- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 11 October 2017 21:31
- Hits: 3384
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
คำกล่าวเรื่องกำหนดการเลือกตั้งสร้าง Sentiment บวกต่อตลาด
ตลาดหุ้นช่วงบ่ายวานนี้ดีดตัวขึ้นมาร้อนแรงหลังจากมีถ้อยแถลงของนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ที่คาดว่าประกาศวันเลือกตั้งได้ มิ.ย.61 และกำหนดวันเลือกตั้งได้ พ.ย.61 ซึ่งที่จริงแล้วเรื่องดังกล่าวเป็นที่รับรู้มาบ้างแล้วแต่ไม่มีการระบุชัดเจนเท่าข่าวที่ออกเมื่อวานนี้ อย่างไรก็ตาม แรงซื้อหลักน่าจะมาจากนักลงทุนในประเทศเพิ่มความเชื่อมั่นมากขึ้น เกิดแรงซื้อดันดัชนี +14 จุด ทะลุ 1,700 จุดอย่างง่ายดาย และมูลค่าการซื้อขายมากกว่า 8 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะยังมีอานิสสงค์ต่อในวันนี้ สำหรับหุ้นกลุ่ม Domestic PIay ซึ่งเราเลือก QH ต่อจากเมื่อวาน TMT, GLOBAL ซึ่งเป็น Top Pick รายเดือนของเรา กรอบดัชนี 1,701-1,714 จุด
Stock Comment
QH เน้นอสังหาริมทรัพย์แนวราบ คือ บ้านและทาวเฮาส์ ซึ่งกลุ่มนี้มี ReaI Demand การเก็งกำไรน้อยกว่ากลุ่มคอนโดมีเนียม เราคาดว่า Sentiment การอุปโภคบริโภคในประเทศจะกลับมาหลังเดือน ต.ค.
TMT คาดผลประกอบการไตรมาส 3/60 กลับมาเติบโตดี โดยรวมเราคาดว่ากลุ่มเหล็กผลประกอบการกลับมาดีขึ้นเป็นส่วนใหญ่ และเริ่มมีออเดอร์สั่งซื้อเพื่อใช้ในช่วงไตรมาส 4/60 และ 1/61 แล้ว ราคาเป้าหมาย 20.00 บาท
GLOBAL เราคาดการณ์กำไรสุทธิครึ่งปีหลังเติบโตโดดเด่นจากฐานที่ต่ำมากในช่วง 2H59 ราคาเป้าหมาย 18.00 บาท
หุ้นเด่นวันนี้ : QH (2.78 บาท; ซื้อ; 12M เป้าหมายของ AWS เท่ากับ 3.02 บาท)
คาดกำไรจากการดำเนินงานไตรมาส 3/60 ของ QH อยู่ในเกณฑ์ปานกลางคือประมาณ 770 ล้านบาท แต่คาดว่าจะบันทึกกำไรทางบัญชีจากการลดสัดส่วนการลงทุนใน LHBANK เข้ามาราว 900-1,000 ล้านบาทในไตรมาสนี้ QH โดดเด่นด้วยการมี VaIue Backup จากบริษัทย่อยที่ถือหุ้นมีการเติบโตที่เด่น ทั้ง HMPRO, LHBANK, QHPF และ QHHR กิจการของ QH และของบริษัทย่อย มีแนวโน้มได้รับประโยชน์จากการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปี 2561 ขณะที่หุ้น QH มีค่า PER ที่ต่ำเพียง 9.2 เท่า ปันผลตอบแทนราว 5.4% ยังมี Upside ราว 8.6%
Price Pattern ของ QH มีความแข็งแกร่งอย่างมากจากแนวโน้มหลักที่อยู่ในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จากการเกิดทั้ง DaiIy, WeekIy, & MonthIy Buy SignaI เมื่อพิจารณา Price Pattern ของ QH ที่สามารถ Break เป้าหมายเบื้องต้นด้วยการปิดตลาดเหนือ 2.78 บาทได้สำเร็จ จึงมีเป้าหมายถัดไปอยู่ที่ 3.02 บาท และมีเป้าหมายสำคัญอยู่ที่ 3.26 บาท ตามลำดับ ทั้งนี้ QH มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 2.70 บาท
ประเด็นน่าติดตาม
นายกฯ คาดประกาศวันเลือกตั้งได้ มิ.ย. 61-จัดการเลือกตั้งได้ใน พ.ย.61: พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า จะประกาศวันเลือกตั้งในเดือน มิ.ย. 61 และจะมีการเลือกตั้งในเดือน พ.ย.61 (InfoQuest) ความเห็น: คาดว่าเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นโดยรวม เพราะคาดว่าทำให้มี Fund FIow ไหลเข้าตลาดหุ้นไทย ทั้งในส่วนของหุ้น Domestic PIay และ GIobaI PIay แต่เราเน้นไปที่การลงทุน และคาดว่าส่งผลให้มี โดยน่าจะบวกต่อกลุ่มรับเหมาก่อสร้างและวัสดุก่อสร้าง ที่คาดว่ารัฐบาลจะทิ้งทวนในการอนุมัติงบประมาณ รวมถึงหุ้นธนาคาร ค้าปลีก
ปัจจัยในประเทศ :
BBL-SCB-KTB ปล่อยกู้รถไฟฟ้าสายสีชมพู-เหลือง 6.3 หมื่นล้านบาท: โดยธนาคารลงนามกับผู้ร่วมลงทุนประกอบด้วย BTS-STEC-RATCH ขณะที่ BBL ปล่อยกู้ 33% ของวงเงินรวม และเป็นผู้นำในการจัดหาเงินกู้สนับสนุนโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าทั้ง 2 สายดังกล่าวโดยมีวงเงินสินเชื่อระยะยาว (Term Loan) ในรูปแบบการปล่อยกู้ร่วม (Syndicated Loan) ทยอยเบิกจ่ายตั้งแต่เดือนมิ.ย. 60 ความเห็น: เราคาดว่าผลบวกจะตกกับกลุ่มธนาคารเป็นส่วนใหญ่ในการเพิ่มยอดสินเชื่อและสร้างรายได้ดอกเบี้ย ขณะที่เราคาดว่า STEC จะได้เป็นผู้รับเหมาหลักในการดำเนินโครงการดังกล่าว ปัจจัยบวกต่อ STEC โดย เราคาดว่าการเริ่มต้นก่อสร้างน่าจะเกิดขึ้นไตรมาส 1/61
ตลาดต่างประเทศ :
สหรัฐฯ : ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก ดาวโจนส์ทำนิวไฮเมื่อคืนนี้ (10 ต.ค.) โดยได้รับปัจจัยหนุนจากหุ้นวอลมาร์ทที่พุ่งขึ้นกว่า 4% หลังจากบริษัทประกาศแผนซื้อคืนหุ้นในวงเงิน 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานการประชุมประจำเดือน ก.ย.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อหาสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ พร้อมกับรอดูผลประกอบการไตรมาส 3 ของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค และสายการบินเดลต้า แอร์ไลน์ นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีอย่างใกล้ชิด หลังจากมีการคาดการณ์ว่า เกาหลีเหนืออาจยิงขีปนาวุธในวันที่ 18 ต.ค. ซึ่งเป็นวันประชุมพรรคคอมมิวนิสต์จีน ค่าเงินเหรียญสหรัฐฯ กลับสู่การอ่อนค่า โดย US DoIIar Index หรือ DXYO อ่อนค่าต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 หลังจากแตะสูงสุด 94.267 จุด ปัจจุบันอ่อนมาที่ 93.229 จุด ความเห็น: ไม่เป็นผลบวกกับหุ้นส่งออกของไทย แนะนำ Neutral สำหรับหุ้นที่มีรายรับเป็นเงินเหรียญสหรัฐฯ ในช่วงนี้ไปก่อน KCE ปรับลดราคาเป้าหมายจากเดิม 128 บาท เป็น 105 บาท Upside เหลือน้อย
ยุโรป : เงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อคืนนี้ (10 ต.ค.) หลังเจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้ออกมากล่าวสนับสนุนให้ ECB ลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ตั้งแต่ปีหน้า พร้อมกับมีเป้าหมายในการยุติการซื้อพันธบัตรในปีหน้าเช่นกัน ECB เตรียมตัดสินใจว่าจะยังคงซื้อพันธบัตรในปีหน้าหรือไม่ในวันที่ 26 ต.ค.ในการประชุม ECB)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
น้ำมัน WTI ปิดพุ่ง 1.34 เหรียญสหรัฐฯ ขึ้นกว่า 2% ขานรับซาอุดิอาระเบียลดการส่งออกน้ำมันในเดือน พ.ย. ตามข้อตกลงของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด กลุ่มโอเปกและรัสเซีย รวมทั้งผู้ผลิตน้ำมันอีกหลายประเทศ ได้ปรับลดกำลังการผลิตรวม 1.8 ล้านบาร์เรล/วันจนถึงไตรมาสแรกของปีหน้าเพื่อแก้ปัญหาน้ำมันล้นตลาด ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจาสัปดาห์ของสหรัฐ ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพรุ่งนี้
ทองคำ ราคาทองฟิวเจอร์ปรับตัวฝขึ้นในวันนี้ จากแรงหนุนของดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง โดยปิดตลาดในแดนบวกเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน
ค่าการกลั่น ขึ้นมาที่ 7.35 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล จากวานนี้ 7.17 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ทรงตัวต่อเนื่อง
ดัชนีค่าระวางเรือเทกอง ปรับตัวขึ้นอีก 7 จุด (+0.50%) มายืนที่ 1,418 จุด เป็นวันที่ 3 บวกต่อ PSL และ TTA
Thailand Research Department
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 0-2680-5090
Mrs. Vajiralux Sanglerdsillapachai (No.17385) Tel: 0-2680-5077
Ms. Veeraya Rattanaworatip (No.86645) Tel: 0-2680-5042
Mr. Adisak Prombun (No.14543) Tel: 0-2680-5056
Mr. Nutchapol Cheevavichawalkul (No.46377) Tel: 2-2680-5094
