- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 04 October 2017 17:08
- Hits: 4237
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily
ภาพตลาดวันวาน
ดัชนีเปิดตลาดยืนบวก พร้อมกับแกว่งตัวขึ้นทำจุดสูงสุดของวันที่ 1692.85 จุด เพิ่มขึ้น 4.21 จุด ก่อนที่จะเผชิญแรงขายแกว่งตัวผันผวนสลับขึ้นลงที่อยู่ทั้งในแดนบวกและลบ ทำจุดต่ำสุดของวันที่ 1684.38 จุด ลดลง 4.26 จุด ก่อนที่ช่วงสุดท้ายดีดกลับขึ้นมายืนบวกได้ ทำให้ทั้งวันมีกรอบการเคลื่อนไหว 8.47 จุด ทั้งนี้มีหุ้นที่ช่วยดึงดัชนีขึ้นมาปิดบวกได้แก่ PTT, GL, SCC, WPH, SPALI, BCH ก่อนดัชนีจะทำปิดที่ 1689.97 จุด เพิ่มขึ้น 1.33 จุด (+0.08%) มูลค่าการซื้อขาย 52,249 ล้านบาท
ภาพตลาดวันนี้
ดัชนีวานนี้มีทิศทางค่อนข้างผันผวนในลักษณะการชะลอตัวหลังจากที่ปรับตัวขึ้นแรงในวันก่อนหน้า โดยดัชนีเปิดตัวได้ดีขยับทำ New High ที่ 1692 จุด ก่อนที่จะอ่อนตัวลงมาทำ Low 1684 จุด ซึ่งถือว่ายังสามารถยืน 1680 จุดได้อย่างแข็งแรง ก่อนที่จะทำปิดที่ใกล้จุดสูงสุดของวันที่ 1689 จุด แต่จากภาพของการเปิดสูงปิดต่ำส่งให้กราฟแท่งเทียนอยู่ในเชิงลบ ทำให้มีมุมมองที่ดัชนีน่าจะแกว่งตัวผันผวนที่มีโอกาสขยับทำ New High และระหว่างทางอาจจะสลับอ่อนตัวได้ โดยไม่หลุด 1678 แนวรับ 1680-1685 จุด แนวต้าน 1694-1697 จุด
แกว่งตัวผันผวน – มีแนวโน้มไปต่อ เป้าหมาย 1700 จุด
Support 1670 // 1660 จุด Resistance 1695-1700 จุด
พรรณนภา เขมะสุรัตน์ Technical Analyst
เลขทะเบียน : 060110 Tel 02- 6481124
Email: [email protected]
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell
'คาดดัชนีฯ พักเพื่อเดินหน้าต่อ'
ทิศทางตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มตลาดยังคงดี แต่แกว่งกรอบแคบ หลังปรับตัวขึ้นมาแรง ... เรามองว่า ดัชนีฯยังมีแนวโน้มดี โอกาสที่จะขึ้นไปเล่นในกรอบ 1690-1700 จุด ในช่วง 1 เดือนข้างหน้ายังมีอยู่ เป็นผลบวกจากปัจจัยเศรษฐกิจ (GDP) ที่ดีขึ้น และนักลงทุนจะเริ่มเข้ามาเก็งในเรื่องของกำไรบริษัทในตลาด ... ตัวแปรที่ถ่วงตลาด อาจเป็นราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลง นักลงทุนรอดูตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯในวันศุกร์ และทิศทางของ Fund Flow หลัง Fed ปรับลด QE ที่ยังไม่นิ่งนัก
กลยุทธ์การลงทุน : การผ่านระดับ 1670 จุด ขึ้นมาได้ เป็นสัญญาณบวกของตลาด แม้ตลาดจะมีการเหวี่ยงตัวจากการขายทำกำไรช่วงสั้น แต่นักลงทุนสามารถเลือกที่จะถือหุ้นต่อไปได้ หรือเข้าซื้อเพิ่ม โดยรอในจังหวะที่ราคาอ่อนตัวลงมา ควรให้ความสนใจกับหุ้นขนาดใหญ่ของกลุ่มหลัก คือ ธนาคาร-พลังงาน-ปิโตรเคมี ขณะที่กลุ่มรอง จะเป็นกลุ่มที่เก็งเรื่องงบ 3Q ว่าจะออกมาดี และหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว อาทิ หุ้นที่ได้รับผลบวกจากเงินบาทอ่อนค่า เป็นต้น
หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ประจำวัน : สำหรับหุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุนในวันนี้ อาทิ BCH, PTG, ASAP, RS*, TMT*, VNT*
หุ้นแนะนำทางเทคนิค : PM, MC, GCAP
* เป็นหุ้นที่แนะนำเชิงกลยุทธ์ โดย KTBST ไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์
บทวิเคราะห์และความเห็นข่าวสำคัญ
(+) ANAN คาดกำไรสุทธิ 2H17 เติบโตโดดเด่น โดยเฉพาะใน 4Q17
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (03 ต.ค.) ปิดที่ระดับ 1689.97 จุด เพิ่มขึ้น 1.33 จุด หรือ +0.08% มูลค่าการซื้อขาย 52,249 ล้านบาท ตลาดเคลื่อนตัวช้าลงหลังปรับตัวขึ้นแรงถึง 15 จุดในวันก่อนหน้า แรงขายทำกำไรหุ้นกลุ่มธนาคารหรือหุ้นที่ราคาขึ้นมามาก กอรปกับนักลงทุนต่างประเทศลดปริมาณซื้อลง ส่งผลให้ดัชนีฯผันผวนในกรอบแคบๆ และเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
ตลาดหุ้นต่างประเทศ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22641.67 จุด สูงขึ้น 84 จุด ราคาหุ้นกลุ่มรถยนต์ที่สูงขึ้นจากรายงานยอดขายรถยนต์เดือน ต.ค.ที่สูงขึ้น ด้านตลาดหุ้นยุโรป ..... ด้านตลาดหุ้นยุโรป นักลงทุนลดความกังวล ต่อการเมืองของสเปน ส่งผลให้ดัชนี Stocxx 600 เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.2%
น้ำมันดิบ- สัญญาน้ำมันดิบ WTI เดือน พ.ย. ปิดที่ 50.4 เหรียญ/บาร์เรล ลดลง 0.16 เหรียญ ตลาดมีความกังวลต่อตัวเลข Stock น้ำมันของสหรัฐฯที่คาดว่าจะสูงขึ้น และการผลิตของ OPEC ที่สูงขึ้นในเดือน ก.ย. 120 kbd กดดันต่อราคาน้ำมันในช่วงสั้นๆ
ปัจจัยต่างประเทศที่ตลาดให้ความสนใจ
การขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ ของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯในคืนนี้
ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ ที่จะรายงานในวันศุกร์(6) ตัวเลข Non-farm payroll คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 8 หมื่นตำแหน่ง จากที่เพิ่มขึ้น 1.56 แสนตำแหน่ง ในเดือนก่อน
ทิศทางค่าเงินดอลล่าร์ ที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นตามลำดับ มีผลต่อ Fund Flow และการปรับพอร์ตลงทุน ทั้งนี้ Dollar Index ล่าสุด 93.4 จุด ปรับขึ้นจาก 20 ก.ย. ถึง 1.0%
ปัจจัยในประเทศ
นักลงทุนกำลังให้ความสนใจกับการรายงานผลประกอบการ 3Q-17 และการคาดการณ์ผลประกอบการที่จะออกมา เนื่องจากมีสัญญาณว่ากำไรจะฟื้นตัวจาก 2Q-17
คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ปรับเพิ่มประมาณการการส่งออกปีนี้โต 6.5-7.5% จากเดิมคาดไว้ที่ 3.5-4.5% ส่งผลให้ GDP ปี 2560 น่าจะขยายตัว 3.7-4.0% จากเดิมคาดไว้ที่ 3.5-4.0%
สคร.ศึกษาลดถือครองหลักทรัพย์ของรัฐที่ไม่ได้อยู่ในแผนยุทธศาสตร์ เล็งขายหุ้น 24 บริษัท คาดสรุปภายในเดือน ธ.ค.นี้ พร้อมเร่งจัดทำแผนยุทธศาสตร์บริหารทรัพย์และยกระดับกองทุนวายุภักษ์ 1
สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า สคร.ได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนโครงการลงทุนรัฐร่วมกับเอกชน (พีพีพี) ระยะเวลา 5 ปี ตั้งแต่ปี 50-64 เสร็จแล้ว และคาดจะเข้า ครม.ได้วันที่ 14 ต.ค.นี้ โดยในยุทธศาสตร์พีพีพี 5 ปี จะมีการร่วมลงทุนกับเอกชนทั้งหมด 55 โครงการ มูลค่าการลงทุน 1.62 ล้านล้านบาท
Stock in Focus
หุ้น เหตุผล
BCH(ราคาปิด 15.90) BCH เป็นอีกหนึ่งหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลที่ได้ประโยชน์จากคาดการณ์ว่าจะมีการปรับขึ้นค่า RW เร็วๆนี้ ..... คาดว่ากำไรสุทธิใน 2H17 จะเติบโตได้โดดเด่นจากแรงหนุนของการปรับค่าต่างๆ ของประกันสังคม การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ และ WMC เริ่มมี EBITDA เป็นบวก โดยตสดกำไรสุทธิทั้งปีเติบโต +16.2% ที่ 875 ล้านบาท.... สำหรับแผนงานต่างๆ ของ BCH ยังคงตามกำหนดการเดิมที่ตั้งไว้ ประกอบด้วย Greenfield Project 5 โครงการ และ Renovation อีก 6 โครงการ ซึ่งจะค่อยๆ ทยอยแล้วเสร็จในช่วงปี2017 - 2020 ..... (ราคาที่เหมาะสม โดย KTBST ที่ 16.40 บาท)
PTG(ราคาปิด 23.00) ราคา LPG เดือน ต.ค. อยู่ที่ระดับ $599 เหรียญ ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก $490 เหรัยญ …. เรามองช่วง 2H17 บริษัทจะสามารถเติบโตได้ดี หลังผลประกอบการของ PTG มีการอ่อนตัวลงในช่วง 2Q17 ซึ่งเป็นผลจากฝนที่ตกลงมามาก ในขณะที่ค่าการตลาดเฉลี่ยช่วง 3Q17 อ่อนตัวลงจากช่วง 2Q17 ประมาณ -3.5% แต่ได้ผลบวกจากจำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้นมาประมาณ 100 สาขาในช่วง 3Q17 …. Bloomberg คาดกำไรสุทธิปี 2017 ที่ 1,218 ล้านบาท (+13% YoY) คิดเป็นการเติบโต HoH ถึง +73% HoH ….. นอกจากนี้ PTG ยังมีการลงทุนในธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน ซึ่งได้แก่ ธุรกิจร้านกาแฟ, Palm Complex, และศูนย์ซ่อมบำรุงรถบรรทุก ซึ่งจะส่งผลให้ PTG เติบโตได้ในระยะยา……ราคาพื้นฐานโดย KTBST ที่ 28.00 และ Bloomberg ที่ 26.50 บาท
ASAP(ราคาปิด 8.10) ธุรกิจเช่ารถ เพิ่มตามการขยายตัวของภาคธุรกิจ และธุรกิจปรับมาใช้บริการรถเช่า + บริการให้เช่าระยะสั้น ตอบสนองต่อลูกค้าแต่ละกลุ่ม รวมทั้ง นักท่องเที่ยวด้วย …. คาดกำไรสุทธิ 3Q17 ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง (2Q=34 ลบ.) ตามยอดซื้อรถยนต์ให้เช่าที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ยไตรมาส ละ 800 - 1,000 คัน ... กำไรสุทธิ ปี 2017 เราคาดไว้ที่ 122 ล้านบาท (+74.4%YoY) และปี 2018 ที่ 187 ล้านบาท (+53.3%YoY) มาจาก คาดจำนวนรถให้เช่า อยู่ที่ 9.7 พันคัน +29% YoY ราคารถยนต์มือสองสูงขึ้น เพิ่มกำไรจากการขายรถ (ปี 2017 เพิ่มจาก 8.0% เป็น 8.5%) แผนงานขายรถยนต์มือสอง ทางออนไลน์ และลงทุนระบบ CarPro System เพื่อบริหารจัดการการจองรถให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น … (ราคาที่เหมาะสม โดย KTBST ที่ 9.0 บาท)
RS*(ราคาปิด 19.40) คาดว่าช่วง 3Q17 RS จะสามารถเติบโตได้ทั้ง YoY และ QoQ จากธุรกิจ Health&Beauty ที่เติบโตโดดเด่น …. Bloombergคาดปี 2017 จะพลิกกลับมามีกำไรที่ 246 ล้านบาท และคาดปี 2018 จะเติบโตสูงถึง +103% เป็นผลมาจากธุรกิจ Health&Beauty สามารถเติบโตโดดเด่นจากการขยาย SKU และช่อง 8 ที่คาดว่าจะกลับมาสู่จุดคุ้มทุน .... (ราคาเหมาะสมโดย Bloomberg ที่ 16.81 บาท)
TMT(ราคาปิด 16.30) ราคาเหล็กปรับตัวขึ้น เป็นบวกต่อ TMT …. คาดว่ากำไรสุทธิ 3Q17 จะกลับมาเติบโตโดดเด่นทั้ง YoY และ QoQ เป็นประมาณ 150 - 180 ล้านบาท เนื่องจากคาดว่าทิศทางราคาเหล็กในงวด 3Q17 กลับมามีทิศทางที่ปรับตัวเพิ่มได้ค่อนข้างดี .... TMT เป็นหุ้นที่มี dividend yield สูงที่ประมาณ 7.0% …. (ราคาที่เหมาะสมโดย KTBST ที่ 15.80 บาท)
VNT*(ราคาปิด 20.30) ราคา PVC สัปดาห์ที่ผ่านมา ทรงตัวที่ $950 เหรียญ แต่ total spread อยู่ระดับ $1054 (+$39) เป็นผลจากราคา Ethylene ที่ลดลง (-$60) เหรียญ รวมทั้งราคาผลิตภัณฑ์ตัวหนึ่งคือ VCM ก็สูงขึ้นด้วย .... ถ้าดูกำไร 2Q17 ที่ออกมาต่ำเป็นเพราะรายการพิเศษที่เกิดขึ้นครั้งเดียว PTTGC เตรียมหารือกับกลุ่มอาซาฮีจากญี่ปุ่น ซึ่งกลายมาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน บมจ.วีนิไทย (VNT) เพื่อหารือถึงการต่อยอดการผลิตเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษร่วมกันในอนาคต
Source: KTBST Research
Sector / Stock Updates
(+) ANAN ยอด Presales งวด 3Q17 มีแนวโน้มจะทำได้ดีกว่าที่ ANAN เคยตั้งเป้าหมายไว้ที่ 6.35 พันล้านบาท และคาดยอด Presales รวมงวด 9M17 จะทำได้ราว 70%-72% จากเป้าหมายทั้งปี 2017 ที่ 3.1 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะเป็นระดับสูงสุดใหม่ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนราว 23% ด้านกำไรสุทธิ 3Q17 คาดยังทรงตัว YoY แต่คาดว่าจะมีทิศทางโดดเด่นมากใน 4Q17 โดยคาดว่ากำไรสุทธิจะทำสถิติสูงสุดใหม่รายไตรมาสได้ ตามแผนการโอนโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ที่เพิ่มขึ้นมาก และคาดว่ากำไรสุทธิทั้งปี 2017 จะทำสถิติสูงสุดใหม่และเติบโตราว 23% ส่วนปี 2018 คาดยังเติบโตระดับ 20% ได้ต่อเนื่อง เราปรับราคาเป้าหมายเป็นปี 2018 ที่ 7 บาท ยังคงคำแนะนำ ซื้อ
(+) BA ผู้บริหาร BA คาดว่าผลการดำเนินงาน 3Q17 จะพลิกกลับมามีกำไร จากงวด 2Q17 ที่ขาดทุน โดยคาดว่าในงวด 3Q17 อัตรา Load Factor จะปรับตัวดีขึ้น เพราะเป็นช่วง Summer Holiday ของยุโรป ซึ่งเป็นลูกค้าหลักของ BA นอกจากนั้น คาดว่า 4Q17 จำนวนผู้โดยสารจะดีขึ้นต่อเนื่อง เพราะเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว (High Season) ทั้งนี้ BA ประเมินว่าอัตรา Load Factor ทั้งปี 2017 เฉลี่ยที่ 68% ซึ่งต่ำกว่าปีก่อนที่ 72% ... เราประเมินว่าผลการดำเนินงานในปี 2017 ของ BA ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน 2Q17 ขณะที่คาดว่าผลการดำเนินงาน 3Q17 - 4Q17 จะมีกำไรดีขึ้นต่อเนื่อง เรายังประเมินกำไรสุทธิปี 2017 ที่ 884 ล้านบาท ลดลง 50% YoY ส่วนปี 2018 คาดกำไรสุทธิกลับมาฟื้นตัวเป็น 1,160 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31% YoY เราประเมินราคาเป้าหมายปี 2018 ที่ 20.20 บาท ราคาหุ้นยังมี upside ไม่มาก ยังแนะนำ ถือ
Source: KTBST Research
Analyst : Mongkol Puangpetra
+662 648 1123
[email protected]
Nontapat Rushtasomboon
+662 648 1127
[email protected]