WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

KTBบล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily

 

ภาพตลาดวันวาน
  ดัชนีเปิดตลาดบวกเล็กน้อย แกว่งตัวผันผวนสลับขึ้นลงอยู่ทั้งในแดนบวกและลบ มีจุดต่ำสุดของวันที่ 1668.36 จุด ลดลง 2.29 จุด ก่อนที่จะดีดกลับขึ้นมายืนบวก และสามารถแกว่งตัวอยู่ในแดนบวกได้ตลอดทั้งวันจากแรงซื้อหลักหุ้นในกลุ่มขนส่ง สื่อสาร และอสังหาฯ ขึ้นทำจุดสูงสุดของวันที่ 1676.78 จุด เพิ่มขึ้น 6.13 จุด ทำให้มีกรอบการเคลื่อนไหวทั้งวันที่ 8.42 จุด ทั้งนี้ตลาดหันมาเก็งกำไรในหุ้นขนาดกลาง-เล็ก นำโดย WHA, BCPG, TCMC, SAWAD, GGC, AAV, PSTC ก่อนดัชนีจะทำปิดที่ 1670.49 จุด ลดลง 0.16 จุด (-0.01%) มูลค่าการซื้อขาย 54,494 ล้านบาท


ภาพตลาดวันนี้
  ดัชนีวานนี้ยังคงอยู่ในโหมดของการชะลอตัว ในกรอบแคบ ๆ ทั้งวันเพียง 8 จุด โดยมี High สูงกว่าวันก่อนหน้าที่ 1678 จุด ขณะที่ Low แตะเส้น SMA 5 วัน (1668) พอดี ก่อนที่จะลงมาทำปิดที่ใกล้จุดต่ำสุดของวันที่ 1670 จุด จากภาพดังกล่าวทำให้ยังคงมีมุมที่ดัชนียังคงพักตัวต่อในกรอบเดิม ที่คาดว่ายังไม่สามารถฝ่า 1680 จุดขึ้นได้ในช่วงนี้ ระยะสั้นมีแนวรับ 1663-1667 จุด แนวต้าน 1675-1680 จุด
   มีโอกาสการชะลอตัวในลักษณะออกข้างที่ควรยืน 1660 ให้อยู่
   Support 1660-1655 จุด Resistance 1690-1700 จุด


พรรณนภา เขมะสุรัตน์ Technical Analyst
เลขทะเบียน : 060110 Tel 02- 6481124
Email: [email protected]
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell

 

'Fed + เกาหลีเหนือ ชะลอแรงซื้อของตลาด'
ทิศทางตลาดหุ้นไทย : การปรับฐานหรือพักตัวของตลาด ยังน่าจะดำเนินต่อ ......ตัวแปร ที่ฉุดตลาด จะเป็นการประกาศลด QE ในเดือน ต.ค. ซึ่งเร็วกว่าที่ตลาดคาดไว้ นักลงทุนต่างประเทศมียอด net sell ในตลาดหุ้นเอเซีย (ยกเว้นไทยที่เป็น net buy) ความเสี่ยงจาก sanction ประเทศเกาหลีเหนือที่สหรัฐฯร่วมกับชาติอื่นๆประกาศร่วมกันในการประชุม UN คืนที่ผ่านมา เรามองว่า ตลาดจะจับตาดูการตอบดต้จากทางด้านเกาหลีเหนือต่อกรณีดังกล่าว ...... ปัจจัยในประเทศ ยังคงเป็นตัวที่มีน้ำหนักในทางบวกต่อดัชนี ทั้งเรื่องตัวเลขส่งออก ส.ค +13.2% มาตรการเศรษฐกิจภาครัฐฯที่ออกมาใหม่เพิ่มกำลังซื้อให้กับประชาชน


กลยุทธ์การลงทุน : นักลงทุนต่างประเทศในตลาดหุ้นเอเซีย พลิกมาเป็นขายหุ้นในเอเซีย หลัง Fed เตรียมลด QE เดือนหน้า ส่งสัญญาณว่าน่าจะมีการปรับพอร์ตและอาจส่งผลให้การปรับฐานของดัชนีฯ ยังมีอยู่ แต่ดัชนีฯไม่น่าจะลงต่ำกว่า 1650 จุด (forward P/E ปี '18 ที่ 15.5 เท่า) .... พอร์ตลงทุนระยะยาว อาจพิจารณาลดหุ้นที่ขึ้นมามาก หากดัชนีฯหลุดต่ำกว่า 1670 จุด ขณะที่นักเก็งกำไรช่วงสั้น เราแนะให้รอให้การปรับฐานจบลงก่อน

 

.... ตัวแปรที่ควรให้ความสนใจ คือ หุ้นกลุ่มธนาคาร ที่กำลังมีทั้งบวกและลบในเวลาเดียวกัน คือ บวกจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในภาคของกำลังซื้อคนและ Fed ปรับลด QE (บวกต่อดอกเบี้ย) แต่กระแสข่าวเรื่อง ธปท.อาจพิจารณาลดดอกเบี้ยในการประชุม กนง. 27 ก.ย. หากเกิดจริงจะเป็นลบต่อหุ้นกลุ่มธนาคารและสถาบันการเงิน รวมไปถึงค่าเงินบาทด้วย (ลดดอกเบี้ย ค่าเงินบาทจะอ่อนค่าลง)
หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ประจำวัน : สำหรับหุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุนในวันนี้ อาทิ ADVANC, HANA, TOP, KKP , UTP
หุ้นแนะนำทางเทคนิค : KCE, RS, HTECH
* เป็นหุ้นที่แนะนำเชิงกลยุทธ์ โดย KTBST ไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์


บทวิเคราะห์และความเห็นข่าวสำคัญ
(+) Banking Sector : สินเชื่อส.ค.เพิ่มขึ้นได้เล็กน้อย แต่คาดว่าจะเติบโตได้ดีใน 4Q17


ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (21 ก.ย.) ปิดที่ระดับ 1,670.49 จุด ลดลง 0.16 จุด หรือ -0.01% มูลค่าการซื้อขาย 54,494.08 ล้านบาท ตลาดทรงตัวแม้ตัวเลขส่งออกจะออกมาดีกว่าคาด มองเป็นการพักตัวหลังปรับขึ้นมามากในช่วงก่อนหน้านี้


ตลาดหุ้นต่างประเทศ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22,359.23 จุด ลดลง 53.36 จุด หรือ -0.24% ตลาดปิดตัวในแดนลบ เป็นผลต่อเนื่องจากการแถลงของ Fed ที่ระบุว่าจะมีการปรับลดงบดุลและปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งภายในปีนี้ ซึ่งจะส่งผลให้เม็ดเงินในระบบลดลงไป.... แต่ด้าน Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น +0.2% ปิดที่ 382.88 จุด


ปัจจัยต่างประเทศ : ติดตามการตอบโต้ของเกาหลีเหนือ เมื่อคืนนี้มีประเด็นสำคัญเรื่องเกาหลีเหนือ ซึ่งบรรดาเอกอัครราชทูตของสหภาพยุโรป (EU) ได้บรรลุข้อตกลงในเบื้องต้นในการทำการคว่ำบาตรรอบใหม่ต่อเกาหลีเหนือ เรามีมุมมองว่า เกาหลีเหนือจะออกมาตอบโต้ประเด็นดังกล่าวในวันนี้ ซึ่งจะเป็นความเสี่ยงใหม่ต่อตลาด
ตัวเลขทางเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาดี โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 23,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 259,000 ราย สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 300,000 ราย เป็นบวกต่อตลาด


ราคาน้ำมันพักตัวเล็กน้อย สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 14 เซนต์ หรือ -0.3% ปิดที่ 50.55 ดอลลาร์/บาร์เรล มองเป็นการพักตัวหลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นไปได้ในช่วงก่อนหน้านี้ ติดตามการประชุม Monitoring Committee ของกลุ่มผู้ผลิตน้ำมัน ที่จะมีขึ้นในวันนี้(22) คาดทางกลุ่ม จะออกมาตรการลดกำลังการผลิต และจะเป็นบวกต่อราคาน้ำมันดิบในท้ายที่สุด


ปัจจัยในประเทศเป็นบวก: วานนี้ตัวเลขส่งออกของไทยปรับตัวสูงขึ้นเกินคาด -กระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขการค้าระหว่างประเทศของไทยในเดือน ส.ค.60 โดยการส่งออกมีมูลค่า 21,224 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 13.2% สูงสุดในรอบ 55 เดือน ในขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้เพียง 5% อีกทั้ง ยังมีการอัพเดทโครงการ EEC ในประด็นเรื่องการส่งเสริม BOI ซึ่งได้สิทธิประโยชน์ลดหย่อนภาษีเงินได้ 50% เป็นเวลา 5 ปี จากเกณฑ์ปกติ


Stock in Focus
หุ้น เหตุผล
ADVANC(ราคาปิด 192.50) เรามองนักลงทุนจะ switch การลงทุนจากกลุ่มที่ขึ้นมามาก มายังกลุ่มที่ยัง laggard โดย ICT เริ่มมีมูลค่าการซื้อขายเข้ามามากวานนี้ เราเลือก ADVANC เนื่องจากเรามองว่า ADVANC ซึ่งเป็นเบอร์ 1 ของอุตสาหกรรม ธุรกิจไฟเบอร์เริ่มเข้ามามากและค่าใช้จ่ายเริ่มมีทิศทางลดลง .... เรามอง ADVANC มีแนวโน้มเติบโตได้ดีในระยะยาว เริ่มตั้งแต่ช่วงปี 2018 เป็นต้นไป จากการคาดการณ์การแข่งขันในอุตสาหกรรมที่เบาบางลง คาดปี 2018 เติบโต +18% YoY …. (ราคาที่เหมาะสม โดย KTBST ที่ 190.00 บาท แต่คาดจะมีการปรับประมาณการในอนาคต)

 

HANA(ราคาปิด 47.25) เราแนะนำ HANA ต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 โดยเรามีมุมมองในเชิงบวกจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นส่งผลให้ HANA จะได้รับผลบวกจากประเด็นดังกล่าว.... ไตรมาส 3 เป็นช่วง High season ของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ คาดว่า HANA จะมีผลประกอบการ 2H17 สูงกว่า 1H17 คาดกำไรสุทธิทั้งปี 2017 ที่ 2,932 ล้านบาท เติบโต 39.3% YoY …. (ราคาที่เหมาะสม โดย KTBST ที่ 57 บาท)

 

TOP(ราคาปิด 91.25) ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นได้ดี และคาดว่าจะทรงตัวเหนือกว่าระดับ 50 ดอลลาร์/บาร์เรล จะเป็นผลดีกับ TOP ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทมี stock gain ในงวด 3Q-17 และราคาน้ำมันดิบ Dubai ล่าสุด เทียบกับปลายงวด 2Q มีส่วนต่าง $8 เหรียญ หมายถึง โรงกลั่นน้ำมันน่าจะมีกำไรจาก stock น้ำมันในไตรมาสนี้ ขณะที่ค่าการกลั่นน้ำมันในตลาด นั้น 3Q (qtd) นั้นสูงกว่าเฉลี่ยของไตรมาสก่อนอยู่ $2 เหรียญ ที่ $7.9 เหรียญ/บาร์เรล …. Bloomberg คาดกำไรสุทธิปี 2017 ที่ 18,140 ล้านบาท (-14.5% YoY) แต่คาดว่า consensus น่าจะปรับประมาณการขึ้นในอนาคตจากราคาน้ำมันและค่าการกลั่นน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น .... (ราคาที่เหมาะสม โดย Bloomberg ที่ 89.95 บาท)

 

KKP(ราคาปิด 70.00) เรา switch จากการแนะนำหุ้น TMB มาหุ้น KKP เนื่องจากการรายงานสินเชื่อเดือน ส.ค. 2017 ของ KKP เติบโตมากที่สุดในกลุ่มที่ 0.9% MoM ขณะที่เราคาดว่า แนวโน้มสินเชื่อใน 3Q17 จะเพิ่มขึ้นได้เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน .... คาดว่าบริษัทฯจะมีกำไรสุทธิปี 2017 ที่ 5,644 ล้านบาท (+1.8% YoY) แต่หากไม่รวมกำไรพิเศษในปีก่อน กำไรปกติจะเติบโตที่ระดับ +4% YoY .... (ราคาที่เหมาะสม โดย KTBST ที่ 75.00 บาท)

 

UTP(ราคาปิด 8.55) มอง UTP เป็นหุ้นเติบโตสูง เราคาดว่ากำไรสุทธิช่วง 2H17 จะเติบโตจากช่วง 1H17 ถึง +55% มาอยู่ที่ 194 ล้านบาท ส่งผลให้คาดว่ากำไรสุทธิทั้งปี 2017 เติบโตถึง +66% YoY มาอยู่ที่ 318 ล้านบาท เป็นผลมาจากไลน์การผลิตเก่าสามารถกลับมาดำเนินงานได้หลังมีการหยุดการผลิตชั่วคราวในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา .... (ราคาที่เหมาะสม โดย KTBST ที่ 9.00 บาท)


Source: KTBST Research
Sector / Stock Updates
(+) กลุ่มธนาคาร สินเชื่อส.ค. 2017 เพิ่มขึ้นได้ 0.3% MoM และ 3.0% YoY หรือคิดเป็น 1.0% YTD จากสินเชื่อรายใหญ่และสินเชื่อบ้านเป็นหลัก โดยมี BBL และ KKP ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุดที่ 0.9% MoM ขณะที่เราคาดว่า แนวโน้มสินเชื่อใน 3Q17 จะเพิ่มขึ้นได้เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ส่วนภาพรวมหนี้เสียเราคาดว่า จะทำจุดสูงสุดในช่วง 4Q17 ขณะที่คาดธนาคารที่จะมีกำไรสุทธิใน 3Q17 เติบโตได้ทั้ง YoY และ QoQ คือ BBL, SCB, TCAP และ TISCO และยังคงให้น้ำหนักการลงทุนในกลุ่มธนาคารพาณิชย์เป็น "เท่ากับตลาด" โดยเลือก BBL และ TCAP เป็น Top Pick


(+) กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ตัวเลขส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ของเดือนสิงหาคมออกมาเติบโตดีทั้ง YoY และ MoM โดยมูลค่าส่งออกแผงวงจรไฟฟ้า (IC) ออกมาที่ 737.75 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (+1.5% YoY, +10.0% MoM) ส่วนมูลค่าส่งออกวงจรพิมพ์ (PCB) ออกมาที่ 41.94 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (+6.8% YoY, 12.5% MoM) คาดผลประกอบการของกลุ่มอิเล็กฯ ใน 3Q17 จะออกมาดี โดย top pick ของกลุ่มเราเลือก HANA และ KCE แนะนำ ซื้อ ที่ราคาเหมาะสม 57 บาท และ 104 บาท ตามลำดับ


(+) HTECH มูลค่าส่งออกหน่วยขับจานบันทึกแบบแข็ง (Hard Disk Drives) สำหรับเดือนสิงหาคมออกมาที่ 622.91 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (+3.5% YoY, +17.4% MoM) เติบโตเพิ่มขึ้นมาก เราคาดผลประกอบของ HTECH ใน 3Q17 จะออกมาดีตามตัวเลขส่งออก HDD เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่ของ HTECH เป็นผู้ผลิต HDD ปัจจุบันเราแนะนำ ซื้อ สำหรับ HTECH ที่ราคาเหมาะสม 10.30 บาท (อยู่ระหว่างการปรับประมาณการขึ้นเนื่องจากมีความชัดเจนเรื่องการขึ้นโรงงานใหม่ข้างๆ โรงงานเก่าที่นิคมอุตสาหกรรมบางชัน)
(+) CPN CPN รายงานความคืบหน้าการเรียกค่าสินไหมทดแทนจากเหตุเพลิงไหม้โครงการเซ็นทรัลเวิลด์ ล่าสุด CPN ได้รับเงินค่าสินไหมทดแทนตามกรมธรรม์ประกันภัยการก่อการร้าย (Terrorism) เป็นจำนวน 3,500 ล้านบาทเรียบร้อยแล้ว โดยเรามองว่าเป็นบวกต่อ CPN เพราะจะมีการรับรู้เป็นรายได้อื่นในงวด 3Q17 ซึ่งจะส่งผลให้ CPN มีกำไรเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด


Source: KTBST Research
Analyst : Mongkol Puangpetra +662 648 1123
[email protected]

Nontapat Rushtasomboon+662 648 1127
[email protected]

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!