- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 26 August 2014 16:18
- Hits: 1605
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
UOBKH แนวโน้มตลาดวันนี้ โดย ยศพณ แสงนิล, CFA : ผันผวนเชิงบวก
เราคาดว่า ตลาดไทยวันนี้จะผันผวนเชิงบวก โดยปัจจัยหนุนภายในประเทศคือ การเก็งกำไรก่อนการประกาศ ครม.ชุดใหม่ และแผนโครงสร้างพื้นฐานในเดือนกันยายน ประกอบกับมี Sentiment เชิงบวกจากฝั่งยุโรปที่น่าจะมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในเร็วๆนี้ อย่างไรก็ตามเราแนะนำให้ลงทุนอย่างระมัดระวัง ขายบ้างเมื่อมีกำไร เนื่องจากดัชนีปรับขึ้นมามากพอสมควรแล้วในปีนี้
แนวรับ/แนวต้าน : 1555/1570
กลยุทธ์ : Upside เริ่มจำกัด เล่นสั้น ซื้อหุ้นเมื่อดัชนีย่อลง และทยอยขายบ้างเมื่อมีกำไร เน้นกลุ่มพลังงานทดแทน และขนส่ง
สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 40%: พอร์ตหุ้น 60%
นักลงทุนระยะสั้น : THREL(20), AIRA(3.50)
นักลงทุนระยะยาว : DEMCO(14), IFEC(6.50)
จับข่าวมาเก็งกำไร
SAPPE : นางสาวปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) เผยว่า แนวโน้มยอดขายช่วงไตรมาสที่ 3/57 จะสามารถทำสถิติสูงสุดใหม่ จากเดิมเคยทำยอดขายได้สูงสุดไตรมาสละ 770 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่มาจากยอดส่งออกไปยังต่างประเทศที่ช่วยผลักดันยอดขายให้เติบโตขึ้น อย่างไรก็ดีบริษัทมองว่ายอดขายในประเทศจะปรับตัวดีขึ้นในครึ่งปีหลัง เนื่องจากความวุ่นวายในประเทศลดลง อีกทั้งจะมีการออกแคมเปญต่างๆเพื่อกระตุ้นยอดขาย และออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆเพิ่มขึ้น นอกจากนี้บริษัทยังคงเป้ารายได้เติบโต 25-30% จากปีก่อน จากการเติบโตของยอดขายเครื่องดื่มที่มากขึ้น โดยเฉพาะยอดขายจากการส่งออกต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันบริษัทส่งออกไป 64 ประเทศ จากปี 2556 ที่มี 50 ประเทศ ด้านรายได้จากการส่งออกอยู่ที่ 60% และรายได้ภายในประเทศอยู่ที่ 40% (ข่าวหุ้น)
ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการลงทุน
ปัจจัยภายในประเทศ
- สศช.เผยรายงานภาวะสังคมในไตรมาส 2/2557 พบว่า การก่อหนี้สินครัวเรือนไทยชะลอตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจ เห็นได้จากยอดสินเชื่อเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลในระบบธนาคารพาณิชย์ 3.33 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.8% ถือเป็นการเพิ่มในอัตราที่ชะลอลงติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 6 เพราะความกังวลเกี่ยวกับรายได้และการมีงานทำในอนาคต จึงทำให้มีการชะลอการใช้จ่ายลง เผยครัวเรือนผิดนัดชำระหนี้เพิ่ม ยอดค้างเกิน 3 เดือนพุ่งกระฉูดถึง 50% บัตร-กู้เงินสดเจอดี รายได้เพิ่มยังไม่พอ
ปัจจัยต่างประเทศ
+ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,076.87 จุด เพิ่มขึ้น 75.65 จุด หรือ +0.44%
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 ส.ค.) ขานรับข่าวการเสนอซื้อกิจการและควบรวมกิจการของบริษัทเอกชน รวมถึงข่าวที่ว่าบริษัทเบอร์เกอร์ คิง กำลังเจรจาเพื่อซื้อกิจการทิม ฮอร์ตัน ซึ่งปัจจัยบวกดังกล่าวช่วยหนุนดัชนี S&P 500 ทะยานขึ้นเหนือระดับ 2,000 จุดเป็นครั้งแรกในระหว่างวัน
+ สัญญาน้ำมันดิบ ส่งมอบเดือนต.ค.ลดลง 30 เซนต์ ปิดที่ 93.35 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (25 ส.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิงของสหรัฐ จะปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 4 ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะอ่อนแอของอุปสงค์พลังงานในสหรัฐ