- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 09 October 2017 16:19
- Hits: 2500
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ระวังแกว่ง...เลือกซื้อ/ถือเมื่อ SET เหนือ 1680
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : SET Index วันศุกร์ขึ้นไปสูงสุด 1701.12 และต่ำสุด 1693.79 (แกว่งในวัน 7.33 จุด) ปิดตลาด +5.10 จุดที่ 1695.97 นำโดยหุ้นแบงค์เล็ก โรงกลั่น ปิโตรเคมี และรับเหมาก่อสร้าง นักลงทุนต่างชาติและสถาบันในปท.ซื้อสุทธิแต่ไม่มากทั้งนี้ดัชนีฯ ได้ทะลุผ่านเป้าหมายของเราในปี 60 ที่ 1,650 จุดไปแล้วราว 50 จุด ซึ่งเป็นการลงทุนที่สะท้อนแนวโน้มปีหน้าไปบางส่วนแล้วโดยเราประเมิน SET Index Target ของปี 61 ไว้ที่ 1,815 จุด (อิงกับ EPS growth ปี 60-61 เฉลี่ยที่ 8% ต่อปีและ P/E ที่ Median+1SD)
สำหรับปัจจัยภายนอก - ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.สหรัฐหดตัว 3.3 หมื่นตำแหน่ง (แย่กว่าที่คาดว่าจะเพิ่มราว 1 แสนตำแหน่ง) แต่ก็กระทบตลาดหุ้นสหรัฐไม่มากเพราะมองว่าลดลงชั่วคราวจากผลกระทบจากพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์และเออร์มา ขณะที่ตัวเลขรายได้แรงงาน/ชั่วโมงที่เพิ่ม 2.5%YoY และอัตราว่างงานที่ลดเป็น 4.2% ในเดือนก.ย.บ่งชี้ว่าภาคแรงงานยังแข็งแกร่ง
ปัจจัยภายใน – มีข่าวดีว่า ICAO ปลดล็อคธงแดงออกจากไทยแล้ว ซึ่งเป็นข่าวบวกกับหุ้นสายการบิน (BA, AAV, THAI, NOK) และสนามบิน (AOT) ผนวกกับกำลังเข้าสู่ High season ของท่องเที่ยวในช่วง 4Q และ 1Q ปีหน้าด้วย หุ้นเด่นของเราเป็น AAV (TP 7.05 บาท) และ AOT (TP 65 บาท)
หุ้น Update วันนี้เป็น SIRI - ทาง DBS คาดว่ากำไร 3Q60F จะโต 23%YoY แต่ลด 8%QoQ ซึ่งเป็นไปตามทิศทางการรับรู้รายได้ และส่วนแบ่งกำไรจาก JV ที่เข้ามาราว 80 ล้านบาท (จากโครงการ The line จตุจักร หมอชิต) สำหรับยอดขายปีนี้อาจต่ำกว่าเป้าที่ 4 หมื่นลบ. เล็กน้อย (9M60 มียอดขาย 2.48 หมื่นลบ. +21%YoY, คิดเป็น 60% ของเป้า) ราคาหุ้นสะท้อนข่าวบวกไปพอควรแล้ว แนะนำ Fully Valued
ส่วนปัจจัยที่ติดตามสัปดาห์นี้ – Preview ผลประกอบการ 3Q60F , รายงานการประชุม FOMC, ดัชนีราคาทั้ง PPI และ CPI งวดก.ย.ของสหรัฐและประเทศชั้นนำ, ยอดค้าปลีกเดือนก.ย.ของสหรัฐ เป็นต้น
กลยุทธ์ลงทุน : เลือกซื้อ/ถือต่อ เมื่อ SET และราคาหุ้นอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน (ระยะสั้นมากอยู่ที่ 1680 จุด) หุ้นกลยุทธ์พื้นฐานแนะนำรายสัปดาห์ (วันที่ 4-10 ต.ค.60) ประกอบด้วย ERW และ MTLS (Growth Play) สำหรับหุ้น Picks ใน Wealth Perspective-Equity เดือน ต.ค.60 คือ ERW, MTLS, KBANK, PTTGC, TISCO และ Dark Horse เป็น COM7 ส่วนหุ้นเทคนิคดีมีโอกาสทำ New High ได้แก่ TISCO, TCAP, PSH, SENA, BCP, IRPC, TOP, PTTGC, IHL, RJH
ปัจจัยต่างประเทศ & ในประเทศที่สำคัญ
ปัจจัยต่างประเทศ ตลาดหุ้น ตลาดน้ำมันและทองคำ
• สหรัฐ : เชื่อว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรก.ย.หดชั่วคราวเพราะถูกกระทบจากพายุเฮอร์ริเคน
# ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐลดลง 33,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 156,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 4.2% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 16 ปี จากระดับ 4.4% ในเดือนส.ค. ทั้งนี้ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนก.ย.ลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ย.2553 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์ และเออร์มา
+/• สหรัฐ : รายได้ต่อชั่วโมงแรงงานเพิ่ม 2.5%YoY ในเดือนก.ย.60...สูงกว่าเป้าหมายเงินเฟ้อ
# ค่าแรงต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน (ซึ่งเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ) +0.5%MoM ในเดือนก.ย. (+12 เซนต์ สู่ระดับ 26.55 ดอลลาร์) และ +2.5%YoY ซึ่งสูงกว่าระดับ 2% ที่เป็นเป้าหมายของเฟด สิ่งนี้หมายความว่าเฟดมีแนวโน้มมากขึ้นที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.ปีนี้
+ สหรัฐ : สต็อกภาคค้าส่งเดือนส.ค.เพิ่มขึ้นดี
# สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งประจำเดือนส.ค.ของสหรัฐ +0.9% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 59 หลังจาก +0.6% ในเดือนก.ค. และหากไม่นับรวมหมวดรถยนต์ สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งพื้นฐาน ซึ่งใช้ในการคำนวณตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐ +0.8% ในเดือนส.ค.
# ยอดขายภาคค้าส่ง +1.7% ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.59 หลังจากทรงตัวในเดือนก.ค.
• ภาวะตลาดหุ้นสหรัฐ : ปิดในกรอบแคบ
# ดัชนี DJIA ปิดลดลง 1.72 จุด หรือ -0.01% ดัชนี S&P500 ปิดลดลง 2.74 จุด หรือ -0.11% และดัชนี Nasdaq ปิดเพิ่มขึ้น 4.82 จุด หรือ +0.07%
# ดัชนี DJIA และ S&P 500 ปรับตัวลดลงไม่มาก ขณะที่ Nasdaq พยุงตัวปิดแดนบวกได้ เนื่องจากนักวิเคราะห์เห็นว่าตัวเลขการจ้างงานที่ทรุดตัวลงในเดือนก.ย.นั้นเป็นผลกระทบจากปัจจัยชั่วคราวของพายุเฮอร์ริเคนสองลูกขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจอื่นๆ ยังคงบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจและตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงมีความแข็งแกร่ง
- ภาวะตลาดน้ำมัน : ราคาอ่อนลงต่อ
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 1.50 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 49.29 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ทั้งสัปดาห์ ราคาร่วงลงไปถึงเกือบ 5% ด้าน BRENT ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.38 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 55.62 ดอลลาร์/บาร์เรล และลดลง 2.1% ตลอดทั้งสัปดาห์
# นักลงทุนจับตาพายุโซนร้อน "เนท" ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก ส่งผลให้ผู้ประกอบการโรงกลั่นหลายรายปิด/ลดการผลิตชั่วคราว อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ประเมินว่าพายุเนทจะไม่ได้ช่วยหนุนให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นมากนัก แต่อาจส่งผลให้ราคาเบนซินดีดตัวขึ้น
# มีรายงานว่าปธน.ทรัมป์จะไม่ลงนามรับรองข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่านในสัปดาห์นี้ ซึ่งอาจส่งผลให้ข้อตกลงดังกล่าวล้มเหลวในท้ายที่สุด
• ภาวะตลาดทองคำ : ราคาขยับขึ้นเล็กน้อย
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ปรับตัวขึ้น 1.70 ดอลลาร์ หรือ 0.13% ปิดที่ระดับ 1,274.90 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่ตลอดทั้งสัปดาห์ราคาทองลดลงเกือบ 1%
ปัจจัยในประเทศ และหุ้นมีข่าว
กลุ่มสายการบิน : ICAO ปลดธงแดงสายการบินของไทย..บวกกับธุรกิจสายการบิน & สนามบิน
# ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยว่าในเช้า 7 ต.ค.60 ตามเวลาไทยหน้า Website ขององค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ได้มีการปลดสัญลักษณ์ธงแดงออกจากชื่อประเทศไทยแล้ว หลังทาง ICAO เข้ามาตรวจประเมินเมื่อ 22-27 ก.ย.60 ขั้นตอนจากนี้คือ ICAO จะส่งหนังสือแจ้งเป็นทางการมายังไทยและส่งหนังสือเวียนไปยังประเทศสมาชิก
# ความเห็น DBS : เป็นข่าวบวกกับหุ้นสายการบิน (BA, AAV, THAI, NOK) และสนามบิน (AOT) ซึ่งทั้ง 4 สายการบินที่จดทะเบียนในตลาดฯ ได้รับมอบใบ AOC ไปหมดเรียบร้อยแล้ว ผนวกกับกำลังเข้าสู่ High season ของท่องเที่ยวในช่วง 4Q และ 1Q ปีหน้าด้วย รวมทั้งสายการบินต่างๆกำลังเล็งขยายเส้นทางการบินรองรับการเติบโตของภาคท่องเที่ยวและการขยายตัวของธุรกิจระหว่างประเทศ ซึ่งหุ้นเด่นของเราเป็น AAV (ราคาพื้นฐาน 7.05 บาท) และ AOT (ราคาพื้นฐาน 65 บาท)
+ AEONTS : กำไรงวดมิ.ย.-ส.ค.60 เติบโต 17%YoY
# AEONTS รายงานกำไรไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 31 ส.ค.60 671 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17%YoY งวด 6 เดือน บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,289 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18%YoY โดยบริษัทมีจำนวนลูกค้าสมาชิกบัตรเครดิตและสินเชื่ออื่นๆ 7.96 ล้านบัตร แบ่งเป็นบัตรเครดิต 2.45 ล้านบัตร และบัตรสมาชิก 5.51 ล้านบัตร ในส่วนของการขยายเครือข่าย มีสาขารวมทั้งสิ้น 107 สาขาและเครื่องเบิกและชำระเงินสดอัตโนมัติ (ATMs) 471 เครื่อง ตลอดจนมีร้านค้าสมาชิกรวมกว่า 17,500 แห่งครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]