- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 27 September 2017 14:56
- Hits: 1191
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ไซด์เวย์ รอผลประชุม กนง. บ่ายวันนี้
KGI คาด SET วันพุธไซด์เวย์ต่อ ปัจจัยภายนอกเป็นกลาง/ลบเล็กน้อย และนักลงทุนรอผลประชุม กนง. ไทย เวลา 14.30 น. (วานนี้ดัชนีฯ ไซด์เวย์/บวกเล็กน้อย ตามคาด) เมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นหลักๆ ทั้งสหรัฐฯ และยุโรป แกว่งในกรอบจำกัด ย่อยข่าวเกี่ยวกับนโยบายการเงินสหรัฐฯ หลังประธานเฟด เจเนต เยลเลน แถลงว่าเธอไม่เห็นด้วยที่จะรอให้เงินเฟ้อสหรัฐฯ ปรับขึ้นแล้วค่อยขึ้นดอกเบี้ย...
แต่ขณะเดียวกันเธอก็มองว่าการปรับดอกเบี้ยควรทำอย่างช้าๆ เพราะปัจจัยระยะสั้นยังมีความไม่แน่นอน ถ้อยแถลงดังกล่าวส่งผลให้สัญญาเฟดฟันด์ฟิวเจอร์เพิ่มโอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยใน ธ.ค. 2560 เป็น 81% จาก 71% ในวันก่อนหน้า น่าจะส่งผลให้ดัชนีเงินดอลล่าร์ฯ แข็งค่าในระยะสั้น และเมื่อผนวกกับมุมมองของธนาคารต่างชาติบางแห่งว่า กนง. จะลดดอกเบี้ยนโยบาย น่าจะส่งผลให้เงินบาทอ่อนค่าในวันนี้ อย่างไรก็ดีทาง KGI มองว่า กนง. จะคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50% เนื่องจากเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวชัดเจนขึ้นเป็นลำดับในครึ่งหลังของปีนี้ต่อเนื่องปี 2561 ซึ่งหาก กนง. คงดอกเบี้ยในบ่ายวันนี้ เรามองเงินบาทจะฟื้นตัว ส่งผลดีต่อฟันด์โฟลว์และราคาหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่ลดลงในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร PRM, BCP*, MTLS*
PRM (เป้า Consensus 10.2 บาท) 1) ประเมิน Valuation น่าสนใจ โดย PRM มี PE ปี 2561 = 20.1 เท่า (ขณะที่ Consensus คาดกำไรโต >30% CAGR 2561 - 62) ซึ่งหากใช้เป้าหมาย PE 25 เท่าในการคำนวณ (PEG 0.8 เท่า และ AMA ฝ่ายวิจัยฯใช้เป้าหมาย PE 30 เท่า) จะได้ราคาเหมาะสมปี 2561 ที่ 13.5 บาท (EPS61 เฉลี่ยใน Consensus 0.54 บาท) 2) ประเมินดีมานด์พลังงานและปิโตรเคมี ในเอเชียจะเติบโตตามการเติบโตของเศรษฐกิจในภูมิภาค โดยล่าสุด ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ปรับเป้า GDP เอเชียปี 2560 และ 2561 ขึ้นเป็น 5.9% และ 5.8% ตามลำดับ (เดิมคาดไว้ที่ 5.7% ทั้งสองปี) ซึ่งจะหนุนปริมาณขนส่งฯ ของ PRM
BCP* (เป้าพื้นฐาน 43 บาท) 1) แนะนำพิจารณาที่แนวราคา 39.25 บาท หาก Breakout ผ่านได้ จะเริ่มเกิดสัญญาณซื้อ มีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 41.5 บาท แนวรับ 38 บาท (Stop loss 37.25 บาท) 2) ประเมินราคาหุ้น Laggard หุ้นลูกอย่าง BCPG* (BCP* ถืออยู่ 70.28%) ซึ่งในการประเมินราคาเป้าหมายพื้นฐานหุ้น BCP* ฝ่ายวิจัยฯใช้วิธี Sum of the Parts โดยสมมติฐานราคาเหมาะสม BCPG* เพียง 13.1 บาท (ล่าสุดวานนี้ BCPG* ปิด 19.3 บาท) 3) คาดกำไร 3Q60 จะเป็นจุดพีคของปีนี้ จาก i) Base GRM ที่สูง และ ii) ไม่มีผลขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันเช่นใน 2Q60 4) PE ปีนี้ต่ำเพียง 8.4 เท่าและปันผลเฉลี่ย 6% ต่อปี
MTLS* (เป้าพื้นฐาน 40 บาท) 1) ยืนเหนือแนวราคา 35 บาทได้ ขณะที่กลุ่มเส้นค่าเฉลี่ย 3 – 15 วัน เริ่มตัดขึ้นในลักษณะ Golden cross มีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 36.25 บาท และถัดไปที่ แนวต้าน Channel line 39 บาท (Stop loss 33 บาท) 2) ประเมินแนวโน้มกำไร 2H60 โตกว่า 1H60 จาก High season (โดยขณะนี้กำไร 1H60 คิดเป็น 48% ของประมาณการทั้งปี เราประเมินมีโอกาสทำได้เกินที่คาด) 3) ประเมินที่ประชุม กนง วันพุธนี้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 1.5% ต่ำต่อเนื่อง โดยฝ่ายวิจัยฯ ประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะคงที่จนถึงกลางปี 2561
หุ้นในกระแส
กลุ่มลีสซิ่ง สินเชื่อ Non-bank (MTLS*, ECL) นักเศรษฐศาสตร์ บล. เคจีไอ ประเมิน ที่ประชุม กนง วันนี้จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.5% (คาดว่าจะรักษาระดับต่ำต่อเนื่องจนถึงกลางปี 2561) เป็นบวกต่อต้นทุนเงินทุนของหุ้นในกลุ่มฯ แนะนำ “เก็งกำไร” MTLS*, ECL
หุ้นมีข่าว
(0) ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดให้ธนาคารพาณิชย์ 5 แห่ง (BBL, KBNAK, SCB, KTB, BAY) เป็นธนาคารขนาดที่มีความสำคัญต่อระบบสถาบันการเงินและเศรษฐกิจของประเทศ (D-SIBs) เนื่องจากมีขนาดสินทรัพย์ที่ใหญ่รวมกันคิดเป็น 70% ของสถาบันการเงินทั้งระบบ ดังนั้นเพื่อสร้างความมั่นคงในระยะยาวธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดให้ธนาคารทั้ง 5 แห่งนี้ต้องดำรงเงินกองทุนขั้นที่ 1 (CET 1) เพิ่มขึ้นอีก 1% โดยกำหนดให้ดำรงเพิ่ม 0.5%ในปี 2562 และอีก 0.5% ในปี 2563 ความเห็น ปัจจุบันธนาคารพาณิชย์ถูกหนดให้ต้องดำรงเงินกองทุนส่วนเพิ่มตามเกณฑ์ Basel III เพิ่ม 2.5% จากเงินกองทุนขั้นต่ำซึ่งอยู่ 4.5% (ภายใต้เกณฑ์ Conservation buffer) ภายในปี 2562 ทั้งนี้เกณฑ์ใหม่ภายใต้ (D-SIBs) กำหนดให้ธนาคารต้องดำรงเงินกองทุนขั้นที่ 1 (CET 1) อีก 1% ดังนั้นเงินกองทุนขั้นที่ 1 ขั้นต่ำของธนาคารจะอยู่ที่ 7.5% ในปี 2562 และ 8% ในปี 2563 ทั้งนี้เรามองว่าเงินกองทุนปัจจุบันของธนาคารมีความแข็งแกร่งเพียงพอ และรองรับเกณฑ์การดำรงเงินกองทุนใหม่ และไม่เป็นภาระต่อธนาคาร
(+) IRPC (IRPC.BK / IRPC TB)* ตั้งเป้าสรุปแผนการลงทุนในโครงการ Beyond Everest ใน 1Q61 (Kaohoon) Comment: บริษัทคาดว่าจะลงทุนประมาณ 800-900 ล้านเหรียญสหรัฐในโครงการ Beyond Everest เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตอะโรมาติก 800-900KTA จากปัจจุบันที่ 367KTA โดยโครงการ Beyond Everest คาดว่าจะให้อัตราผลตอบแทน IRR มากกว่า 14% บริษัทคาดว่าจะมีการจัดทำแผนเสนอให้คณะกรรมการ IRPC อนุมัติใน 1Q61 และคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างใน 2Q62 ซึ่งการเปิดดำเนินเชิงพาณิชย์ของโครงการ Beyond Everest น่าจะเกิดขึ้นในปี 2565 เรามีมุมมองที่เป็นบวกต่อข่าวโครงการขยายกำลังการผลิตอะโรมาติก ในขณะที่เรายังคงคำแนะนำซื้อ IRPC ที่ราคาเป้าหมายไม่เปลี่ยนแปลงที่ 6.90 บาท
(+) ITEL รับทรัพย์ 2.4 พันล้าน เน็ตชายขอบ-งานคัมปานา ILINK หั่นราคางานระบบ APM ต่ำกว่า ITD* (ข่าวหุ้น) “ITEL” เตรียมรับ 2 งาน มูลค่า 2,400 ล้านบาท จ่อเซ็นเน็ตชายขอบ 1,868 ล้านบาทวันที่ 28 ก.ย.นี้ หนุนแบ็กล็อกพุ่ง 3,117 ล้านบาท พร้อมทำแบ็กอัพโครงข่ายเคเบิลใต้น้ำฯของคัมปานา 600 ล้านบาท พ.ย.นี้ ฟาก ILINK หั่นราคางานระบบ APM สุวรรณภูมิ ต่ำกว่า ITD* วงใน AOT* ขอเวลาพิจารณาเดินต่อหรือล้มประมูลสรุป ต.ค.นี้
(+) 'อาคม' หนุน THAI* เพิ่มทุน NOK ครม. ไฟเขียวเร่งสร้างรถไฟฟ้าสีชมพู-เหลือง-ส้ม (ข่าวหุ้น) “อาคม” หนุน THAI* เพิ่มทุน NOK ล่าสุดได้รับรายงานจากดีดีแล้ว จ่อเรียกประธานบอร์ดเข้าชี้แจงความชัดเจนด้านนโยบายอีกครั้ง นอกจากนี้ “ครม.” ไฟเขียวเวนคืนเร่งด่วนสร้างรถไฟฟ้า 3 สาย “ชมพู-เหลือง-ส้ม”
(+) รัฐวิสาหกิจลงทุนปี 61 8.4 แสนล้าน (โพสต์ทูเดย์) ครม.อนุมัติงบลงทุนรัฐวิสาหกิจปี 2561 กว่า 8.4 แสนล้าน ตั้งเป้าเบิกจ่าย 95% นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้เห็นชอบกรอบลงทุนประจำปี งบประมาณ 2561 ของรัฐวิสาหกิจทั้ง 55 แห่ง วงเงิน 846,337 ล้านบาท
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
MOONG (เป้าพื้นฐาน 9.1 บาท) ประเมินแนวรับ 6.85 บาท แนวต้าน 7.2 บาท และถัดไป 7.5 – 7.7 บาท (Stop loss 6.8 บาท)
GLOBAL* (เป้าพื้นฐาน 16.3 บาท) แนะนำ “Let profit run” ประเมินแนวต้าน 16.5 บาท กำหนด Trailing Stop 15.5 บาท
COM7* (เป้า Consensus 13.1 บาท) ประเมิน แนวรับ 13.0 บาท แนะนำ “สะสม” แนวรับ / แนวต้าน 13.7 บาท และถัดไปที่ 14.6 บาท
ECL (เป้าพื้นฐาน 4.1 บาท) แนะนำ “รอซื้ออ่อนตัว” ที่แนวรับ ±3.80 บาท แนวต้าน 4.1 บาท
WHA* (เป้า Consensus 3.81 บาท) ประเมินกรอบ Channel Line 3.42 – 3.70 บาท แนะนำ “เก็งกำไร” ในกรอบฯ และหากทะลุผ่านกรอบแนวต้าน 3.70 บาทได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้าน 4.0 บาท (Stop loss 3.30 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
ADVANC* แนะนำ 'ซื้อ' เป้าพื้นฐาน 209 บาท ฝ่ายวิจัยฯประเมินกำไรสุทธิของ ADVANC* ใน 3Q60 จะอยู่ที่ 7.6 พันล้านบาท (+5% QoQ, +16% YoY) โดยปัจจัยสำคัญที่จะช่วยหนุนให้กำไรเพิ่มขึ้น QoQ ได้แก่ i) รายได้จากค่าบริการที่เพิ่มขึ้น ii) อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากการที่ margin ของยอดขายเพิ่มขึ้น และ regulatory fee ลดลง และ iii) SG&A ที่ทรงตัว และคาดว่ากำไรน่าจะโตต่อเนื่องใน 4Q60 จากปัจจัยด้านฤดูกาล
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- ‘กรอบราคา 1665 – 1675 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ปรับขึ้นปิดเหนือนัยต้าน 1675 จุดนั้น อาจผลักราคาขึ้นในกรอบ 1675-1685 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1665 จุดนั้น อาจทรงราคาลงในกรอบ 1665-1655 จุด
แนวรับวันนี้: 1665/1658 แนวต้านวันนี้: 1675/1682
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]