และนายจอห์น เทย์เลอร์ นักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด
# มีกระแสคาดการณ์ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจประกาศชื่อประธานเฟดคนใหม่ก่อนที่เขาจะเดินทางเยือนภูมิภาคเอเชียในวันที่ 3 พ.ย.นี้
# รายงานข่าวล่าสุดระบุว่านางเจเน็ต เยลเลน ได้หลุดโผรายชื่อประธานเฟดคนใหม่แล้ว ทำให้นายเจอโรม พาวเวล หนึ่งในผู้ว่าการเฟดปัจจุบัน และนายจอห์น เทย์เลอร์ นักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด เป็น 2 ตัวเก็งที่ปธน.ทรัมป์พิจารณาคัดเลือกเป็นประธานเฟด แต่เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวระบุว่าทรัมป์ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเลือกใคร
+ เอเชีย : ADB ปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียปี 60 เป็น 5.9%
# ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) ปรับเพิ่มการคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียปี 2560 เป็น 5.9% (เดิม 5.7%) ส่วนปี 61 เติบโต 5.8%
# แต่ ADB แสดงความกังวลการเชื่อมโยงทางการเงินที่เพิ่มขึ้นอาจจะทำให้เศรษฐกิจมีความอ่อนไหวหรือเปราะบางต่อวิกฤตการณ์ในต่างประเทศ ภาวะเกี่ยวพันทางการเงินและความเสี่ยงด้านสภาพคล่องที่เป็นผลมาจากการปล่อยกู้ข้ามพรมแดนของธนาคาร และระดับหนี้เสียที่สูงขึ้นในประเทศต่างๆ เช่น จีน อินเดีย บังคลาเทศ อินโดนีเซีย และมองโกเลีย
+ ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดัชนี DJIA บวกต่อรับผลประกอบการสดใส & วุฒิสภาสหรัฐไฟเขียวงบประมาณ
# ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,400.86 จุด เพิ่มขึ้น 71.40 จุด หรือ +0.31% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,560.40 จุด เพิ่มขึ้น 3.25 จุด หรือ +0.13% แต่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,556.77 จุด ลดลง 7.12 จุด หรือ -0.11%
# สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้อนุมัติร่างงบประมาณปี 2561 ฉบับของวฺฒิสภาวงเงิน 4 ล้านล้านดอลลาร์แล้วเมื่อวานนี้ ด้วยคะแนนเสียง 216 ต่อ 212 นับเป็นการกรุยทางสู่การพิจารณาแผนปฏิรูประบบภาษีของปธน.ทรัมป์ต่อไป
# หุ้นกลุ่มธุรกิจเพื่อสุขภาพร่วงลง อันเนื่องมาจากผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทหลายแห่ง และจากรายงานข่าวที่ว่าอเมซอนดอทคอมได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการด้านเวชภัณฑ์ในหลายรัฐของสหรัฐ ให้เป็นผู้ค้าส่งสินค้าด้านเวชภัณฑ์
+ ภาวะตลาดน้ำมัน : ราคาปรับขึ้นต่อ
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 46 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 52.64 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้าน BRENT ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 86 เซนต์ หรือ 1.5% ปิดที่ 59.30 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค.58
# วอลล์สตรีท เจอร์นัล ระบุในรายงานว่าซาอุดิอาระเบียและรัสเซียแสดงความต้องการที่จะขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 1.8 ล้านบาร์เรล/วัน ออกไปจนถึงสิ้นปี 61 (จากปัจจุบันถึงสิ้นมี.ค.61)
# นักลงทุนจับตาการประชุมอย่างเป็นทางการของกลุ่มโอเปกในวันที่ 30 พ.ย.นี้
- ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก : เงินดอลล์แข็งฉุดราคาทองคำ
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 9.40 ดอลลาร์ หรือ 0.73% ปิดที่ระดับ 1,269.60 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 8 ส.ค.ปีนี้
# การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้สร้างแรงกดดันต่อตลาดทองคำ ทั้งนี้ดัชนีดอลลาร์ +0.94% สู่ระดับ 94.590 เมื่อคืนนี้
ปัจจัยต่างประเทศ ตลาดหุ้น ตลาดน้ำมันและทองคำ
• ยูโรโซน : ECB คงดอกเบี้ย & ขยาย QE ถึงก.ย.61 (จากสิ้นสุดธ.ค.60) แต่ลดวงเงินเป็น 3 หมื่นยูโร/เดือน
# ที่ประชุม ECB เมื่อ 26 ต.ค.60 มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมกับคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.4% และคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25%
# ประกาศคงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 6 หมื่นล้านยูโร/เดือนจนถึงเดือน ธ.ค.60 และประกาศว่าจะขยายเวลาโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE ไปจนถึงเดือนก.ย.ปีหน้า แต่จะลดวงเงินลงสู่ระดับ 3 หมื่นล้านยูโร/เดือน (จากระดับปัจจุบันที่ 6 หมื่นล้านยูโร/เดือน) โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่เดือนม.ค.61 เป็นต้นไป
+ เยอรมนี : ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเยอรมนีดีดตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนต.ค.60
# Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนี เปิดเผยว่าดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 116.7 ในเดือนต.ค.60 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเพิ่มขึ้นจาก 115.3 ในเดือนก.ย.60
• สหรัฐ : ตัวเลขภาคแรงงาน ที่พักอาศัย และสต็อกสินค้าภาคค้าส่งอ่อนแอกว่าคาดแต่ก็ไม่แย่
# จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้น 10,000 ราย สู่ระดับ 233,000 ราย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 235,000 ราย
# ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 106 ในเดือนก.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 0.4%
# สต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนก.ย.ปรับตัวขึ้น 0.3% สู่ระดับ 6.09 แสนล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับเดือนส.ค.ที่ขยายตัว 0.8% โดยสต็อกสินค้าภาคส่งเดือนก.ย.ออกมาต่ำกว่าการคาดการณ์ที่ระดับ 0.4%
• สหรัฐ : จับตาผู้ที่จะมาเป็นประธานเฟดคนใหม่แทนนางเยลเลน
# จับตาการแต่งตั้งผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ โดยขณะนี้มีตัวเก็ง 5 คนที่อาจได้รับการพิจารณา ซึ่งได้แก่ นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดคนปัจจุบัน ซึ่งจะครบวาระการดำรงตำแหน่งในเดือนก.พ.ปีหน้า, นายแกรี โคห์น หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์, นายเควิน วอร์ช อดีตผู้ว่าการเฟด, นายเจอโรม พาวเวล หนึ่งในผู้ว่าการเฟดสมัยปัจจุบัน และนายจอห์น เทย์เลอร์ นักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด
# มีกระแสคาดการณ์ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจประกาศชื่อประธานเฟดคนใหม่ก่อนที่เขาจะเดินทางเยือนภูมิภาคเอเชียในวันที่ 3 พ.ย.นี้
# รายงานข่าวล่าสุดระบุว่านางเจเน็ต เยลเลน ได้หลุดโผรายชื่อประธานเฟดคนใหม่แล้ว ทำให้นายเจอโรม พาวเวล หนึ่งในผู้ว่าการเฟดปัจจุบัน และนายจอห์น เทย์เลอร์ นักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด เป็น 2 ตัวเก็งที่ปธน.ทรัมป์พิจารณาคัดเลือกเป็นประธานเฟด แต่เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวระบุว่าทรัมป์ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเลือกใคร
+ เอเชีย : ADB ปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียปี 60 เป็น 5.9%
# ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) ปรับเพิ่มการคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียปี 2560 เป็น 5.9% (เดิม 5.7%) ส่วนปี 61 เติบโต 5.8%
# แต่ ADB แสดงความกังวลการเชื่อมโยงทางการเงินที่เพิ่มขึ้นอาจจะทำให้เศรษฐกิจมีความอ่อนไหวหรือเปราะบางต่อวิกฤตการณ์ในต่างประเทศ ภาวะเกี่ยวพันทางการเงินและความเสี่ยงด้านสภาพคล่องที่เป็นผลมาจากการปล่อยกู้ข้ามพรมแดนของธนาคาร และระดับหนี้เสียที่สูงขึ้นในประเทศต่างๆ เช่น จีน อินเดีย บังคลาเทศ อินโดนีเซีย และมองโกเลีย
+ ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดัชนี DJIA บวกต่อรับผลประกอบการสดใส & วุฒิสภาสหรัฐไฟเขียวงบประมาณ
# ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,400.86 จุด เพิ่มขึ้น 71.40 จุด หรือ +0.31% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,560.40 จุด เพิ่มขึ้น 3.25 จุด หรือ +0.13% แต่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,556.77 จุด ลดลง 7.12 จุด หรือ -0.11%
# สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้อนุมัติร่างงบประมาณปี 2561 ฉบับของวฺฒิสภาวงเงิน 4 ล้านล้านดอลลาร์แล้วเมื่อวานนี้ ด้วยคะแนนเสียง 216 ต่อ 212 นับเป็นการกรุยทางสู่การพิจารณาแผนปฏิรูประบบภาษีของปธน.ทรัมป์ต่อไป
# หุ้นกลุ่มธุรกิจเพื่อสุขภาพร่วงลง อันเนื่องมาจากผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทหลายแห่ง และจากรายงานข่าวที่ว่าอเมซอนดอทคอมได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการด้านเวชภัณฑ์ในหลายรัฐของสหรัฐ ให้เป็นผู้ค้าส่งสินค้าด้านเวชภัณฑ์
+ ภาวะตลาดน้ำมัน : ราคาปรับขึ้นต่อ
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 46 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 52.64 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้าน BRENT ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 86 เซนต์ หรือ 1.5% ปิดที่ 59.30 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค.58
# วอลล์สตรีท เจอร์นัล ระบุในรายงานว่าซาอุดิอาระเบียและรัสเซียแสดงความต้องการที่จะขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 1.8 ล้านบาร์เรล/วัน ออกไปจนถึงสิ้นปี 61 (จากปัจจุบันถึงสิ้นมี.ค.61)
# นักลงทุนจับตาการประชุมอย่างเป็นทางการของกลุ่มโอเปกในวันที่ 30 พ.ย.นี้
- ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก : เงินดอลล์แข็งฉุดราคาทองคำ
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 9.40 ดอลลาร์ หรือ 0.73% ปิดที่ระดับ 1,269.60 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 8 ส.ค.ปีนี้
# การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้สร้างแรงกดดันต่อตลาดทองคำ ทั้งนี้ดัชนีดอลลาร์ +0.94% สู่ระดับ 94.590 เมื่อคืนนี้
ปัจจัยในประเทศ และข่าวเด่น
• ธุรกิจประกันภัย : 8M60 เบี้ยรับรวมเติบโต 3.8% เป็น 1.43 แสนล้านบาท
# แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยเบี้ยประกันวินาศภัยในช่วง 8M60 ว่าธุรกิจประกันภัยมีเบี้ยประกันภัยรับรวม 1.43 แสนล้านบาท +3.79%YoY ซึ่งเป็นผลมาจากประชาชนมีการซื้อประกันภัยทุกประเภทเพิ่มขึ้น แยกเป็นเบี้ยประกันภัยรถยนต์ 8.37 หมื่นล้านบาท (+3.75%) เบี้ยประกันภัยเบ็ดเตล็ด 4.89 หมื่นล้านบาท (+4.55%) เบี้ยประกันอัคคีภัย 6,980 ล้านบาท (-0.50%) เบี้ยประกันภัยทางทะเล 3,569 ล้านบาท (+2.93%)
• จ่อพับแผนซื้อรถเมล์ไฟฟ้า ด้านรถเมล์ NGV สรุปกลางพ.ย.นี้
# จับตาขสมก.พับโครงการรถเมล์ไฟฟ้า 2,700 ล้านบาท หวั่นไม่คุ้มค่าลงทุน เล็งปรับแผนใหม่นำเข้า 30 คันมาทดลองใช้ก่อนตัดสินใจเดินหน้าโครงการ รวมทั้งจะรอดูผลการศึกษาฉบับสมบูรณ์ก่อน ด้านรถเมล์ NGV 489 คัน คาดสรุปบริษัทเอกชนที่จะเข้ามาดำเนินการภายในกลางพ.ย.60 นี้
• ธุรกิจประกันภัย : 8M60 เบี้ยรับรวมเติบโต 3.8% เป็น 1.43 แสนล้านบาท
# แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยเบี้ยประกันวินาศภัยในช่วง 8M60 ว่าธุรกิจประกันภัยมีเบี้ยประกันภัยรับรวม 1.43 แสนล้านบาท +3.79%YoY ซึ่งเป็นผลมาจากประชาชนมีการซื้อประกันภัยทุกประเภทเพิ่มขึ้น แยกเป็นเบี้ยประกันภัยรถยนต์ 8.37 หมื่นล้านบาท (+3.75%) เบี้ยประกันภัยเบ็ดเตล็ด 4.89 หมื่นล้านบาท (+4.55%) เบี้ยประกันอัคคีภัย 6,980 ล้านบาท (-0.50%) เบี้ยประกันภัยทางทะเล 3,569 ล้านบาท (+2.93%)
• จ่อพับแผนซื้อรถเมล์ไฟฟ้า ด้านรถเมล์ NGV สรุปกลางพ.ย.นี้
# จับตาขสมก.พับโครงการรถเมล์ไฟฟ้า 2,700 ล้านบาท หวั่นไม่คุ้มค่าลงทุน เล็งปรับแผนใหม่นำเข้า 30 คันมาทดลองใช้ก่อนตัดสินใจเดินหน้าโครงการ รวมทั้งจะรอดูผลการศึกษาฉบับสมบูรณ์ก่อน ด้านรถเมล์ NGV 489 คัน คาดสรุปบริษัทเอกชนที่จะเข้ามาดำเนินการภายในกลางพ.ย.60 นี้