- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 28 September 2017 16:19
- Hits: 2504
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้
Laggard Play
Smart Pick
1. เก็งกำไร TPIPL : ราคาปิด 2.26 บาท เป้าหมายระยะสั้น อิงเทคนิคที่ 2.40 บาท (ยังไม่ได้อยู่ใน Coverage ของเรา)
a) ราคาหุ้นยัง Laggard โดย YTD ลดลง -8.1% เทียบกับ SET CONMAT+0.7% และหุ้นบริษัทลูกคือ TPIPP เพิ่มขึ้น +7.8% และเชื่อว่ามี Downside จำกัด เนื่องจาก NAV จากการถือหุ้น TPIPP สัดส่วน 70% อิงราคาปิดวานนี้ เทียบเท่ามูลค่าต่อหุ้น 2.21 บาท
b) คาดผลประกอบการปี 2561 จะดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากฐานกำไรรองรับจาก TPIPP ที่คาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโต +108% YoY เป็น 6,478 ล้านบาท จะส่งผลมายัง TPIPL สูงถึง 4.5 พันล้านบาท
c) Valuation ถูกที่ระดับ PBV2560 เพียง 0.9 เท่า และงบลงทุนของภาครัฐฯที่เข้าสู่ระบบในปีหน้าจากงานก่อสร้าง Mega Project จะส่งผลให้ความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ในประเทศฟื้นตัวและมีความสมดุลของ Demand-Supply มากขึ้น
2. สะสม SCB : ราคาปิด 154.50 บาท ราคาเหมาะสม 170.00 บาท
a) คาดว่าหุ้นกลุ่มธนาคารจะตอบรับเชิงบวกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หลังวานนี้ กนง.ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ปี 2560 ขึ้นเป็น 3.8% จากเดิมที่ 3.5%
b) กลุ่มธนาคารจะเข้าสู่การรายงานผลประกอบการ 3Q60 ในช่วงกลางเดือน ต.ค. ประเมินเบื้องต้น คาดการณ์กำไรสุทธิ 3Q60 ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท เติบโตทั้ง YoY และ QoQ
c) ราคาหุ้นยัง Laggard โดย YTD ปรับตัวขึ้นเพียง +1.3% เทียบ SET BANK+8.1% และ SET INDEX +8.2% และเชื่อว่ามีความเสี่ยงของประมาณการกำไรค่อนข้างต่ำ เนื่องจาก NPL Ratio ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มธนาคาร ขณะที่ Coverage Ratio ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยของกลุ่มธนาคาร
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
วานนี้ SET INDEX แกว่งตัวในกรอบบริเวณ 1660-1675 จุด เป็นวันที่ 8 ติดต่อกัน ปิดที่ 1670.27 จุด มูลค่าการซื้อขายราว 5.5 หมื่นล้านบาท ด้านกระแสเงินทุน นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเล็กน้อยเพียง 83 ล้านบาท เช่นเดียวกับสถาบันในประเทศที่ซื้อสุทธิราว 614 ล้านบาท ด้านตลาดฟิวเจอร์ส นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Long สุทธิ 976 สัญญา เช่นเดียวกับ สถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Long สุทธิเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันราว 4.6 พันสัญญา รวมกว่า 9.8 พันสัญญา ด้านตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิราว 8.1 พันล้านบาท และค่าเงินบาทวานนี้อ่อนค่าราว 0.2% มาปิดที่ 33.28 บาท/ดอลล่าร์สหรัฐฯ
กลยุทธ์วันนี้
ภาพ SET INDEX วันนี้ คาดแกว่งตัว Sideways ในกรอบ 1665-1675 จุด เรามองว่า แนว 1675 จุด ยังไม่สามารถทะลุผ่านได้ง่ายนัก ขณะที่ Flow เงินต่างชาติน่าจะเริ่มชะลอตัวในช่วงเงินบาทอ่อนค่า
กนง. มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.5% ตามคาด แต่ปรับเพิ่มประมาณการการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ จาก 3.5% เป็น 3.8% โดยหลักเป็นเพราะการปรับเพิ่มสมมติฐานการส่งออก, การบริโภคภาคเอกชน, การลงทุนภาคเอกชน ส่วนปีหน้า ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ขึ้นเล็กน้อยจาก 3.7% เป็น 3.8% เรามองแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่ขยายตัวชัดเจนขึ้น ย่อมเป็นบวกต่อหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคภายในประเทศ (Domestic Plays) ได้แก่ ธนาคาร ค้าปลีก อสังหาฯ
พรรครีพับลิกัน นำเสนอร่างนโยบายภาษีฉบับใหม่ โดยหลักคือ การปรับโครงสร้างอัตราภาษีนิติบุคคลลดจาก 35% เหลือ 20% ด้านภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จะลดจาก 7 ขั้นเหลือ 3 ขั้น และลดอัตราสูงสุดจาก 39.6% เหลือ 35% ซึ่งหากประธานาธิบดีสหรัฐฯ ผลักดันให้เกิดขึ้นได้จริง อาจเห็นการดึงดูดกระแสเงินทุนกลับเข้าสู่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทั้งนี้ วานนี้ ดาวโจนส์ +0.25%, S&P500 +0.4%, Dollar index แข็งค่า 0.5%
กลยุทธ์วันนี้ เน้น Value Plays เลือกซื้อหุ้นที่ Valuation น่าสนใจ และราคายังขยับขึ้นไม่มาก (Laggard)
ปัจจัยสำคัญวันนี้
กนง.มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.5% เท่าเดิม และปรับเพิ่มประมาณการ GDP ปี 60 ขึ้นเป็น 3.8% จากเดิมคาดโต 3.5%
พรรค Republican เสนอแผนปรับโครงสร้างภาษี โดยภาษีนิติบุคคลลดลงจาก 35% เป็น 20% และภาษีเงินได้ฯ ลดจาก 7 ขั้น เหลือ 3 ขั้น โดยขั้นสูงสุดลดลงจาก 39.6% เป็น 35%
EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบลดลง 1.8 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 3.4 ล้านบาร์เรล
ติดตามการเสนอร่าง พ.ร.บ. EEC เข้าประชุม สนช. และการอ่านคำพิพากษาระหว่าง AQ และ KTB วันนี้
ติดตามการรายงาน GDP สหรัฐฯ 2Q60 รอบ 3 ตลาดคาดขยายตัว 3% วันนี้
ติดตามการรายงาน GDP อังกฤษ 2Q60, PMI จีน และเงินเฟ้อ EU 29 ก.ย.
ติดตามการรายงานภาวะเศรษฐกิจไทย วันที่ 29 ก.ย.
Strategist Team
Mayuree Chowvikran Head of Research ,662-009-8050
Padon Vannarat Strategist , 662-009-8060
Piyapat Patarapuvadol Strategist ,662-009-8062
Nutt Treepoonsuk Assistant Strategist