- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 02 October 2017 16:43
- Hits: 2415
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> ยังเน้นสะสมหุ้นพื้นฐานดีเพิ่ม
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET แกว่งตัวบวกได้ค่อนข้างดีตลอดวันและปิดบวกได้ 6.80 จุดแม้ไม่มีปัจจัยบวกใหม่ที่ชัดเจนเข้ามากระตุ้น ส่วนหนึ่งคาดว่าเป็นผลจาก Window Dressing โดยสถาบันในประเทศซื้อสุทธิในตลาดหุ้นและฟิวเจอร์สรวมกันราว 3.2 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิราว 700 ลบ.
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET จะแกว่งตัว Sideways และยังอยู่ในช่วงของการย่ำฐานต่ออีกสักระยะโดยขาดปัจจัยบวกใหม่ที่ชัดเจนเข้ามากระตุ้น และตลาดหุ้นเอเชียหลายแห่งปิดทำการวันนี้ อย่างไรก็ตามเรามองว่าเป็นโอกาสดีในการซื้อสะสมหุ้นพื้นฐานดี และคาดหวังการเติบโตของเศรษฐกิจไทยที่จะเร่งตัวขึ้นโดยเฉพาะการลงทุนภาครัฐ การบริโภคในประเทศที่ค่อยๆฟื้นตัวขึ้น รวมถึงค่าเงินบาทระยะหลังที่อ่อนค่าซึ่งเป็นผลดีต่อการส่งออก
กลยุทธ์ : ทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดีเพิ่มในช่วงอ่อนตัว
หุ้นเด่นเดือน ต.ค. : ADVANC, ATP30, BANPU, IRPC, KKP
Fund flow เมื่อวันศุกร์กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$750ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าฟิลิปปินส์ US$623ล้าน ตามด้วยไต้หวัน US$154ล้าน ขณะที่ไหลออกอินโดนีเซีย US$84ล้าน และไทย US$9ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาค กระแสเงินทุนไหลเข้าดอลลาร์หลัง Fed มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในปีนี้ และวันนี้หลายตลาดปิดทำการ (จีน เกาหลีใต้)
ชวนเม้าส์หุ้นเด่น >> SYNEX <<
Thailand Mobile Expo เพิ่งจัดจบไป 28 ก.ย. – 1 ต.ค. 17 หากอิงการจัดงานเมื่อ 9-12 ก.พ. 17 เราพบว่าหุ้นขายมือถือ (SYNEX COM7 IT SPVI JMART) เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 3% ใน 5 วันทำการหลังจัดงาน แต่ SYNEX ขึ้นแรงถึง 8% เพราะเป็นผู้ค้าส่งเกือบทุกสมาร์ทโฟน โดยปัจจุบันรายได้จากมือถือคิดเป็น ~20% ของรายได้รวม
คาดกำไร 3Q17 ทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 160 ลบ. +47% Y-Y จาก High Season ที่ไตรมาส 3 มักเป็นจุดสูงสุดของปี และได้แรงหนุนเพิ่มเติมจากเงินบาทที่แข็งค่าอีก 3% Q-Q รวมถึงการเริ่มรวมบัฟ (ประเทศไทย) เป็นไตรมาสแรก ส่วนทั้งปีคาด 584 ลบ. +43% Y-Y
ราคาปัจจุบันคิดเป็น PE ปีนี้ 19 เท่า และจะลดเหลือ 17 เท่าในปีหน้า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 25 เท่า แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 18.50 บาท
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) กลยุทธ์การลงทุนเดือน ต.ค. 17 การกลับมาซื้อหุ้นไทยของต่างชาติเพิ่งเริ่มเมื่อปลายเดือน ส.ค. และเชื่อว่าจะมีโมเมนตัมต่อเนื่องจากปัจจัยลบต่างๆที่คลี่คลาย เศรษฐกิจฟื้นชัดเจนและเร่งตัวขึ้น รวมถึงมีโอกาสดีกว่าที่หลายฝ่ายคาด การลงทุนภาคเอกชนเริ่มดูดี ขณะที่พ.ร.บ. EEC จะมีผลบังคับใช้ต้นปีหน้า สอดคล้องกับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่เราคาด EPS growth +7% ในปีนี้และ +9.5% ปีหน้า ส่วนลประกอบการ 3Q17 จะเริ่มประกาศเดือนนี้ หลายกลุ่มมีทิศทางดีขึ้นทั้งธนาคาร พลังงาน โรงพยาบาล ส่งออก (ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิคส์ เกษตรและอาหาร ยานยนต์) ยกเว้นกลุ่มค้าปลีก รับเหมา และวัสดุก่อสร้าง ที่เป็น low season เดือนนี้เราแนะนำ ADVANC, ATP30, BANPU, IRPC, KKP
(0) PMI ภาคการผลิตจีน ก.ย. ที่จัดทำโดย Caixin อยู่ที่ 51.0 ลดลงจาก 51.6 ใน ส.ค. 17 และต่ำกว่าคาดการณ์ของตลาดที่ 51.5 แต่ตัวเลขของทางการปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 52.4 จากงวดก่อนที่ 51.7 แม้ตัวเลขจะขัดแย้งกันเอง แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงเศรษฐกิจจีนที่ฟื้นตัว ถือเป็นปัจจัยต่อสินค้าโภคภัณฑ์และผู้ส่งออกในประเทศแถบเอเชียเช่นไทย
(0) นายกเยือนสหรัฐฯ 2-4 ต.ค. ในประเด็นความร่วมมือด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และสถานการณ์ในภูมิภาค รวมถึงประเด็นที่เป็นปัญหา เช่น ความปลอดภัยในระบบการบิน การค้ามนุษย์ และการละเมิดลิขสิทธิ ผลกระทบเชิงบวกอาจไม่เกิดขึ้นทันที แต่น่าจะช่วยให้ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาล 2 ประเทศมีพัฒนาการดีขึ้น หลังจากนี้ทรัมป์จะเยือนเอเชีย 5 ประเทศ คือ ญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้ เวียดนาม และฟิลิปปินส์ ทั้งนี้บริษัทไทยที่มีธุรกิจในสหรัฐฯ คือ IVL TU CPF EPG
(0) CMO หลังจากการเข้าพูกคุยกับผู้บริหารวานนี้ เราคาดว่าผลประกอบการมีแนวโน้มฟื้นตัวเป็นลำดับ เพราะธุรกิจจัด event และให้เช่าอุปกรณ์กลับมาขยายตัวตามเศรษฐกิจประเทศ ขณะที่ ผลขาดทุนของบริษัทลูกทั้ง CMO Show Corp. ที่จัดแสดง Multi Media 4 มิติเรื่อง Himmapan Avatar และ IMAGINIA ที่ให้บริการสวนสนุกสำหรับเด็กขาดทุนลดลงต่อเนื่อง แต่ด้วยความทีไตรมาส 3 ของทุกปีเป็น Low Season และ PE2017 อิงคาดการณ์กำไรปีนี้ที่ 32 ลบ. (ปีก่อนขาดทุน 42 ลบ.) จะอยู่ที่ราว 17 เท่าใกล้เคียงค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง เราจึงมองว่ายังไม่ใช่จังหวะในการซื้อลงทุน
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
1-7 ต.ค.
- จีน: ตลาดจีนปิดเนื่องในวันชาติ (Golden week)
2-ต.ค.
- สหรัฐฯ: ISM ภาคการผลิต (ก.ย.)
3-ต.ค.
- ไทย: WPH เริ่มซื้อขายวันแรก ราคา IPO 3.90 บาท
- ออสเตรเลีย: ประชมุธนาคารกลาง (คาดคงดอกเบี้ย 1.5%)
4 ต.ค.
- สหรัฐฯ: ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชน (ก.ย.) ถ้อยแถลงของประธานเฟด
- ยูโรโซน: ถ้อยแถลงของประธาน ECB
5 ต.ค.
- ไทย: CRD เริ่มซื้อขายวันแรก ราคา IPO 1.44 บาท
- ออสเตรเลีย: ยอดค้าปลีกและดุลการค้า
- สหรัฐฯ: ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
6 ต.ค.
- สหรัฐฯ: ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร (ก.ย.) ตลาดคาด 88,000 คน จากงวดก่อน 156,000 คน