- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 05 October 2017 18:07
- Hits: 6809
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
'เลือกซื้อ/ถือต่อเมื่อ SET เหนือ 1675'
หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : SET Index เมื่อวานนี้ปรับขึ้นและปรับฐานในวัน โดยขึ้นไปสูงสุด 1698.59 และต่ำสุด 1682.04 (ช่วงแกว่ง 16 จุด) ปิดตลาดที่ 1687.77 (-2.2 จุด) ทั้งนี้การแกว่งกว้างในวันเป็นปกติเมื่อดัชนีปรับขึ้นมามาก นักลงทุนจะมีทั้งกลุ่มที่อยากขายทำกำไรและกลุ่มที่รอซื้อจังหวะอ่อนตัว การบริหารพอร์ตลงทุนช่วงนี้จะต้องยึดหลักการ/วินัยการลงทุนที่เกี่ยวกับการยอมรับความเสี่ยงและวัตถุประสงค์ของการลงทุนไว้อย่างหนักแน่น เมื่อวานนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1 พันลบ. ส่วนอีก 3 กลุ่มกระจายกันซื้อสุทธิ
สำหรับปัจจัยภายนอก : สุนทรพจน์ของนางเยลเลน ประธานเฟดเมื่อคืนนี้ไม่ได้กล่าวถึงทิศทางอัตราดอกเบี้ยและเศรษฐกิจสหรัฐ โดยมุ่งประเด็นไปที่การกำกับดูแลภาคธนาคารที่เฟดเห็นว่ากฎระเบียบที่ใช้ตอนนี้มีความเหมาะสมแล้ว (ขณะที่ปธน.ทรัมป์อยากจะผ่อนคลายกฎระเบียบเพื่อให้แบงค์สหรัฐทำธุรกิจได้มากขึ้น) ส่วนดัชนี PMI ภาคบริการเดือนก.ย.ของสหรัฐแข็งแกร่ง (ดัชนีสูงสุดในรอบ 12 ปี) และดัชนี PMI ภาคผลิต&บริการของยูโรโซนก็เพิ่มดีเช่นกัน ปัจจัยจับตา คือ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.ของสหรัฐที่จะออกมาศุกร์นี้ ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 1 แสนตำแหน่งและอัตราว่างงานทรงตัวที่ 4.4% ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ทรงๆ ที่ 93.5
ปัจจัยในประเทศ : คาดกำไรก่อนสำรองฯ งวด 3Q60 ของกลุ่มแบงค์ยังแข็งแกร่ง แต่การตั้งสำรองฯน่าจะสูงมากต่อจะส่งผลให้กำไรสุทธิบรรทัดสุดท้ายอาจอ่อนลงเล็กน้อย YoY (และบวกเล็กน้อย QoQ) ซึ่งไม่ได้น่าตื่นเต้น (โดย KTB น่าจะมีกำไร 3Q60 เติบโต QoQ ก้าวกระโดดจากฐานต่ำ เพราะตั้งสำรอง EARTH ไปมากใน 2Q60) เรามองว่าจะเริ่มเห็น Growth ของกำไรกลุ่มแบงค์ก็คงเป็นปี 2561 ส่วนปีนี้ประเมินว่าจะกำไรแบงค์ใหญ่จะติดลบ ส่วนแบงค์กลาง (TMB) และแบงค์เล็ก (KKP, TCAP, TISCO) เติบโตดีกว่า รวมทั้งแบงค์เล็กให้ Yield ปันผลสูงกว่าด้วย (ในเชิงกลยุทธ์ Top pick เป็น TISCO, ปันผลสูงเป็น KKP, Valuation play เป็น TCAP)
กลยุทธ์ลงทุน : เลือกซื้อ/ถือต่อ เมื่อ SET และราคาหุ้นอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน (ระยะสั้นมากอยู่ที่ 1675 จุด) หุ้นกลยุทธ์พื้นฐานแนะนำรายสัปดาห์ (วันที่ 4-10 ต.ค.60) ประกอบด้วย ERW และ MTLS (Growth Play) สำหรับหุ้น Picks ใน Wealth Perspective-Equity เดือนต.ค.60 คือ ERW, MTLS, KBANK, PTTGC, TISCO และ Dark Horse เป็น COM7
หุ้นที่มีสัญญาณเทคนิคดี ประกอบด้วย ANAN, AP, JAS, TMB, SINGER ส่วนที่แนะนำไปแล้วและให้หาจังหวะขายทำกำไรตามรอบ ได้แก่ BGRIM, TISCO, TCAP, EA, SPALI, MALEE, PTT, PTTGC สำหรับหุ้นที่ถือต่อเมื่อราคาบวกต่อ/อ่อนไม่มาก คือ BCH, MCS, SIRI, TKN, COM7
นักกลยุทธ์&นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค& Reseach Team - [email protected]
Need to know TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ & ในประเทศที่สำคัญ
ปัจจัยต่างประเทศ ตลาดหุ้น น้ำมัน และทองคำ
สหรัฐ : นางเยลเลนมั่นใจว่ากฎระเบียบของเฟดเหมาะสมกับภาคธนาคาร
# นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐได้กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมหัวข้อ "Community Banking in the 21st Century Research and Policy Conference" ที่เมืองเซนต์หลุยส์ รัฐมิสซูรี เมื่อวานนี้ว่ากฎระเบียบที่เฟดนำมาใช้ในภาคธนาคารนั้น มีความเหมาะสมกับขนาด ความซับซ้อน และบทบาทของธนาคารพาณิชย์ที่เฟดกำกับดูแลอยู่ และเชื่อว่ากฎระเบียบเหล่านี้ไม่ได้ทำให้ภาคธนาคารแบกรับภาระมากเกินไป
# ทั้งนี้นางเยลเลนไม่ได้กล่าวถึงแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟด และไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐ
+ สหรัฐ : ดัชนี PMI ภาคบริการเพิ่มสู่ระดับสูงสุดในรอบ 12 ปี
# ผลสำรวจของ ISM ระบุว่าดัชนีภาคบริการเดือนก.ย.ของสหรัฐปรับตัวขึ้นเป็น 59.8 (จาก 55.3 ในเดือนส.ค.) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในอรบ 12 ปี และดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 55.5 ส่วนดัชนี PMI ภาคผลิต & บริการรวมของเดือนก.ย.ชะลอเป็น 54.8 จาก 55.3 ในเดือนก่อนหน้า
# ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่าการจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 135,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 125,000 ตำแหน่ง
# จับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐเดือนก.ย. ซึ่งนักวิเคราะห์ประเมินว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 100,000 ตำแหน่ง และอัตราว่างงานทรงตัวที่ 4.4% ส่วนรายได้ต่อชั่วโมงคาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่ม 0.2%MoM (จากส.ค.ที่ +0.1%MoM)
+ อังกฤษ : ดัชนี PMI ภาคบริการกลับมาเพิ่มในเดือนก.ย.
# ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนก.ย.เพิ่มเป็น 53.6 จากระดับ 53.2 ในเดือนส.ค.(ซึ่งต่ำสุดในรอบ 11 เดือน) ส่งผลให้ค่าเงินปอนด์แข็งขึ้น
+ ยูโรโซน : ดัชนี PMI ภาคผลิต & บริการเพิ่มขึ้น
# ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการขั้นสุดท้ายของยูโรโซนอยู่ที่ 56.7 ในเดือนก.ย. เพิ่มขึ้นจาก 55.7 ในเดือนส.ค. และยังทำสถิติสูงสุดในรอบ 4 เดือน หนุนโดยดัชนี PMI ภาคผลิต & บริการของเยอรมนีที่สูงสุดในรอบ 77 เดือนและของฝรั่งเศสที่สูงสุดในรอบ 76 เดือน บ่งชี้ถึงการเติบโตของคำสั่งซื้อใหม่และภาพรวมเศรษฐกิจที่ดีขึ้น
+ ภาวะตลาดหุ้นสหรัฐ : ตลาดทำ New high ต่อ
# ดัชนีภาคบริการเดือนก.ย.ของสหรัฐทำสถิติพุ่งสูงสุดในรอบกว่า 12 ปี หนุนมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ ปิดตลาดดัชนี DJIA เพิ่มขึ้น 19.97 จุด หรือ +0.09% ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 3.16 จุด หรือ +0.12% และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 2.91 จุด หรือ +0.04%
- ภาวะตลาดน้ำมัน : อ่อนตัวลงและ WTI ปิดต่ำกว่า 50 US$/bbl แล้ว
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 44 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 49.98 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้าน BRENT ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 20 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 55.80 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากขายทำกำไร
# EIA รายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลงเพียง 756,000 บาร์เรล
ภาวะตลาดทองคำ : ราคารีบาวด์
# สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 2.2 ดอลลาร์ หรือ +0.17% ปิดที่ระดับ 1,276.80 ดอลลาร์/ออนซ์
ปัจจัยในประเทศ และหุ้นมีข่าว
กลุ่มธนาคารพาณิชย์ : คาดกำไรสุทธิ 3Q60 ไม่น่าตื่นเต้น...KTB โตสูง QoQ เพราะฐานต่ำ
# คาดกำไรก่อนสำรองค่าเผื่อฯ (Pre-provision earnings) งวดไตรมาส 3/60 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ยังแข็งแกร่ง แต่การตั้งสำรองค่าเผื่อฯ น่าจะคงระดับสูงมากต่อเพื่อให้มี Coverage ratio ที่มั่นคง ซึ่งทำให้กำไรสุทธิบรรทัดสุดท้าย (Bottom line) อาจจะอ่อนลงเล็กน้อย YoY (และบวกเล็กน้อย QoQ) ซึ่งก็ไม่ได้น่าตื่นเต้น ทั้งนี้ประเมินว่า KTB น่าจะเป็นธนาคารที่มีกำไรสุทธิเติบโต QoQ มากที่สุดเพราะฐานกำไรไตรมาส 2/60 ต่ำมาก จากการที่ตั้งสำรองฯ กรณี EARTH จำนวนมากในไตรมาสดังกล่าว
# เรามองว่าจะเริ่มเห็นการเติบโตของกำไรกลุ่มธนาคารพาณิชย์ก็น่าจะเป็นหน้า (ปี 2561) ส่วนปีนี้ประเมินว่าจะกำไรแบงค์ใหญ่จะติดลบ ส่วนแบงค์กลาง (TMB) และแบงค์เล็ก (KKP, TCAP, TISCO) จะเติบโตดีกว่า รวมทั้งธนาคารขนาดเล็กจะให้ Yield ปันผลสูงกว่าด้วย ในเชิงกลยุทธ์หุ้น Top pick ของกลุ่มธนาคารขนาดเล็กเป็น TISCO (ราคาพื้นฐาน 82 บาท), ปันผลสูงคือ KKP (ราคาพื้นฐาน 78 บาท), Valuation play เป็น TCAP (ราคาพื้นฐาน 53 บาท)
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค - [email protected]
ตลาดหุ้นวันนี้: Sideways อิงทางลง
ราคาน้ำมันดิบทรุดตัว: ราคาน้ำมันดิบ WTI ทรุดตัวกลับลงมาปิดต่ำกว่าระดับ 50 เหรียญต่อบาร์เรล โดยสาเหตุหลักมาจากการที่สหรัฐรายงานตัวเลขส่งออกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นสู่สถิติสูงสุดที่ระดับ 1.98 ล้านบาร์เรลต่อวัน ทำให้นักลงทุนกังวลกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาดโลก น่าจะเป็น sentiment เชิงลบกดดัน SET ในภาพรวม
Sideways อิงทางลง: ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ได้ปรับตัวเข้าใกล้แนวต้านสำคัญที่ระดับ 1700 จุด แต่ไม่สามารถผ่านไปได้ หลังมีแรงขายทำกำไรออกมาจากกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ ทั้งนี้ มองว่า SET ในวันนี้จะยังคงเคลื่อนไหว sideways อิงทางลง เนื่องจากยังขาดปัจจัยบวกใหม่ๆ ที่เด่นชัดที่จะช่วยหนุนตลาดไปต่อ อีกทั้งปัจจัยภายนอกยังคงกดดันตลาดหุ้นจากราคาน้ำมันที่ปรับลดลง, โอกาสการปรับขึ้นดอกเบี้ยเฟดในปลายปี มองกรอบเคลื่อนไหววันนี้ระหว่าง 1680-1695 จุด
กลยุทธ์การลงทุน: ขึ้นขาย ลงซื้อ
Upside momentum* (ปรับหุ้นเข้า-ออกทุกวันที่ 16 ของเดือน): ถือ AIT
หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น:SINGER ถือเก็งกำไรต่อ, WICE ยังถือต่อจากแนวโน้มผลประกอบการที่คาดจะดี, BDMS ถือต่อบนมุมมอง Laggard play และ JMART ถือต่อบนมุมมองบวกต่อยอดขายจากงาน Thailand Mobile Expo ที่ผ่านมา ส่วน Short ORI ถือต่อเช่นกัน ยังมองแพง ซื้อขายระดับ P/E มากกว่า 30 เท่า
วิเคราะห์เชิงเทคนิค: ถือหรือซื้อได้ ตราบที่ไม่หลุด 1680
ดัชนี1,687.77 เปลี่ยนแปลง -2.20 จุด มูลค่าการซื้อขาย 60,510 ลบ.
แม้วานนี้จะพักตัว แต่ก็เป็นเพียงการพัก Sideways ในกรอบแคบๆ ไม่กระทบกับภาพรวมที่เป็นขาขึ้นอย่างแข็งแรง ขณะที่เครื่องมือก็ไม่ได้แสดงสัญญาณลบรุนแรง แนะนำ ถือหรือซื้อเพิ่มเมื่ออ่อนตัวได้ โดยคงแนวรับที่ 1685, 1680 แนวต้าน 1690, 1695 จุด
กลยุทธ์ตลาดอนุพันธ์
กลยุทธ์/กรอบการเคลื่อนไหว
S50Z17 รอประเมินสถานการณ์ / 1,075 - 1,090 จุด
AMATAZ17 ถือ Long ที่เปิดไว้ 21.40 บาท รอทำกำไร 22.20 บาท และตัดขาดทุนหากต่ำกว่า 21.00 บาท / 21.00 - 22.20 บาท
*ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน ติดอาวุธกลยุทธ์อนุพันธ์
การปรับพอร์ตหุ้นระยะสั้นวันนี้
Update Stock Action/Price Remark
คงพอร์ต
หุ้นปัจจุบันที่ถืออยู่ในพอร์ต*
Long BDMS (21.8), AIT (29.5), WICE (4.8), SINGER (14.8), JMART (18)
Short ORI (17)
*(ราคาเป้าหมายระยะสั้น)
คาดการณ์หุ้นติด Cash Balance
หุ้นที่ครบเกณฑ์ Cash Balance *:AJA, AJA-W1
หุ้นที่มีโอกาสติด Cash Balance*: BTC
*หากตัวแม่ติด Cash Balance ตัวลูกก็จะติดด้วยเช่นกัน
หุ้นเด่นประเด็นเทคนิค
หุ้น แนะนำ แนวรับ แนวต้าน Cut
PTG Trading 23.20 24.10-24.50 23.00
BPP Trading 27.00 28.25-28.75 26.50
DNA Trading 1.35 1.50, 1.55 1.32
ปัจจัยน่าติดตาม
5 ต.ค. ตลาดหุ้นจีน, ฮ่องกง, เกาหลีใต้ปิดทำการ
สหรัฐ: จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานฯ
6 ต.ค. ตลาดหุ้นจีน, เกาหลีใต้ปิดทำการ
สหรัฐ: ตัวเลขภาคแรงงาน
11 ต.ค.สหรัฐ: รายงานการประชุมเฟดครั้งก่อน
Block Trade Corner *
แนวโน้ม - หุ้น
Bull - THCOM, JAS, SAMART, BLAND, AP
Bear - BH, PSH, AOT, BJC, IRPC
ทีมกลยุทธ์และเทคนิค