- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 12 October 2017 16:18
- Hits: 2753
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
แกว่งขึ้นต่อ ฟันด์โฟลว์ยังหนุนหุ้นใหญ่
KGI คาด SET วันพฤหัสฯ ก่อนหยุด 3 วัน ยังแกว่งขึ้น คาดฟันด์โฟลว์ยังแข็งแกร่งตามความมั่นใจต่อกำหนดการเลือกตั้งที่ชัดเจนจากนายกฯ ทิศทางเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัว ผนวกกับตัวเลขงบไตรมาส 3/60 ของหุ้นธนาคารที่ได้รายงานเป็นตัวแรกเมื่อวานเย็น ได้แก่ TISCO* นั้นค่อนข้างแข็งแกร่ง น่าจะสนับสนุนหุ้นไทยต่อในวันนี้ ด้านปัจจัยภายนอก ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับขึ้นต่อทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้ง ตอบรับรายงานการประชุมเฟดจากครั้งเดือน ก.ย. ซึ่งชี้ว่ากรรมการเฟดเสียงแตกอย่างหนักต่อการตัดสินใจว่าจะขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่ในการประชุม ธ.ค. นี้ เนื่องจากเงินเฟ้อสหรัฐฯ ยังต่ำกว่าเป้าหมาย 2% ค่อนข้างมาก ปัจจัยดังกล่าวน่าจะหนุนค่าเงินบาทให้ฟื้นตัวต่อได้ สำหรับในสัปดาห์หน้า ปัจจัยสำคัญที่น่าติดตามได้แก่ i) ผลประกอบการไตรมาส 3/60 ของหุ้นธนาคารที่น่าจะออกมาทั้งหมดในสัปดาห์หน้า ii) ข่าวสารในสหรัฐฯ เกี่ยวกับการคัดเลือกประธานเฟดคนใหม่ ซึ่งน่าจะมีความชัดเจนออกมามากขึ้น
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร ECL, COM7* / สะสม BBL*
ECL (เป้าพื้นฐาน 4.1 บาท ... เป้า Consensus 4.6 บาท) 1) ประเมินแนวโน้มกำไร 3Q60 จะยังเติบโต YoY และ QoQ เป็นราว ±38 ล้านบาท (+90% YoY, 9% QoQ) โดยประเมินยอดสินเชื่อใหม่ 3Q60 จะอยู่ที่ราว 700 ล้านบาท (+45% YoY โดย 3Q59 ยอดสินเชื่อใหม่ = 485 ล้านบาท) คาดยอดสินเชื่อสิ้นปีนี้มีโอกาสทะลุเป้าที่เราประมาณการไว้ที่ 4.5 พันล้านบาท ... มีโอกาสปรับประมาณการฯ ขึ้น 2) ล่าสุดเปิดอู่ซ่อมรถ Fixman สาขา เกษตร-นวมินทร์ รองรับธุรกิจ ซ่อมรถ และ การรับประกันเครื่องยนต์รถมือสอง (เป็นธุรกิจที่ผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง PFS ประสบความสำเร็จที่ญี่ปุ่น โดยมีส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1) และคาดจะเปิดอีก 2 สาขาภายในสิ้นปีนี้ ... เรายังไม่รวมประเด็นธุรกิจนี้ในประมาณการฯ 3) ประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศที่ฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง + การกำหนดกรอบเวลาการเลือกตั้งที่ชัดเจน ทำให้ผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะลงทุนซื้อสินค้าคงทน (รถยนต์ + บ้าน) มากขึ้น 4) ประเมินกรอบ Uptrend line channel แนวรับ 3.96 – 4.62 บาท (Stop loss 3.8 บาท)
COM7* (เป้า Consensus 13.8 บาท … สูงสุด 15.5 บาท) 1) ประเมินกรอบ Uptrend line channel 13.6 – 15.2 บาท (Trailing stop 13.6 บาท) 2) ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 3Q60 โต YoY และ QoQ จาก i) จำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้น ii) ร้านใหม่อย่าง หัวเว่ย+Oppo ii) ธุรกิจใหม่ เช่น ลีสซิ่ง เริ่มรับรู้กำไร เป็นต้น 3) ประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศที่ฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง + การกำหนดกรอบเวลาการเลือกตั้งที่ชัดเจน ทำให้ผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะกล้าจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น
BBL* (เป้าพื้นฐาน 220 บาท) 1) ฝ่ายวิจัยฯประเมินกำไร 3Q60 โต 4.2% QoQ และ 4.0% YoY เป็น 8.38 พันล้านบาท ... อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในบทวิเคราะห์ Preview 3Q60 กลุ่มธนาคารพาณิชย์ วันที่ 4 ต.ค.60 2) เราคาด BBL* จะเป็นธนาคารที่ได้อานิสงส์การฟื้นตัวของเศรษฐกิจ จากการฟื้นตัวของสินเชื่อภาคธุรกิจ 3) ประเมิน Valuation laggard โดยมี PBV ที่ยังต่ำเพียง 0.94 เท่า โดยค่าเฉลี่ยกลุ่มธนาคารพาณิชย์อยู่ที่ +1.4 เท่า 4) ประเมินแนวรับ 186 บาท แนวต้าน 193 บาท และ 200 บาท ตามลำดับ
หุ้นในกระแส
หุ้นรับกระแสเลือกตั้ง จากประเด็นการกำหนด ช่วงเวลาการเลือกตั้งประมาณเดือน พ.ย.61 คาดเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นในกลุ่มที่เชื่อมโยงเศรษฐกิจในประเทศ
i) กลุ่มธนาคารพาณิชย์ (แบงก์ใหญ่ BBL*, KBANK / แบงก์เล็ก TCAP*, TISCO*): การประกาศกรอบเวลาที่ชัดเจนเรื่องการเลือกตั้ง คาดเป็นบวกต่อเม็ดเงิน Fund flow ที่จะไหลเข้าไทย โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่ยัง Laggard ตลาดฯ แนะนำ “สะสม” BBL*, KBANK* และ “เก็งกำไร” TCAP*, TISCO* … TISCO* รายงานกำไร 3Q60 = 1.6 พันล้านบาท (+5% QoQ และ +26% YoY) ตามคาด
ii) กลุ่มค้าปลีก (หุ้นหลัก COM7*, CPN*, BJC* / หุ้นรอง TNP) ประเมินบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอย ในประเทศจะฟื้นตัวต่อเนื่อง (จากข้อมูลในอดีตยอดขายค้าปลีกจะเด่นในช่วงก่อนการเลือกตั้ง) แนะนำ “เก็งกำไร” COM7*, CPN*, BJC* และลุ้นรีบาวด์ TNP
iii) กลุ่มสินค้าอุปโภค-บริโภคทั่วไป (MOONG, ECF, MC) ประเมินหุ้นกลุ่มอุปโภคบริโภคทั่วไป จะได้อานิสงส์ในทิศทางเดียวกับกลุ่มค้าปลีก แนะนำ “เก็งกำไร” MOONG, ECF, MC
iv) กลุ่มเช่าซื้อ (ECL) เราประเมินแนวโน้มการบริโภคในประเทศจะเริ่มฟื้นตัว ทำให้ผู้บริโภคจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น และซื้อสินค้าคงทน (รถยนต์) มากขึ้น แนะนำ “เก็งกำไร” ECL
v) TKS (เป้า Consensus 16.2 บาท ... สูงสุด 17.4 บาท) TKS เคยได้รับงานพิมพ์บัตรเลือกตั้ง จึงมีโอกาสที่จะได้รับงานในครั้งนี้ รวมทั้งคาดยอดแสตมป์ร้าน 7-11 จะโตเด่นตามยอดขาย แนะนำ “เก็งกำไร”
หุ้นมีข่าว
(+) 'ไอเอ็มเอฟ' ปรับเพิ่มเศรษฐกิจไทยโต 3.7% (กรุงเทพธุรกิจ) ไอเอ็มเอฟปรับเพิ่มตัวเลข คาดการณ์เศรษฐกิจไทยและโลก ทั้งในปีนี้ และปีหน้า แรงหนุนจากการขยายตัวในวงกว้าง ของเศรษฐกิจทั่วโลก รวมถึงประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่เอเชีย
(+) เลือกตั้งหนุนโฆษณาปี 61 ฟื้น (โพสต์ทูเดย์) นายกสมาคมมีเดีย เอเยนซีฯ ระบุหากมีเลือกตั้งตามประกาศปีหน้า คาดโฆษณาจะฟื้นกลับมาโต 5% หลังติดลบมาหลายปี นายไตรลุจน์ นวะมะรัตน นายกสมาคมมีเดียเอเยนซี่และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หากประเทศไทยมีการประกาศวันเลือกตั้งในเดือน มิ.ย. 2561 และให้มีการจัดการเลือกตั้งทั่วไปในเดือน พ.ย. 2561 ตามที่ประกาศเชื่อว่าน่าจะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมโฆษณาอย่างแน่นอน เพราะจะทำให้มีเม็ดเงินสะพัดเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ทำให้ผู้บริโภคมีเงินที่จะออกมาจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะทำให้ผู้ประกอบการในธุรกิจต่างๆ สามารถขายสินค้าได้มากขึ้น และเมื่อขายสินค้าได้ผู้ประกอบการก็จะมีเงินนำมาใช้จ่ายซื้อสื่อโฆษณา
(+) MC เดินเกมบุกต่างแดนรุกตลาดออนไลน์อัพยอด (ทันหุ้น) MC ก้าวเดินหน้าตามแผนกลยุทธ์ ขยายสาขาทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ รุกตลาดออนไลน์ และ Omni Channel พัฒนาระบบ CRM รวมถึงเพิ่มไลน์สินค้าใหม่ พร้อมอัพโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายปลายปี ปั๊มผลงานตามเป้าหมายที่วางไว้
(+) มาร์ค โมเบียส ตามรอย 'ป๋อง' บิ๊กล็อต PLANB* (ข่าวหุ้น) 'มาร์ค โมเบียส' ซื้อหุ้น PLANB* ตามรอย “เสี่ยป๋อง” ส่งกองทุน “TEMPLETON-BLACKROCK” เข้าซื้อบิ๊กล็อต 100 ล้านหุ้น ในราคา 6 บาท มูลค่ารวม 600 ล้านบาท ฟาก PLANB* ลั่นกองทุนเชื่อมั่นพื้นฐานบริษัทมีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง
(+) SQ จ่อซิวงานแม่เมาะ 9 มูลค่า 4 หมื่นล้านต.ค.นี้ (ข่าวหุ้น) 'SQ' รอรับข่าวดี จ่อซิวงานเหมืองแม่เมาะ 9 มูลค่ากว่า 4 หมื่นล้านบาทในช่วง ต.ค.นี้ หนุนแบ็กล็อกพุ่งกระฉูดแตะ 7.6 หมื่นล้านบาท พร้อมเร่งวางเครื่องจักรขนาดใหญ่ลุยงานเหมืองแม่เมาะ 8 ทันปีนี้ การันตีผลงานปี 60 โตต่อเนื่อง
(+) PF-GRAND ผนึกซูมิโตโม ผุดคอนโดหรู 4.5 พันล้าน (ข่าวหุ้น) 'PF-GRAND' จับมือ 'ซูมิโตโม ฟอเรสทรี” บริษัทยักษ์ใหญ่ในธุรกิจไม้และรับสร้างบ้านของญี่ปุ่น ตั้งบริษัทร่วมทุน ประเดิมพัฒนาคอนโดลักชัวรี่ระดับไฮเอนด์แห่งใหม่ย่านทองหล่อ ทุ่มเงินลงทุน 4,514 ล้านบาท
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
SUSCO (เป้า Consensus 5.3 บาท) ประเมินแนวรับ 3.60 บาท / แนวต้าน 3.9 บาท และ 4.1 บาท ตามลำดับ (Stop loss 3.50 บาท)
WHA* (เป้า Consensus 3.81 บาท) ประเมินกรอบ Channel Line 3.56–3.84 บาท แนะนำ “เก็งกำไร” ในกรอบฯ (Trailing stop 3.56 บาท)
TAPAC (เป้า Consensus 29.6 บาท) ประเมินแนวรับ 21.8 บาท แนวต้าน 23 บาท และ 24.1 บาท ตามลำดับ (Stop loss 20.5 บาท)
BCP* (เป้าพื้นฐาน 43 บาท) แนะนำ 'Let profit run' ประเมินแนวต้านถัดไปที่ 46 บาท โดยกำหนด Trailing Stop 41.5 บาท สำหรับนักเก็งกำไรสั้น แนะนำพิจารณาที่แนวราคา 42.75 บาท หากผ่านได้ แนะนำ “เก็งกำไรตาม” หากยังไม่ผ่าน แนะนำ “อ่อนตัวสะสม”
GLOBAL* (เป้าพื้นฐาน 16.3 บาท) แนะนำ 'Let profit run' กำหนด Trailing Stop 16.7 บาท
CHEWA (ยังไม่มีเป้า Consensus) ประเมินกรอบแนวรับ – แนวต้าน 1.30 – 1.40 บาท แนะนำ “เก็งกำไร” ในกรอบฯ และกรณีผ่านกรอบแนวต้าน 1.40 บาทได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1.46 บาท (Stop loss 1.28 บาท)
สรุป Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
กลุ่มสินเชื่อ (Non-Bank) น้ำหนักการลงทุน “เท่ากับตลาดฯ” ฝ่ายวิจัยฯ ประเมิน i) กำไรสุทธิของ MTLS* และ SAWAD* จะทำสถิติสูงสุดใหม่ใน 3Q60 จากปัจจัยด้านฤดูกาล โดยการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องทำให้เราคาดว่าสินเชื่อของทั้งสองบริษัทน่าจะโตได้ประมาณ 10 – 11% QoQ ในขณะที่คาดว่าของ MTLS* จะโต 33% YTD และของ SAWAD* จะโต 20% YTD, ii) สำหรับ KTC* ผลประกอบการจะถูกกระทบจากการปรับลดเพดานดอกเบี้ยบัตรเครดิตเหลือ 18% และอัตราการเติบโตของยอดใช้จ่ายผ่านบัตรที่ชะลอลง แนวโน้มการเติบโตจะชะลอลงในปี 2561 ดังนั้นจึง de-rate ราคาเป้าหมาย KTC* ลง และเนื่องจากเหลือ upside ไม่มาก จึงปรับลดน้ำหนักกลุ่ม non-bank เป็น “เท่ากับตลาดฯ”
กลุ่มสื่อ น้ำหนักการลงทุน 'มากกว่าตลาดฯ'ยอดเม็ดเงินโฆษณาในเดือน ก.ย.60 = 8.9 พันล้านบาท (-1% MoM, -8% YoY) โดยส่วนที่ลดลงมากคือ Tradition media เช่น ทีวีอนาล๊อก เคเบิล/ทีวีดาวเทียม วิทยุ หนังสือพิมพ์ เป็นต้น แต่ส่วนที่เติบโตเด่นเป็นสื่อประเภท Out of Home Media เช่น โรงภาพยนต์ ป้าย เป็นต้น ฝ่ายวิจัยฯยังคงมุมมองที่เป็นบวกต่ออัตราการเติบโตของกำไรของหุ้นในกลุ่มฯทั้งใน 3Q60 และปี 2561
IRPC* แนะนำ 'ซื้อ' เป้าพื้นฐาน 7.3 บาท i) ฝ่ายวิจัยฯปรับประมาณการกำไรปี 2560 และปี 2561 ขึ้น 20% และ 7% ตามลำดับ จากการปรับสมมติฐาน PP และ ABS Spread (ผลจากการปิดโรงงานปิโตรเคมีที่จีน ที่ไม่ผ่านเรื่องสิ่งแวดล้อม) ii) ปรับเป้าพื้นฐานขึ้นเป็น 7.3 บาท (เดิม 6.9 บาท) iii) คาดกำไร 3Q60 = 3.3 พันล้านบาท (+175% YoY, +443% QoQ)
SEAFCO แนะนำ 'ซื้อ'เป้าพื้นฐาน 18.5 บาท ฝ่ายวิจัยฯประเมินกำไร 3Q60 = 43 ล้านบาท (+239% YoY, +12.7% QoQ)
HMPRO* แนะนำ 'ซื้อ' เป้าพื้นฐาน 11.9 บาท ฝ่ายวิจัยฯประเมินกำไร 3Q60 = 1.2 พันล้านบาท (+25% YoY, +5% QoQ)
LPH แนะนำ 'ซื้อ' เป้าพื้นฐาน 11 บาท ฝ่ายวิจัยฯประเมินกำไรสุทธิของ LPH ใน 3Q60 = 45 ล้านบาท (+4% YoY, +34% QoQ)
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- นัยต้าน 1715 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือนัยแนวต้าน 1715 จุดนั้น อาจทรงราคาขึ้นในกรอบ 1715-1725 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงหรือปิดเหนือนัยแนวต้าน 1715 จุดได้นั้น อาจทรงลงในกรอบ 1715-1705 จุด
แนวรับวันนี้: 1710/1705 แนวต้านวันนี้: 1716/1725
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
บทวิเคราะห์ : 1 อดิศักดิ์ คำมูล 2 66.2658.8888 ต่อ 8843 3 [email protected]