บล.บัวหลวง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
 
รอบด้านตลาดหุ้น
วิเคราะห์ตลาดและแนวโน้ม
Consolidated
  วันนี้คาด ซึมลงต่อ ทดสอบแนวรับ 1,700 จุด (แนวต้าน 1,715 จุด)คงแนะสะสมหุ้นในภาวะที่ตลาดปรับฐาน

รอบนี้ เน้นกลุ่มที่เชื่อมโยงในประเทศ (Domestic play) ไว้เล่นรอบหน้า โดยคาดตลาดจะปรับฐานเสร็จ
ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้

ประเด็นที่ต้องตาม คาดมีผลต่อหุ้นที่เชื่อมโยง ได้แก่
  (1) ว่าที่ประธานเฟดคนใหม่ (รู้ผลภายในปลายเดือน ตค.-ต้น พย. นี้) ล่าสุดโพลชี้ Jerome Powell คะแนน
นำ ทิ้งห่าง Kevin Warsh คาดนโยบาย “โพเวล” ที่สนับสนุนการยกเลิกนโยบายผ่อนคลายทางการเงินแบบ
ค่อยเป็นค่อยไปเหมือน “เยลเลน” และเริ่มเอนเอียงต่อนโยบายผ่อนคลายกฎระเบียบคุมสถาบันการเงินคล้าย
ปธน.ทรัมป์ คาดส่งผลบวกต่อหุ้นโลกโดยเฉพาะกลุ่ม สถาบันการเงิน (Buy across the board กลุ่มสถาบัน
การเงิน) / หุ้นไทยแนะ กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากภาวะดอกเบี้ยต่ำนาน หนุน Earnings upward revision และ

 

หุ้นปันผลสูงชนะดอกเบี้ย ECL JMT KKP INTUCH
  (2) ประชุมพรรคคอมมิวนิสต์แห่งชาติจีน รอบ 5 ปี ยืนยันเน้นเร่งสร้างสาธารณูปโภค ตามเส้นทางโครงการ
“One belt one road” หุ้นที่เชื่อมโยง THE (ราคาเหล็กโลกพุ่งขึ้น), WHAUP (วางระบบสาธาณูปโภค)
  (3) น้ำท่วม คาด ครม. จะออกมาตรการช่วยเหลือ ปชช.หลังน้ำลด เช่น เงินอุดหนุนเพื่อปรับปรุงที่อยู่อาศัย
ทั้งทางตรง และทางอ้อมเช่น ผ่านมาตรการช๊อปช่วยชาติ/บัตรสวัสดิการแห่งรัฐฯ , งบประมาณประจำปี 2561
เริ่มเดือน ตค.นี้ เน้นซ่อมสร้างถนน / หุ้นที่เชื่อมโยงแนะนำ GLOBAL TASCO / และอื่นๆ ASAP (ความ
ต้องการรถเช่าทดแทนระหว่างรอซ่อมเพิ่มขึ้น และอุทกภัยหนุนอุปสงค์ turn รถยนต์/ trade รถยนต์ ในปีหน้า
คาด เป็นบวกต่อธุรกิจใหม่ของ ASAP ที่จะเปิดศูยน์เทรดรถยนต์มือสอง) ECL (ให้บริการศูนย์ซ่อมรถยนต์)
ECF (เปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ใหม่ และจับตาการประกาศตัวธุรกิจใหม่)
  (4) หุ้นที่เชื่อมโยงผลประกอบการ กับหุ้นตลาดสหรัฐฯ: เมื่อวาน IBM รายงานกำไรสูงกว่าตลาดคาด สะท้อน
ภาวะการฟื้นตัวของธุรกิจ ฮาร์ดแวร์ ซอฟแวร์ และแนวโน้ม Big Data ที่กำลังมาแรง CCET SPPT DELTA
ระยะสัปดาห์ ยังเป็นไปตามคาด คือมีโอกาสพักฐาน บริเวณ 1,700/1,705 จุด และจะเป็นจุดที่ต้องระวังของ
รอบนี้ หากหลุดคาดว่าจะมี การเร่งขายล็อกกำไรตามมา จนลงมาสร้างฐานบริเวณ 1,680 จุด อีกครั้ง …แต่
กรณียืนเหนือ 1,700 จุด คาดว่า ดัชนีฯจะรีบาวด์ขึ้นทดสอบ 1,720 จุด ได้ โดยหุ้นที่เชื่อมโยงการบริโภคใน
ประเทศ จะกลับมา Outperform
  กลยุทธ์ คงคำแนะนำ กระชับพอร์ตหุ้นบูลชิพ เช่น โรงไฟฟ้า โรงกลั่น ปิโตรเคมี และหุ้นที่แรลรี่ขึ้นแรงรอบนี้
แล้วเปลี่ยนตัว เข้าสะสม หุ้นเชื่อมโยงการบริโภคในประเทศ เช่น มือถือ, ค้าปลีก, ธนาคาร, รีเทลไฟแนนซ์,
สื่อโฆษณา และหุ้นที่มีปัจจัยหนุนเฉพาะตัว

 

หุ้นแนะนำวันนี้
  ECF แนวรับ 6.55 ต้าน 7 Stop loss 6.3
  GRAMMY แนวรับ 13 ต้าน 14 Stop loss 12.5
  WHAUP แนวรับ 7.25 ต้าน 7.65 Stop loss 7
  ASAP แนวรับ 7.6 ต้าน 8.05/8.45 Stop loss 7

รายงานวันนี้
DTAC : Re-accumulate the stock on weak 3Q17 earnings
  บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 3Q17 ที่ 601 ล้านบาท ลดลง 9%YoY และ 19%QoQ ต่ำกว่าคาดไป 13% ส่วน
กำไรหลักต่ำคาดไป 27% เพราะรายได้ค่าบริการน้อยกว่าคาด อย่างไรก็ดีเราคาดรายได้ค่าบริการจะดีขึ้น
ใน 4Q17 จากรายได้ postpaid และ prepaid ที่มีเสถียรภาพมากขึ้น นอกจากนี้เรามองว่ามีโอกาสที่การ
เซ็นคลื่น 2300MHz จะล่าช้าไปปีหน้าส่งผลให้ต้นทุนจะยังไม่รับรู้ในปีนี้ ดังนั้นเราปรับกำไรขึ้นเพื่อสะท้อน
ประเด้นนี้ราว 25% เป็น 2.2 พันล้านบาทในปี 2017 เราคงแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 75 บาท

 

TCAP : 3Q17 result beat on extra gains
  ธนาคารรายงานกำไร 3Q17 ที่ 1.79 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 19%YoY และ 7%QoQ มากกว่าคาด 8% เพราะ
มีกำไรจากเงินลงทุนราว 568 ล้านบาท (เราคาดเพียง 150 ล้านบาท) แนวโน้ม 4Q17 เราคาดกำไรจะดี
อย่างต่อเนื่อง เพราะมีการขายหุ้น MBK ออกไปเมื่อ 10 ต.ค. ที่ผ่านมา เราคงประมาณการกำไรปีนี้ที่ 6.5
พันล้านบาท และคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 57 บาท

 

SQ: แม่เมาะ 9 ... ก้าวที่สำคัญ
  เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ปรับราคาเป้าหมายไป ณ สิ้นปี 2018 ที่ 9 บาท (อิง P/E 20 เท่า) ปัจจุบันหุ้นเทรด
บน P/E 19 เท่าในปี 2017 และจะลดลงเหลือเพียง 16 เท่าในปีหน้า นับว่าไม่แพงเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย PE
ของกลุ่มที่ 25 เท่า)
  ราคาหุ้นมีปัจจัยหนุนจากงานโครงการแม่เมาะ 9 ที่คาดจะประกาศผลผู้ผ่านคุณสมบัติทางเทคนิคในช่วง 1-
2 สัปดาห์นี้ ก่อนที่จะประกาสผลผู้ชนะภายในสิ้นเดือน ต.ค.-ต้นเดือน พ.ย. ซึ่งหากบริษัทได้รับงานจะหนุน
ให้ Backlog ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 7.6 หมื่นล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ และจากการประเมินเบื้องต้น
หากชนะงานแม่เมาะ 9 จะหนุนให้เกิด EPS ส่วนเพิ่มกับบริษัทราว 40% (สุทธิจากผลกระทบของ Dilution
Effect จากการเพิ่มทุน)

 

TMB: Heavy provisioning into 2018
  เราคาดธนาคารจะตั้งสำรองค่อนข้างมาก ตั้งแต่ 4Q17 ไปจนถึง ปี 2018 เพื่อที่จะลดสัดส่วน NPL/loan ลง
นอกจากนี้ยังมี downside risk จาก NIM ที่อาจน้อยกว่าคาด และยังมีการลงทุนเพื่อรองรับ
digital/online/wireless banking คาดส่งผลให้ต้นทุน (cost/income ratio) ปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ดีด้วย
valuation ที่ไม่แพง เพียง 1.16 เท่า PBV เราแนะนำ ถือ ราคาเป้าหมาย 2.8 บาท

MEDIA: OOH and digital TV buck downtrend in September
  วานนี้ ที่ประชุม กสทช. มีความเห็นชอบปรับลดค่าธรรมเนียมค่าใบอนุญาตดิจิตอลทีวี เรามองว่าการปรับลด
ดังกล่าวจะช่วยผู้ประกอบการรายใหญ่ประหยัดต้นทุนราว 20-48 ล้านบาทในปี 2018 (คิดเป็น 4-7% ของ
ประมาณการกำไร) แต่คาดจะเป็นการช่วยลดภาระของผู้ประกอบการรายเล็กมากกว่า สำหรับภาพเม็ดเงิน
โฆษณาเดือน ก.ย. ยังติดลบต่อเนื่อง 8% YoY แต่กลุ่มดิจิตอลทีวีและกลุ่มสื่อนอกบ้านเม็ดเงินยังไหลเข้า
ได้ดีเติบโต YoY เรายังคงเลือก WORK, MONO, RS และ PLANB เป็น Top pick

 

กลุ่มบ้านและอสังหาฯ: Room to rally in 2018
  เรายังคงคำแนะนำ OVERWEIGHT สำหรับกลุ่มบ้านและอสังหาฯ หนุนโดยกำไรที่คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง
ใน 3Q17-4Q17, อัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่น่าสนใจใน ก.พ. 2108, และภาพกำไรที่จะเร่งตัวขึ้นใน
2018 ในขณะที่ราคาหุ้นยังอยู่ในระดับถูก เทรดที่ PER กลุ่ม 9.1 เท่า ปี 2017 และ 8.2 เท่าปี 2018 ต่ำกว่า
ค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 10.9 เท่า เรามีการปรับคำแนะนำ QH ขึ้นเป็น ซื้อเก็งกำไร และปรับคำแนะนำ SC ขึ้น
เป็น ซื้อ สำหรับ Top pick ของเรายังเป็น LPN จากกำไรทีคาดเติบโตโดดเด่นที่สุดในกลุ่มสำหรับปี 2018
และความชัดเจนของกำไรค่อนข้างสูง เรามีการปรับคำแนะนำและราคาเป้าหมายของกลุ่มไป ณ สิ้นปี 2018

 

หุ้นมีข่าว/ประเด็น
  (*) "ริโอ ทินโต" ถูกก.ล.ต.สหรัฐตั้งข้อหาฉ้อโกง เหตุรายงานมูลค่าสินทรัพย์เกินจริง (ที่มา สำนักข่าว
อินโฟเควสท์ 18 ต.ค. 60) คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) ได้ตั้ง
ข้อหาฉ้อโกงต่อบริษัท ริโอ ทินโต ผู้ผลิตเหมืองแร่ยักษ์ใหญ่ของออสเตรเลีย รวมถึงอดีตผู้บริหารของ
บริษัทอีก 2 ราย เนื่องจากผู้ที่ถูกกล่าวหานั้นรายงานมูลค่าสินทรัพย์ที่สูงเกินจริงเพื่อปกปิดตัวเลขขาดทุน
ส่วนสินทรัพย์ที่ ริโอ ทินโต ได้รายงานมูลค่าเกินจริงคือธุรกิจถ่านหินที่ประเทศโมซัมบิก ซึ่งทางบริษัทได้
ซื้อไปวงเงิน 3.7 พันล้านดอลลาร์เมื่อปี 2554 หรือ 6 ปีที่แล้ว แต่หลังจากนั้นไม่กี่ปีได้ขายไปมูลค่า 50 ล้าน
ดอลลาร์ นอกเหนือจากสหรัฐแล้ว สำนักงานกำกับตลาดการเงินอังกฤษ (FCA) ยังได้สั่งปรับ ริโอ ทินโต เป็น
เงิน 27 ล้านปอนด์ด้วย ฐานฝ่าฝืนระเบียบการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจเดียวกัน
  (+) BEC GRAMMY MCOT WORK RS กสทช.เตรียมปรับลดค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทีวี
ดิจิทัลปลายปี-เล็งถกมาตรการช่วยเหลือเสนอรัฐบาล (ที่มา ข่าวอินโฟเควสท์) โดยกำหนดแนวทางยกร่าง
ประกาศฯ เพื่อนำไปรับฟังความคิดเห็นภายใน 45 วัน ก่อนจะนำเข้าสู่ที่ประชุม กสทช.และประกาศใช้ต่อไป
ในช่วงปลายปีนี้

 

OO1454