- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 03 October 2017 17:00
- Hits: 8643
บล.ธนชาต : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
เกิดอะไรขึ้นวันก่อน: Trading Range: 1,674-1,740
SET ปรับสูงขึ้นทดสอบเป้าหมาย 1,690 จุด ปิด +0.93% ที่ 1,688.64 จุด ด้วยปริมาณการซื้อขาย 6.2 หมื่นล้าน ต่างชาติซื้อ 2.9 พันล้านบาท
เรามองอย่างไร:
แม้การปรับลดลงของราคาน้ำมันดิบ Brent -2.5% เมื่อคืนนี้ เนื่องจาก OPEC ผลิตน้ำมันเพิ่มในเดือน ก.ย. และแท่นขุดน้ำมันสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา จะเป็นปัจจัยกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน อย่าง PTT PTTEP วันนี้ แต่มอง downside risk จำกัด และแนะนำ Let Profit Run แม้ SET จะถึงเป้าหมายที่ 1,690 จุดแล้ว โดยมีเป้าหมายถัดไปที่ 1,740 จุด จาก 1) เศรษฐกิจโลกแข็งแกร่ง ตัวเลขการผลิตสหรัฐฯ (ISM) แข็งแกร่ง หนุน Dow Jones +0.68% 2) Bloomberg Consensus ปรับประมาณการกำไรและเป้าหมายพื้นฐานหุ้นขึ้น ขณะที PE18 ที่ 14.9x ยังต่ำ 3) เงินเฟ้อต่ำ ส่งผลดอกเบี้ยในประเทศยังต่ำนานเอื้อลงทุนหุ้น
ทำอะไรดี :
ชอบกลุ่มหุ้นที่ผลการดำเนินงาน 3Q17 ออกมาแข็งแกร่งจะ Outperform ตลาด แนะนำ 'ซื้อ' 1) โรงกลั่นน้ำมัน ชอบ ESSO BCP และ PTT 2) กลุ่มค้าปลีก ชอบ BEAUTY (กำไรทำจุดสูงสุดใหม่) CPALL CPN 3) กลุ่มหุ้นที่ได้ผลดีจากตลาดทุนแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น ชอบ TISCO (มีสัดส่วนรายได้จากตลาดทุน เทียบกับรายได้ทั้งหมดสูง) และ KKP. .และ "ซื้อ" กลุ่มโรงแรมที่กำลังเข้าสู่ช่วง High Season ชอบ MINT และกลุ่มหุ้นที่ได้รับผลดีเงินบาทอ่อนค่า ชอบ HANA
Tactical Portfolio (1-3 months):
'ถือ' AMATA BEAUTY EA ESSO KBANK KKP PTT SAWAD STEC และ WHA ต่อไป (ไม่เปลียนแปลง)
Fundamental:
EA : 'ซื้อ' พื้นฐาน 46 บาท (เดิม 43 บาท)...แม้ปรับประมาณการกำไรลง 11.9-6.5% ปี 2017-18 เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการพัฒนา Energy Storage มากกว่าคาด และค่า Ft ที่ต่ำกว่าคาด แต่ปรับเป้าหมายพื้นฐานขึ้นเป็น 46 บาท จากการรวมมูลค่าของโครงการ Energy Storage#2 (ES#2) เข้ามาด้วย ยังมอง EA เป็น Growth Play ด้วยการเติบโตกำไร 19-45% ในปี 2018-19
Today's News:
เงินเฟ้อเดือน ก.ย.: เงินเฟ้อเดือน ก.ย. +0.86% y-y เป็นการเพิ่มขึ้นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน และมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ดีกระทรวงพาณิชย์ปรับลดคาดการณ์เงินเฟ้อลงเหลือ 0.4-1.0% (เดิม 0.7-1.7%) และเราคาดว่าแรงกดดันเงินเฟ้อที่ต่ำ จะทำให้ดอกเบี้ยในประเทศต่ำนานไปถึงสิ้นปี 2018...กลุ่ม Leasing และ Micro Finance จะได้ผลดีจากแนวโน้มดอกเบี้ยต่ำนาน ได้แก่ KKP TISCO (กำไร 3Q17 มีแนวโน้มแข็งแกร่งจากการฟื้นตัวของตลาดทุน ผ่านบริษัทหลักทรัพย์ และบริษัทบริหารสินทรัพย์) MTLS SAWAD และ THANI
Technical Story: Technical SET range: 1,674-1,710
เข้าเขตด่านที่ดูมีลุ้น: (รายงาน The Technical Story)
SET เริ่มเข้าเขตด่าน 1,697-1,700 จุด ทะลุได้มีลุ้นขึ้นทดสอบ 1,710 และ/หรือ 1,718-1,720 จุด ส่วนกรณีแกว่งตัวหากยืน 1,681 จุดไม่อยู่ อาจถอยลงไปที่ 1,677 และ/หรือ 1,674 จุด
หุ้นแนะนำ:
KTC เข้าซื้อเมื่อทะลุ 118 เป้าหมาย 121 / 127 บาท
ESSO ซื้อเพิ่ม เป้าหมาย 14.60 บาท
TISCO ซื้อเพิ่มที่ 77.50 หรือเมื่อทะลุ 78.50 เป้าหมาย 80.50 / 88
Derivatives Recommendation:(ดูรายงาน The Derivatives Story)
'ถือ' Long S50Z17 เป้าหมาย 1,100 จุด...Trailing Stop 1,060 จุด "Long" BlockTrade CPF เป้าหมาย 28 / 29 บาท...Leverage 15x
TradeCode: Buy >MTLS, DTAC, SQ
Tactical Portfolio (1-3 เดือน)
Tactical Portfolio : Tactical Portfolio ให้ผลตอบแทน +3.4% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ดีกว่า SET ที่ให้ผลตอบแทน +0.9% มาก โดย ESSO BEAUTY และ AMATA ให้ผลตอบแทนสูง 16.4%, 10.3%, และ 6.3% ตามลำดับ ขณะที่ WHA ที่ปรับสูงขึ้นแรงในสัปดาห์ก่อนหน้าอ่อนตัว -1.1% ในสัปดาห์ก่อนหน้า เป็นโอกาส "ซื้อ"...ทั้งนี้เราแนะนำ "ถือ" หุ้นทั้ง 10 ตัวต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน ได้แก่ AMATA BEAUTY EA ESSO KBANK KKP PTT SAWAD STEC WHA มองเป้าหมาย SET ระยะสัปดาห์ที่ 1740 จุด
Siam Senses Portfolio (6-12 เดือน)
หุ้นใน Siam Senses Portfolio
AMATA : ผู้พัฒนานิคมที่จะได้รับประโยชน์โดยตรงและมากที่สุดจากโครงการ EECทั้งในแง่ของมูลค่าที่ดินและยอดขายที่สูงขึ้น และได้ประโยชน์จาก FDI เวียดนามที่แข็งแกร่งผ่านบริษัทย่อย AMATAV (ถือหุ้น 73%)AOT: ได้ประโยชน์ทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวฟื้นตัวและการประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์ปีหน้า
BEAUTY : เป็นหุ้น growth stock ที่ได้ประโยชน์จากการเติบโตของอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง และได้ market share ที่สูงขึ้น
CPALL : ธุรกิจร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ที่แข็งแกร่ง เติบโตสูงจากการขยายสาขาและเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นจากสินค้าใหม่ที่มี margin สูง
DTAC : มูลค่าถูก ปลดล็อคความเสี่ยงสัมปทาน และความสามารถในการทำกำไร
EA : เป็นหุ้น growth stock ยังโตสูงต่อเนื่องถึงปี 2019 จากสัญญาในมือที่จะทยอยดำเนินการ และมีโอกาสโตมหาศาลต่อเนื่องจาการขยายธุรกิจสู่แบตเตอรี่เก็บกักพลังงานซึ่งเป็นแนวโน้มของการพัฒนาอุตสาหกรรมไฟฟ้า
KBANK : ได้รับผลประโยชน์สูงสุดจากเศรษฐกิจฟื้นตัว
KCE : ฐานธุรกิจกลุ่มรถยนต์ที่มั่นคง เติบโตจากการขยายโรงงานและ market share ที่มากขึ้น
PTT : ธุรกิจก๊าซหนุนกำไรโตแข็งแกร่งSTEC: ด้วยมูลค่างานในมือ 1 แสนล้านบาท คาดว่ากำไรจะเติบโต 45% ปี 2017 และ 41% ปี 2018
STEC : ด้วยมูลค่างานในมือ 1 แสนล้านบาท คาดว่ากำไรจะเติบโต 45% ปี 2017 และ 41% ปี 2018
Thai Strategy Team
อดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล
วิชนันท์ ธรรมบำรุง