- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 27 September 2017 15:01
- Hits: 1178
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: แนวโน้มลงทดสอบแนวรับ 1650
SET Index: 1672.43 ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1675 จุด แต่มูลค่าการซื้อขายค่อนข้างน้อย หลังจากถูกขายทำกำไรที่แนวต้านสำคัญ 1675-1680 จุดตามกรอบแนวโน้มขาขึ้น ซึ่งเราคาดว่า แนวโน้มหลักยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงต่อเนื่อง โดยมีแนวรับที่ 1650 จุดเป็นจังหวะในการเข้าซื้อหุ้นและมีแนวรับถัดไปที่ 1620 จุด โดยมีแนวต้านสำคัญที่ 1680 จุด
แนวต้าน : 1672 และ 1674
แนวรับ : 1670 และ 1665
GL = 24.00 / 25.00, MINT = 40.00 / 41.00, PTT = 410 / 418, BANPU = 17.60 / 17.90, IVL = 7.50 / 7.70
TPI Polene (TPIPL TB; THB 2.26) – ซื้อ
แนวต้าน : 2.36 และ 2.44
แนวรับ : 2.26 และ 2.24
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเพื่อสร้างฐานเหนือแนวรับของกรอบแนวโน้มขาลงในระยะยาว
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ TPIPL โดยมีแนวรับที่ 2.26 และ 2.24 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 2.36 และ 2.44 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 2.18 ลงไป
Nusasiri (NUSA TB; THB 0.48) – ซื้อ
แนวต้าน : 0.52 และ 0.54 / แนวต้านสำคัญ 0.55
แนวรับ : 0.48 และ 0.47
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเพื่อสร้างฐานเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันต่อเนื่อง ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ NUSA โดยมีแนวรับที่ 0.48 และ 0.47 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 0.52 และ 0.54 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 0.45 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 761-9231 - [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET…การประชุม กนง.
แรงหนุนที่เหลืออยู่ในตลาดหุ้นไทยตอนนี้ คงเป็นราคาน้ำมันในตลาดโลกที่กำลังได้รับแรงหนุนทั้งจาก 1. ทางกลุ่ม OPEC-Non OPEC จะขยายเวลาในการลดกำลังการผลิตออกไปอีก 2. การปรับสมดุลของตลาดน้ำมันหรือปริมาณการผลิตกำลังปรับเปลี่ยนไปตามปริมาณการใช้ และ 3.ตุรกีจะปิดท่อส่งน้ำมันในทางเหนือของอิรัก หลังกลุ่มเคิร์ด ประกาศจะแยกตัวเป็นอิสระ ส่งผลให้ปริมาณน้ำมันที่จะเข้าสู่ตลาดโลกหายไป 5 แสนบารเรล์ต่อวัน หากตลาดน้ำมันยังดำเนินไปอย่างนี้ คาดราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ยังมีสิทธิขึ้นต่อไปที่ 58-60 ดอลลาร์ต่อบารเรล์ แต่จะทะลุ 60ดอลลาร์/บาร์เรลหรือไม่ยังต้องรอดูการประกาศสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐ ค่าเงินดอลลาร์และตัวเลขเศรษฐกิจจีน
การที่ดัชนี SET กำลังขึ้นสวนทางดัชนีตลาดหุ้นเกิดใหม่ทั่วโลก (MSCI EM) ที่กำลังปรับตัวลง น่าจะมาจากนักลงทุนภายในมองตลาดในแง่ดีมากๆ และละเลยความเสี่ยงที่จะเกิดในช่วงนี้ ประเด็นที่ทำให้เกิดแรงขายหุ้นในตลาดเกิดใหม่ในตอนนี้ คือ ความไม่มั่นใจผลเลือกตั้งในเยอรมันตลาดกำลังขาดปัจจัยหนุนที่ดีพอที่จะหนุนให้ดัชนีไปต่อ ปัญหาความตึงเครียดในเกาหลีเหนือ ทิศทางดอกเบี้ยในสหรัฐ การขยับขึ้นของอัตราผลตอบแทนจากพันธบัตรและตลาดเริ่มแพง
แรงซื้อที่เข้ามาหนุนดัชนี SET หลังขึ้นมาทะลุ 1600 จุด เป็นแรงซื้อของนักลงทุนในประทศทั้งกองทุนในประเทศและพอรท์โบรกเกอร์ ส่วนต่างชาติการซื้อระดับ 1.7 หมื่นล้าน ถือยังเป็นลักษณะ trading มากกว่า แต่อย่างไรก็ตามหากงบ Q3/17 ทยอยออกมาแล้วออกมาดีกว่าคาดหรือส่งสัญญาณว่าจะดีขึ้นใน Q4/17 มีความเป็นไปได้ที่เม็ดเงินจากต่างชาติจะไหลเข้ามาอย่างเป็นจริงเป็นจัง กลุ่อุตสาหกรรมที่ถือว่าเป็นตัวหนุนดัชนีและโดดเด่น ยังคงเป็นหุ้นที่อิงกับวัฎจักรเศรษฐกิจ มากกว่าหุ้นที่โตจากภายใน (Domestic play) แต่ในช่วงระยะหลังเริ่มมีแรงซื้อหุ้นเหล่านี้เข้ามาจากการมองว่ายัง Laggard ราคาไม่แพงและกำลังจะได้รับผลในเชิงบวกจากการเข้าสู่ช่วง High ของการท่องเที่ยว
วันนี้จะมีการประชุม กนง. เรามองว่าที่ประชุมน่าจะยัง คงดอกเบี้ยไว้ที่เดิมที่ 1.50% แต่หากมี surprise คือ ปรับลดลง ตลาดน่าจะดีดตัวรับข่าวในช่วงสั้นในกลุ่มผู้ส่งออก ลิสซิ่ง ค้าปลีก อสังหาสร้างบ้าน สลับมีแรงขายหุ้นธนาคารพาณิชย์ แต่หากที่ประชุมยังคงดอกเบี้ย คาดน่าจะเกิดแรงขายทำกำไรหุ้นที่กล่าวมา เนื่องจากก่อนหน้านี้ราคาหุ้นถูกลากขึ้นมาเล่น สลับแรงซื้อช่วงสั้นระหว่างวันในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ โดยสรุปประเด็นจะลดหรือไม่ลดดอกเบี้ย จะส่งผลต่อตลาดช่วงสั้น ดังนั้นช่วงหลังการประชุม กนง. เรามองว่าให้เพิ่มความระมัดระวังในการลงทุน หลังประเด็นภายนอกเริ่มสั่น และคาดจะสั่นแรงขึ้นไปถึงต้นเดือน ต.ค.
กลุ่มอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะเล่นได้ในตอนนี้ แทบจะไม่เหลือ หากมีจะเป็นหุ้นขนาดเล็ก หากมียังคงเป็นกลุ่มที่โยงกับการส่งออกโดยเฉพาะผู้ผลิตอาหาร (CPF TU) ค้าปลีก (GLOBAL ROBINS) ชิ้นส่วนอิเลกทรอนิกค์บางตัว (KCE) รวมทั้งกลุ่มพลังงาน (SPRC PTTEP) ดูรูปด้านซ้ายและขวา วันนี้มองแนวโน้มตลาดจะกลับมาผันผวนหลังทราบผลการประชุม กนง. รวมทั้งแรงกดดันจากตลาดหุ้นต่างประเทศ วันนี้มองแนวต้านที่1675-1678 จุดและแนวรับที่ 1666-1660 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร BEAUTY GFPT MINT PTTEP TIPCO
Analysts :
Kiatkong Decho +662 761-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,672.43 จุด เพิ่มขึ้น 2.68 จุด (+0.16%) มูลค่าการซื้อขาย25,905.23 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับขึ้นเล็กน้อยด้วยมูลค่าซื้อขายเบาบาง โดยมีแรงซื้อนำในกลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ หลังค่าเงินบาทอ่อนตัว ด้านตลาดภูมิภาคแกว่งทั้งบวก-ลบขณะที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายหลังคาดการณ์เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.นี้
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดช่วงบ่าย แกว่งแคบ นักลงทุนยังรอดูผลการประชุม กนง. หากออกมาคงดอกเบี้ยตามคาด กลุ่มธนาคารน่าจะเริ่มฟื้นตัวกลับขึ้นมา แต่อาจจะต้องระวังแรงขายทำกำไรของหุ้นกลุ่มเช่าซื้อ แต่หากผลการประชุมออกมาลดดอกเบี้ย ผลกระทบก็จะเกิดในทิศทางตรงกันข้าม เรามองภาพรวมตลาดยังมีเสถียรภาพ โดยเป้าหมายหลักนักลงทุนน่าจะยังคงรอการประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ที่จะออกมา ถึงจะเป็นการกำหนดทิศทางตลาดที่ชัดเจน มองแนวรับหลักที่ 1668 จุด แนวต้าน 1678 จุด เน้นเก็งกำไรรายตัว แนะนำ TRUE PTTEP CPALL SCB
Technical Pick (PM) & Cash Balance...
TPI Polene (TPIPL TB; THB 2.26) – ซื้อ
Nusasiri (NUSA TB; THB 0.48) – ซื้อ
Cash Balance Preview : คาดหลักทรัพย์ที่มีโอกาสจะติด Cash Balance ในสัปดาห์หน้า : PRINC, GL-W4
Analysts :
Kitichan Sirisukarcha +66(2) 761 9232 – [email protected]
Teerawut Kanniphakul +66(2) 761 9233 – [email protected]