- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 26 September 2017 17:13
- Hits: 1652
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
'เลือกซื้อ/ถือเมื่อเหนือ SMA10'
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : SET Index เมื่อวานนี้ปิด +8.54 จุดที่ 1667.59 โดยแรงซื้อกลับโฟกัสในกลุ่มแบงค์, พลังงาน, อิเลคทรอนิกส์ ทั้งต่างชาติและสถาบันในปท.กลับมาซื้อสุทธิกลุ่มละ 600-700 กว่าลบ. พอร์ตบล.และรายย่อยขายสุทธิ
สำหรับวันนี้ ในประเทศ : ประกาศของธปท.เรื่องรายชื่อ 5 ธ.พ. (BBL, KTB, BAY, KBANK, SCB) ที่มีนัยต่อความเสี่ยงเชิงระบบในประเทศ เพราะเป็นธนาคารใหญ่ที่มีความเชื่อมโยงในระบบการเงินและเศรษฐกิจของประเทศสูง ธปท.จึงต้องกำกับดูแลให้เข้มงวดกว่าธ.พ.ทั่วไป ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานที่หลายประเทศใช้กัน...เราประเมินว่าผลกระทบต่อธ.พ.ทั้ง 5 แห่งจำกัด เนื่องจากมี CAR สูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำที่ธปท.กำหนดไว้อย่างมีนัยสำคัญแล้ว (ดูรายละเอียด Sector Focus ด้านใน) ยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกกับกลุ่มแบงค์ในยามที่เศรษฐกิจกำลังเติบโตดีขึ้น โดยให้ KBANK เป็น Top pick ในแบงค์ใหญ่ และให้ TISCO, KKP เป็นหุ้นเด่นในแบงค์เล็กต่อไป ส่วนประชุมกนง. 27 ก.ย.นี้ คาดว่าจะคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.5% ก่อนเพราะแรงกดดันเรื่องบาทแข็งผ่อนคลายลง ขณะที่เงินเฟ้อมีโอกาสเร่งตัวขึ้นจากราคาน้ำมันดิบใน 3Q60 ที่บวกราว 18%QTD
ปัจจัยภายนอก : กลับมากังวลความขัดแย้งระหว่างสหรัฐกับเกาหลีเหนือ ทำให้ราคาทองคำกลับมาบวกแรง และค่าเงิน US$ แข็งขึ้นเพราะมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยสูง ผนวกกับตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 3 ของปีในการประชุมในเดือนธ.ค.นี้ ด้านราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นกว่า 3% เพราะความกังวลเรื่องอุปทานล้นผ่อนคลายลงในช่วงสั้น หลังประเทศผู้ผลิตน้ำมันลดการผลิตในเดือนส.ค.
กลยุทธ์ลงทุน : เลือกซื้อ/ถือต่อ เมื่อ SET และราคาหุ้นอยู่เหนือ SMA10 (ในปัจจุบันอยู่ที่ 1660 จุด) หุ้นกลยุทธ์แนะนำรายสัปดาห์ช่วง 20-26 ก.ย.60 เป็น MINT (Growth Play) และ TISCO (Growth & High yield Play)
การ SCAN หุ้นทางเทคนิค : หุ้นที่คาดว่าราคาจะทำ New High ได้ที่เข้ามาใหม่เป็น TISCO, MTLS, ANAN, IRPC, PTTGC, BCP หุ้นยังอยู่ใน List คือ MCS, VIBHA, SAMTEL, RS, TCAP หุ้นหลุด List –ไม่มี- ส่วนหุ้นแนะนำไปแล้วและให้หาจังหวะขายทำกำไรเป็น AMATA, AAV, PSL, GOLD, CCET, CBG, MEGA, AH
ปัจจัยต่างประเทศ & ในประเทศที่สำคัญ
ปัจจัยต่างประเทศ ตลาดหุ้น ตลาดน้ำมันและทองคำ
• ญี่ปุ่น : เตรียมยุบสภาวันที่ 28 ก.ย.นี้ คาดเลือกตั้งใหม่ปลายต.ค.60
# เจ้าหน้าที่ระดับสูงของพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ญี่ปุ่น เปิดเผยว่านายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นจะยุบสภาผู้แทนราษฎรในวันพฤหัสบดีที่ 28 ก.ย.นี้ ซึ่งเป็นวันเดียวกับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อปูทางสู่การจัดเลือกตั้งซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในช่วงปลายเดือนต.ค.60
# นายอาเบะวางแผนที่จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 2 ล้านล้านเยน (1.78 หมื่นล้านดอลลาร์) ที่มุ่งเน้นไปที่การสนับสนุนด้านการศึกษาและสังคม โดยจะปรับขึ้นภาษีในปี 62 เพื่อนำเงินมาใช้สนับสนุนด้านการศึกษาและยืนยันว่ารัฐบาลจะพิจารณาเรื่องการฟื้นฟูภาวะด้านการเงินของประเทศควบคู่กันไป
• สหรัฐ : ประธานเฟดนิวยอร์กส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยค่อยเป็นค่อยไป
# นายบิล ดัดลีย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก กล่าวว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐจะอยู่สูงกว่าค่าเฉลี่ยเล็กน้อย ขณะที่ค่าจ้างมีการปรับตัวขึ้น เขาคาดว่าเงินเฟ้อจะปรับขึ้นและมีเสถียรภาพที่ราวระดับเป้าหมายของเฟดที่ 2% ในระยะกลาง ซึ่งจะทำให้เฟดยังคงถอนมาตรการผ่อนคลายทางการเงินอย่างค่อยเป็นค่อยไป
# ด้านนายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโก กล่าวว่าเขาเห็นด้วยกับเจ้าหน้าที่เฟดคนอื่นๆ ที่เห็นว่าเฟดควรจะค่อยๆปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นไปจนถึงระดับ 2.7% ในช่วง 2 ปีข้างหน้า จากระดับปัจจุบันที่ 1.00-1.25%
# คำกล่าวของดัดลีย์และอีแวนส์สนับสนุนการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่ 3 ของปีนี้ในเดือนธ.ค.60 (หลังปรับขึ้นไปแล้ว 2 ครั้งในเดือนมี.ค.และมิ.ย.)
- ภาวะตลาดหุ้นสหรัฐ : ดัชนีร่วงลงจากกังวลสถานการณ์เกาหลีเหนือและมีแรงขายหุ้นเทคโนโลยี
# ดัชนี DJIA ลดลง 53.50 จุด หรือ -0.24% ดัชนี Nasdaq ลดลง 56.33 จุด หรือ -0.88% และดัชนี S&P500ลดลง 5.56 จุด หรือ -0.22% เนื่องจากกังวลความขัดแย้งระหว่างเกาหลีเหนือและสหรัฐ หลังรมว.ต่างประเทศเกาหลีเหนือระบุว่าสหรัฐได้ประกาศสงครามต่อเกาหลีเหนือแล้ว ทำให้เกาหลีเหนือมีสิทธิทุกประการที่จะใช้มาตรการตอบโต้ ซึ่งรวมถึงการยิงเครื่องบินทิ้งระเบิดของสหรัฐ ถึงแม้ว่าเครื่องบินเหล่านี้ไม่ได้อยู่ในน่านฟ้าของเกาหลีเหนือก็ตาม
# นักลงทุนจับตานางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดซึ่งมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ในวันนี้ ที่รัฐโอไฮโอ และนางลาเอล เบรนาร์ด หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟด มีกำหนดจะกล่าวสุนทรพจน์ในวันนี้ด้วยเช่นกัน
+ ภาวะตลาดน้ำมัน : ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นกว่า 3%
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. พุ่งขึ้น 1.56 ดอลลาร์ หรือ +3.1% ปิดที่ 52.22 ดอลลาร์/บาร์เรล และ BRENT เพิ่มขึ้น 2.16 ดอลลาร์ หรือ +3.8% ปิดที่ 59.02 ดอลลาร์/บาร์เรล
# รมว.น้ำมันคูเวตเห็นว่าตลาดน้ำมันโลกกำลังปรับตัวเข้าสู่ภาวะสมดุล การปรับลดกำลังการผลิตจะช่วยให้สต็อกน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวลดลงสู่ระดับเฉลี่ยรอบ 5 ปี ซึ่งเป็นเป้าหมายของกลุ่มโอเปก
+ ภาวะตลาดทองคำ : ราคาทองพุ่ง $14 เหตุวิตกสถานการณ์เกาหลีเหนือ
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 14 ดอลลาร์ หรือ 1.08% ปิดที่ระดับ 1311.50 ดอลลาร์/ออนซ์
ปัจจัยในประเทศ และหุ้นมีข่าว
• SSI ปรับโครงสร้างหนี้แปลงหนี้เป็นทุนให้แบงค์เจ้าหนี้เข้ามาถือ 90%
# นายวิน วิริยะประไพกิจ กรรมการผู้จัดการใหญ่ SSI แจ้งมติบอร์ดเมื่อ 13 ก.ค.60 ว่าบริษัทได้อนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 1,113 ล้านบาท เป็น 11,113 ล้านบาท (พาร์ 1 บาท) โดยจัดสรรหุ้น 10,000 หล้านหุ้นที่ราคา 0.05 บาท รองรับการแปลงหนี้เป็นทุนให้เจ้าหนี้กลุ่มที่ 2 และ 3 หรือกลุ่มที่ 4 ซึ่งได้แก่ 1. KTB 4,499 ล้านหุ้น (40.5% ของทุนจดทะเบียนทั้งหมด) รวม 225 ล้านบาท 2. SCB 4,469 ล้านหุ้น (40.5%) รวม 223 ล้านบาท 3. TISCO 875 ล้านหุ้น (7.9%) รวม 44 ล้านบาท และ 4. CIMBT 156 ล้านหุ้น (1.4%) รวม 8 ล้านบาท
• การเมืองไทย : โรดแมพเลือกตั้งมีโอกาสคลาดเคลื่อน หากกฎหมายลูกไม่เสร็จตามกำหนด
# นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงอายุการทำงานของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ว่ากรธ.จะอยู่ในตำแหน่งจนกว่ากฎหมายลูกทั้งหมดประกาศใช้ ส่วนกรอบระยะเวลาการร่างกฎหมายลูก 240 วัน คือ กรอบที่กรธ.ต้องทำให้แล้วเสร็จ และส่งให้สนช.พิจารณาต่อ โดยสนช.มีระยะเวลาพิจารณา 2 เดือน และมีเวลาแก้ไขอีก 1 เดือน ก่อนส่งขึ้นทูลเกล้าฯ โดยตามพระราชอำนาจทรงมีเวลาพิจารณา 90 วัน เมื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ลงมา จะมีการเลือกตั้งภายใน 150 วัน
# ตามโรดแมพถ้ากรธ.ร่างกฎหมายลูกเสร็จภายใน 240 วัน การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในเดือน พ.ย.61 แต่ถ้ากฎหมายลูกล่าช้า การเลือกตั้งก็อาจจะเลื่อนออกไปเป็นปี 2562 อย่างไรก็ตาม ตลาดก็ประเมินเรื่องนี้ไว้บ้างแล้ว
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]