WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

YuanTaบล.หยวนต้า (ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

กลยุทธ์วันนี้
  Defensive / SMID Cap


Smart Pick
1. สะสม WHAUP : ราคาปิด 6.55 บาท ราคาเหมาะสม 6.90 บาท
  a) คาดกำไรปกติ 3Q60 จะเติบโตสูง YoY จากการรับรู้รายได้เต็มไตรมาสจากโรงไฟฟ้า GVTP ขนาด 32.5 MW ที่เริ่มจ่ายไฟตั้งแต่ เดือน พ.ค. รวมทั้งมีโรงไฟฟ้าใหม่เพิ่มเข้าสู่ระบบคือ GTS2 อีก 32.5MW ที่เริ่มจ่ายไฟในเดือน ก.ย.
  b) มี Catalyst รออยู่ คือความคืบหน้าของโครงการ Solar Roof ที่คาดว่ารัฐบาลจะประกาศเกณฑ์การรับซื้อไฟในเดือน ต.ค. โดยคาดว่าจะเป็น Upside ให้กับบริษัทอีกอย่างน้อย 150-200MW
  c) คาดกำไรปกติปี 2560 เติบโต +47% YoY เป็น 1,706 ล้านบาท และต่อเนื่อง +29% YoY เป็น 2,204 ล้านบาท ในปี 2561 รวมทั้งมี Valuation ที่ยังไม่แพงที่ระดับ PER2561 เพียง 11.4 เท่า


2. สะสม TCMC : ราคาปิด 4.00 บาท ราคาเหมาะสม 5.90 บาท (หลัง XR)
  a) Yuanta มีมุมมองเชิงบวกหลังการประชุมผู้ถือหุ้นวานนี้มีมติอนุมัติเข้าซื้อกิจการพรมพาณิชย์ของ Tai Ping ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านการผลิตพรม Axminster อันดับ 2 ของโลก และราคาเข้าซื้อกิจการที่ 3,149 ล้านบาท คิดเป็น PER เพียง 9 เท่า ถือว่าไม่แพง
  b) จะขึ้น XR วันที่ 26 ก.ย. สัดส่วน 2 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ หุ้นละ 3.00 บาท และ 1 หุ้นเพิ่มทุนได้ฟรี 1 Warrant และประเมินว่าการรวมงบการเงินของ Tai Ping ตั้งแต่ 4Q60 จะส่งผลให้กำไรสุทธิเติบโตก้าวกระโดด YoY
  c) คาดกำไรสุทธิปี 2561 เติบโตสูง +104% YoY เป็น 429 ล้านบาท แม้ว่าจะมีการเพิ่มทุน แต่ด้วยกำไรที่เติบโตสูงมาก เพียงพอที่จะผลักดันให้กำไรต่อหุ้น (EPS) เติบโตได้ถึง +53.2% YoY และมี Upside Risk จากการนำธุรกิจเฟอร์นิเจอร์เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นอังกฤษ เริ่มต้นคาแนะนำด้วยซื้อและใช้สิทธิ์เพิ่มทุน


ตลาดหุ้นไทยวานนี้
  วานนี้ SET INDEX ปรับตัวลดลงราว 1.94 จุด ปิดที่ 1670.65 จุด มูลค่าการซื้อขายราว 6.4 หมื่นล้านบาท โดนแรงขายจากหุ้นขนาดใหญ่อย่าง AOT (-2.87%), PTT (-0.95%) และ KBANK (-1.39%) กดดันดัชนีราว 4.2 จุด ด้านกระแสเงินทุน นักลงทุนต่างชาติและสถาบันในประเทศขายสุทธิราว 1.9 พันล้านบาท และ 1.1 พันล้านบาท ตามลำดับ ด้านตลาดฟิวเจอร์ส นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิราว 3.6 พันสัญญา นับเป็นวันที่ 5 ติดต่อกันรวมกว่า 5.1 หมื่นสัญญา ส่งผลให้ QTD นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิราว 8.8 หมื่นสัญญา ด้านตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันอีกราว 1.5 พันล้านบาท


กลยุทธ์วันนี้
  SET INDEX มีโอกาสพักฐานระยะสั้นวันนี้ กรอบ 1665-1675 จุด กระแสเงินทุนเริ่มชะลอตัว สะท้อนจาก กลุ่มสถาบันในประเทศและนักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันราว 1.1 พันล้านบาท และ 1.9 พันล้านบาท ตามลำดับ
  ผลการประชุมเฟด วานนี้ มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.00-1.25% เช่นเดิม และประกาศเริ่มใช้นโยบายลดขนาดงบดุลตั้งแต่เดือน ต.ค.นี้เป็นต้นไป อิงตามเกณฑ์ที่เคยเปิดเผยเมื่อเดือน มิ.ย. คือ ลดการลงทุนซ้า (Reinvestments) ในพันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้ภาคเอกชน (MBS) รวม 1 หมื่นล้านเหรียญฯต่อเดือน และจะค่อยๆขยายเพดานทุกๆไตรมาส อย่างไรก็ตาม เฟด คงมุมมองดอกเบี้ยนโยบาย ณ สิ้นปีนี้ที่ระดับ 1.25-1.50% เช่นเดิม หมายความว่า เฟด เตรียมพร้อมขึ้นดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในช่วงที่เหลือของปี (คาดเกิดขึ้นในการประชุม 12-13 ธ.ค.) ส่งผลให้ Dollar index แข็งค่าขึ้นทันทีกว่า 0.7% และความน่าจะเป็นของการขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค.เพิ่มขึ้นเป็น 63.8%
  SET INDEX เริ่มมีกดดันจากการแข็งค่าของดอลล่าร์ ดังนั้น เราแนะนำให้สะสมหุ้น Defensive ที่น่าจะช่วยลดความผันผวนของพอร์ตลงทุนได้ในช่วงนี้/ หุ้นขนาดกลาง-เล็ก (SMID Cap) ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว


ปัจจัยสาคัญวันนี้
Fed ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค. และปรับขึ้นอีก 3 ครั้งในปีหน้า และจะเริ่มการลดขนาดงบดุลนับตั้งแต่เดือน ต.ค. เป็นต้นไป โดยจะไม่ลงทุนซ้าในพันธบัตรที่หมดอายุ ไตรมาสละ US$1 หมื่นล้าน และเพิ่มขึ้นอีกไตรมาสละ US$1 หมื่นล้าน จนครบ US$5 หมื่นล้าน
EIA รายงานสต๊อกน้ำมันดีเซลลดลง 5.7 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่ตลาดคาดว่าจะลดลงเพียง 1.95 ล้านบาร์เรล
ยอดค้าปลีกอังกฤษเดือน ส.ค. ขยายตัว 2.4% YoY ดีกว่าที่ตลาดคาดว่าจะขยายตัวเพียง 1.1% YoY
ติดตามการประชุม BoJ วันที่ 21 ก.ย.
ติดตามการเลือกตั้งเยอรมัน วันที่ 24 ก.ย.
ติดตามการรายงาน นาเข้า-ส่งออกไทย วันที่ 22-25 ก.ย.

 

Strategist Team
  Mayuree Chowvikran Head of Research ,662-009-8050
  Padon Vannarat Strategist , 662-009-8060
  Piyapat Patarapuvadol Strategist ,662-009-8062
  Nutt Treepoonsuk Assistant Strategist

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!