WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

DBSบล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน


'SET เหนือ 1675…เลือกซื้อ/ถือต่อ'

• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
  ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : SET Index แกว่งในกรอบแคบหลังจากขึ้นไปใกล้ 1,700 จุด (สูงสุด 1698.59 จุด) ปัจจัยภายนอกที่ติดตาม คือ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.ของสหรัฐที่จะออกมาศุกร์นี้ ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 1 แสนตำแหน่งและอัตราว่างงานทรงตัวที่ 4.4%
  สำหรับวันนี้ ปัจจัยที่มีน้ำหนักในประเทศยังคงเป็นเรื่อง Preview ผลประกอบการไตรมาส 3/60 โดยเริ่มจากกลุ่มธนาคาร แล้วตามมาด้วย Real sectors ซึ่งจะมีการซื้อ/ขายเก็งกำไรเป็นรายบริษัทกัน ซึ่งธนาคารที่ DBSV คาดว่าจะมีกำไร 3Q60F เติบโตทั้ง YoY และ QoQ คือ BBL, TISCO, TCAP ส่วนธนาคารที่กำไรเพิ่มก้าวกระโดด QoQ คือ KTB เพราะงวด 2Q60 ตั้งสำรอง EARTH สูงทำให้ฐานกำไรต่ำผิดปกติแต่กำไรก็ยังลดกว่า 10%YoY
  สำหรับหุ้นที่ทาง DBS ปรับเพิ่มราคาพื้นฐานล่าสุด คือ WHA โดยราคาพื้นฐานปรับเป็น 4.33 บาท จุดเด่นบริษัท คือ มีเงินลงทุนใน HEMRAJ, WHAUP, คลังสินค้า, โลจิสติกส์, กองทุนอสังหาฯ และ REIT ที่มีแนวโน้มระยะยาวดี เพราะได้ประโยชน์จากโครงการ EEC ในอนาคตเต็มที่ (มีพื้นที่นิคมฯพร้อมขายสูงที่ 1.1 หมื่นไร่) และยอดขาย YTD ก็อยู่ในเกณฑ์ดีที่ 739 ไร่ (เป้าปีนี้ 1.4 พันไร่)
  ส่วนหุ้น Explorer ที่คาดว่าจะมีการเติบโตดีในปี 61 แต่เรายังไม่ได้ทำวิเคราะห์พื้นฐานเชิงลึก คือ SINGER ทั้งนี้ประเด็นที่น่าสนใจของบริษัท คือ การขยายไปทำสินเชื่อรับจำนำ โดยปีนี้คาดว่าพอร์ตจะอยู่ที่ 600-700 ล้านบาทและเพิ่มเป็น 1.2 พันล้านบาทหรือมากกว่าในปีหน้า ขณะที่ธุรกิจเช่าซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าก็ยังคงดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ SINGER มีจุดแข็งเรื่องแบรนด์และฐานลูกค้าต่างจังหวัดเพราะทำธุรกิจในไทยมาหลายสิบปี ในทางเทคนิคเน้นซื้อตามด้วยค่าบวก แนวต้าน 15.5-16.0, 17.0 บาท การอ่อนตัวมีแนวรับ 14.0, 13.7-13.5 บาท
  กลยุทธ์ลงทุน : เลือกซื้อ/ถือต่อ เมื่อ SET และราคาหุ้นอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน (ระยะสั้นมากอยู่ที่ 1675 จุด) หุ้นกลยุทธ์พื้นฐานแนะนำรายสัปดาห์ (วันที่ 4-10 ต.ค.60) ประกอบด้วย ERW และ MTLS (Growth Play) สำหรับหุ้น Picks ใน Wealth Perspective-Equity เดือน ต.ค.60 คือ ERW, MTLS, KBANK, PTTGC, TISCO และ Dark Horse เป็น COM7
  หุ้นที่มีสัญญาณเทคนิคดี ประกอบด้วย BBL, CKP, MINT, WHA, PDI, PTL ส่วนที่แนะนำไปแล้วและให้หาจังหวะขายทำกำไรตามรอบ ได้แก่ AP, SINGER, EA สำหรับหุ้นที่ถือต่อเมื่อราคาบวกต่อ/อ่อนไม่มาก คือ ANAN, TMB, JAS, BCH, MCS, SIRI, TKN, COM7


ปัจจัยต่างประเทศ & ในประเทศที่สำคัญ
ปัจจัยต่างประเทศ ตลาดหุ้น ตลาดน้ำมันและทองคำ
ภาวะตลาดหุ้นสหรัฐ : ทำ New high ติดต่อกันเป็นวันที่ 4
  # ดัชนี DJIA ปิดเพิ่มขึ้น 113.75 จุด หรือ +0.50% ดัชนี S&P500 ปิดเพิ่มขึ้น 14.33 จุด หรือ +0.56% และดัชนี Nasdaq ปิดเพิ่มขึ้น 50.73 จุด หรือ +0.78% ตอบรับสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติอนุมัติงบประมาณวงเงิน 4.1 ล้านล้านดอลลาร์สำหรับปีงบประมาณ 2561 นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนส.ค. ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.ของสหรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อภาวะตลาดน้ำมัน


  # สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 81 เซนต์ หรือ 1.6% ปิดที่ 50.79 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้าน BRENT ส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 1.20 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 57.00 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าซาอุดิอาระเบีย และรัสเซียจะขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันจนถึงสิ้นปีหน้า


- ยอดส่งออกน้ำมันสหรัฐ : พุ่งแตะ 1.98 ล้านบาร์เรล/วัน สูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อสัปดาห์ก่อน
  # สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่ายอดส่งออกน้ำมันดิบของสหรัฐในสัปดาห์ที่แล้วพุ่งไปที่ 1.98 ล้านบาร์เรล/วัน สูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากที่เพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล/วัน ในสัปดาห์ก่อนหน้า
  # ประเด็นเรื่องอุปทานล้นกลับมากดดันตลาดน้ำมันดิบอีกรอบ ทั้งจากการผลิตเพิ่มของสหรัฐและกลุ่มโอเปกในจังหวะที่ราคาน้ำมันปรับขึ้น เราจึงคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบในช่วงไตรมาส 4/60 ดีสุดคือทรงๆ เพราะอุปสงค์เพิ่มในช่วงฤดูหนาวหรืออ่อนลงเล็กน้อย QoQ จากการผลิตเพิ่มของกลุ่มประเทศผู้ผลิตขนาดใหญ่ & ลิเบียและไนจีเรียก็ผลิตเพิ่มขึ้นด้วย สำหรับไตรมาส 3/60 ราคาน้ำมันปรับขึ้น 16%QoQ


ภาวะตลาดทองคำ
  # สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 3.60 ดอลลาร์ หรือ0.28% ปิดที่ระดับ 1,273.20 ดอลลาร์/ออนซ์ ได้รับปัจจัยกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.


ปัจจัยในประเทศ และหุ้นมีข่าว
+ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย.ขยับขึ้นเป็น 75.0
  # ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่าในเดือน ก.ย.60 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขยับขึ้นเป็น 75.0 จาก 74.5 ในเดือนส.ค.60
  # ปัจจัยหนุน ได้แก่ การส่งออกของไทยเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 13.23% เป็นการขยายตัวสูงสุดในรอบ 55 เดือนขณะที่การนำเข้าเพิ่มขึ้น 14.93% ส่งผลเกินดุลการค้า 2,090.19 ล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นผลให้ 8 เดือนแรกของปี 60 ส่งออกขยายตัว 8.87% นำเข้า 15.42% ส่งผลเกินดุลการค้ารวม 8,873.18 ล้านดอลลาร์สหรัฐ, กนง.ปรับเพิ่มคาดการณ์จีดีพีไทยปีนี้เป็น 3.8% (เดิม 3.5%) ปีหน้าเป็น 3.8% (เดิม 3.7%), ต้นทุนทางการเงินยังทรงๆตัว, ตลาดหุ้นปรับขึ้นดี, ความกังวลเรื่องการเมืองผ่อนคลายลง
  # ปัจจัยเสี่ยง คือ ราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น, น้ำท่วมหลายพื้นที่, ราคาพืชผลเกษตรหลายรายการยังต่ำทำให้กำลังซื้อในต่างจังหวัดยังเติบโตไม่มาก, นโยบายทรัมป์ที่ไม่แน่นอน และบางเรื่องอาจกระทบต่อการส่งออกและการเติบโตของเศรษฐกิจไทย

นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!