- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 21 September 2017 16:41
- Hits: 1771
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> เก็งกำไรหุ้นขนาดกลาง-เล็ก
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET แกว่งตัว Sideways ตามคาดโดยยังจับตาดูผลการประชุม FOMC และเริ่มเห็นแรงขายออกมาในหุ้นขนาดใหญ่และทำให้ดัชนีย่อตัวลงระหว่างวัน ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิต่อเนื่องในตลาดหุ้นและฟิวเจอร์สรวมกันอีกรวม 2.6 พันลบ.
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET จะแกว่งตัว Sideways หลัง FED คงอัตราดอกเบี้ยและจะเริ่มมาตรการปรับลดขนาดงบดุลในเดือนต.ค.ตามคาด แต่ที่ผิดคาดคือส่งสัญญาณว่าเป็นไปได้ที่จะขึ้นดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในปีนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจต่อการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งของเศรษฐกิจ โดย FED ได้ปรับเพิ่มการเติบโตของเศรษฐกิจขึ้นเล็กน้อยเป็น 2.2% (จาก 2.1%) ส่งผลให้ Dollar Index ปรับตัวพุ่งขึ้นและคาดว่าจะส่งผลให้เกิดการเคลื่อนย้ายเงินทุนในระยะสั้น เราคาดว่าหุ้นขนาดใหญ่จะยังแกว่งพักฐานและหุ้นขนาดกลาง-เล็กน่าจะ Outperform ตลาด
กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นขนาดกลาง-เล็ก
หุ้นเด่นเดือน ก.ย. : BCH, CPALL, IRPC, SCC, TMB
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$303ล้าน นำโดยเกาหลีใต้ US$129ล้าน ไต้หวัน US$121ล้าน และไทย US$57ล้าน ขณะที่ไหลเข้าฟิลิปปินส์ US$8ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาคหลัง FOMC คงอัตราดอกเบี้ยและประกาศแผนการปรับลดงบดุลตามคาด
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> ERW <<
ในช่วง SET ชะลอการปรับขึ้น เรามองว่าหุ้นขนาดกลางที่ยัง laggard และ leader ที่กำไรมีแนวโน้มโตแรง จะเป็น 2 กลุ่มที่กลับมาได้รับความสนใจ ซึ่ง ERW ตอบโจทย์กลุ่มหลังมากสุด
คาดกำไร 2H17 +50% Y-Y ส่วนทั้งปีคาด +45% Y-Y เป็น 500 ลบ. จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่โตแข็งแกร่ง และการขยายโรงแรมเชิงรุกทั้งในและนอกประเทศ ตามเป้าที่ต้องการเพิ่มห้องพักอีก 50% ใน 4 ปีข้างหน้า
แนะนำซื้อ ในฐานะ Top Pick ของกลุ่ม จุดเด่นของ ERW คือเป็นหุ้นโรงแรมที่ไม่ถูกถ่วงจากร้านอาหาร เราปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2018 ที่ 7.20 บาท
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) เฟดคงดอกเบี้ยตามคาด ที่ 1-1.25% แต่ส่งสัญญาณว่าจะเริ่มลดขนาดงบดุลจากระดับ 4.5 ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ ตั้งแต่ ต.ค. 17 ที่ประมาณ 1 หมื่นล้านดอลล่าร์สหรัฐฯต่อเดือน และจะเพิ่มขึ้นไตรมาสละ 1 หมื่นล้านดอลล่าร์สหรัฐฯต่อเดือน จนแตะ 50,000 ดอลล่าร์สหรัฐฯต่อเดือนใน 4Q18 โดยมีการปรับลดเป้าดอกเบี้ยระยะยาวลงเหลือ 2.8% จาก 3% และปรับลดเป้าเงินเฟ้อลงเหลือ 1.5% จาก 1.7% แต่ปรับเพิ่ม GDP ปีนี้เป็น 2.2% จาก 2.1% ส่งผลให้บวกต่อ Dollar Index ในระยะสั้น ซึ่งดีต่อกลุ่มส่งออกบ้านเราทั้งอาหารเครื่องดื่ม ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และยานยนต์
(+) นักท่องเที่ยวโตต่อเนื่อง +8.7% Y-Y ในเดือน ส.ค. เป็น 3.1 ล้านคน ทำให้ 2017YTD อยู่ที่ 23.5 ล้านคน +5% Y-Y เป็นการเติบโตที่แข็งแกร่งต่อเนื่อง ทำให้ทั้งปี 2017 น่าจะบรรลุเป้าหมายของภาครัฐที่ 34.5 ล้านคน +5.9% Y-Y ที่สำคัญคือมีการกระจายตัวของนักท่องเที่ยวในแต่ละภูมิภาคอย่างดีทั้ง อาเซียน (+5.5% Y-Y) จีน (+9.4% Y-Y) รัสเซีย (+9.4% Y-Y) อินเดีย (+15.6% Y-Y) เบื้องต้นเราคาดกำไร 2H17 ของกลุ่มท่องเที่ยว +2% Y-Y และ +22% Y-Y นำโดย ERW (+50% Y-Y) ซึ่งเราเลือกเป็น Top pick ของกลุ่ม ราคาเป้าหมายปี 2018 ที่ 7.20 บาท
(+) ยอดส่งออกรถเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 14 เดือน โดย +9.3% Y-Y เป็น 102,907 คัน ส่วนยอดผลิตรถ +13.5% Y-Y เป็น 177,415 คัน รถกระบะผลิตเพิ่มขึ้นมากสุด เป็นบวกต่อ SAT และ PCSGH ซึ่งทำช่วงล่างรถกระบะ ราคาหุ้น SAT วานนี้ปรับขึ้นแรงจนเกินเป้าหมายของเราแล้ว แนะนำ PCSGH (ราคาเป้าหมายปีนี้ 8.35 บาท) ซึ่งแนวโน้มกำไร 2H17 ดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรกและโต Y-Y
(-) ICHI แนวโน้มกำไร 3Q17 ฟื้นเล็กน้อยจาก 1H17 ตามกำลังซื้อที่ดีขึ้นในกทม.และปริมณฑล แต่ 4Q17 ยังน่าเป็นห่วงเพราะผลกระทบของภาษีเครื่องดื่มที่บริษัทโดนเก็บทั้ง 2 ส่วน (ภาษีสรรพสามิตและภาษีน้ำตาล) โดยจะเริ่มกระทบตั้งแต่ พ.ย. เป็นต้นไป บริษัทจะปรับขึ้นราคาขายซึ่งน่าจะกระทบยอดขายเพราะกำลังซื้อที่ยังฟื้นไม่เต็มที่ และปรับสูตร (ลดน้ำตาล) เรายังแนะนำหลีกเลี่ยง ICHI สำหรับบริษัท ไบเล่คาลิฟอร์เนีย โอเร้นซ์ (ประเทศไทย) ถูกศาลสั่งล้มละลาย ไม่เกี่ยวข้องกับ ICHI
(-) KSL การประชุมเช้านี้โทนระยะสั้นเป็นลบ เพราะคาด 4Q17 (เดือน สค.-ตค.) ผลการดำเนินงานหลักอาจแย่ถึงขาดทุน เพราะธุรกิจไฟฟ้าและเอทานอลแย่ลง แต่กำไรสุทธิจะออกมาดีเพราะมีกำไรทางบัญชีก้อนใหญ่จากการปรับมูลค่าเงินลงทุนขอนแก่นแอลกอฮอล์ เรายังไม่ชอบหุ้นกลุ่มน้ำตาล ราคาน้ำตาลตลาดโลกปัจจุบันยังอยู่ระดับต่ำ 14-16 เซนต์/ปอนด์ ต่ำกว่าราคาขายล่วงหน้าของปีนี้ที่ 20.36 เซนต์/ปอนด์
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
21-ก.ย. - ญี่ปุ่น: ประชุมธนาคารกลาง (คาดคงดอกเบี้ยที่ -0.1%)
- ฟิลิปปินส์: ประชุมธนาคารกลาง
- ไต้หวัน: ประชุมธนาคารกลาง
22-ก.ย. - ยูโรโซน: Flash PMI ภาคการผลิต (ก.ย.)
- สหรัฐฯ: Flash PMIภาคการผลิต (ก.ย.)
25-ก.ย. - ไทย: ยอดส่งออก (ส.ค.)
26 ก.ย. - ไทย:SKN เข้าเทรด (ราคา IPO 7.35 บาท)
- สหรัฐฯ: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ก.ย.)
27-ก.ย. - ไทย: ประชุม กนง. (คาดคงอัตราดอกเบี้ย)
28 ก.ย. - สหรัฐฯ: 2Q17 GDP (ตลาดคาด +3.2%ดีกว่าคาดการณ์ครั้งก่อนที่ +3.0%)
- ยูโรโซน: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ก.ย.)
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนปิดบวกและทำนิวไฮต่อได้เนื่องจากผลการประชุมเฟดระบุให้คงอัตราดอกเบี้ยแต่อาจมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในปีนี้ และ จะเริ่มลดงบดุลช่วงเดือนต.ค. ส่งผลให้ผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวและหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้น
(-) ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเล็กน้อยเนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนทราบผลการประชุมเฟดซึ่งออกมาภายหลังตลาดปิด
(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดผสม ขณะที่ตลาดญี่ปุ่นเปิดบวกได้จากค่าเงินเยนอ่อนค่า
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ปรับตัว sideway โดยล่าสุดเคลื่อนไหวแถว 33.10-33.11 บาท/ดอลลาร์
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ต.ค. ปิดบวก 0.93 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 50.41 ดอลลาร์/บาร์เรล จากกระแสข่าวว่ากลุ่มผู้ผลิตน้ำมันอาจขยายหรือลดการผลิตมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีแรงหนุนจากตัวเลขสต๊อกน้ำมันสำเร็จรูปที่ปรับลดลง โดยสต๊อกน้ำมันดีเซลปรับลดลงมากสุดตั้งแต่ปี 2011 ซึ่งช่วยกลบประเด็นสต๊อกน้ำมันดิบที่เพิ่มมากกว่าคาดได้
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดบวก 5.80 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,316.40 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยสามารถปิดบวกได้หลังมีความกังวลสถานการณ์เกาหลีเหนือ และ สหรัฐ
Contact person : Jitra Amorntham Register : 014530
Tel: 02-646-9966 www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research