- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 16 October 2017 21:38
- Hits: 5156
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily
ภาพตลาดวันวาน
ดัชนีเปิดตัวแรง แกว่งตัวผันผวนสลับขึ้นลง ทำจุดสูงสุดของวันที่ 1719.60 จุด เพิ่มขึ้น 5.46 จุด ก่อนที่จะเผชิญแรงขายจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน ขนส่ง กดดัชนีไหลลงเข้าสู่แดนลบ ทำจุดต่ำสุดของวันที่ 1709.57 จุด ลดลง 4.57 จุด พร้อมกับแกว่งตัวอยู่ในแดนลบจนปิดตลาด มีกรอบการเคลื่อนไหวทั้งวันที่ 10.03 จุด ทั้งนี้หุ้นที่มี Impact ต่อการปรับตัวลงของดัชนีได้แก่ PTT, AOT, TOA, SCC, KBANK, PTTGC ก่อนดัชนีจะทำปิดที่ 1712.48 จุด ลดลง 1.66 จุด (-0.10%) มูลค่าการซื้อขาย 65,105 ล้านบาท
ภาพตลาดวันนี้
ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีมีทิศทางผันผวนที่อิงทางบวก พักบ้างขึ้นบ้าง โดยปรับตัวขึ้นแรงช่วงกลางสัปดาห์ขึ้นยืน 1700 จุดได้อย่างแข็งแกร่ง โดยขึ้นทำ New High ที่ 1719 จุด ในวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งเข้าใกล้แนวต้านสำคัญ 1720 จุด ทำให้เกิดแรงขายกดดัชนีลงมาทำ Low 1709 จุด และทำปิดที่ 1712 จุด ซึ่งการปิดต่ำกว่าเปิดส่งผลให้กราฟแท่งเทียนเตือนในเชิงลบวันที่ 2 ทำให้มีมุมมองที่ดัชนีมีโอกาสพักตัวแต่คาดว่าไม่ลึก และไม่ควรหลุด 1700 จุด ซึ่งถือเป็นจังหวะในการเข้าซื้อ มีแนวรับ 1705-1708 จุด แนวต้าน 1718-1723 จุด
แกว่งตัวผันผวน – มีโอกาสชะลอตัว ที่ไม่ควรหลุด 1700 จุด
Support 1690 // 1680 จุด Resistance 1720 // 1735 จุด
พรรณนภา เขมะสุรัตน์ Technical Analyst
เลขทะเบียน : 060110 Tel 02- 6481124
Email: [email protected]
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell
'ภาพสดใส แต่มีขายทำกำไรเป็นระยะๆ'
ทิศทางตลาดหุ้นสัปดาห์นี้ : แนวโน้มดัชนีฯยังมีโอกาสเดินหน้าต่อ โดยมีกรอบแนวรับ-แนวต้านของดัชนีที่ 1,700-1,730 จุด แต่จะเป็นลักษณะขึ้นๆพักๆ เป้าสูงสุดรอบนี้ เราให้ไว้ที่ 1,758 จุด .... ตัวแปรสำคัญ ยังเป็นของไทยเอง คือ การเมืองและกำไรของตลาดหุ้นที่ขยายตัวดี หรืออาจดีกว่าคาดสำหรับปี 2018 …. ตัวแปรต่างประเทศ ส่วนใหญ่แล้วเป็นบวกต่อตลาด โดยเฉพาะแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ขยายตัวดี แต่คงต้องจับตาดูสหรัฐฯ ทั้งเรื่องกฎหมายภาษีและการเลือกประธาน Fed คนใหม่
กลยุทธ์การลงทุน : แรงส่งของ Fund Flow เพราะตลาด Laggard มานานยังมีต่อ .... คำแนะนำ
ภาพตลาดสัปดาห์ที่ผ่านมา
SET Index สัปดาห์ก่อนปิดที่ระดับ 1,712.48 จุด ปรับตัวขึ้นจากสัปดาห์ก่อนที่ 16.51 จุด หรือ +0.97% ตลาดหุ้นสามารถปรับตัวยืนเหนือ 1,700 จุดได้ เป็นผลมาจากกระแสเงินจากต่างชาติจากความเชื่อมั่นประเทศไทยที่สูงขึ้นหลังการประกาศวันเลือกตั้งที่ชัดเจน
ปัจจัยที่ควรติดตาม
ปัจจัยต่างประเทศ ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย Dollar Spot Index ปรับตัวลงประมาณ -0.7% เรามองการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์เป็นแค่ประเด็นชั่วคราวเท่านั้น ซึ่งคาดการณ์ว่าสัปดาห์นี้ค่าเงินดอลลาร์จะกลับมาแข็ง-บาทอ่อน จากประเด็นต่อไปนี้
1) การคัดเลือกประธาน Fed คนใหม่ - มองว่าในสัปดาห์นี้จะมีความชัดเจนในการคัดเลือกประธาน Fed คนใหม่ มากขึ้น จากผลสำรวจของ Wall Street Journal พบว่า Kevin Warsh มีโอกาสที่จะได้รับเลือกเป็นประธาน Fed คนใหม่มากที่สุดที่ 28% โดย Warsh เป็นสายเหยี่ยว (Hawkish) กล่าวคือ จะไม่สนับสนุนนโยบายที่จะก่อให้เกิดเงินเฟ้อ เช่น มาตรการ QE, การลดดอกเบี้ยเป็นเวลานาน ซึ่งหาก Warsh ได้เป็นประธาน Fed คนใหม่ มองว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยที่มีจำนวนครั้งสูงขึ้นในปีหน้า (คาดการณ์เดิมที่ 3 ครั้งในปีหน้า) ซึ่งจะส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์จะมีโอกาสแข็งค่าต่อเนื่องได้
2) นโยบาย Tax Reform ของ ปธน. ทรัมป์ - แม้นโยบาย Tax Reform ของทรัมป์ยังไม่ผ่านร่างแต่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ปธน. ทรัมป์ ได้กล่าวเน้นย้ำถึงการผลักดันนโยบายดังกล่าว โดยช่วง ก.ย. ที่ผ่านมา ทรัมป์ได้เสนอลดภาษีนิติบุคคลลลงเป็น 20% จากเดิมที่ 35% ซึ่งเรามองว่าสัปดาห์นี้นโยบายดังกล่าวจะมีความคืบหน้าขึ้นและหากผ่านร่างสหรัฐฯจะเกิดการขาดดุลการคลังและค่าเงินดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้นในท้ายที่สุด
ปัจจัยในประเทศ Flow จากต่างประเทศยังเข้าหุ้นไทย, ติดตามการประกาศงบกลุ่มแบงก์
1) ต่างชาติมี net position เป็นซื้อ - สัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติยังมี net position เป็นซื้อ ซึ่งเป็นผลบวกต่อเนื่องจากการประกาศวันเลือกตั้งในเดือน มิ.ย. 18 และจะมีการเลือกตั้งในเดือน พ.ย.18
2) การ preview สำหรับงบ 3Q17 - คาดว่าจะเริ่มเห็นการเข้ามาเก็งกำไรจากการ preview งบการเงินสำหรับช่วง 3Q17 โดย Bloomberg ประเมินกำไร 110 บริษัทที่ทำประมาณการมาแล้ว ว่าช่วง 3Q17 การเติบโตจะอยู่ที่ประมาณ +10% YoY, +4% QoQ
3) การส่งงบการเงินของกลุ่มธนาคาร - สัปดาห์นี้กลุ่มธนาคารจะประกาศงบครบทุกตัว โดยเราคาดการณ์ผลการดำเนินงานของกลุ่มไว้ที่ -2.3% YoY, +11.8% QoQ นอกเหนือจาก TISCO ที่ส่งงบไปแล้ว เราคาด TMB จะเติบโตได้ดี +19.7% YoY จากรายได้ค่าธรรมเนียมของ FWD ที่รับรู้ในปีนี้77
Stock Picks of The Week
SCC : ราคาปิด 500.00 บาท ราคาเหมาะสม 567.48 บาท
ด้วยมุมมอง Flow จากต่างชาติยังคงเข้าหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง เราจึงเลือก SCC ซึ่งเป็นหนึ่งในหุ้นขนาดใหญ่เป็นเป้าหมายของต่างชาติ และราคายัง laggard จากหุ้นขนาดใหญ่ตัวอื่น Bloomberg คาดผลประกอบการปี 2017 ที่ 386 ล้านบาท (+33% YoY) และคาดจะเติบโตต่อเนื่องในปี 2018 ที่ 504 ล้านบาท (+30% YoY)
แม้ spread ของปิโตรเคมีจะไม่สูงนัก แต่ด้วยการลงทุนภาครัฐซึ่งเรามองว่าจะถูกผลักดันให้เกิดขึ้นในช่วงก่อนการประกาศเลือกตั้งจะส่งผลบวกต่อธุรกิจวัสดุก่อสร้างของ SCC คาดการณ์กำไรสุทธิปี 2017 โดย Bloomberg ที่ระดับ 54,494 ล้านบาท ลดลง -3% YoY จาก spread ปิโตรเคมีที่ปรับตัวลงจากปีก่อน
ราคาพื้นฐานโดย Bloomberg ที่ 567.48 บาท
SPALI : ราคาปิด 24.30 บาท ราคาเหมาะสม 27.50 บาท
เรามองว่านักลงทุนจะเข้ามาเก็งกำไรสำหรับผลประกอบการช่วง 3Q17 โดย SPALI เป็นอีกหนึ่งหุ้นที่คาดการณ์ว่าผลประกอบการช่วง 3Q17-4Q17 จะเติบโตสูง (คิดเป็น 61% ของประมาณการกำไรสุทธิทั้งปี)
KTBST คาดกำไรสุทธิปีที่ 5,229 ล้านบาท เติบโตที่ระดับ +7.0% YoY จากการรับรู้ backlog ที่สูงของโครงการคอนโด และคาดปี 2018 จะเติบโตต่อเนื่องที่ +11.0% YoY ที่ระดับ 5,820 ล้านบาท และ ในปี 2018 จะมีโครงการคอนโดมิเนียมใหม่เริ่มโอนสูงจำนวน 9 โครงการ มูลค่ารวมราว 17,000 ล้านบาท
ราคาพื้นฐานโดย KTBST ที่ 27.50 บาท
Weekly Portfolio
หุ้น เหตุผล
SCC(ราคาปิด 500.00) ด้วยมุมมอง Flow จากต่างชาติยังคงเข้าหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง เราจึงเลือก SCC ซึ่งเป็นหนึ่งในหุ้นขนาดใหญ่เป็นเป้าหมายของต่างชาติ และราคายัง laggard จากหุ้นขนาดใหญ่ตัวอื่น …. แม้ spread ของปิโตรเคมีจะไม่สูงนัก แต่ด้วยการลงทุนภาครัฐซึ่งเรามองว่าจะถูกผลักดันให้เกิดขึ้นในช่วงก่อนการประกาศเลือกตั้งจะส่งผลบวกต่อธุรกิจวัสดุก่อสร้างของ SCC คาดการณ์กำไรสุทธิปี 2017 โดย Bloomberg ที่ระดับ 54,494 ล้านบาท ลดลง -3% YoY จาก spread ปิโตรเคมีที่ปรับตัวลงจากปีก่อน .... (ราคาที่เหมาะสม โดย Bloomberg ที่ 567.48 บาท)
SPALI(ราคาปิด 24.30) ด้วยมุมมองที่ว่านักลงทุนจะเริ่มเข้ามาเก็งกำไรสำหรับผลประกอบการช่วง 3Q17 เรามอง SPALI เป็นอีกหนึ่งหุ้นที่จะรายงานผลประกอบการช่วง 3Q17 เติบโตได้อย่างโดดเด่น .... SPALI รายงานยอด Presales งวด 3Q17 โดดเด่นทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 11,776 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 65% YoY และ 104% QoQ และคาดการณ์ผลประกอบการช่วง 3Q17 ที่ระดับ เราคาดการณ์ผลประกอบการช่วง 2H17 เป็น 61% ของคาดการณ์ผลประกอบการทั้งปี 2017 โดยเราคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2017 ที่ระดับ 5,229 ล้านบาท (+7.0 YoY) …. (ราคาพื้นฐานโดย KTBST ที่ 5.30 บาท)
IVL(ราคาปิด 45.00) IVL เป็นอีกหนึ่งหุ้นขนาดใหญ่ ซึ่งคาดว่าจะมีแรงซื้อจาก Flow ที่จะเข้ามาในรอบนี้ การปรับตัวลงของ 2Q17 เป็นผลมาจาก stock loss แต่ถ้าดูเฉพาะกำไรที่มาจาก operation มีแนวโน้มที่ดีขึ้นจาก spread (margin) ที่ดีขึ้น +1.8% QoQ ต่อจากนี้ IVL จะเข้าสู่ช่วงเก็บเกี่ยวสิ่งที่ลงทุนไปช่วงก่อนหน้านี้และ IVL ยังได้ประโยชน์หากมาตรการลดภาษีนิติบุคคลสหรัฐฯผ่านร่าง นอกจากนี้ IVL ยังมีการเข้าซื้อกิจการ DuPont Teijin Films ที่ประกาศ deal เมื่อสัปดาห์ก่อน .... (ราคาที่เหมาะสมโดย KTBST ที่ 43.00 บาท)
AMATA(ราคาปิด 22.00) เรามองว่ามาตรการ EEC จะถูกเร่งรัดให้เกิดขึ้นก่อนช่วงเวลาเลือกตั้งนี้ โดยเรามองว่า AMATA ได้รับผลประโยชน์มากที่สุดในกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม เนื่องจากพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมทั้งหมดของ AMATA ตั้งอยู่บนพื้นที่เขต EEC จำนวนมากที่สุด ได้แก่ นิคมอมตะซิตี้ ตั้งอยู่บนเนื่อที่ประมาณ 14,550 ไร่ จังหวัดระยอง และ นิคมอมตะนคร ตั้งอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 25,700 ไร่ จังหวัดชลบุรี และจากความสนใจลงทุนในเขต EEC ของนักลงทุนญี่ปุ่น จะส่งผลบวกต่อ AMATA มากที่สุด เนื่องจาก AMATA มีสัดส่วนลูกค้าส่วนใหญ่มาจากญี่ปุ่นและเป็นอุตสาหกรรม Auto .... คาดการณ์กำไรสุทธิปี 2017 สำรวจโดย Bloomberg ที่ 1,317 ล้านบาท (+10% YoY) และคาดจะเติบโตสูงขึ้นในปี 2018 อีก +23% YoY ที่ 1,616 ล้านบาท โดยคาดว่านักวิเคราะห์จะมีการปรับประมาณการขึ้นไปอีกหลังความชัดเจนเรื่องนโยบาย EEC มีมากขึ้น .... (ราคาที่เหมาะสมโดย Bloomberg ที่ 22.72 บาท)
JMT*(ราคาปิด 32.25) เรายังคงแนะนำ JMT ต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน โดยเรามองว่า JMT มีผลการดำเนินงานดีขึ้นจากแนวโน้มอัตราความสำเร็จ, อัตราค่าธรรมเนียมที่สูงขึ้น, รายได้จากการบริหารลูกหนี้ที่เพิ่มขึ้นตามมูลหนี้ที่บริหารสูงขึ้น และอัตราส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยที่ลดลง และการย้าย J Fintech ซึ่งมีผลขาดทุนไปอยู่ใต้ JMART จะช่วยให้ JMT มีผลประกอบการที่ดีขึ้นมาก .... Bloomberg คาดผลประกอบการปี 2017 ที่ 386 ล้านบาท (+33% YoY) และคาดจะเติบโตต่อเนื่องในปี 2018 ที่ 504 ล้านบาท (+30% YoY) .... (ราคาพื้นฐานโดย Bloobmerg ที่ 35.36 บาท)
Analysts : Mongkol Puangpetra
+662 648 1123
Nontapat Rushtasomboon
+662 648 1127