- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 27 October 2017 16:29
- Hits: 665
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: ทดสอบแนวต้าน 1720 แนวรับ 1708 และ 1700
SET Index: 1716.81 ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านที่ 1720 จุด พร้อมด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นมาปิดเหนือระดับ 1700 จุดได้ค่อนข้างดี แต่เราคาดว่า การปรับตัวเพิ่มขึ้นในระยะสั้นยังมีความเสี่ยงในการถูกขายทำกำไรที่แนวต้าน 1720 และ 1730 จุด โดยมีแนวรับที่ 1708 และ 1700 จุดเป็นแนวรับสำคัญ ถ้าหลุดจะมีแนวรับถัดไปที่ 1670 จุดเป็นจังหวะในการเข้าซื้อหุ้น เนื่องจากโครงสร้างหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1750 จุด
แนวต้าน : 1718 และ 1720
แนวรับ : 1710 และ 1708**
BCPG = 22.00/22.80, PTT = 412/418, IVL = 45.00/46.00, AOT = 58.00/59.00, KBANK = 212/214
T.K.S Technologies (TKS TB; THB 16.40) – ซื้อ
แนวต้าน : 17.00 และ 17.20 / เป้าหมาย 18.00
แนวรับ : 16.40 และ 16.20
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเพื่อสร้างฐานเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 10 และ 20 วัน ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลงต่อเนื่อง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ TKS โดยมีแนวรับที่ 16.40 และ 16.20 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 17.00 และ 17.20 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 16.00 ลงไป
T.A.C. Consumer (TACC TB; THB 6.80) – ซื้อ
แนวต้าน : 7.20 และ 7.40 / แนวต้านสำคัญ 7.50
แนวรับ : 6.80 และ 6.70
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิคต่อเนื่อง พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่ง หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบจุดต่ำสุดเดิมแล้วสามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยที่ระดับ 0 เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 60
แนะนำซื้อ TACC โดยมีแนวรับที่ 6.80 และ 6.70 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 7.20 และ 7.40 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 6.50 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 761-9231 - [email protected]
Line ID : @CIMBS Youtube : CIMBS
SET Index: ทดสอบแนวต้าน 1720 แนวรับ 1708 และ 1700
SET Index: 1716.81 ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านที่ 1720 จุด พร้อมด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นมาปิดเหนือระดับ 1700 จุดได้ค่อนข้างดี แต่เราคาดว่า การปรับตัวเพิ่มขึ้นในระยะสั้นยังมีความเสี่ยงในการถูกขายทำกำไรที่แนวต้าน 1720 และ 1730 จุด โดยมีแนวรับที่ 1708 และ 1700 จุดเป็นแนวรับสำคัญ ถ้าหลุดจะมีแนวรับถัดไปที่ 1670 จุดเป็นจังหวะในการเข้าซื้อหุ้น เนื่องจากโครงสร้างหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1750 จุด
แนวต้าน : 1718 และ 1720
แนวรับ : 1710 และ 1708**
BCPG = 22.00/22.80, PTT = 412/418, IVL = 45.00/46.00, AOT = 58.00/59.00, KBANK = 212/214
T.K.S Technologies (TKS TB; THB 16.40) – ซื้อ
แนวต้าน : 17.00 และ 17.20 / เป้าหมาย 18.00
แนวรับ : 16.40 และ 16.20
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเพื่อสร้างฐานเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 10 และ 20 วัน ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลงต่อเนื่อง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ TKS โดยมีแนวรับที่ 16.40 และ 16.20 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 17.00 และ 17.20 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 16.00 ลงไป
T.A.C. Consumer (TACC TB; THB 6.80) – ซื้อ
แนวต้าน : 7.20 และ 7.40 / แนวต้านสำคัญ 7.50
แนวรับ : 6.80 และ 6.70
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิคต่อเนื่อง พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่ง หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบจุดต่ำสุดเดิมแล้วสามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยที่ระดับ 0 เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 60
แนะนำซื้อ TACC โดยมีแนวรับที่ 6.80 และ 6.70 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 7.20 และ 7.40 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 6.50 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 761-9231 - [email protected]
Line ID : @CIMBS Youtube : CIMBS
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET…ค่า P/E ขึ้นสูงสุด
ดัชนี SET ได้กลับขึ้นมาเล่นสูงกว่า 1700 จุดอีกรอบ แต่เป็นรอบที่ปัจจัยทางพื้นฐานไม่ค่อยสนับสนุนเท่าที่ควร ทั้งขาดปัจจัยหนุนใหม่ๆ แรงซื้อต่างชาติไม่มาก กำไรของตลาดที่ออกมาแล้วต่ำกว่าคาดและตลาดกำลังขึ้นไปเล่นที่ค่า P/E สูงสุดในรอบ 15 ปี โดยตอนนี้อัตราการทำกำไรของตลาดในอีก 12 เดือนข้างหน้าหรือ EPS 12 month forward ทำได้แค่ 8% เทียบหลายๆ ปีที่สามารถทำในระดับ 12-15% รูปด้านซ้าย คือค่า P/E12 เดือนล่วงหน้าได้ขึ้นมาเล่นเหนือค่า +2SD หรือกำลังเทรดกันที่ 15.4 เท่า จากเดิมที่จะเล่นกันที่ค่าสูงสุดที่ 15.1 เท่า ประเด็นตรงนี้ถือว่าไม่น่าแปลกใจอะไร หากตลาดคาดว่าใน 1-2 ปีข้างหน้า อัตราการทำกำไรของตลาดจะสูงกว่านี้ เพียงแต่ตอนนี้อัตราการทำกำไรของตลาดยังทำไม่ได้ซึ่งกว่าอัตราการทำกำไรของตลาดจะโตประมาณ 10% อาจต้องรอถึง Q1/18 หรือเร็วสุดคือ Q4/17
ประเด็นที่กดดันกำไรของตลาดยังคงเป็นกำไรของหุ้นในกลุ่มหลักอย่าง ธนาคารพาณิชย์ สื่อสาร พลังงาน ปูน คาดใน Q3/17 จะออกมาต่ำกว่าคาด แต่อย่างไรก็ตามมีความเป็นไปได้ที่ตลาดจะยังเล่นกันที่ค่า P/E สูงต่อไปเพื่อรอการฟื้นตัวอัตราการทำกำไรของตลาด แต่จะทำให้ตลาดไปไหนไกลๆ ลำบาก ตรงข้ามหากมีแรงกระแทกจากภายนอก ดัชนีจะดิ่งลงแรง ทางที่ดีที่สุดสำหรับการลงทุนในภาวะที่นักลงทุนมองแนวโน้มดีเกินไป คือ เล่นเร็วหรือเก็งกำไรรายตัว หรือดูหุ้นที่ขึ้นน้อย ส่วนการซื้อแล้วถือ เพื่อขายในดัชนีที่สูงกว่านี้ อาจจะยังมีความเสี่ยงในช่วงนี้ ซึ่งต้องรอประเมินงบหรือให้ตลาดปรับฐานรอบใหญ่ๆ อีกสักครั้ง
หุ้นกลุ่มหลักในระดับดัชนีที่เกิน 1700 จุด ส่วนใหญ่ดีดตัวขึ้นมาแล้วเกือบทั้งสิ้น แต่จะมากหรือน้อย โดยที่น่าสนใจเรามองในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์สร้างบ้านและค้าปลีก ที่คาดว่างบจะออกมาดีขึ้น ในกลุ่มค้าปลีกที่ถือว่ายังไม่ขึ้นเลยตั้งแต่ต้นปี คือ GLOBAL ที่ขึ้นได้เพียง 1.5% ตามาด้วย BJCที่ขึ้นได้ 6% เทียบกับดัชนีกลุ่มที่ขึ้นมาแล้ว 12.3% (ดูรูปด้านขวา) ส่วนกลุ่มสร้างบ้าน คือ LPN ขึ้นได้ประมาณ 6% ตามมาด้วย LH ที่ประมาณ10% นอกนั้นจะเป็นหุ้นรับเหมาทั้ง CK และ STEC จุดน่าสนในของทั้ง 2 ตัวนี้ไม่ใช่อยู่ที่งบ Q3/17 แต่อยู่ที่มีการปรับเพิ่มค่าเฉลี่ยของกำไรต่อหุ้น (EPS Mean) ใน Q4/17 สูงมากอย่าง CK เพิ่มขึ้น 52.9% และ STEC 5.1% ขณะที่ราคาหุ้นในรอบ 1 เดือนยังติดลบ -3.5 และ -2.9%
ผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) คือ ทาง ECB ส่งสัญญาณจะปรับลดการซื้อพันธบัตรลงเหลือ 30 พันล้านยูโร จากเดิมที่ 60 พันล้านยูโรโดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่เดือนม.ค. 61 เป็นต้นไป แต่ขยายระยะเวลาการซื้อออกไปอีกไปสิ้นสุดเดือนก.ย. วันนี้มองแนวโน้มดัชนี SET จะค่อยๆ ซึมตัวลงหลังตลาดหุ้นในภูมิภาคเริ่มแกว่งในกรอบแคบๆ และไร้ปัจจัยหนุนใหม่ๆ วันนี้มองแนวรับที่ 1704-1700 จุดและแนวต้านที่ 1712-1716 จุดวันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร BJC GLOBAL LH CPN และ IVL
ประเด็นที่กดดันกำไรของตลาดยังคงเป็นกำไรของหุ้นในกลุ่มหลักอย่าง ธนาคารพาณิชย์ สื่อสาร พลังงาน ปูน คาดใน Q3/17 จะออกมาต่ำกว่าคาด แต่อย่างไรก็ตามมีความเป็นไปได้ที่ตลาดจะยังเล่นกันที่ค่า P/E สูงต่อไปเพื่อรอการฟื้นตัวอัตราการทำกำไรของตลาด แต่จะทำให้ตลาดไปไหนไกลๆ ลำบาก ตรงข้ามหากมีแรงกระแทกจากภายนอก ดัชนีจะดิ่งลงแรง ทางที่ดีที่สุดสำหรับการลงทุนในภาวะที่นักลงทุนมองแนวโน้มดีเกินไป คือ เล่นเร็วหรือเก็งกำไรรายตัว หรือดูหุ้นที่ขึ้นน้อย ส่วนการซื้อแล้วถือ เพื่อขายในดัชนีที่สูงกว่านี้ อาจจะยังมีความเสี่ยงในช่วงนี้ ซึ่งต้องรอประเมินงบหรือให้ตลาดปรับฐานรอบใหญ่ๆ อีกสักครั้ง
หุ้นกลุ่มหลักในระดับดัชนีที่เกิน 1700 จุด ส่วนใหญ่ดีดตัวขึ้นมาแล้วเกือบทั้งสิ้น แต่จะมากหรือน้อย โดยที่น่าสนใจเรามองในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์สร้างบ้านและค้าปลีก ที่คาดว่างบจะออกมาดีขึ้น ในกลุ่มค้าปลีกที่ถือว่ายังไม่ขึ้นเลยตั้งแต่ต้นปี คือ GLOBAL ที่ขึ้นได้เพียง 1.5% ตามาด้วย BJCที่ขึ้นได้ 6% เทียบกับดัชนีกลุ่มที่ขึ้นมาแล้ว 12.3% (ดูรูปด้านขวา) ส่วนกลุ่มสร้างบ้าน คือ LPN ขึ้นได้ประมาณ 6% ตามมาด้วย LH ที่ประมาณ10% นอกนั้นจะเป็นหุ้นรับเหมาทั้ง CK และ STEC จุดน่าสนในของทั้ง 2 ตัวนี้ไม่ใช่อยู่ที่งบ Q3/17 แต่อยู่ที่มีการปรับเพิ่มค่าเฉลี่ยของกำไรต่อหุ้น (EPS Mean) ใน Q4/17 สูงมากอย่าง CK เพิ่มขึ้น 52.9% และ STEC 5.1% ขณะที่ราคาหุ้นในรอบ 1 เดือนยังติดลบ -3.5 และ -2.9%
ผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) คือ ทาง ECB ส่งสัญญาณจะปรับลดการซื้อพันธบัตรลงเหลือ 30 พันล้านยูโร จากเดิมที่ 60 พันล้านยูโรโดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่เดือนม.ค. 61 เป็นต้นไป แต่ขยายระยะเวลาการซื้อออกไปอีกไปสิ้นสุดเดือนก.ย. วันนี้มองแนวโน้มดัชนี SET จะค่อยๆ ซึมตัวลงหลังตลาดหุ้นในภูมิภาคเริ่มแกว่งในกรอบแคบๆ และไร้ปัจจัยหนุนใหม่ๆ วันนี้มองแนวรับที่ 1704-1700 จุดและแนวต้านที่ 1712-1716 จุดวันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร BJC GLOBAL LH CPN และ IVL
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(AM)
Investment Strategy
กลยุทธ์ : ดัชนี SET ได้กลับขึ้นมาเล่นสูงกว่า 1700 จุดอีกรอบ แต่เป็นรอบที่ปัจจัยทางพื้นฐานไม่ค่อยสนับสนุนเท่าที่ควร ทั้งขาดปัจจัยหนุนใหม่ๆ แรงซื้อต่างชาติไม่มาก กำไรของตลาดที่ออกมาแล้วต่ำกว่าคาดและตลาดกำลังขึ้นไปเล่นที่ค่า P/E สูงสุดในรอบ 15 ปีโดยตอนนี้อัตราการทำกำไรของตลาดในอีก 12 เดือนข้างหน้าหรือ EPS 12 monthforward ทำได้แค่ 8% เทียบหลายๆ ปีที่สามารถทำในระดับ 12-15% คือค่า P/E 12 เดือนล่วงหน้าได้ขึ้นมาเล่นเหนือค่า +2SD หรือกำลังเทรดกันที่ 15.4 เท่า จากเดิมที่จะเล่นกันที่ค่าสูงสุดที่ 15.1 เท่า ประเด็นตรงนี้ถือว่าไม่น่าแปลกใจอะไร หากตลาดคาดว่าใน 1-2 ปีข้างหน้า อัตราการทำกำไรของตลาดจะสูงกว่านี้ เพียงแต่ตอนนี้อัตราการทำกำไรของตลาดยังทำไม่ได้ ซึ่งกว่าอัตราการทำกำไรของตลาดจะโตประมาณ 10% อาจต้องรอถึงQ1/18 หรือเร็วสุดคือ Q4/17 ผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) คือ ทาง ECB ส่งสัญญาณจะปรับลดการซื้อพันธบัตรลงเหลือ 30 พันล้านยูโร จากเดิมที่ 60 พันล้านยูโรโดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่เดือนม.ค. 61 เป็นต้นไป แต่ขยายระยะเวลาการซื้อออกไปอีกไปสิ้นสุดเดือนก.ย. วันนี้มองแนวโน้มดัชนี SET จะค่อยๆ ซึมตัวลงหลังตลาดหุ้นในภูมิภาคเริ่มแกว่งในกรอบแคบๆ และไร้ปัจจัยหนุนใหม่ๆ วันนี้มองแนวรับที่ 1704-1700 จุดและแนวต้านที่ 1712-1716 จุดวันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร BJC GLOBAL LH CPN และ IVL
Investment Strategy
กลยุทธ์ : ดัชนี SET ได้กลับขึ้นมาเล่นสูงกว่า 1700 จุดอีกรอบ แต่เป็นรอบที่ปัจจัยทางพื้นฐานไม่ค่อยสนับสนุนเท่าที่ควร ทั้งขาดปัจจัยหนุนใหม่ๆ แรงซื้อต่างชาติไม่มาก กำไรของตลาดที่ออกมาแล้วต่ำกว่าคาดและตลาดกำลังขึ้นไปเล่นที่ค่า P/E สูงสุดในรอบ 15 ปีโดยตอนนี้อัตราการทำกำไรของตลาดในอีก 12 เดือนข้างหน้าหรือ EPS 12 monthforward ทำได้แค่ 8% เทียบหลายๆ ปีที่สามารถทำในระดับ 12-15% คือค่า P/E 12 เดือนล่วงหน้าได้ขึ้นมาเล่นเหนือค่า +2SD หรือกำลังเทรดกันที่ 15.4 เท่า จากเดิมที่จะเล่นกันที่ค่าสูงสุดที่ 15.1 เท่า ประเด็นตรงนี้ถือว่าไม่น่าแปลกใจอะไร หากตลาดคาดว่าใน 1-2 ปีข้างหน้า อัตราการทำกำไรของตลาดจะสูงกว่านี้ เพียงแต่ตอนนี้อัตราการทำกำไรของตลาดยังทำไม่ได้ ซึ่งกว่าอัตราการทำกำไรของตลาดจะโตประมาณ 10% อาจต้องรอถึงQ1/18 หรือเร็วสุดคือ Q4/17 ผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) คือ ทาง ECB ส่งสัญญาณจะปรับลดการซื้อพันธบัตรลงเหลือ 30 พันล้านยูโร จากเดิมที่ 60 พันล้านยูโรโดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่เดือนม.ค. 61 เป็นต้นไป แต่ขยายระยะเวลาการซื้อออกไปอีกไปสิ้นสุดเดือนก.ย. วันนี้มองแนวโน้มดัชนี SET จะค่อยๆ ซึมตัวลงหลังตลาดหุ้นในภูมิภาคเริ่มแกว่งในกรอบแคบๆ และไร้ปัจจัยหนุนใหม่ๆ วันนี้มองแนวรับที่ 1704-1700 จุดและแนวต้านที่ 1712-1716 จุดวันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร BJC GLOBAL LH CPN และ IVL
Themes play :
KCE : เราแนะนำ ซื้อ KCE โดยมีราคาเป้าหมาย 121 บาท เรามองว่า KCE จะได้ประโยชน์จากแผนของเฟดที่จะเดินหน้า Reverse QE (ทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐจะกลับมาแข็งค่า) และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2018-19 ซึ่งจะส่งผลให้เงินบาทอ่อนค่าลงต่อดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนั้นราคาทองแดงที่เริ่มปรับลงในช่วงนี้ (จากค่าเงินดอลลาร์ที่กลับมาแข็งค่าต่อเนื่องหลัง ECB ขยายระยะเวลาการทำ QE ออกไปถึงเดือนก.ย. ปีหน้า)โดยต้นทุนทองแดงแผ่นมีสัดส่วนเพียง 8-12% ของต้นทุนรวม ขณะที่เราประเมินว่าราคาทองแดงที่ลดลง 1% จะส่งผลให้กำไรสุทธิของ KCE เพิ่มขึ้น 0.3% เราคาดว่า KCE จะรายงานกำไรปกติ 778 ล้านบาทใน 3Q17 ทรงตัว yoy และเติบโต 26% qoq โดยเราเชื่อว่าการขยายกำลังการผลิตของโรงงานลาดกระบังอีก 10% ใน 2Q17 บวกกับอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของไทยจะมียอดส่งออกสูงสุดใน 3Q น่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันให้กำไรเติบโต qoq ส่วนปริมาณการผลิตที่คาดจะเพิ่มขึ้น 18% yoy จะช่วยชดเชยผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน THB/US$ ที่ทรงตัวและต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น yoyนอกจากนี้ เราคาดว่าอัตรากำไรที่ดีกว่าคาดใน 3Q17 จะทำให้ KCE มีกำไรฟื้นตัวตั้งแต่3Q17 เป็นต้นไป
KCE : เราแนะนำ ซื้อ KCE โดยมีราคาเป้าหมาย 121 บาท เรามองว่า KCE จะได้ประโยชน์จากแผนของเฟดที่จะเดินหน้า Reverse QE (ทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐจะกลับมาแข็งค่า) และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2018-19 ซึ่งจะส่งผลให้เงินบาทอ่อนค่าลงต่อดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนั้นราคาทองแดงที่เริ่มปรับลงในช่วงนี้ (จากค่าเงินดอลลาร์ที่กลับมาแข็งค่าต่อเนื่องหลัง ECB ขยายระยะเวลาการทำ QE ออกไปถึงเดือนก.ย. ปีหน้า)โดยต้นทุนทองแดงแผ่นมีสัดส่วนเพียง 8-12% ของต้นทุนรวม ขณะที่เราประเมินว่าราคาทองแดงที่ลดลง 1% จะส่งผลให้กำไรสุทธิของ KCE เพิ่มขึ้น 0.3% เราคาดว่า KCE จะรายงานกำไรปกติ 778 ล้านบาทใน 3Q17 ทรงตัว yoy และเติบโต 26% qoq โดยเราเชื่อว่าการขยายกำลังการผลิตของโรงงานลาดกระบังอีก 10% ใน 2Q17 บวกกับอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของไทยจะมียอดส่งออกสูงสุดใน 3Q น่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันให้กำไรเติบโต qoq ส่วนปริมาณการผลิตที่คาดจะเพิ่มขึ้น 18% yoy จะช่วยชดเชยผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน THB/US$ ที่ทรงตัวและต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น yoyนอกจากนี้ เราคาดว่าอัตรากำไรที่ดีกว่าคาดใน 3Q17 จะทำให้ KCE มีกำไรฟื้นตัวตั้งแต่3Q17 เป็นต้นไป
ประเด็นสำคัญในสัปดาห์
27 ต.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข GDP Annualized QoQ ไตรมาส 3/60 โดยตลาดคาด 2.0%จากเดือนก่อนหน้าที่ 3.1%
31 ต.ค. : จีนประกาศตัวเลข Manufacturing PMI เดือนต.ค. จากเดือนก่อนหน้าที่ 52.4
31 ต.ค. : ยุโรปประกาศตัวเลข GDP SA YoY ไตรมาส 3/60 จากไตรมาสก่อนหน้าที่ 2.3%
27 ต.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข GDP Annualized QoQ ไตรมาส 3/60 โดยตลาดคาด 2.0%จากเดือนก่อนหน้าที่ 3.1%
31 ต.ค. : จีนประกาศตัวเลข Manufacturing PMI เดือนต.ค. จากเดือนก่อนหน้าที่ 52.4
31 ต.ค. : ยุโรปประกาศตัวเลข GDP SA YoY ไตรมาส 3/60 จากไตรมาสก่อนหน้าที่ 2.3%
คาดการณ์วันประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/60
30 ต.ค. : HMPRO
1 พ.ย. : SCC, THCOM, GLOBAL
2 พ.ย. : PTTEP, ADVANC
3 พ.ย. : INTUCH
30 ต.ค. : HMPRO
1 พ.ย. : SCC, THCOM, GLOBAL
2 พ.ย. : PTTEP, ADVANC
3 พ.ย. : INTUCH
Fundamental Stock :
TELCO : Sector Note คำแนะนำ : Overweight
BR : Company Note คำแนะนำ : ซื้อ ราคาเป้าหมาย 9.00 บาท
THCOM : Company Note คำแนะนำ : ขาย ราคาเป้าหมาย 14.80 บาท
IVL : Company Note คำแนะนำ : ซื้อ ราคาเป้าหมาย 54.00 บาท
TELCO : Sector Note คำแนะนำ : Overweight
BR : Company Note คำแนะนำ : ซื้อ ราคาเป้าหมาย 9.00 บาท
THCOM : Company Note คำแนะนำ : ขาย ราคาเป้าหมาย 14.80 บาท
IVL : Company Note คำแนะนำ : ซื้อ ราคาเป้าหมาย 54.00 บาท
Technical Pick:
กลยุทธ์ : SET Index แนวโน้มหลักยังมีโอกาสทดสอบแนวรับที่ 1670 จุด
FN Factory Outlet (FN TB; THB 5.50) – ซื้อ
SCI Electric (SCI TB; THB 7.30) – ซื้อ
กลยุทธ์ : SET Index แนวโน้มหลักยังมีโอกาสทดสอบแนวรับที่ 1670 จุด
FN Factory Outlet (FN TB; THB 5.50) – ซื้อ
SCI Electric (SCI TB; THB 7.30) – ซื้อ
SET Index : แนวต้าน 1708-1710 แนวรับ 1700 และ 1670
Analysts :
Kitichan Sirisukarcha +66(2) 761 9232 – [email protected]
Uraiwan Tantisuwannakul +66(2) 761 9256 – [email protected]
Line ID : @CIMBS Youtube : CIMBS
OO1657