- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 29 September 2017 17:00
- Hits: 1561
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
มุมมองบวกอย่างระมัดระวัง
คาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบแคบวันนี้ นักลงทุนกลับมาพิจารณาความเป็นไปได้ของแผนปฏิรูปภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์ และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐล่าสุดที่ออกมากลาง ๆ ในขณะที่ความเคลื่อนไหวของตลาดการเงินโลกน่าจะชะลอลงก่อนสิ้นไตรมาส ปัจจัยภายในประเทศวันนี้ส่วนใหญ่เป็นบวก กระทรวงการคลังเห็นพ้องกับ ธปท. เศรษฐกิจไทยปีนี้โตได้ 3.8% สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย มองว่า ICAO มีโอกาสสูงที่จะยกเลิกธงแดงที่ให้กับมาตรฐานความปลอดภัยทางการบินของไทย กลาง ต.ค. รายรับของรัฐบาล 11 เดือนแรกเกินเป้า
หุ้นเด่นวันนี้ : ANAN (ราคาปิด 5.60 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมายของ AWS ที่ 7.40 บาท)
เราเลือก ANAN เป็น pick of the day โดยคาดว่า ANAN จะได้รับประโยชน์ในภาวะอัตราดอกเบี้ยในประเทศต่ำ และโอกาสที่ภาครัฐจะออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศในช่วง พ.ย.นี้ ปัจจุบัน ธนาคารมอบสิทธิ์พิเศษเป็นดอกเบี้ยต่ำ สำหรับโครงการที่มีทำเลดี ติดแนวรถไฟฟ้า เช่น ดอกเบี้ยต่ำราว 2.8%-3.0% ใน 3 ปีแรก เราคาดหวังว่าผลประกอบการของบริษัทจะดีขึ้นโดดเด่นในช่วง 2H60 อย่างมาก เนื่องจากเริ่มมียอดโอนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญในช่วง 2H60 โดยคาดการณ์ว่าไตรมาส 3/60 จะมียอดโอนราว 3,679 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34%QoQ ส่วนไตรมาส 4/60 จะมียอดโอนเข้ามามากที่สุดถึง 16,389 ล้านบาท ดังนั้นกำไรหลักประมาณ 60% ของทั้งปีคาดว่าจะไปตกอยู่ในช่วงไตรมาส 4/60 เราคาด ANAN มีกำไรสุทธิปี 2560 เท่ากับ 2,154 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43%YoY และกำไรสุทธิปี 2561 เท่ากับ 3,148 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46%YoY เราจึงเห็นว่า ANAN มีการเติบโตของกำไรสุทธิช่วงครึ่งปีหลังดีที่สุดตัวหนึ่งในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ Price Pattern ของ ANAN มีความแข็งแกร่งอยู่ในแนวโน้มหลักที่เป็นแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จากการเกิดทั้ง DaiIy, WeekIy, & MonthIy Buy SignaI บ่งบอกถึงการทำ New High โดยมีเป้าหมายแรกของการทำ New High อยู่ที่ 5.90 บาท ทั้งนี้ ANAN มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 5.50 บาท (Resistance: 5.65, 5.75, 5.80; Support: 5.55, 5.50, 5.40)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) คาดการณ์ GDP ของปีนี้ที่ +3.8% สอดคล้องกับตัวเลขจากธนาคารแห่งประเทศไทย โดยหลักแล้วมาจากตัวเลขการส่งออกที่ดีขึ้น โดยทางหน่วยงานจะพิจารณาเรื่องตัวเลขคาดการณ์อีกครั้งในเดือนหน้า (บางกอกโพสต์)
ลุ้นปลดธงแดง กรมการบินพลเรือนมองว่ามีโอกาสที่ได้จะถูกปลดจากรายชื่อธงแดงของ ICAO (InternationaI CiviI Aviation Organization) จากการที่ทาง ICAO เห็นถึงการพัฒนามาตรฐานความปลอดภัย ทั้งนี้ผลจะออกมากลางเดือนตุลาคมนี้ (บางกอกโพสต์)ความเห็น: เป็นผลบวกต่อหุ้นการบิน เช่น AAV, BA และ THAI
รายได้ภาครัฐสูงกว่าเป้าหมายใน 11 เดือนแรก โดยอยู่ที่ 2.13 ล้านล้านบาทสูงกว่าเป้า 1.96 พันล้านบาท โดยได้รับผลมาจากกรมสรรพสามิต และรัฐวิสาหกิจที่รายได้ดีกว่าคาด ซึ่งชดเชยภาษีมูลค่าเพิ่มที่ออกมาไม่ดีนัก (บางกอกโพสต์)
ต่างประเทศ :
อัตราผลตอบแทนสหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อวันพฤหัส จากการที่นักลงทุนลดการถือครองพันธบัตรเนื่องจากแผนปฏิรูปภาษีของปธน.ทรัมป์ทำให้นักลงทุนกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับการขาดดุลการคลังและเงินกู้ยืมที่จะเพิ่มขึ้น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 2.4 bps ที่ระดับ 2.3335% แตะระดับสูงสุดในช่วง 11 สัปดาห์ (รอยเตอร์)
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเทียบกับสกุลเงินหลักเมื่อวันพฤหัส เนื่องจากนักลงทุนขายทำกำไรหลังจากดอลลาร์ปรับตัวขึ้นในสัปดาห์นี้ก่อนสิ้นสุดไตรมาส ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ปิดลบ 0.23% ที่ระดับ 93.143 ทั้งนี้ ดัชนีฯ มีผลการดำเนินงานแข็งแกร่งที่สุดในรอบ 3 วันในช่วง 9 เดือนและยังเพิ่มขึ้นประมาณ 1% ในสัปดาห์นี้ (รอยเตอร์)
สหรัฐ :
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวกเมื่อวันพฤหัส เนื่องจากนักลงทุนยังมีความหวังว่าปธน.โดนัลด์ ทรัมป์จะทำให้แผนปฏิรูปภาษีมีความคืบหน้า อย่างไรก็ตาม การปรับตัวขึ้นของตลาดถูกสกัดจากหุ้นที่ปรับตัวขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์และการประเมินมูลค่าหุ้นที่สูงขึ้น ค่าพีอีล่วงหน้าของดัชนี S&P500 อยู่ที่ 17.9 เท่าเทียบกับค่าพีอีเฉลี่ยระยะยาวที่ 15.1 เท่า (รอยเตอร์)
รัฐสภาสหรัฐจะลงมติเกี่ยวกับงบประมาณการคลังในสัปดาห์หน้า (5 ต.ค.) ตามที่นายพอล ไรอัน ประธานสภาผู้แทนสภาราษฎรสหรัฐเปิดเผยเมื่อวันพฤหัส และเขากล่าวเพิ่มว่าการผ่านกฎหมายเกี่ยวกับการใช้จ่ายของรัฐบาลจะช่วยเคลียร์ทางสำหรับการดำเนินการเกี่ยวกับภาษี ทั้งนี้ การผ่านมติเกี่ยวกับงบประมาณ สภาคองเกรสจะปลดล็อคเครื่องมือทางกฎหมายซึ่งเป็นที่รู้จักกันว่าคือการทำบัญชีกระทบยอด (reconciIiation) ซึ่งพรรครีพับลิกันจำเป็นต้องผลักดันการออกกฎหมายภาษีผ่านวุฒิสภาซึ่งมีเสียงสนับสนุนส่วนใหญ่ 51 เสียง พรรครีพับลิกันคุมเสียงในวุฒิสภาในสัดส่วน 52-48 และต้องการเสียงสนับสนุน 60 เสียงเพื่อให้ผ่านการพิจารณากฎหมายดังกล่าวโดยไม่ต้องใช้วิธี reconciIiation (รอยเตอร์)
เศรษฐกิจสหรัฐไตรมาส 2/60 ขยายตัวเร็วกว่าที่คาดเล็กน้อย เป็นการขยายตัวเร็วที่สุดในรอบกว่า 2 ปี แต่มีแนวโน้มชะลอตัวในไตรมาส 3/60 เนื่องจากพายุเฮอริเคนฮาร์วีย์และเออร์มา GDP ขยายตัว 3.1% YoY ในไตรมาส 2/60 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่มีรายงานว่าขยายตัว 3.0% GDP ไตรมาส 1/60 ขยายตัว 1.2% ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า GDP ไตรมาส 2/60 จะขยายตัว 3.0% (รอยเตอร์)
จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้นสูงกว่าที่คาดการณ์ในสัปดาห์ที่แล้ว สะท้อนผลกระทบจากพายุเฮอริเคนฮาร์วีย์และเออร์มา โดยเพิ่มขึ้น 12,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 272,000 ราย สูงกว่านักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 270,000 ราย ทั้งนี้ ตัวเลขผู้ที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงอยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย ติดต่อกัน 134 สัปดาห์ ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1970 (รอยเตอร์)
ยุโรป :
หุ้นยุโรปปิดผสมเมื่อวันพฤหัส แต่ยังอยู่ใกล้จุดสูงสุดในรอบ 10 สัปดาห์ หนุนโดยแผนปฏิรูปภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แม้จะมีความกังวลว่าแผนดังกล่าวจะทำได้จริงหรือไม่ก็ตาม (Reuters)
เอเชีย :
นายกรัฐมนตรีชินโซะ อาเบะของญี่ปุ่นได้ประกาศยุบสภาในวันพฤหัสและประกาศวันเรื่องตั้งในวันที่ 22 ต.ค. โดยเสียงสนับสนุนที่ดีในช่วงเดือนที่ผ่านมาน่าจะทำให้พรรค LDP ของเขาได้รับเสียงข้างมากในสภา (รอยเตอร์)
ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นออกมาดีแต่ยอดค้าปลีกออกมาต่ำกว่าคาด ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม +2.1% MoM ในเดือนสิงหาคม เทียบกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ +1.9% ส่วนในเดือนกรกฎาคมนั้น -0.8% จากผลสำรวจนั้นคาดว่าจะ -1.9% ในเดือนกันยายน และ +3.5% ในเดือนสิงหาคม ขณะที่ยอดค้าปลีก +1.7% YoY ในเดือนสิงหาคม เพิ่มกับคาดการณ์ว่าจะ +2.6% (รอยเตอร์)
ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) +0.7% YoY ในเดือนสิงหาคม ซึ่งเพิ่มติดกันเป็นเดือนที่ 8 แล้ว ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับ BOJ ที่ต้องการให้เงินเฟ้ออยู่ที่ระดับ +2% ในส่วนของตัวเลขคาดการณ์ในเดือนสิงหาคม และ ตัวเลขจริงในเดือนกรกฎาคมนั้นอยู่ที่ +0.5% (รอยเตอร์)
หุ้นจีนไม่ได้เปลี่ยนแปลงในวันพฤหัสที่ผ่านมา จากการที่กำลังรอตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาส 3 และใกล้ช่วงวันหยุดวันชาติในวันอาทิตย์ โดยสัปดาห์หน้าจะเป็นวันหยุดของจีนทั้งสัปดาห์ (รอยเตอร์)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง 1% ในวันพฤหัสบดี โดยหลุดออกจากจุดสูงสุดเมื่อเทียบกับปี 2558 ในช่วงต้นสัปดาห์ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงที่ 58 เซนต์ (-1.1%) เป็น 51.56 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบเบรนท์ราคาลง 49 เซนต์ (-0.9%) ปิดที่ 57.41 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล (รอยเตอร์)
ราคาทองคำเด้งจากจุดต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เนื่องจากเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง โดยราคาทองคำขึ้น 0.5% ที่ 1,286.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์หลังจากแตะระดับที่ 1,277.26 เหรียญซึ่งเป็นจุดต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค. นอกจากนี้ราคาสัญญาล่วงหน้าทองคำสหรัฐฯส่งมอบเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 0.90 เหรียญสหรัฐฯ (+ 0.1%) ที่ 1,288.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (รอยเตอร์)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 0-2680-5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 0-2680-5090
Mrs. Vajiralux Sanglerdsillapachai (No. 17385) Tel: 0-2680-5077
Ms. Veeraya Rattanaworatip (No.86645) Tel: 0-2680-5042
Mr. Adisak Prombun (No. 14543) Tel: 0-2680-5056