- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 02 October 2017 16:47
- Hits: 2495
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: แนวรับสำคัญ 1680 ถ้าหลุดจะเป็นสัญญาณขาย
SET Index: 1689.93 ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องค่อนข้างแรงกว่าที่คาดเอาไว้ทะลุผ่านแนวต้านที่ 1680 จุดขึ้นไป พร้อมด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่ง ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยมีแนวต้านที่ 1705 และ 1720 จุด อย่างไรก็ดี การปรับตัวเพิ่มขึ้นในระยะสั้นเหนือระดับ 1680 จุดขึ้นไปไปทดสอบ 1690 จุด ถ้าถูกขายทำกำไรลงไปปิดต่ำกว่าระดับ 1680 จุด จะเป็นสัญญาณขายทางเทคนิค โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1650 จุด
แนวต้าน : 1690 และ 1692
แนวรับ : 1684 และ 1680
PTT = 410/420, CPALL = 67.50/68.00, AOT = 58.50/59.50, ESSO = 13.40/13.80, KBANK = 204/208
Asia Aviation (AAV TB; THB 6.65) – ซื้อ
แนวต้าน : 7.00 และ 7.10
แนวรับ : 6.65 และ 6.60
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือนแนวโน้มลงต่อเนื่อง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ AAV โดยมีแนวรับที่ 6.65 และ 6.60 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 7.00 และ 7.10 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 6.45 ลงไป
AAPICO Hitech (AH TB; THB 28.25) – ซื้อ
แนวต้าน : 30.00 และ 32.00 / แนวต้านสำคัญ 33.50
แนวรับ : 28.25 และ 28.00
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรในระยะสั้นเหนือจุดสูงสุดเดิม ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 70
แนะนำซื้อ AH โดยมีแนวรับที่ 28.25 และ 28.00 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 30.00 และ 32.00 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 27.00 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 761-9231 - [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET…แกว่งกรอบแคบ เพื่อรอปัจจัยหุนน
ดัชนีตลาดหุ้นเกิดใหม่ (EM) ใน Q3/17 ปรับตัวขึ้นมาถึง 6.7% แต่หากนับตั้งแต่ต้นปีถึงสิ้น Q3/17 ขึ้นมาถึง 25.1% สูงสุดของการเปลี่ยนแปลงราคาสินทรัพย์ทั้งหมดในปี 2017 สำหรับตลาดหุ้นไทย (MSCI Thailand รูปดอลลาร์) พบว่าตั้งแต่ต้นปีถึงสิ้น Q3/17 ขึ้นมาทั้งสิ้น 20% และ9.9% ใน Q3/17 ถือว่าขึ้นได้มากที่สุดในบรรดาหุ้นตลาดอาเซียน ส่วนแนวโน้มในเดือน ต.ค. จะเป็นอย่างไร ยังต้องติดตามผลการดำเนินงานQ3/17 เหตุการณ์คาบสมุทรในเกาหลีและตัวเลขเศรษฐกิจ แม้หลายๆ ส่วนยังมองว่าแนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นโลก จะยังขึ้นได้ต่อ แต่บางส่วนมองยังไม่ผ่านจุดอันตราย นั่นก็คือ แนวโน้มดัชนีในเดือน ต.ค. ยังอาจเผชิญกับความผันผวนได้อีก
ทิศทางราคาน้ำมันในวันศุกร์ที่ผ่านมา ปรับตัวขึ้นมาเล็กน้อย จากความตึงเครียดทางภูมิศาสตร์ของการผลิตน้ำมันในตอนเหนือของตุรกีหลังเคิร์ดประกาศจะแยกประเทศ แต่อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันยังไม่สามารถขึ้นทะลุไปที่ 60 ดอลลาร์/บาร์เรลได้ในช่วงสั้นนี้ หลังปริมาณการผลิตน้ำมันของกลุ่ม OPEC ในเดือนนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5 แสนบารเรล์/วัน นอกจากนั้นจำนวนหัวขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐกลับเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรก 7 หัว หลังราคาน้ำมันฟื้นตัว ดังนั้นทิศทางราคาน้ำมันในช่วงสั้น อาจจะยังมีแรงกดดันเพิ่มจากปริมาณการผลิตทั้งจากกลุ่ม OPEC –Non OPEC รวมทั้งจำนวนหัวขุด
สภาพรวมๆ ของตลาดทั่วโลกในอาทิตย์นี้ คาดจะยังแกว่งตัวในลักษณะ Sideway เพื่อรอปัจจัยหนุนใหม่ๆ โดยเฉพาะการประกาศงบ Q3/17ของธนาคารขนาดใหญ่ของสหรัฐในช่วงสัปดาห์หน้า ส่วนแนวโน้มดัชนี SET หลังดีดตัวขึ้นมายืนเหนือ 1670 จุด ทิศทางน่าจะเริ่มซึมตัวลง จากการขาดแรงหนุนใหม่ๆ นอกจากนั้นกลุ่มอุตสาหกรรมใหญ่ที่จะหนุนตลาดในตอนนี้ ราคาหุ้นกลับดีดตัวขึ้นมายืนในระดับสูง จะเหลือก็แค่การเล่นหุ้นประเภทที่ยังไม่ขึ้นและหุ้นเก็งกำไรขนาดเล็ก
กลุ่มเครื่องดื่มก็เป็นอีกกลุ่มที่ราคาหุ้นหลายๆ ตัวยังขึ้นได้น้อยมาก จากรูปด้านขวา เราแสดงราคาหุ้นเครื่องดื่ม 5 บริษัท ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันพบว่าหุ้นที่ลงหนักมาก คือ MALEE ลงจากต้นปีประมาณเกือบ -32% รองลงมาคือ ICHI (-22%) และ SAPPE (-10%) แรงกดดันเหล่านี้มาจากการขึ้นภาษีความหวานและผลการดำเนินงาน ซึ่งบางส่วนเรามองว่าน่าจะรับข่าวไปมากแล้ว
วันนี้เปิดขึ้นมา คาดดัชนี SET มีแนวโน้มซึมขึ้นต่อสลับมีแรงขายทำกำไรหลังไม่มีปัจจัยหนุนใหม่ๆ ส่วนปริมาณการซื้อขายคาดจะเริ่มเบาบางหลังหุ้นใหญ่พักตัว วันนี้คาดหุ้นที่น่าจะยังคึกคัก จะเป็นหุ้นที่ขึ้นได้น้อยและหุ้นขนาดเล็ก โดยกลุ่มเครื่องดื่มน่าจะเป็นตัวเลือกในการลงทุน แม้จะดีดตัวขึ้นมาบ้างในวันศุกร์แต่ยังไม่มาก วันนี้มองแนวต้านที่ 1677-1680 จุดและแนวรับที่ 1668-1664 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร BEAUTY SAPPE MALEE และ ANAN
Analysts :
Kiatkong Decho +662 761-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,689.93 จุด เพิ่มขึ้น 16.77 จุด (+1.00%) มูลค่าการซื้อขาย32,505.94 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับขึ้นต่อเนื่องทดสอบแนวต้าน 1690 จุด โดยมีแรงหนุนจากหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มพลังงาน ค้าปลีก และธนาคาร ด้านตลาดภูมิภาคแกว่งขึ้นเป็นส่วนใหญ หลัง BOJ เผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ของญี่ปุ่นใน 3Q17 ขยายตัวสูงสุดในรอบ 10 ปี ติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ (ศุกร์นี้)
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดช่วงบ่าย คาดว่าตลาดยังปรับขึ้นได้ต่อเนื่องจากแรงซื้อหุ้นในกลุ่มหลักอย่างพลังงาน (PTT, PTTEP), ค้าปลีก (CPALL), ปิโตรเคมี (PTTGC, IVL) และ AOTโดยปริมาณการซื้อขายยังคงหนาแน่น ทำให้ภาพตลาดยังดูดีอยู่ แต่ต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรระยะสั้นหลังจากที่ตลาดหุ้นปรับขึ้นมาอย่างร้อนแรงกว่า 100 จุด หรือ 7%ในช่วง 1 เดือนกว่าที่ผ่านมา ทำให้ราคาหุ้นหลายบริษัทเริ่มเต็มมูลค่าหุ้นในปีนี้แล้ว ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ต้องเน้นการเลือกหุ้น (stock selection) และการจับจังหวะการลงทุน (market timing) เป็นหลัก โดยเลือกหุ้นหลักที่ยังมีราคาปรับขึ้นช้ากว่ากลุ่ม(laggard) มาสลับเล่นเก็งกำไรระยะสั้น เราให้แนวต้านที่ 1690-1695 จุดและแนวรับที่1685-1677 จุด โดยบ่ายนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร BCH, MINT, PTTEP และ TRUE
Technical Pick (PM) ...
Asia Aviation (AAV TB; THB 6.65) – ซื้อ
AAPICO Hitech (AH TB; THB 28.25) – ซื้อ
Analysts :
Kitichan Sirisukarcha +66(2) 761 9232 – [email protected]
Teerawut Kanniphakul +66(2) 761 9233 – [email protected]