บล.ธนชาต : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 
 
เกิดอะไรขึ้นวันก่อน: Trading Range: 1,692-1,740
          SET +0.55% ปิด 1,701.81 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.8 หมื่นล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 371 ล้านบาท
เรามองอย่างไร:
          SET สามารถกลับมายืนได้เหนือเส้นค่าเฉลี่ย 1 เดือนอีกครั้ง และ TradeCode แสดงสัญญาณ "Let Profit Run" มองความ "ผันผวน" ขณะที่ถ้าพิจารณาภาพทางพื้นฐานไม่ว่าจะเป็นการขยายตัวเศรษฐกิจ, กำไรบริษัทจดทะเบียน, การปรับประมาณการกำไรขึ้นของนักวิเคราะห์, แนวโน้มดอกเบี้ยในประเทศยังต่ำนาน, และสภาพคล่องตลาดเงิน-ทุนโลกยังสูง แม้ Fed เริ่มลดขนาดสินทรัพย์ตั้งแต่ ต.ค.นี้ ทำให้เรามองความ "ผันผวน" ที่เกิดขึ้นเป็นโอกาส "ซื้อ" เป้าหมายระยะสัปดาห์ 1,740 จุด ต่อไป
ทำอะไรดี:
          คงมุมมอง "บวก" ต่อ SET ระยะกลาง-ยาว และความ "ผันผวน" ระยะสั้นเป็นโอกาส "ซื้อ" หุ้นเข้าพอร์ต มองแรงซื้อ LTF ปลายปีจะ "จำกัด" downside risk ของตลาด แนะนำ "ซื้อ"
          1) หุ้นขนาดกลาง-ใหญ่ พื้นฐานดีที่ราคาเหวึ่ยงลงจากธุรกรรม Block Trade หรือกำไร 3Q17 แข็งแกร่ง อย่าง AMATA  WHA (คาดกฎหมาย EEC ออกภายในสิ้นเดือน พ.ย.) MINT BEAUTY CPALL HMRPO PTTGC  และ PTT
          2) กลุ่มหุ้นที่ Consensus ปรับประมาณการกำไรขึ้น ชอบ   THANI  RS TOP และ PSL  (non-coverage มองกำไร 3Q17 ฟื้นตัวต่อเนื่อง)
Tactical Portfolio (1-3 months): (หน้า 2)
          "ถือ" AMATA BEAUTY EA ESSO KBANK KKP PTT SAWAD STEC และ WHA ต่อไป (ไม่เปลียนแปลง)

 

Fundamental:  
          AAV : "ถือ" พื้นฐาน 6.40 บาท (เดิม 6.80 บาท).การฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวต่อเนื่อง แต่ด้วยการแข่งขันรุนแรง, ต้นทุนการบริหารที่เพิ่ม ส่งผลให้กำไรอาจฟื้นตัวได้น้อยกว่าคาด ปรับประมาณการกำไรลง 20-28% ปี 2017-19
          ผลการดำเนินงาน 3Q17 : DELTA กำไร 1.41 ล้านบาท +0% y-y และ +67% q-q แต่ถ้าไม่รวมรายการพิเศษกำไรจากการดำเนินงาน +2% y-y แต่ -1% q-q ใกล้เคียงคาด จากแรงกดดันของการแข็งค่าของเงินบาท ยังชอบการเติบโตระยะยาวของ DELTA และแนะนำ "ซื้อ" พื้นฐาน 105 บาท
          Pathumwan Corner : รายงาน The Revision ยังมองบวกต่อ SET และความผันผวนระยะสั้นดป็นโอกาสซื้อต่อไป โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังปรับประมาณการกำไรขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มการเงิน (THANI) และกลุ่มโรงกลั่น (TOP) ขึ้น
          Fund Selection : "ซื้อ" Multi-Asset Income Fund อย่าง KT-GOI รับประโยชน์หุ้นขาขึ้น และสร้างอัตราผลตอบแทนสม่ำเสมอ 9.7% ต่อปีในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และมีนโยบายจำกัดความผันผวน (volatility) ของกองฯ ที่ 8-12% ต่อปี

 

Technical Story: Technical SET range: 1,690-1,720
ลุ้นตั้งหลักต่อขึ้นไป: (The Technical Story)
          SET รีบาวด์ขึ้นต่อเนื่อง ด่านการรีบาวด์มีที่ 1,711 จุด ทะลุได้มีลุ้นกลับขึ้นทดสอบ 1,718-1,720 จุด ส่วนแนวรับหากยืน 1,695 จุดไม่อยู่ อาจถอยลงไปตั้งหลักใหม่ที่บริเวณ 1,690 จุด 

 

หุ้นแนะนำ:
          BCPG เข้าซื้อเพิ่ม เป้าหมาย 23.20 บาท
          KTC  เข้าซื้อเพิ่ม เป้าหมาย 141 บาท
          CPN  เข้าซื้อเพิ่มเมื่อทะลุ 78.75 เป้าหมาย 81 และ 84.50 บาท

 

Derivatives Recommendation:(ดูรายงาน The Derivatives Story)
          "เปิด" Long S50Z17 เป้าหมาย 1,109 / 1,020  Trailing Stop 1,075
          "Long" BlockTrade PTTGC เป้าหมาย 83 / 85.Leverage 18.5x
          TradeCode: Buy >PTTGC, MALEE, TMILL
Tactical Portfolio (1-3 เดือน)
          Tactical Portfolio : Tactical Portfolio ให้ผลตอบแทน +5.2% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ SET ให้ผลตอบแทน +1.0% ในช่วงเวลาเดียวกัน โดย ESSO และ SAWAD ให้ผลตอบแทน +13.2% และ +12.2% ดีที่สุดในพอร์ต ขณะที่ STEC ยัง laggard ตลาดต่อไป...ทั้งนี้เราแนะนำ "ถือ" หุ้นทั้ง 10 ตัวต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน ได้แก่ AMATA BEAUTY EA ESSO KBANK KKP PTT SAWAD STEC WHA มองเป้าหมาย SET ระยะสัปดาห์ที่ 1740 จุด
          "ซื้อ" ESSO.แม้ราคาขึนเร็ว แต่ valuation ยัง "ไม่แพง": แนะนำ "ซื้อ" ESSO ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 17.0 บาท ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก 1) ค่าการกลั่นสูงใน 3Q17 หนุนผลการดำเนินงานออกมาดี และคาดว่าจะสามารถล้างขาดทุนสะสมหมดใน 3Q17 เปิดทางจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานปี 2017 2) ค่าการกลั่นที่ทางตัวในระดับสูงต่อเนื่อง US$7-8/bbl ใน 4Q17 จะเป็นปัจจัยหนุนกำไรออกมาดีต่อเนื่อง และคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันกลั่นที่เพิ่มขึ้น มากกว่าปริมาณกาน้ำมันกลั่นที่เพิ่มขึ้นจะหนุนให้ค่าการกลั่นสูงต่อเนื่องในปีหน้า 3) แม้ราคาหุ้นปรับสูงขึ้นแรง แต่ valuation ยัง "ไม่แพง" ด้วย PE18 ที่ 8.0x เทียบกับ TOP SPRC IRPC PTTGC ที่ ระดับ 9.2-11x ขณะที่ 4) ทางเทคนิคทำรูปแบบ Cup with Handle เป้าหมาย 18 บาท
Siam Senses Portfolio  (6-12 เดือน)

 

หุ้นใน Siam Senses Portfolio
AMATA  : ผู้พัฒนานิคมที่จะได้รับประโยชน์โดยตรงและมากที่สุดจากโครงการ EECทั้งในแง่ของมูลค่าที่ดินและยอดขายที่สูงขึ้น และได้ประโยชน์จาก FDI เวียดนามที่แข็งแกร่งผ่านบริษัทย่อย AMATAV (ถือหุ้น 73%)
AOT    : ได้ประโยชน์ทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวฟื้นตัวและการประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์ปีหน้า
BEAUTY : เป็นหุ้น growth stock ที่ได้ประโยชน์จากการเติบโตของอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง และได้ market share ที่สูงขึ้น
CPALL  : ธุรกิจร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ที่แข็งแกร่ง เติบโตสูงจากการขยายสาขาและเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นจากสินค้าใหม่ที่มี margin สูง
CPN    : เข้าสู่รอบเติบโตสูงด้วย 23% EPS CAGR ช่วง 2017-20F จากการเปิดศูนย์การค้า 3-4 แห่งต่อปี และ operating leverage จากการปรับค่าเช่า
DTAC   : มูลค่าถูก ปลดล็อคความเสี่ยงสัมปทาน และความสามารถในการทำกำไร
EA     : เป็นหุ้น growth stock ยังโตสูงต่อเนื่องถึงปี 2019 จากสัญญาในมือที่จะทยอยดำเนินการ และมีโอกาสโตมหาศาลต่อเนื่องจาการขยายธุรกิจสู่แบตเตอรี่เก็บกักพลังงานซึ่งเป็นแนวโน้มของการพัฒนาอุตสาหกรรมไฟฟ้า
KBANK  : ได้รับผลประโยชน์สูงสุดจากเศรษฐกิจฟื้นตัว
KCE    : ฐานธุรกิจกลุ่มรถยนต์ที่มั่นคง เติบโตจากการขยายโรงงานและ market share ที่มากขึ้น
PTT    : ธุรกิจก๊าซหนุนกำไรโตแข็งแกร่ง
    
Thai Strategy Team
อดิศักดิ์  ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล
วิชนันท์ ธรรมบำรุง