- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 26 August 2014 16:18
- Hits: 1674
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(+) ตลาดหุ้นต่างประเทศ : DJIA +75.65, NASDAQ +18.80, S&P +9.52,CAC +89.31 และ DAX +170.97 (FTSE ปิดทำการเนื่องในวันหยุดธนาคาร) ภายใต้ปัจจัยบวกจากประเด็นการเสนอซื้อกิจการและควบรวมกิจการของบริษัทเอกชน รวมถึงข่าวที่ว่าบริษัทเบอร์เกอร์ คิง กำลังเจรจาเพื่อซื้อเครือข่ายร้านกาแฟและโดนัทของทิม ฮอร์ตันส อิงค์ สัญชาติแคนาดา เพื่อก่อตั้งบริษัทโฮลดิ้ง ซึ่งจะสร้างกลุ่มบริษัทร้านอาหาร ที่ให้บริการอาหารจานด่วนขนาดใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของโลก โดยประเด็นดังกล่าวสามารถชดเชยปัจจัยลบจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ (1) ยอดขายบ้านใหม่ - กค. ลดลง 2.4% สู่ระดับ 412,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน และต่ำกว่าที่คาดไว้ที่ 430,000 ยูนิต (2) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้น - ส.ค. อยู่ที่ 58.5 ลดลงจาก 60.8 เมื่อกค.
.....ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปได้รับปัจจัยบวกเพิ่มจากประเด็นที่ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณว่าจะผลักดันนโยบายการเงินให้ผ่อนคลายมากขึ้น
…..ราคาปิดน้ำมันดิบ (Nymex) ส่งมอบ ตค. -US$0.30 อยู่ที่ US$93.35 ต่อบาร์เรล ภายใต้ปัจจัยกดดันจากการคาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิงของสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 4 ส่งสัญญาณอุปสงค์พลังงานในสหรัฐฯ ชะลอตัว
....ทางด้านราคาทองคำ ส่งมอบเดือน ธ.ค. -US$1.3 อยู่ที่ US$1,278.9 ต่อออนซ์ ส่วนหนึ่งได้รับปัจจัยกดดันจากเงินสหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น หลัง ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณว่าจะผลักดันนโยบายการเงินให้ผ่อนคลายมากขึ้น
(-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ -276 ล้านบาท สะสมตั้งแต่ต้นปี -25,275 ล้านบาท (สิ้นปี ’56 มียอดขายสุทธิสะสม 193,911 ลบ)
ทิศทางตลาด
ทิศทางตลาด : Sideway? คาดมีโอกาสปรับขึ้น แม้ยังไม่มีปัจจัยใหม่ในประเทศ และคาดในวันนี้ได้รับปัจจับลบบ้างจาก Fund Flow ที่ยังมีความผันผวน แรงซื้อขายต่างชาติสลับกัน แต่มูลค่าไม่มากนัก ซึ่งยังแนะให้ติดตามค่าเงินบาทประกอบ โดยคาดเป็นหนึ่งสัญญาณที่แสดง Flow เข้า (บาทแข็ง) หรือ Flow ออก (บาทอ่อน)
....แต่ภาพรวมตลาดหลังจากนี้ไปคาดยังได้รับปัจจัยบวก (1) ประเด็นในประเทศ จากการแต่งตั้ง ครม. คาดภายในเดือนกย. นี้ (ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ใน Road Map ระยะที่ 2 ก่อนเข้าสู่ระยะที่ 3 ซึ่งเป็นการเลือกตั้ง ประมาณปลายปี’58) ซึ่งคาดยังเป็นปัจจัยหนุนตลาดหลังจากนี้ โดยเฉพาะการดำเนินนโยบายต่างๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างความเชื่อมั่นในการลงทุนให้ดีขึ้นตามลำดับ (2) ประเด็นต่างประเทศ จากความเป็นไปได้ที่ ECB พิจารณาใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม ขณะที่ถ้อยแถลงของประธานเฟดล่าสุดยังไม่มีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับช่วงเวลาที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรก
....และยังแนะให้ติดตาม (1) ความคืบหน้าในโครงการที่พร้อมเปิดประมูล หลังมีความชัดเจนแหล่งเงินทุนที่จะนำมาใช้ โดยเฉพาะโครงการรถไฟทางคู่ 6 เส้นทางที่ผ่าน EIA ไปแล้วเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา รวมถึงโครงการรถไฟฟ้าสายต่างๆ ที่คาดเป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง (2) ภาครัฐเตรียมผลักดันเขตเศรษฐกิจพิเศษ 6 แห่ง โดยกระทรวงคมนาคมเตรียมเสนอโครงการพัฒนาเส้นทางคมนาคมเชื่อมด่านการค้าชายแดน 6 แห่ง นอกจากนี้ยังมีประเด็นการปรับโครงสร้างราคาพลังงาน ที่อาจจะส่งผลกระทบหุ้นในกลุ่มโรงกลั่น และปิโตรเคมี
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.02 อยู่ที่ 2.39% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) และดัชนีความเสี่ยง (VIX) +0.23 อยู่ที่ 11.70
หุ้นแนะนำ : ERW
ประเด็นที่ต้องติดตาม (25 - 29 สค.’57)
26/8/57 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน - กค. (2) ราคาบ้าน - มิย. (3) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค - สค.
27/8/57 : งานไทยแลนด์โฟกัส (ถึงวันที่ 29/8/57)
สหรัฐฯ เปิดเผย (1) สต็อกน้ำมัน
28/8/57 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) ตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 GDP – 2Q/57 (2) ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน (3) ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) - กค.
29/8/57 : สหรัฐฯ เปิดเผย (1) รายได้ส่วนบุคคล - กค. (2) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) - สค. (3) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคท้าย - สค.
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ 02-684-8788