WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

DBSบล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

'เลือกซื้อ/ถือเมื่อ SET เหนือ 1655'
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : GOLD (จากซื้อเป็นถือ)
  ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : เมื่อวานนี้ SET ลบในวัน 8.26 จุดแต่ก็มีแรงรับทำให้ช่วงลบลดลงเหลือ -1.94 จุดปิดที่ 1670.65 นักลงทุนต่างชาติและสถาบันในปท.ร่วมกันขายสุทธิ 1.9 พันลบ.และ 1.1 พันลบ.ตามลำดับ


  สำหรับวันนี้ : เมื่อคืนเฟดคงดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ 1.25% ตามคาด ประกาศเริ่มลดงบดุลอย่างค่อยเป็นค่อยไปตั้งแต่ต.ค.60 ด้วยการปล่อยให้ตราสารหมดอายุแล้วไม่ซื้อเพิ่ม & กำหนดเพดานการลดเริ่มที่ 1 หมื่นล้านUS$/เดือนแล้วเพิ่มทีละ 1 หมื่นทุกไตรมาสไปถึง 5 หมื่นล้าน US$/เดือนในต.ค.61 รวมทั้งเจ้าหน้าที่เฟด 12 ใน 16 รายคาดว่าจะมีปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในปีนี้ (CME Group ระบุถึงโอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยเดือนธ.ค.เพิ่มเป็น 67%)...Implication คือ เงินดอลลาร์มีโอกาสแข็งค่าขึ้น และเงินบาทจะอ่อนค่าลง ซึ่งเป็นบวกกับกลุ่มส่งออกในระยะต่อไป หุ้นที่ DBS แนะนำซื้อ ได้แก่ KCE (TP 104 บาท), HANA (TP 55 บาท), VNG (TP 13.8 บาท)


  ส่วนราคาน้ำมันดิบบวกขึ้นจากสต็อกน้ำมันเบนซินและน้ำมันกลั่นลดลงเกินคาด ผนวกกับกลุ่มปท.ผู้ผลิตน้ำมันกำลังพิจารณาขยายเวลาลดการผลิตออกไปจากสิ้น 1Q61 (อาจถึงสิ้นปี) หรือเพิ่มการลดปริมาณผลิตไปอีก (ปัจจุบันกำหนดไว้ 1.8 ล้านบาร์เรล) ในระยะสั้นเรายังชอบหุ้นพลังงานที่มีปัจจัยหนุนจากกำไร 3Q60 ที่ฟื้นตัวดี QoQ หุ้นเด่น PTTGC (TP 85 บาท), PTT (TP 443 บาท)
  ปัจจัยจับตา คือ 1) ผลประชุม BOJ วันนี้ 2) ผลประชุมกนง.วันที่ 27 ก.ย. 3) ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐกับเกาหลีเหนือ & อิหร่านในการพัฒนาขีปนาวุธและโครงการนิวเคลียร์ 4) Window dressing สิ้นงวด 3Q ของนักลงทุนสถาบัน
  กลยุทธ์ลงทุน : เลือกซื้อ/ถือต่อ เมื่อ SET อยู่เหนือ SMA10 (ปัจจุบันคือ 1655 จุด) โดยให้แนวต้านไว้ที่ 1680, 1690 จุด และแนวรับ 1665-1660, 1650 จุด หุ้นกลยุทธ์แนะนำรายสัปดาห์ช่วง 20-26 ก.ย.60 เป็น MINT (Growth Play) และ TISCO (Growth & High yield Play)
  การ SCAN หุ้นทางเทคนิค : หุ้นที่คาดว่าราคาจะทำ New High ได้ที่เข้ามาใหม่เป็น KKP, VNG, CKP, SAT, PLAT, LOXLEY หุ้นยังอยู่ใน List คือ MCS, STAR, VIBHA, WHA, SGP หุ้นหลุด List คือ TOP ส่วนหุ้นแนะนำไปแล้วและให้หาจังหวะขายทำกำไรเป็น SCC, QH, DELTA, BJC, TISCO, ECL, UV, TIPCO

 


ปัจจัยต่างประเทศ & ในประเทศที่สำคัญ
ปัจจัยต่างประเทศ ตลาดหุ้น ตลาดน้ำมันและทองคำ
• สหรัฐ : เงินดอลลาร์แข็งขึ้นเมื่อเฟดประกาศเริ่มลดงบดุลในเดือนต.ค.60
  # คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 1.00-1.25% ในการประชุมเมื่อวานนี้ (20 ก.ย.)
  # และประกาศว่าจะเริ่มปรับลดงบดุลที่ประกอบด้วย พันธบัตรรัฐบาล, ตราสารหนี้ของหน่วยงานของรัฐ และหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน หรือ MBS ในเดือนต.ค.60 จากปัจจุบันที่ระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์วิธีการคือปล่อยให้ครบกำหนดอายุโดยไม่มีการนำเม็ดเงินไปลงทุนใหม่ และจำกัดเพดานการลดวงเงินการถือครองตราสารเหล่านี้ไว้ที่ 1 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน ก่อนที่จะขยายเพดานการลดการถือครองตราสารอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ในทุกๆ ไตรมาส จนกระทั่งแตะระดับ 5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือนในเดือนต.ค.61
  # กรรมการเฟด 12 จาก 16 รายยังคงคาดการณ์ว่า เฟดจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกหนึ่งครั้งในปีนี้ ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นเป็นครั้งที่ 3 หลังจากปรับขึ้นในเดือนมี.ค.60 และมิ.ย.60 ไปแล้ว
  # CME Group ระบุว่าจากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่านักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสสูงถึง 67% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.60


- สหรัฐ : ยอดขายบ้านมือสองเดือนส.ค.ลดลง
  ยอดขายบ้านมือสอง -1.7%MoM ในเดือนส.ค.สู่ระดับ 5.35 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปี เนื่องจากผลกระทบจากการที่พายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์พัดกระหน่ำเมืองฮุสตัน รวมทั้งการเกิดภาวะขาดแคลนบ้านในตลาด


- การเมืองโลก : สหรัฐประกาศต้านนิวเคลียร์อิหร่าน และพร้อมตอบโต้เกาหลีเหนือในที่ประชุม UN
 # ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้กล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UN) ที่กรุงนิวยอร์กเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยกล่าวว่าสหรัฐไม่สามารถสนับสนุนข้อตกลงนิวเคลียร์ที่อิหร่านจะใช้เป็นฉากบังหน้าในการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์
  # และทรัมป์ได้กล่าวถึงเกาหลีเหนือว่า ถ้าสหรัฐถูกคุกคามจากเกาหลีเหนือ และสหรัฐถูกบังคับให้ต้องปกป้องตนเอง สหรัฐก็ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากที่จะต้องทำลายเกาหลีเหนือให้สิ้นซาก อย่างไรก็ตามขณะนี้สหรัฐขอเรียกร้องให้ UN หาทางจัดการกับเกาหลีเหนือด้วยสันติวิธีก่อน
+ ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ผลประชุมเฟดออกมาตามคาด
  # ดัชนีดาวโจนส์เดินหน้าทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 7 หลังจากเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยและเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการปรับลดงบดุลในการประชุมและเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ นำโดยกลุ่มการเงินที่ได้ประโยชน์จากการเพิ่มขึ้นของดอกเบี้ยสหรัฐ
  # ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 22,412.59 จุด +41.79 จุด หรือ +0.19% ดัชนี S&P500 +1.59 จุด หรือ +0.06% แต่ดัชนี Nasdaq -5.28 จุด หรือ -0.08%


+ ภาวะตลาดน้ำมัน : ราคาปรับขึ้นประมาณ 2%
  # สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. +93 เซนต์ หรือ +1.9% ปิดที่ 50.41 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วน BRENT ส่งมอบเดือนพ.ย. +1.15 ดอลลาร์ หรือ +2.1% ปิดที่ 56.29 ดอลลาร์/บาร์เรล
  # EIA ระบุว่าสต็อกน้ำมันเบนซินร่วง 2.1 ล้านบาร์เรล สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 22 เดือน ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซลลด 5.7 ล้านบาร์เรล มากกว่านักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล แต่สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่ม 4.6 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 472.8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 3.5 ล้านบาร์เรล
  # รมว.น้ำมันอิรัก กล่าวว่ากลุ่มโอเปกและผู้ผลิตน้ำมันอีกหลายประเทศกำลังพิจารณาขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันหรือปรับลดกำลังการผลิตมากขึ้นเพื่อแก้ไขภาวะน้ำมันล้นตลาด


+ ภาวะตลาดทองคำ : ราคาทองปรับขึ้น 0.44%
  # สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 5.8 ดอลลาร์ หรือ 0.44% ปิดที่ระดับ 1,316.4 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังทรัมป์ขู่ว่าจะทำลายเกาหลีเหนือให้สิ้นซากถ้าสหรัฐถูกคุกคาม (ตลาดทองคำปิดตลาดก่อนผลประชุมเฟดจะออกมา)


ปัจจัยในประเทศ และหุ้นมีข่าว
+ เศรษฐกิจไทย : ความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมเดือนส.ค.เพิ่มขึ้นครั้งแรกรอบ 5 เดือน
  # นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่าดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนสิงหาคมอยู่ที่ระดับ 85 ปรับเพิ่มขึ้นจาก 83.5 ในเดือนก่อน ถือเป็นการปรับเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน โดยมีปัจจัยบวกจากความเชื่อมั่นของภาคอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดใหญ่ ตามคำสั่งซื้อโดยรวมยอดขาย และปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น


  # สำหรับปัจจัยลบที่ผู้ประกอบการยังมีความกังวลได้แก่ ต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน การแข็งค่าของเงินบาทที่กระทบต่อรายได้ของผู้ส่งออก
  # ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ 101.9 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 101.6 ในเดือนกรกฎาคม เนื่องจากผู้ประกอบการคาดว่าจะมีการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคภายในประเทศเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2560


+ กลุ่มประกัน : คปภ.รุกเจรจาภาษีประกันหลังได้ลดหย่อนเบี้ยสุขภาพแล้ว
  # คปภ.เล็งจับมือสรรพากรเซ็นเอ็มโอยูเจรจาเรื่องภาษีธุรกิจประกันต่อหลังได้ลดหย่อนเบี้ยสุขภาพไปก่อนหน้านี้ทั้งนี้นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่าทาง คปภ.อยู่ระหว่างประสานงานกับกรมสรรพากรเพื่อให้มีการร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือหรือเอ็มโอยูระหว่างกัน ซึ่งต่อไปคปภ.ในฐานะหน่วยงานกลางกำกับของภาคธุรกิจประกันภัยจะได้หารือหรือเจรจาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับภาษีในธุรกิจประกันภัยได้สะดวกมากขึ้น คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้

นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!